กลับกัน คนที่กระหายเลือดไม่เห็...

กลับกัน คนที่กระหายเลือดไม่เห็ฯด้วยยุบสภากลับเป็นนายชวน หลีกภัย
นายชวน หลีกภัย ไม่เห็นด้วยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เสนอแผนปรองดองแห่งชาติ ให้มีการเลือกตั้ง 14 พ.ย. 2553 นายชวนเน้นว่าทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย เอาผู้ก่อการร้ายมาติดคุก จึงจะถูก
ผู้ตั้งกระทู้ อำนาจ มังคลา :: วันที่ลงประกาศ 2010-05-04 21:25:46

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2030698)

ใส่ความปรีดี เอาหมามากัดคนจน จ้างคนมาล้มพรรคคนอื่น สั่งฆ่าประชาชนหลายสิบชีวิต คุณช่างสั่งสมความชั่วเอาไว้มากเหลือเกิน แล้วทุกวันนี้กฏหมายมันเป็นกฏหมายรึยัง เทพแห่งความดีละทิ้งพวกคุณไปแล้ว ขอไว้อาลัยแด่พรรคบาป นรกจะพิพากษาพวกคุณเองคนบาปเอ๋ย

ผู้แสดงความคิดเห็น ผีลิ้มกะหนอนน้อย วันที่ตอบ 2010-05-05 01:03:54

ความคิดเห็นที่ 2 (2030702)
วันนี้คนที่เรียกหาประชาธิปไตย จะมองหาใครเป็นหลักไม่มีเลย สื่อสาร นักวิชาการ และอาชีพที่ดูแลชีวิตคน ก็สุมหัวกันเล่นละครตบตาสังคม ยุยงให้เข่นฆ่าประชาชน ( ยกเว้นคนดี ๆ ก็ไม่กล้าออกมาพูด เพราะกลัวชีวิตจะมีอันตรายจึ่งนิ่งเสีย) หมดแล้วศีลธรรมสำหรับคนพวกนี้ก็เพราะเอาจิตริษยาเป็นที่ตั้ง มันน่าขมขื่มที่จะต้องเอาคำพระมาพูดว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ผู้แสดงความคิดเห็น ผีลิ้มกะหนอนน้อย วันที่ตอบ 2010-05-05 01:21:27

ความคิดเห็นที่ 3 (2030958)

ไม่นึกเลยว่าคำทำนายของพระพุทธองค์ปรากฏเด่นชัดที่สุดที่ประเทศไทยเมืองพุทธศาสนา เอาเด็กอ่อนด้อยความสามารถ

ไม่มีประสบการณ์มาเป็นผู้นำประเทศ เอาถาดทองคำไปรองปัสสวะสุนัข ผีห่าซาตานครองเมือง คนดีต้องไปอยู่คนดีมีศีลธรรมถูกรังแกเอาเถอะภาวะเช่นนี้จะดำรงอยู่ไม่นาน นี่มันสุดท้ายของยุคถิ่นกาขาวแล้ว อีกไม่นานคนไทยจะพบกับยุคศิวิไลซ์ เพราะประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน คนส่วนใหญ่ของประเทศเขาไม่เอารัฐบาลเด็กเลี้ยงแกะอีกแล้ว แม้แต่ข้าราชการที่เคยอยู่ฝั่งเสื้อเหลือง พอเขาเห็นกฎหมาย 2 มาตรฐาน กับรัฐบาลที่ออกมาบอกว่าไม่มีเงิน ต้องลดข้าราชการลง ใครอยากออกก็ออกได้และไม่คงตำแหน่งไว้ เขาตาสว่างเลย นึกเสียใจและเสียดายนายกที่ช่วยให้คนไทยทุกอาชีพ ทุกระดับได้อยู่ดีกินดี ข้าราชการได้ขึ้นเงินเดือนตั้งหลายครั้ง นี่แหละกว่าจะรู้ตัวว่าเรือที่โดยสารมามีคุณอนันต์ ก็ต่อเมื่อเรือลำนั้นอับปางลง มองไปทางไหนก้ไม่เห็นฝั่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2010-05-06 22:54:13

ความคิดเห็นที่ 4 (2031239)
นายชวนนี่แกเป็นคนจิตใจคับแคบ แล้งน้ำใจกับประชาชน ไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศยังไม่รู้ตัว พาประเทศชาติไปเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟหลายแสนล้านบาท แกยังไม่รู้สึกละอาย ประเทศไทยสูญเสียโอกาสดีๆเพราะมีนักการเมืองไดโนเสาร์ ล้าหลังไม่มีวิสัยทัศน์ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ ค้าขายไม่เป็น ไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยกินได้ สมัยเป็นนายกผู้นำต่างประเทศเขาไม่ให้เครดิตเพราะแค่ถามว่าข้าวหอมมะลิราคาตันละเท่าไรแกยังไม่รู้ เกษตรกรไทยจึงลำบากยากจนในสมัยแก สงสารประเทศไทยเหลือเกินผู้นำประเทศอื่นเขามีความสามารถกันทั้งนั้น แต่ผู้นำไทยได้รัฐบาลเด็ก พอประชาชนมาไล่ให้ยุบสภากลับเอากำลังทหารมาปราบประชาชน หาเรื่องใส่ร้ายสารพัดเอากฎหมาย 2 มาตรฐานมาข่มขู่ บัดนี้คนรักประชาธิปไตยเขาไม่เกรงกลัวอะไร เลิกคิดว่าจะใช้ความรุนแรงได้แล้ว เพราะมีแต่ทำให้รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลเสียหาย เลิกพูดจาฉ้อฉลเอาตัวรอดไปวันๆใส่ร้ายป้ายสีได้แล้ว เพราะตอนนี้ประชาชนเขารู้ทัน เขาไม่เชื่อคำพูดของคนในรัฐบาล ศอฉ.คนเขาเบื่อมาก สื่อของรัฐบาลรวมทั้งสื่อฟรีทีวี เพราะตอนนี้ประชาชนเขาทำหน้าที่เป็นนักข่าวแล้ว ไม่ต้องทนดูการรายงานข่าวฉ้อฉล
ผู้แสดงความคิดเห็น เหยี่ยวข่าว วันที่ตอบ 2010-05-09 20:22:18

ความคิดเห็นที่ 5 (2031911)

หลังคืนวันที่ 13 พ.ค.2553 อันเป็นวันที่เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ถูกสไนปเปอร์ ยิ่งกระสุนเข้าหูทะลุท้ายทอย อาการโคมา แต่เช้าได้ข่าวว่า นพ.ทศพร รายงานว่าสมองบวมหายแล้ว

ว่านายชวน หลีกภัย ชี้ควรสลายม็อบ ....... ยุติการเจรจา..... คงเอาใจใครสักคน อยากเป็นนายกอีกรอบมั้ง นี่แหละท่าทางเหมือนคนทรงศีล แต่พอเห็นเหยื่อกิเลสก็คุขึ้น โธ่เอ๋ย ..........มาเผยเอาตอนแก่ ธาตุแท้ก็เป็นคนหลงอำนาจ นี่เอง

ผู้แสดงความคิดเห็น xาชq[>e%� วันที่ตอบ 2010-05-14 08:41:29

ความคิดเห็นที่ 6 (2032171)

สนนท. ประนามรัฐบาลเผด็จการทหารใช้ความรุนแรงต่อประชาชน

สนนท. หรือสมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ประนามรัฐบาลเผด็จการทหารใช้

ความรุนแรงต่อประชาชน เรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามเงื่อนไข 3 ข้อ

1. ให้นายกรัฐบมนตรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และผู้รับผิดชอบใน ศอฉ. ลาออก

เพื่อแสดงความรับผิดชอบ

2. ให้ยกเลิก ประกาศ พรก. ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

3. ให้รัฐบาลเลิกแทรกแซงการทำงานของสื่อสารมวลชนทั้งสื่อในประเทศและสื่อต่างประเทศ

และเปิดโอกาสให้องค์กรสิทธิมนุษยชนสากลเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสถานการณ์

การชุมนุมตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา

ผู้ตั้งกระทู้ กระจกเงา :: วันที่ลงประกาศ 2010-05-15 23:08:09

ความเห็นที่ 1 (3193296)

เลขาธิการองค์กรสิทธิมนุษยชนไทยหายไปไหน

เป็นเรื่องที่น่าอับอายต่างชาติเหลือเกินที่องค์กรสิทธิมนุษยชนไทยไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวตำหนิรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ที่ลุแก่อำนาจใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธหนักครบมือออกมาปราบปรามประชาชนที่มาชุมนุมโดยอหิงสา สันติ ปราศจากอาวุธนานถึง 65 วัน ทั้งๆที่สื่อต่างประเทศ

พูตจากนานาชาติ องค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียน องค์การฮิวแมนไลท์วอล์ท หรือแม้แต่เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ  ยังออกมาเตือนรัฐบาลไทยให้หยุดใช้ความรุแรงกับประชาชน และให้องค์กรเหล่านี้มาตรวจสอบ แต่องค์กรสิทธิมนุษยชนไทยกลับมองไม่เห็น โดยเฉพาะศาตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์ ผู้ออกมาแสดงบทบาทตลอดเวลาว่าทำหน้าที่ขับเคลื่อนให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกละเมิดสิทธิ แต่กลับเหตุการณ์การสลายการชุมนุมเพื่อขอพื้นที่คืนของรัฐบาลทั้งที่เวทีผ่านฟ้าลีลาศ เวทีราชประสงค์ จนขณะนี้กรุงเทพมหานครกลายเป็นสนามรบมีทหารถือปืนเข่นฆ่าประชาชนกลับมองไม่เห็น ได้แต่ออกมาบอกให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดความรุนแรงแล้วหันมาเจรจา หากใครไม่เจรจาถือว่าทำร้ายประเทศชาติ คำพูดนี้มิได้แสดงถึงความเข้าใจปัญหา ไม่เข้าใจความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ไม่เข้าใจศักดฺศรีความเป็นมนุษย์ ไม่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องพรหมวิหารธรรม 4 คือความมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แล้วองค์กรนี้มาเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้อย่างไร ประชาชนคนไทยเฝ้าดูองค์กรนี้และคณะกรรมการบริหารมาตลอดหลายปี ประชาชนผู้บริสุทธิ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกฆ่าอย่างอำมหิต ไม่เคยเลยที่องค์กรนี้จะออกมาเคลื่อนไหวแสดงบทบาทอย่างจริงจัง คนที่จะทำงานอันทรงเกียรตินี้ได้ต้องมีจิตใจรักเพื่อนมนุษย์เห็นความทุกข์ยากของเขาเสมือนทุกข์ของตนเอง

ลองถามใจตนเองว่าคณะกรรมการทั้งหลายท่านมีสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ประชาชนเขายอมรับการตรวจสอบจากท่านหรือไม่ เพราะขณะนี้ประชาชนคนธรรมดา มีการศึกษาต่ำต้อย ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์อะไร ไม่มีตำแหน่งทางวิชาการใดๆ แต่เขามีหัวใจรักเพื่อนมนุษย์เขาทนไม่ได้ที่ทหารถืออาวุธออกมาเข่นฆ่าประชาชน ด้วยการออกมาส่งเสียงร้อง ห้ามปรามมิให้ประชาชนคนเสื้อแดงถูกกระทำย่ำยี บางคนเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนต้องสังเวยชีวิตจากอำนาจอำมหิตก็มี เพราะเขาเหล่านั้นรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก คนไทยยังไม่ยอมรับไม่ให้ความไว้วางใจองค์กรนี้ แล้วนานาชาติเขายอมรับให้เป็นสมาชิกองค์กรสิทธิมนุษยชนอาเซียนหรือไม่

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2010-05-16 02:11:34

ความเห็นที่ 2 (3193492)

ประเทศไทยถูกสร้างค่านิยมให้ระบบศักดินามีอำนาจครอบงำสังคมมานาน โดยเฉพาะในวงราชการบุคลากรคนใดอยากได้ดิบได้ดีต้องรู้จักเอาใจนาย ไม่กล้าแม้แต่จะพูดจาขัดแย้งกับความคิดของผู้บังคับบัญชา จนมีคำพูดติดตลกว่าใครทะเลาะกับนายไม่เจริญ และลุกลามกลายเป็นระบบเจ้าขุนมูลนายหรือที่เรียกว่าระบอบอมาตยาธิปไตยมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ระดับสูงลดหลั่นลงไปหาระดับต่ำ ด้วยเหตุนี้ระบบราชการจึงมีวัฒนาธรรมของการขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารด้วยการประจบประแจงมากกว่าการใช้ความสามารถ และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือระบบนี้อาจเป็นช่องว่างให้เจ้านายบางคนหาประโยชน์จากการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง หรือแต่งตั้งโยกย้ายของข้าราชการ ระบบเจ้าขุนมูลนายมิใช่จำกัดอยู่ในวงราชการเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงความสัมพันธ์ไปสู่กลุ่มนักการเมือง นักวิชาการหัวเก่า กลุ่มรัฐวิสาหกิจและกลุ่มนายทุนผูกขาดทางเศรษฐกิจ  ปรากฏการณ์เช่นนี้ได้สร้างอภิสิทธิ์ชนก่อให้เกิดความแตกแยกเอารัดเอาเปรียบในองค์กรต่างๆ คนที่อยู่ในระดับล่างได้แก่เกษตรกร กรรมกรลูกจ้างถูกเอารัดเอาเปรียบ คุณภาพชีวิตต่ำไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐ ผู้ประกอบการรายย่อยเสียเปรียบทางการค้า

สภาพการณ์เช่นนี้ถูกแก้ไขให้หมดไปในขณะที่พรรคไทยรักไทยเข้ามาบริหารประเทศ สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งกับคู่แข่งทางการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องเป็นพรรคฝ่ายค้านถึง 8 ปี และยังทำให้กลุ่มอำมาตย์สูญเสียผลประโยชน์ ดังนั้นจึงเกิดขบวนการล้มล้างรัฐบาลขนานใหญ่ และสำเร็จด้วยการรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย. 2549 ได้รัฐบาลทหารของพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ เข้ามาบริหารประเทศ ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 โดยคมช. กกต.ได้ยุบพรรคไทยรักไทย และเมื่อรัฐบาลทหารต้องคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ พรรคพลังประชาชนซึ่งสานต่อนโยบายพรรคไทยรักไทยก็ยังได้รับเลือกให้เป็นเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล ในที่สุดก็ยุบพรรคพลังประชาชน และให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคอื่นๆ จนขณะนี้ 1 ปีกว่าที่ไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม แก้ปัญหาความยากจนและพืชผลทางการเกษตรตกต่ำไม่ได้ มีการโกงกินคอรัปชั่นขนานใหญ่ จึงเกิดกลุ่ม นปช. และประชาชนรวมตัวกันชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลในนามคนเสื้อแดงมาขับไล่ให้ลาออก รัฐบาลก็ประกาศความเป็นศัตรูกับประชาชนทันที และได้สลายการชุมนุมเมื่อ 12-14 เมษายน 2552 แต่ถึงกระนั้นแกนนำ นปช.ก็ไม่ยอมแพ้ได้ปลุกระดมทางความคิดให้เห็นว่าประชาธิปไตยกินได้ทางพีเพิลชาแนล จนมวลชนคนเสื้อแดงเติบใหญ่ขยายไปทุกจังหวัด 1 ปีเต็ม จึงได้ประกาศชุมนุมใหญ่เมื่อ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันนี้ 17 พฤษภาคม 2553 เป็นเวลา 66 วัน รับบาลได้ประกาศ พรบ.ความมั่นคงใน กทม. และจังหวัดใกล้เคียง แต่ประชาชนก็ไม่หวั่นกลัวยังคงเข้าร่วมชุมนุมอย่างคับคั่ง ในที่สุดได้ประกาศ พรบ.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรง ภายใต้ความรับผิดชอบของศอฉ. และได้ส่งทหารถืออาวุธหนักครบมือมาสลายการชุมนุมเพื่อขอพื่นที่เวทีชุมนุมผ่านฟ้าลีลาศคืน จนมีผู้เสียชีวิตถึง 25 คน บาดเจ็บ ร่วมพันคน จนถึงขณะนี้รัฐบาลพยายามขอพื้นที่ราชประสงค์คืนและได้เข่นฆ่าประชาชนไปแล้วอีก 31 ศพ มีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน กรุงเทพกลายเป็นสมรภูมิเลือด และเปลวไฟการจากเผายางรถยนต์ด้วยคนเสื้อแดงก็ไม่ยอมจำนนยังคงใช้ยุทธวิธีทุกรูปแบบที่จะรักษาฐานที่มั่นและรักษาชีวิตของตนเองและมวลชน และยังไม่มีทีท่าว่าจะประนีประนอมกันได้ เหตุการณ์ครั้งนี้จะจบอย่างไร เพราะทั้ง 2 ฝ่ายก็ต่างไม่ยอมรับสภาพความพ่ายแพ้ เพราะมันหมายถึงความสูญสิ้นในระบอบการเมืองที่ตนเองยึดมั่นถือมั่น ยิ่งรัฐปิดกั้นการชุมนุมก็ยิ่งเกิดเวทีมากมายทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เพราะประชาชนเขาเลือกแล้วว่าประชาธิปไตยกินได้ ชัยชนะครั้งนี้คงต้องแลกมาด้วยการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย และกว่าจะฟื้นฟูประเทศมาถึงจุดสูงสุดที่ประชาชนเคยมีความสุขคงต้องใช้เวลาอันยาวนาน ในต่างประเทศที่เจริญแล้วเขาผ่านการต่อสู้เพื่อโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตยมานานมากแล้ว เขาก็ยังวนเวียนอยู่กับการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม จนไม่รู้ว่าเมื่อไรที่มนุษยชาติจะเอาชนะความเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้ได้ ลองหันมาปรองดรองกันและพัฒนาการเมืองตามหลักประชาธิปไตยอันมีธรรมาธิปไตยเป็นรากฐาน หยุดเข่นฆ่าทำร้ายให้อภัยกัน ผู้ปกครองต้องยอมรับความจริงว่าการเป็นรัฐบาลต้องรับภาระอันหนักอึ้ง ต้องนำพาประชาชนไปสู่ความกินดีอยู่ดี ให้ประชาชนเขาเป็นคนตัดสินเถอะว่าเขาไว้วางใจใครให้มารับภาระอันหนักอึ้งนี้ได้ ถึงแม้ประเทศที่เจริญแล้วเขาจะต้องประสบปัญหามากมายจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ภาวะโลกร้อนและภัยธรรมชาติ แต่เขาไม่ต้องมาแก้ไขปัญหาการเมือง เพราะเขามีจุดยืนที่เป็นกฏกติกามารยาทแล้วว่าเสียงของประชาชนคือเสียงสวรรค์ นักการเมืองเป็นผู้รับใช้ประชาชน แต่ประเทศไทยรัฐบาลอำมาตย์ตีค่าประชาชนเป็นปีศาจตัวร้าย และรัฐบาลเป็นเทพเจ้าที่ต้องสังหารล้างผลาญปีศาจให้หมดสิ้น จึงเกิดกลียุคเช่นนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2010-05-17 02:41:10

ความเห็นที่ 3 (3193493)

อกิริยทิฏฐิ มีความเห็นว่า การกระทำต่างๆของสัตว์ทั้งหลายนั้น ไม่สำเร็จเป็นบาป บุญแต่ประการใด ในสามัญผลสูตรแสดงว่า

    ผู้ที่มีความเห็นผิดชนิดอกิริยทิฏฐิ เห็นว่า การทำดี ทำชั่วของสัตว์ทั้งหลาย จะทำเองก็ตาม ใช้ให้ผู้อื่นทำก็ตาม ไม่ได้ชื่อว่าเป็นบุญ บาป หรือฆ่สัตว์ด้วยตนเอง หรือใช้ให้ผู้อื่นทำก็ตาม ลักทรัพย์ด้วยตนเอง หรือใช้ให้ผู้อื่นลักทรัพย์ก็ตาม ไม่ได้ชื่อว่าเป็นบุญ บาป

     ความเห็นผิดชนิดอกิริยทิฏฐินี้ เป็นความเห็นที่ปฏิเสธกรรม อันเป็นตัวเหตุ ฉะนั้นจึงเท่ากับว่า ปฏิเสธผลของกรรมด้วย ดังในสามัญผลสูตร อรรถกถาแสดงว่า

     "เมื่อปฏิเสธการการทำบาป บุญที่เป็นตัวเหตุแล้ว ก็เท่ากับปฏิเสธผลของการทำบาป บุญนั้นด้วย"

     นิยตมิจฉาทิฏฐินี้ เป็นความเห็นผิดชนิดที่สามารถส่งผล ให้เกิดใน"นิรยภูมิ"อย่างแน่นอน แม้พระพุทธองค์ก็โปรดไม่สำเร็จ      (นิรยภูมิ - สัตว์นรก)

การเข่นฆ่าประชาชนผู้ต้องการเพียงแค่ให้รัฐบาลสนองตอบความต้องการขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ แต่รัฐบาลกลับมองเห็นว่าเป็นการทำลายอำนาจทางการเมืองของรัฐบาล เป็นความเห็นผิดอย่างยิ่ง

อำนาจเช่นนี้เป็นเพียงของสมมุติ เป็นภาพมายาที่ชวนให้หลง เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป หาประโยชน์อันใดมิได้ แต่การเข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ก่อบาปอย่างมหันต์ มีผลทั้งในปัจจุบันและอนาคต ส่งผลให้จิตใจเศร้าหมองทุรนทุรายทั้งยามหลับและยามตื่น และผลของบาปยังติดตามไปในโลกหน้า โปรดหยุดเถอะ ขนาดองคุลิมาลยังหยุดได้แล้วรัฐบาลจะไม่ยอมหยุดหรือ หากปล่อยจิตให้อกุศลจิตครอบงำนานไปอาจถึงขั้นวิปลาศ

ไปได้ ประชาชนคงไม่ทนที่จะตกเป็นเหยื่อของคนเช่นนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น วิญญูชน วันที่ตอบ 2010-05-17 03:09:16

ความคิดเห็นที่ 7 (2032600)
เพราะสู้ความอำมหิตไม่ไหว........น้ำตาจึงเป็นสายเลือด......จงหลับให้สบายเถิดผู้กล้า การจากไปของพวกท่านจะอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป
ผู้แสดงความคิดเห็น ตะแบกแดง วันที่ตอบ 2010-05-21 19:43:25

ความคิดเห็นที่ 8 (2036042)

แล้วหายไปไหนเสียล่ะ นายชวน คงหมดหวังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้วละ..... ท่าทางกระดี๊กระด๊า เหมือนปลาได้น้ำ ก็เลยสลายไป........ ผมเห็นด้วยครับกับความคิดในกระทู้นี้ต่อนายชวน........ แต่ผมมองในวงกว้าง ๆ ไปถึงระบบของสังคมไทย ว่าเป็นระบบที่ไม่เกื้อกูลต่อตนเอง ไม่เกื้อกูลต่อประเทศชาติ

เราไปให้ค่านิยมบางอย่างมากเกินไปจนกลายเป็นทำลายกระแสความจริง ที่คนไทยควรจะไปตามกระแสนั้น มันอธิบายยาก เช่นทำไมเราจึงให้ความนับถือคนอย่างนายชวน หลีกภัย นายประเวศร วะสี และนายอานันท์ ปันยาระชุน ........ ก็เพียงเห็นว่านายชวนซื่อสัตย์ พูดจาเก่งมีเหตุผลดี นายประเวศร์ ดูเหมือนรู้รอบดี รู้กระทั่งธรรมะชั้นสูง ๆ ที่คนฟัง ๆ แล้วยกนิ้วให้ หรือ สาธุ นายอานันท์ แสดงถึงความอารมณ์ดี ไม่ค่อยถือเนื้อถือตัว ดูเป็นประชาธิปไตย ประมาณนั้น........

แต่ความจริงแล้ว เราควรมองคนที่ผลงานมากกว่าจึงจะเป็นประโยชน์แท้ คนที่เอ่ยนามมาแล้วนี้ ไม่เคยมีผลงานอะไรเลย (มีบ้างอยู่ แต่มันไม่น่าพูดถึงอะไร มีนายอานันท์ไปรับเชคใบเดียว ตอนก่อนจะลงจากเก้าอี้นายกฯ ขายอะไรของชาติไป ....) โดยเฉพาะนายชวน หลีกภัย แกอยู่ในวงการเมือง เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้เป็น เป็นรัฐมนตรีก็ได้เป็น หลายกระทรวง แม้กระทั่งกระทรวงกลาโหมก็ได้เป็น แต่แกไม่เคยมีผลงานอะไรเลย.....ประเวศร วะสี นี่พูดดีแต่ปาก เป็นประเภทปีศาจคาบคัมภีร์.... นายอานันท์ วันหนึ่ง ๆ ก็เอาแต่รื่นรมย์ เหมือนเพลบอย..ไร้อุดมการณ์....ไม่มีผลงานอะไรเหมือนกันเลย แต่ฉลาดที่จะเอาประโยชน์ได้ ด้วยการเป็นที่ปรึกษาบ้าง.... จากทุก ๆ รัฐบาล...ร่างรัฐธรรมนูญก็เอา ..(หวังว่าได้ค่าตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ พอเพิ่มรายได้ไปเลี้ยงตนและครอบครัว อะไรประมาณนั้น....ก็คือเห็นแก่เงินอีกแบบหนึ่งนั้นเอง ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมโดยสิ้นเชิง) และจะเห็นว่า ค่านิยมนี้เริ่มจะมาปรากฎอย่างยิ่งใหญ่เมื่อคนเห็นผลงานของ ทักษิณ ชินวัตร ...... และเลือกเขามาเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ......... ซึ่งเราเห็นว่านี่แหละทางแห่งความเจริญของประเทศชาติ และโดยถูกต้องตามหลักการประชาธิปไตย ........ แต่แล้ว เรากลับได้คนอย่างชวน หลีกภัย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประเวศร์ วะสี อานันท์ ปัญญาระชุน โดยมี อนุพงษ์ เผ่าจินดา ฝ่ายบู๊ และ จำลอง ศรีเมือง ฝ่ายบุ๋นศิษย์เถรเทวทัตนั้น ......... มาปกครองประเทศ.....อีกครั้งหนึ่ง.

ผมเองได้ฟังนิทานธรรมะเรื่องหนึ่งมาตั้งแต่เด็ก พ่อเล่าให้ฟัง ว่าพระราชาธิราชเจ้าผู้มีบารมีให้หาคนมาสร้างปราสาทอย่างใหญ่โตมโหฬาร ก็ทรงประกาศรับสมัครช่างใหญ่ เรียกตัวมาสัมภาษณ์ ช่างคนที่ 1 ก็อธิบายไปอย่างละเอียดเลยว่า ปราสาทนั้นต้องให้งดงามปานวิมานเทพ แล้วอธิบายพรรณนาไป ว่าเป็นอย่างนั้น ๆ ต้องมีทรง มีชั้น มีห้องหับ และการประดับตกแต่งอย่างนั้น ๆ อธิบายอยู่เป็นเวลา 7 วัน จึงจบ แล้วพระราชาก็หันมาถามช่างคนที่ 2 ว่า ทางช่างคนที่ 2 จะว่าอย่างไร ช่างคนที่ 2 กราบทูลว่า พระเจ้าข้า ปราสาทวิมานเทพที่สวยงามที่จารนัยมาทุกอย่างนั้น ข้าพระพุทธเจ้านี่แหละมีความสามารถพร้อมจะสร้างขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์เลยพระเจ้าข้า ช่างคนที่ 2 พูดจบลงเพียงประโยคเดียว ในเวลา 1 นาทีเท่านั้นเอง พระราชาก็สามารถตัดสินใจได้ทันทีว่าจะทรงโปรดช่างคนไหน

ทรงเห็นว่า ช่างคนที่ 1 มันเป็นเพียงนักพูดนักประพันธ์ นักสร้างภาพ ส่วนช่างคนที่ 2 นี่สิ ของจริง พระราชาก็เฉดหัวช่างคนที่ 1 ไป บริภาษว่าเจ้าดีแต่พูด แต่ไม่พูดเลยว่าเจ้าจะสร้างมันขึ้นมาอย่างไร ด้วยเทกนิกอะไรบ้าง จึงจะได้ปราสาทตามที่เจ้าสร้างภาพขึ้นมานั้น แล้วทรงเลือกช่างคนที่ 2 ให้ทำงานสร้างปราสาทวิมานเทพ พร้อมโปรดปรานอย่างมโหฬาร สำหรับคำพูดเพียงประโยคสองประโยคที่ว่า พระเจ้าข้า ปราสาทวิมานเทพที่สวยงามที่จารนัยมาทุกอย่างนั้น ข้าพระพุทธเจ้านี่แหละมีความสามารถพร้อมจะสร้างขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์เลยพระเจ้าข้า

ในตอนที่ได้ฟังนิทานเรื่องนั้น ผมก็รูสึกขึ้นมาเหมือนกันว่า อยากจะเห็นปราสาทวิมานเทพนั้นจริง ๆ ผมไม่เข้าใจว่าเป็นเพียงนิทาน เปรียบเทียบให้ฟัง ให้ได้คิดว่า คนพูดไม่มีค่าเท่าคนทำ และผมได้คตินั้นมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

ผมจึงคิดว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ทุกวันนี้ ได้ทำให้เสียสถาบันของประเทศไปตามลำดับ ๆ สถาบันสุดท้ายที่กำลังทำลายลงไปก็คือสถาบันสื่อ ปิดปากสถานีข่าว ............. เห็นชัดเจนกันอยู่แล้ว........... และไปเพิ่มค่านิยมให้แก่เด็กและเยาวชนเอาแบบอย่างไม่ดี......... การพูดแบบตลบแตลง โกหกพกลมไปอย่างไร้ความสำนึกรับผิดชอบไปวัน ๆ ไม่ได้สร้างค่านิยมที่ว่า ให้นิยมคนมีผลงาน มากกว่าคนมีเพียงคำพูด ถ้าเพียงคนไทยเข้าใจความจริงเหล่านี้ ตามนิทานที่ว่ามาแล้วนั้น นายชวน คงไม่ได้ขึ้นมาขวางประเทศชาติให้เปล่าประโยชน์ อยู่เป็นเวลานานหลายสิบปีเลย ..... และบัดนี้มีคนอย่างเดียวกันมาพร่าผลาญเวลาของประเทศชาติต่อไปอีก คือนายอภิสิทธิ์ ที่มีอะไรล่ะ????? นอกจากคอยโต้วาทีกับนักวิชาการ โต้กับสื่อหนังสือพิมพ์ และโต้วาทีกับชาวไร่ชาวนา ที่เรียกว่า แก้ภาพตัวเองไปวัน ๆ โกหกพกลมไปวัน ๆ เอาตัวรอดไปเท่านั้นเอง...นี่หรือหน้าที่นายกรัฐมนตรี ???

และนี่ก็ขอเสนอ ใครก็ตามที่จะขึ้นมาทำหน้าที่ ปฏิรูปประเทศไทย ขอให้ปฏิรูปค่านิยมนี้เสียก่อน.........

ผู้แสดงความคิดเห็น จาด ประครองจิต วันที่ตอบ 2010-06-22 08:04:22

ความคิดเห็นที่ 9 (2042480)

แกเสียคนตอนแก่ ถูกการเมืองเล่นงาน หมองูตายเพราะงู

ทำท่าว่าเข้าไปศึกษาธรรมะระดับกรรมฐาน ธุดงค์ และวิปัสสนา ...... แต่กลับทรยศต่อธรรม ......ไปยุทหารฆ่าประชาชน.......... ได้อย่างไร อยู่เฉย ๆ ไปเสียก็สิ้นเรื่อง แต่อย่างว่าลุแก่โมหะ และโลภะ(อยากเป็นนรม.อีกครั้ง)

ก็กลายเป็นลบล้างความดี บุญกุศลที่เคยทำมา เกลี้ยง....... ต้องไปบาดาลสถานเดียว

น่าเสียดายจริง ๆ นายชวน.......

(คงมีคนแค้นแทนเยอะอยู่ แต่ผมอยากให้มีปุจฉามา ผมจะวิสัชนาให้)

ผู้แสดงความคิดเห็น อำนาจ มังคลา วันที่ตอบ 2010-08-22 08:38:58

ความคิดเห็นที่ 10 (2046993)
เขาไม่กล้าถามหรอกครับ เขากลัวคมปากกาของคุณ
ผู้แสดงความคิดเห็น สปา วันที่ตอบ 2010-09-21 09:11:50

ความคิดเห็นที่ 11 (3479241)

นายกยิ่งลักษณ์จะได้บริหารประเทศต่อในปี 2557 หรือไม่

ผู้แสดงความคิดเห็น ผูห่วงบ้านเมือง วันที่ตอบ 2014-01-26 09:57:46

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล