ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bullet1 Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Finland-ฟินแลนด์
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.Check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


ศึกษาโลกลี้ลับภาค 13 ต้นฉบับสมบูรณ์ ตอนที่ 2

ภาค 13 สมบูรณ์ ตอนที่ 2

 

พ่อญี่ปุ่นบวชอุทิศบุญให้

14.00 น.

 

รายงานจากแม่เรไรคนขยัน

ว่าพ่อญี่ปุ่นมันบวชแล้ว  บวชที่วัดหงส์สวนหมาก  โคราช  แต่ไม่รู้จะบวชนานกี่วัน  บวชแล้วสวยงามมากเลย  พ่อมันรูปร่างดีอยู่แล้ว พอบวชก็ดูดีมาก ๆ

 

พวกทหารบวชกัน 9 คน

พวกนักข่าวบวชกัน 6 คน

 

ส่วนพวกด่านขุนทดกับโคกสวายยังไม่บวช แต่รู้ว่าจะบวชกัน 16 คน บวชบ้านพ่อคูณ

 

น้ายามก็จะบวช แต่คงบวชได้ไม่กี่วันหรอก

 

คนบ้านมันก็เตรียมบวชกันหลายคน

 

หลวงปู่อุบลอายุร่วม 90 ก็พาพระมาเยี่ยม มากันเต็มรถตู้  มันหลับอยู่  หลวงปู่ว่า อย่าทำอีกเลยสาวน้อย  คนเราอยู่เฉย ๆ ก็ตายเองอยู่แล้ว  ไม่ต้องฆ่าก็ตายเอง  แกเห็นสาวน้อยมาตั้งแต่เด็ก ๆ  มันชอบแกล้งหลวงปู่  เช่นกระทืบเท้าให้หลวงปู่ตื่นนอน   แกล้งวิ่งชนหลวงปู่  แกล้งชนตะกร้าขยะให้ล้ม  หลวงปู่ให้ขนมมันกินเป็นประจำ  กินแล้วมันก็วิ่งกลับไปโรงงาน  ส่วนพระครูก็เคยพยากรณ์ว่าโตขึ้นมันคงจะสวยงามมากทีเดียว

 

 

คุยกันแล้วครั้งที่ 4

 

แล้วแม่เรไรให้พูดกับสาวน้อย  บอกว่าพูดดัง ๆ หน่อยจึงจะได้ยิน  เขาเอาสำลีอุดหูไว้ มีน้ำเหลืองออกมาจากในหู  เสียงเขายังไม่ค่อยชัดเจนนัก

 

-          น้อย พ่อเอง  เป็นอย่างไรบ้าง

-          พ่อ น้อยปวดหัว

-          อดทนหน่อยนะน้อย  สักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว

-          หนาว  พ่อน้อยหนาว  กอดพ่อหน่อย ๆ ๆ ๆ ๆ  พ่ออยู่ไหน?

-          พ่ออยู่กุฏี ศรีสะเกษ  อยู่คนเดียว  พ่อรักน้อยคนเดียวเชื่อเถอะน่ะ 

 

ก็จบแค่นั้น  โทรศัพท์ปิดลง  หรือหลุดไปจากหู 

 

18.53 น.

 

แม่เรไรบอกว่าจะกลับโคราชไปดูลูกชาย คงไปสัก2วัน  ระหว่างนี้ทางโรงงานเขาให้คนมาเฝ้า  มีอาจารย์หมวย กับอาจารย์เล็ก  ถ้าน้อยอยากโทร.ถึงหลวงพ่อก็จะให้อาจารย์หมวยกดเบอร์ให้

 

เรายังทำพิธีกรรมอะไร ๆ ต่อไปจนถึงห้าทุ่มเศษ ๆ  ก็ง่วงจัด  เข้านอนตลอดคืน

 

 

4 พ.ค.2550

 

เสียงทิพย์อยู่ระดับ10,000 ต่อ 20 หน่วย  แล้วพัฒนาไปถึง 13,000 ต่อ 40 หน่วย  ไพเราะเหลือเกิน ในชาตินี้เราจะมีบารมีพอได้ฟังเสียงทิพย์ระดับ  100,000 ต่อ 50-100 หน่วยหรือไม่หนอ?

 

 

ยังหวั่นว่าพ่อจะไปธุดงค์

05.56 น.

 

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

เสียงเขาเอง  น้อยโทร.มา 

 

-น้อยเหรอ  น้อยเหรอ   น้อยเหรอ

-พ่อ  น้อยปวดหัว

-ทนเอาหน่อยนะน้อย  เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง

-พ่ออยู่ไหน

-เอาเถอะน่ะ  พ่ออยู่กุฎี ศรีสะเกษ  พ่อไม่ได้ไปไหน  พ่อไม่ได้ไปธุดงค์  พ่อจะไปได้อย่างไร  น้อย  ป่วยอยู่อย่างนี้  พ่อเป็นห่วงน้อย

 

เหมือนปิดโทรศัพท์

 

09.00 น.

 

 เขาโทร.มา  ฟังไม่ทันว่าพูดอะไร  เสียงค่อนข้างเบาและอ่อนมาก  บางทีจูนเครื่องยังไม่ตรงนัก

 

09.05 น.

 

อีกครั้งหนึ่ง  ฟังได้ยินว่า  น้อยเหนื่อยเหลือเกินพ่อ

 

09.20 น.

 

-พ่อทำอะไรอยู่

-กำลังฉันข้าว จวนเสร็จแล้วแหละ  น้อยเป็นอย่างไรบ้าง?

-ให้พ่อฉันข้าวเสร็จก่อนก็แล้วกัน

 

12.25 น.

 

-น้อยเหรอ  เป็นอย่างไรบ้าง

-น้อยปวดหัว

-ปวดมากไหม   หลับให้สนิท ๆ เถอะจะได้ดีขึ้น

-น้อยอยากหลับแต่ก็ไม่หลับ  พ่อทำอะไรอยู่

-ไม่ได้ทำอะไรหรอก คอยฟังข่าวน้อยอย่างเดียว  น้อยทำอะไรได้บ้าง

-น้อยนอนเฉย ๆ ขยับตัวไม่ได้

-กินข้าวปลาอาหารบ้างไหม

-ไม่ได้กิน ไม่อยากกิน  พ่ออยู่กับใคร

-อยู่คนเดียว คอยน้อยอยู่

-ไม่เชื่อ

-จริง ๆ พ่ออยู่คนเดียวจริง ๆ  พ่อรักน้อยคนเดียว

 

13.00 น.

 

-น้อยอยากกินข้าว เขาไม่ให้กิน  เขาจะย้ายไปกรุงเทพวันนี้

-น้อยเห็นดีด้วยไหม

-น้อยจะรอน้ายามก่อน น้ายามบวชเมื่อเช้านี้ จะสึกพรุ่งนี้

 เขาอยากให้น้ายามไปเฝ้าติดต่อกับทางบ้าน

 พ่ออยู่กับใคร

-พ่ออยู่คนเดียวคอยฟังข่าวน้อยอยู่ตลอดเวลา

-พ่อไม่ห่วงน้อยบ้างนี้

-พูดอย่างนั้นได้อย่างไร  พ่อห่วงแต่น้อยคนเดียว จะไปห่วงคนอื่นได้อย่างไร

-ถ้าพ่อไม่เกรงใจน้อยพ่อก็จะทำใช่ไหม

-พูดได้อย่างไร  น้อยเป็นสตรีผู้ประเสริฐ เลิศในแผ่นดิน จุติมาจากชั้นสูงพ่อจะดูแคลนได้อย่างไร

-หมอเขามาตรวจ เอาแค่นี้ก่อนนะพ่อนะ

 

 

14.50 น.

 

เป็นครั้งแรกที่น้อยพูดด้วยเสียงที่ปกติที่สุด  บอกว่า

เขาจะเอาน้อยไปกรุงเทพ  จริง ๆ น้อยอยากคอยน้ายามก่อน น้ายามแกรอบคอบแกรู้เรื่องอาหารการกิน แกคอยระวังให้ดี  น้อยไม่อยากไป คิดถึงพ่อ  ส่วนแม่แกห่วงพี่เทพ แต่แกก็ไม่อยากให้น้ายามรู้  ไม่อยากให้ยุ่งยากมาถึงพ่อ  เขาจะเอาตัวพ่อไปเป็นตัวต่อรอง  เชื่อน้อยเถอะน้อยรู้  น้อยจึงไม่ให้ใครรู้  น้อยจึงแอบไปทุกครั้ง  บังเอิญ4ปีน้อยก็ไม่เคยบอกใครเลย   เขายังไม่ทำอะไรน้อยหรอกเพราะน้อยตัวคนเดียว  เขาไม่คิดว่าญี่ปุ่นจะช่วยอะไรได้ เพราะเขารู้ว่าน้อยไม่ได้รักญี่ปุ่นเลย

 

17.05 น.

-พ่อ เขาจะย้ายน้อยไปกรุงเทพเวลา 20.00 น.

-น้อยอยากไปไหม

-น้อยเห็นใจชาวบ้าน  เขาบอกหมอว่าไม่อยากให้เอาไป  เอาไปแล้วเขาไปหาไม่ได้  อยากให้อยู่ที่นี่      จะเป็นหรือตายก็ให้อยู่ที่นี่

-แต่เขาเอาน้อยไปเพื่อให้เป็นนี่นา  น้อยจะต้องเป็น ฟื้นคืนมาดั่งเดิม

-น้อยเป็นห่วงพ่อ

-ห่วงพ่อทำไม

-กลัวพ่อจะไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น

-ผู้หญิงคนไหน   ยังนึกไม่ออกว่าเป็นคนไหน  เขากุเรื่องขึ้นมาเองแท้ ๆ  น้อยไปเชื่อได้อย่างไร

-เดี๋ยวก่อนเดอพ่อ เดี๋ยวก่อน

 

 

19.15 น.

 

เขาโทร.มาบอกให้ดูข่าวโทรทัศน์ ข่าวหนึ่ง  เกี่ยวกับสถานการณ์ใต้สุด

พ่อคอยดูเดอ   เขาบอกแล้วปิดโทรศัพท์

 

พบช่อง 5 รายงานทหารให้ความเห็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ว่าไม่เห็นด้วย   เห็น พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร  แถลงการณ์

 

20.00 น.

 

บอกว่าน้อยเตรียมตัวจะเข้ากรุงเทพ แล้ว  ว่ามีโทรศัพท์จากผู้ใหญ่มาว่า  ทำไมจึงทำอย่างนี้ เราจะชนะอยู่แล้ว  จะไปเยี่ยมที่กรุงเทพ   บอกว่ามีคนไปส่งหลายคน  พี่ชายที่เป็นตำรวจก็ไป  พ่อไม่ต้องห่วงหรอก  ถ้าเขาไม่วางยาน้อยไปถึงก็จะโทร.มา  น้อยรักพ่อนะ  พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอก 

 

 

5  พ.ค.2550  เสาร์

 

เช้า ๆ เสียงทิพย์บรรเลงสนั่นในระดับ 14,000 ต่อ 30 หน่วย  นิ่งฟังเหมือนจะดูดวิญญาณไปสู่โลกทิพย์ ที่แห่งความสบายใจ

05.18 น.

โทรศัพท์เขามา  เสียงแผ่ว ๆ  เหมือนคนฟื้นไข้   บอกว่า

 

-น้อยมาถึงแล้ว  เขาวางยาน้อย  เขาบอกก่อนว่ากันไม่ให้กระเทือน  ไม่ให้ปวดหัว  ปวดคอ    พ่อทำอะไรอยู่ 

-พ่ออยู่ในห้องน้ำ  รีบวิ่งออกมารับโทรศัพท์น้อย  

-พ่อนอนกับใคร 

-นอนคนเดียว

 

 

ทบทวนความหลัง

 

06.00น.

 

 -น้อยปวดหัว  เจ็บคอ อยู่  น้อยเป็นไข้  หมอเขาว่าร่องหลังไปตามตะโพกช้ำ  -

- ช้ำแค่นั้นเหรอ?   

-ทำไมห่วงตรงไหน?    ก็ไหนว่า ถ้าจะตายก็เขียนบอกหน่อยว่าจะให้อะไรใครอย่างไร  คน หาเขาจะได้ไม่เสียเวลา  ให้เขียนบอกเขาไว้หน่อย   

-โอยเข้าใจเจตนาพ่อผิด พ่อไม่ได้พูดอย่างนั้น เข้าใจผิดหมด

 

กำลังเริ่มจะมาทบทวนชั่วโมงท้าย ๆ ก่อนเกิดเหตุโศกนาฏกรรมวันนั้น

 

09.05น.

 

น้ายามเอาโทรศัพท์มาให้ ขณะคุยกันอยู่  ฟัง  มีโทรศัพท์มาหาเขา  คล้ายเสียงข่มขู่ว่าไม่กลัวตายหรือ   ได้ยินว่าอย่ามาขู่เลย  เขาไม่กลัวตายหรอก  ไม่ให้หรอก ไม่ให้  น้อยบอกตรง ๆ ไม่ให้  สัจจะในหมู่โจรจะไม่มีเลยหรือ  ไม่กลัวหรอกความตาย เฉย ๆ   ถามหน่อยคนใส่เสื้อลาย ๆ เป็นใคร  ถ้าบอกจะให้ตอนหนึ่ง เอาไหม?  ไปปลุกระดมเขาทำไมที่โรงเรียน ไม่สงสารเด็กน้อยหรือ  อย่ามาเลย มาเขาก็ไม่ให้เข้า

 

 

คำสาบาญอีกครั้ง

11.00 น.

 

เขาโทร.มาอีกครั้งหนึ่ง  ขณะนี้ฟังจากเสียงพูดเหมือนว่าเขาไม่ได้เจ็บป่วยไข้เลย  เขาถามว่าพ่อพูดอยู่กับใคร  เปล่า   น้อยได้ยินอยู่ตะกี้นี้เอง   อ๋อ  พระกำลังเตรียมที่ฉันไง  เพลแล้ว   ถามเขาว่าน้อยทำได้อย่างไร  ใจเด็ดจังนะ   ถามหน่อยว่าทำได้อย่างไร  ทำไมจึงเอาเชือกรัดมัดข้อเท้า  แล้วตกลงไปทางไหน  สูงขนาดไหน   ต้นไม้อยู่ตรงไหน  เขาว่ากะจะให้ตายจริง ๆ น่ะซี  แต่ไปติดต้นไม้ใหญ่ที่ยื่นไปทางปากเหว   ไปกะทบกิ่งไม้และเชือกคล้องกิ่งไม้ไว้  ว่าน้อยอย่าทำอย่างนั้นอีกเลยนะ  ถ้างั้นพ่อต้องสาบาญก่อน   สาบาญว่าอย่างไร   ว่าพ่อจะรักน้อยคนเดียว   พ่อต้องให้น้อยทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างทั้งกายและใจ   เอา  สาบาญ     งั้นพ่อฉันก่อนเถอะ

 

20.10 น.

 

เขาโทร.มาอีก ว่าไม่อยากอยู่กรุงเทพ  คนมาเยอะเกินไป   พูดเรื่องผู้หญิงที่โทร.ไป  เขาว่าเขาเป็นคนสวยคนหนึ่งเหมือนกัน  น้อยก็ว่าน้อยสวยกว่า   มายืนเคียงกันดูไหม ว่าหลวงพ่อจะเลือกใครน้อยไม่ยอมแพ้ใครหรอก  ว่าเขาโทร.มาว่าน้อยหลายครั้ง เขาว่าเขาอยู่ใกล้กว่าเขาอยู่กับหลวงพ่อตลอดวัน   ส่วนน้อยได้เพียงลูบคลำรูปถ่าย ได้เพียงลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้นเอง   น้อยก็เคียดพ่อละ   คุยกันไปประเดี๋ยวหมอจะมาตรวจก็ว่าเอาแค่นี้ก่อนนะพ่อนะ

 

 

6 พ.ค.2550

 

05.00 น.

เสียงทิพย์อยู่ระหว่าง 15,000 ต่อ 30 หน่วย  เสียงทิพย์ระดับ15,000นี้มีความเข้ม ความต่อเนื่องของเสียงสม่ำเสมอไม่ขาด ไม่อ่อนลง และโหมไปไม่ยับยั้ง ทรงอำนาจมาก 

เมื่อถึงระดับ 50,000 หน่วยคงจะหายตัวได้ นี่มิใช่ความเพ้อฝัน แต่มีเหตุผลที่จะเป็นจริงได้

 

เสียงทิพย์เร่งเร้าขึ้นตั้งแต่วานนี้แล้ว  คงเป็นเพราะความหมดห่วงกังวล มีความสบายใจขึ้นนั่นเอง

 

05.26 น.เขาโทร.มา  ว่าพ่อทำอะไรอยู่  ตื่นแล้วหรือยัง  นอนกับใคร   เขาเล่าว่าเมื่อวานนี้ แพทย์เอาไปเข้าห้องอบ  เขาให้ดมยาก่อน  แล้วสิ้นสติไป  แล้วเขาเข็นไปเข้าตู้อบขนาดใหญ่  อบไปแล้วรู้สึกปวดไปทั้งเนื้อทั้งตัว  น้ายามลาสิกขามาดูแล สาบายใจขึ้น

 

 

สัจธรรมแห่งชีวิตสมณะ

0830 น.

 

เสียงทิพย์กำลังโหมสนั่น  บรรยากาศเยือกเย็น เพราะฝนตกมาตั้งแต่วาน  และตลอดคืนที่แล้ว เสียงทิพย์ระดับ 15,000 ต่อ 30 หน่วย  ทรงพลังอำนาจมาก เพระนอกจากไพเราะแล้ว ยังมีลักษณะรุก มีเชิงรุก  และโหมเหนือเสียงอื่นใด  ไม่ถอยลง

 

ยังไม่ได้ข่าวจากน้อยอีก  รู้สึกวังเวงใจ  ความจริงตลอดเวลาที่ครองเพศสมณะ  เรามิได้เคยนึกคิดต่อสตรีในทำนองโลกียวิสัยเลย  มันขาดไปเองในตัวอยู่แล้ว  แต่เมื่อดูบ้าง ทบทวนดูบ้าง ก็มีสตรีอยู่เหมือนกัน ยิ่งพินิจก็ยิ่งเห็นว่ามีความหมาย   เพียงแต่เราไม่ได้คิดไป  มันจบลง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ทุกครั้งที่มีการเริ่มต้น   หมายความว่าไม่มีการสืบต่อเนื่องไปอีก

 

แต่กรณีสาวน้อยนี้  ตามความรู้สึกและจินตนาการไป เหมือนเป็นกรรมเก่า  เป็นหนี้กรรมที่ต้องชดใช้  เป็นความสัมพันธ์ที่เนื่องมาแต่หลาย ๆ ชาติในอดีต เพราะมาแรงเหมือนไล่ตามมาหลาย ๆชาติจนทันเอาปลาย ๆ ชาตินี้ ขณะที่เราจวนจะละไปอีกครั้งหนึ่ง   ดีที่เขามาทันแม้จะเข้าวัยชราภาพแล้วก็ตาม

 

 

20.30 น.

เสียงทิพย์อยู่ระดับ 8,000 ต่อ 30 หน่วย  แล้วทวีเป็น 10,000 ต่อ 30 หน่วย

 

รายงานนี้เวลา 20.30 น.  เมื่อเวลาประมาณ 11.50 น. เขาให้โทร.ไปหา  เขาว่าพ่อไปไหนโทร.ไปถึง 3-4 ครั้งไม่รับสาย   เราแปลกใจมาก เพราะเฝ้าโทรศัพท์อยู่แต่ไม่ได้ยินเลยสักครั้ง  บอกเขาไป ไม่แน่ใจว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ เราก็ลืมตรวจดูว่าไม่ได้รับกี่สาย

 

เขาว่าจะถามคำถามหนึ่ง พ่ออย่านึกว่าไม่สำคัญ  ขณะนั้นอยู่ระหว่างทำบุญเลี้ยงเพล  รับนิมนต์ไปบ้านผอ.วัชรินทร์ อ.ปิยะพร  บัวงาม  ผู้พิพากษากู้เกียรติ บัวงาม  ผอ.รุ่ง บัวงาม  เลยไม่ได้คุยกัน  เขาว่าให้โทร.มา  เสร็จเราโทร.ไปบอกว่า กำลังจะกลับวัด  สักหน่อยก่อนจะได้คุยกัน   แต่แล้วจากนี้ไปก็ไม่ได้ยินเสียงน้อยอีก  เธอปิดโทรศัพท์  และไม่โทร.มา  จนถึงเวลานี้ เป็นเวลา 8 ชั่วโมงแล้ว 

 

โอ...ช่างไม่สบายใจจริงหนอ...เรายังคงระแวงเรื่องสุขภาพของเขา  กลัวว่าเขาจะจากไป

มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาจึงไม่มีเสียงเรียกมาเลย  คำถามอะไรที่ว่าสำคัญ  ????  คอยฟังอยู่

 

กลัวเรื่องเข้าใจผิดเหลือเกิน

 

ติดต่อมาเถิดน้อย  ระแวง สงสัยอะไรนักหนอ?????

หมอเขาคงให้พักผ่อนละมั้ง !!!!!!   แต่คืนนี้เราคงนอนไม่หลับแน่ ๆ   !!!!!

 

7 พ.ค.2550

04.25 น.        

เวลา 04.25 น.เขาโทร.มา  คุยด้วยประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น ก็ถามว่าพ่อตื่นแล้วยัง  ทำอะไรอยู่  นอนกับใคร   แต่ก็ทำให้เราสบายใจมาก ๆ แสดงว่าไม่มีอะไรร้าย ๆ เกิดขึ้นตามที่ระแวงอยู่ เธอเป็นปกติดี  คงจะเข้าเตาอบเหมือนเมื่อวานนี้  และคงจะปวดตามเนื้อตามตัวเหมือนเดิม

 

 เพราะเราเองก็ปวดไปทั่วตัวเหมือนกัน ตั้งแต่วานนี้ หรือว่าความรู้สึกเราเชื่อมถึงกันอยู่

 

06.00 น.

เขาโทร.มาอีกหน  ว่าเรื่องคำถาม จะถามเมื่อวานนี้  แต่เห็นว่าคนเยอะเลย เอาไว้ก่อน เราไม่ทันบอกเขาว่ากำลังจะออกไปงานทำบุญตักบาตรคุ้มหนองยวนราว0830น.จึงจะเสร็จกลับมา

 

 

มาทบทวนความหลัง

 

14.40 น.

 

แม่เรไรกลับมาศรีสะเกษแล้ว โทร.มาบอก  ส่วนน้อยมีการเคลื่อนย้ายไปพักฟื้นและรักษาพยาบาล ณ สถานที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง  มีหมอคอยดูแลเป็นพิเศษ 4 คน มีห้องส่วนตัวเป็นอิสระ ไม่มีคนพลุกพล่านเหมือนโรงพยาบาล  หมอว่ากระดูกคอและสันหลังเคลื่อน  มีปัญหากับคนป่วยเพราะคนป่วยนอนนิ่งไม่ได้ ขยุกขยิกอยู่ตลอดเวลา   ว่าจะต้องนำไปรักษาต่อที่ญี่ปุ่น  เขามีเครื่องมือแพทย์ทันสมัยกว่า  เขาจะมีครอบ ๆ ร่างกายลงไปพอดีไม่ให้ขยับเขยื้อนหรือขยุกขยิกได้เลย  ซึ่งจะทำให้การรักษากระดูกเคลื่อนหายเร็วเข้า  พ่อเขายังไม่สึกมาเยี่ยม บอกว่าบวชเพื่ออธิษฐานขอแม่น้อยให้ดลบันดาลให้อนุญาตเขาไปรักษาตัวต่อที่ญี่ปุ่น  ว่าพ่อญี่ปุ่นบวชแล้วดูดี  แต่มายืนใกล้ ๆ เตียง  สาวน้อยก็บอกคล้ายสอนว่า ผ้าเหลืองเป็นของสูงเน้อ ทำใจให้สูงตามไปด้วยเน้อ  พ่อเขาก็หัวเราะ  พระพี่เลี้ยงที่มาด้วยก็ยิ้ม ๆ

 

แล้วเมื่อเป็นอิสระ  ก็ได้คุยกันนาน  ไม่มีใครรบกวน  คราวแรกนี้นานถึง 2 ชั่วโมง 20 นาที  พูดถึงเรื่องราวเหตุการณ์ในวันนั้น  ตรงที่เขากลิ้งลงมาสู่ปากเหวนั้น  ลาดชันนั้น เป็นที่ ๆ เขาเคยยืนมองดูมาตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ  เป็นเหวลึกลงไปข้างล่าง  มองไม่เห็นพื้นดินเพราะมีหมอกควันกลุ้มรุมอยู่  เป็นที่ ๆ มีอะไรตกลงไปก็หายไปจากสายตาหมด  แม้กระบือตกลงไปก็ไม่เคยกลับมาได้  เขามัดข้อเท้าอย่างหนาแน่นก่อนแล้วรัดไปตามลำตัวไปถึงคอ  เสร็จแล้วบอกว่า  หลวงพี่กับแม่มารับน้อยด้วย น้อยจะไปอยู่ด้วย แล้วกลิ้งตัวลงไปตามเนินลาดชันไปตกลงในเหว  แต่ไปถูกต้นไม้ที่งอกออกมาตามหน้าผา และเชือกคล้องเข้ากับกิ่งไม้ใหญ่  จึงรอดจากการตกลงไปยังก้นเหวลึกข้างล่าง   เขาวางแผนนี้แล้วเสร็จก่อนวันนั้นถึง 3 วัน  แล้วจึงเศร้าใจร้องห่มร้องไห้  เพราะแน่ใจว่าจะจากทุกคนไปแล้ว   ขณะนั้นฝนตกหนักมาก  คืนนั้นเขาเอาแต่ร้องไห้ ร้องว่าเหงาเหลือเกินเหมือนอยู่คนเดียวในโลก  แต่เราผู้เฝ้าปลอบอยู่ก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาวางแผนนี้ไว้แล้ว   แม้ว่าแม่เรไรจะโทร.มาบอกว่าผิดสังเกต มันเอาแต่ร้องไห้  พูดโทรศัพท์กับมัน ๆ ก็เอาแต่ร้องไห้   วันนั้นขณะที่มันขอเลิกสัญญากับหลวงพ่อ  มันอยู่บนยอดเขาแล้ว  มันมัดเท้าของมันเรียบร้อยแล้ว  พอหลวงพ่อบอกอยากเลิกก็ตามใจ  ไม่กี่นาทีต่อมามันก็กลิ้งลงเหวไป  ฉันเองก็วางแผนไว้ว่าจะป้องกันอย่างเต็มที่  แต่ไปไม่ทัน  ไปถึงก็พบคนเกลื่อนไปหมด  พวกเขามาเอาร่างของน้อยลงมาจากต้นไม้  มีทหารและรถแม็กโครขนาดใหญ่  ขณะนั้นเราคอยข่าว  แม่เรไรโทร.มาบอกว่าไปไม่ทัน  เราก็ถามว่าหมายความว่าอย่างไร แม่เรไรตอบว่า  น้อยโดดลงมาจากยอดเขา  ไปติดอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่  เขาเอารถแมกโครมา  เอาเข้าโรงพยาบาลปากช่องอยู่  ในขณะนั้นแม่เรไรก็ยังไม่ทราบรายละเอียด  เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย  เอาร่างวางบนเตียงไว้เฉย ๆ  ไม่ได้ทำอะไรให้ทั้งสิ้น   รออย่างเดียวคือปาฏิหาริย์   

 

แต่พ่อญี่ปุ่นเขาไปเอาแพทย์มาจากกรุงเทพ พร้อมเครื่องมือ  มาถึงก็เจาะศีรษะดูดเอาเลือดที่คั่งบริเวณจุดสำคัญแห่งหนึ่งออกมา  เขาว่าถ้าปล่อยให้คั่งอยู่ต่อไป ก็จะสิ้นชีวิต แล้วตรวจเลือดและถ่ายเลือดให้

 

เขาก็ฟื้นขึ้นมา   และได้ทบทวนเรื่องราวกันวันนี้นานถึง 2 ชั่วโมง 20 นาที  หากแพทย์ไม่มาตรวจก็คงเลยไปถึง 3- 4 ชั่วโมง  ก็เป็นได้ 

 

 

เงามืดคุกคามอีกครั้ง

21.30 น.

 

ความร่าเริงเบิกบานหมดไปเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ผิดไปเป็นคนละคน  เขาบอกว่าเหนื่อยเหลือเกินพ่อ ทำไมน้อยเหนื่อยเหลือเกิน  แล้วค่อยหมดไป  โทรศัพท์ปิดลง  เราคิดว่าหมอคงต้องการให้พักผ่อน 

 

พอโทร.ไป  เสียงบอกว่า  เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งหนึ่ง

 

8 พ.ค.2550

 

05.00 น.

 

เธอโทร.มา  บอกให้รู้ว่าฟื้นตื่นขึ้นมาแล้ว  ดีใจ  แต่แล้วก็พบสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่าเดิม เธอบอกว่าเธอเหนื่อยเหลือเกิน น้อยเป็นอะไรไปก็ไม่รู้ พ่อช่วยน้อยด้วย  น้อยเจ็บคอ และเหนื่อยเหลือเกิน   ไม่ใช่น้อยจะตายจากพ่อและทุกคนไปแล้วหรือ?”  พูดกันไม่เท่าไรก็เงียบหายไป

 

07.40 น.

แม่เรไรโทร.มาว่าทางน้ายามโทร.มาบอกว่ามันสิ้นสติไป  มันคุยกับใครก็ไม่รู้แล้วสิ้นสติไป  แม่เรไรว่ามันหายไปยังไม่ฟื้น  ตาลืมอยู่ น้ำตาไหล  มันคุยกับหลวงพ่อว่าอย่างไรบ้าง  ว่าน้ายามโทร.ไปบอกพ่อมันแล้ว พ่อมันยังไม่สึก อยู่พุทธมณฑล 

 

 

พร่ำเพ้อดุจสั่งลา

09.25 น. 

 

เสียงมือถือ ต้องเป็นเขา  และเป็นเขา  สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น  เขาฟื้นขึ้นมา  เราสงสัยว่าเขาเพ้อหรือเปล่า 

 

เขาอยากให้วันเก่า ๆ บางวันคืนมา  ครั้งพี่ ๆ และครอบครัวเขายังอยู่  เขาว่าหลวงพี่ไถนา  เขาสาดน้ำใส่ ล้อเล่น  หลวงพี่ก็เอาก้อนตมขว้างไล่ให้หนีไป คนทำงาน  มันหนีไปทางพี่ ๆ อีก2 คน พี่ ๆ ว่าอย่าขว้างมานะ  เดี๋ยวปล้ำกดน้ำเลย  แล้วแม่ก็ร้องเรียกว่ามากินข้าวกันได้แล้ว  มาทั้งหมดนั่นแหละ  เขาพอใจในความฉลาดของเขาเอง ที่รู้เอาตัวรอด  และพอใจที่พี่ ๆ ครอบครวัเขามีความรักกันดี  และรักเขาอย่างน้องร่วมสายโลหิตจริง ๆ  เขาเพ้อถึงหลวงพี่บ่อย ๆ เพราะเป็นคนที่ห่วงเขาและหาเงิน เก็บเงินทุกบาททุกสะตังส่งเขาเรียนหนังสือ  จนโตเป็นสาวน้อย ได้เข้าทำงานในโรงงาน  เป็นสาวน้อยโรงงาน  หลวงพี่เธอไม่ทันได้แต่งงานกับสาวที่รัก มรณะเสียก่อน 

 

เขาว่าอยากให้ฝนตกลงมาหนัก ๆ จะวิ่งออกไปกลางทุ่งนา  ตากฝนให้ฝนชำระล้างทั้งตัว  เหมือนเมื่อเป็นเด็ก ๆ  ฝนตกน้ายามเอาเชือกผูกเอวไว้ ไม่ให้ลงไปเล่นน้ำไหล  แต่ห้ามมันไม่ได้  มันโดดลงไปเส้นผมยาวฟูไหลไปตามลำน้ำ น้ายามลากตัวขึ้นมา เอาก้านไม้ตีเอา

 

เธอเพ้อถึงความงามในฤดูฝน  เมื่อฝนตกต้นไม้ก็เขียว   แต่ไม่นานถึงหน้าแล้ง ต้นไม้ก็เกลี้ยงกร๋นผลัดใบ   เหมือนชีวิตคนเราเกิดมาแล้ว ไม่มีใครพ้นความตายไปได้หรอก พ่อว่าจริงไหม ทำไมไม่ทำความดีกันบ้าง   เหมือนน้อย น้อยทำแต่ความดี น้อยก็ไม่กลัวความตาย

 

สาวน้อยเพ้อถึงความหลัง  และปัจจุบันเรื่อง ชาติ  ศาสนา และพระมหากษัตริย์   เธอว่าลุกขึ้นมาต่อสู้กันเถิด เพื่อในหลวงของเรา    และเพื่อชาติ   ทุกวันนี้ชาติมีภัยอันตรายอย่างใหญ่หลวง และน้อยพร้อมพลีชีพเพื่อชาติทุกเวลา ไม่กลัวความตาย

 

เธอเล่าถึงวีรกรรมต่าง ๆ เช่นวีรกรรมของนเรศวรมหาราช  รัชกาลที่ 5  และเล่าเรื่องพระนางสุนันทากุมารีรัตน์ หรือพระนางเรือล่ม ณ พระราชวังบางปะอิน อยุธยา ว่าประทับใจ  ในการเสียสละแม้ชีวิตก็สละได้

 

เธฮพร่ำว่าคิดถึงแม่ศรีสะเกษเหลือเกิน   คิดถึงแม่ศรีสะเกษ แม่รู้ใจน้อยทุกอย่าง  แม่เป็นคนเดียวที่ตามทันน้อยทุกอย่าง  และเก่งกว่าน้อย  เตือนน้อย ด่าว่าน้อยได้คนเดียว   น้ายามเข้ามาจับมือก็ร้องไห้  ว่าใครจะมาเอาน้อยไปเอาน้ายามตามไปด้วยเถิด

 

 

รำลึกถึงพระพุทธเจ้า

 

ที่สุดก็พร่ำว่าเหนื่อยเหลือเกินพ่อ  น้อยเหนื่อยเหลือเกิน   ทำไมเหมือนตอนญี่ปุ่นวางยาน้อยเลย  น้อยกลัว เวลาน้อยหลับลงแล้วทำไมเหมือนน้อยไปไกลเหลือเกิน  น้อยกลัวจะไม่ได้กลับมาหาพ่อและทุก ๆ คนอีก   เขาเอาน้อยไปไกล ไม่รู้ไปที่ไหน  ทำไมน้อยมีแต่เหนื่อยลงไป  เหนื่อยลงไป  คงถึงเวลาจริง ๆ แล้วมั้ง  น้อยกลัวจะไม่ได้กลับมา  น้อยคิดถึงพ่อ  น้อยอยากกลับมา  อยากลุกขึ้นนั่ง  อยากเขียนหนังสือ อ่านหนังสือที่พ่อเขียนแล้วถามพ่อว่า คำนั้นแปลว่าอะไร 

 

ถ้าน้อยไม่ได้กลับมาพ่อจะทำอย่างไร เขาคงจะมาเอาน้อยไปเลยละคราวนี้  พ่อพูดอะไรบ้างสิ น้อยเหนื่อยเหลือเกิน

 

ว่าจะให้พ่อพูดกับพ่อญี่ปุ่นไหม?   เขาไม่เอา  เขากลัวเรื่องราวจะยุ่งยากไปอีก  เขาขอสงวนไว้กับตัวเขาคนเดียว

 

บอกว่า  ทำไมน้อยคิดถึงแต่เรื่องราวที่น่ากลัว  ทำไมจึงคิดถึงแต่เรื่องราวของคนเหล่านั้น  และเดินตามเขาไปในเส้นทางที่สับสนและยากลำบาก  คนพวกนั้นและเสียงที่เรียกน้อยนั้นพาไปในที่มืดมน  พาไปสู่ทางต่ำ  ที่สับสน  โลเล  พ่ออยากขอให้น้อยระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า

 

พระพุทธเจ้าเหรอ    แล้วอย่างไร

 

เมื่อตอนน้อยตกเขาไปนั้น  พ่อเทียวไปทั่วจักรวาล ด้วยฌานเสียงทิพย์และเจตสิก   ก็ไม่มีใครช่วยน้อยได้  พ่อจึงระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า    พ่อไม่เคยขออะไรจากพระพุทธเจ้า  แต่จะขอคราวนี้  ขอให้น้อยกลับคืนมาหาพ่อ  

 

พ่อพบพระพุทธเจ้าหรือ ท่านมีรูปร่างอย่างไร  ท่านพูดกับพ่อหรือ  พูดว่าอย่างไร

 

พ่อพบท่านสำแดงเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่โตมโหฬาร สูงค้ำฟ้า  พ่อกล่าวคำสรรเสริญพระพุทธองค์  แล้วขอชีวิตน้อยจากพระพุทธเจ้า

 

ท่านพูดว่าอย่างไร

 

ท่านไม่พูดอย่างไร  แต่แสดงสัญญาณ  ท่านคว่ำมืออยู่  ท่านทำมือข้างซ้ายให้หงายขึ้น  พ่อก็รู้ว่าท่านอนุญาต  แล้วน้อยก็ฟื้นขึ้นมา  พ่ออยากให้น้อยมาทางนี้  คือทางไปสู่พระพุทธเจ้า  อย่าไปทางนู้นเลย  ทางนู้นล้วนแต่สับสน น่าหวดหวั่นและมืดมนอนธกาล   น้อยอย่าฟังเสียงเหล่านั้น  แต่ฟังเสียงพระพุทธเจ้า  ให้น้อยกล่าวคำสรรเสริญพระพุทธเจ้า

 

กล่าวว่าอย่างไร

 

ฟังนะ  ว่าตาม

 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต        ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อะระหะโต                              ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส

สัมมาสัมพุทธัสสะ                  ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

 

เขาว่าตามไปเบา ๆ

พาเขาว่าอีกบทหนึ่ง

 

พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว    พระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ มีพระกรุณาดุจห้วงมหรรณพ

โยจจันตะสุทธัพพะระญาณะโลจะโน            พระองค์ใดมีตาคือญาณอันประเสริฐหมดจดถึงที่สุด

  โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะฆาตะโก                 เป็นผู้ฆ่าเสียซึ่งบาป และอุปกิเลสของโลก

วันทามิ พุทธัง อะมาทะเรนะ ตัง         ข้าพเจ้าขอไหว้นมัสการพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นสุดใจ    เคารพนอบน้อม

 

 

เขาหลับไปเวลา 09.52 น.

เสียงทิพย์บรรเลงอยู่ ณ ระดับ 12,000 ต่อ 20 หน่วย

 

รำลึกดาวพระเคราะห์ในจักราศี

 

เราระลึกระบบดาวใน 12 จักรราศี

 

ขณะนี้ดาวพระจันทร์(๒)อายุจรเป็นประในราศีมกร และโดนกระแสดาวเสาร์(๗)เข้าเต็มที่ แต่ไม่น่าเป็นห่วงเพราะมีดาวพระพุธ(๔)เดิม+ศุกร(๖)บริวารเดิมรองรับอยู่  ซ้ำมีพระพุธ(๔)ศรีจรร่วมธาตุคุ้มครองอย่างดีเยี่ยม

 

แต่ดาวพระศุกร์(๖)ตนุลักคณ์โดดเดี่ยว ซ้ำจรเป็นกาลกิณีอีก  และได้กระแสอย่างเข้มของพระราหู(๘)จรอยู่ 

 

จึงรอคอยพระอังคาร(๓)จะเคลื่อนย้ายเข้าสู่ราศีมีน ในเวลา 10.07 น. เพื่อตามมาปกป้องคุ้มครองให้แด่พระศุกร์(๖) ตนุลักคณ์  อันเป็นมหามิตร 

 

ดาวพระอังคาร(๓)ตัวปัตนิจรที่กำกับคุ้มครองดาวพระศุกร์(๖)ตนุลักคณ์+อริ กาลกิณีจร 

 

10.07 น.

 

เวลา 10.07 น. มาแล้ว  ดาวพระอังคาร(๓)ยอดนักรบ มาแล้ว !!!!!

 

ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

 

11.58 น.

 

เสียงโทรศัพท์  เป็นของน้อย  เสียงเบาค่อยอยู่  ถามว่าพ่อทำอะไร บอกว่าฉันเพลอยู่   เอา!!! พ่อฉันเพลก่อนก็แล้วกัน  เดี๋ยวก่อน พ่อรอฟังอยู่ว่าน้อยเป็นอย่างไรบ้าง     ไม่เป็นไรหรอกน่า  รับรองว่าไม่ตาย  พ่อฉันก่อนเถอะ

 

15.00 17.20 น.

 

2 ชั่วโมงเศษ ๆ นี้คุยกันสารพัดเรื่อง รวมทั้งเรื่องที่เธอหมดลมไป ว่าเป็นอย่างไร  และเพราะอะไร   ยังพูดถึงเรื่องพระพุทธเจ้าต่อ 

 

-     ถ้าน้อยตาย พ่อจะไปธุดงค์หรือเปล่า 

-     ไป   จะเดินธุดงค์มาที่เขาปากช่องและเข้าฌานตามดูว่าน้อยไปอยู่ไหน

-     แล้วพ่อจะไปไหนต่อ  

-    พ่อก็ไปตามทาง ตามรอยของพระพุทธเจ้า  จนกว่าจะได้เฝ้าพระองค์ 

-     พ่อจะไปหาพระพุทธเจ้าทำไม

-     ฟังคำสอนของพระองค์

-     พระพุทธเจ้าสอนอะไร   

-    สอนว่าคนเป็นไปตามกรรม ทุกคนต้องชดใช้หนี้กรรมที่ทำไว้  กรรมจะพาเราไป  ทุกคนไปตาม     ผลกรรมของตนเอง  กรรมเป็นตัวกำหนด  ไม่ใช่เราเองอาจจะกำหนดได้  พ่อเป็นห่วงน้อย เพราะคิดผิด คิดว่าฆ่าตัวตายแล้วจะพ้นกรรม คิดว่าจะพ้นทุกข์ พ้นเรื่องที่เลวร้ายของชีวิตไปเสีย    แล้วเป็นสุข ไปได้ตามใจอยาก  จะไปไหนก็ไปได้ตามใจตนเอง  นั่นเป็นความเขลาเข้าใจผิด เพราะความไม่รู้ธรรมของพระพุทธเจ้า    สิ่งที่น้อยคิดฆ่าตัวตาย คิดว่าดี  แต่จริง ๆ อาจจะไม่ดีก็ได้  เพราะเรากำหนดเองไม่ได้  แต่กรรมเป็นตัวกำหนด  เมื่อตายไป อาจจะพบสถานการณ์สนองของกรรม กลับจะเลวกว่าเก่าอีก ทุกข์กว่าเก่าอีกก็ได้  เพราะสุดแต่ว่าสร้างกรรมอะไรไว้อย่างไร  พระพุทธเจ้าตรัสว่าการฆ่าตัวตายก็เป็นบาป  และต้องได้รับผลกรรมบาปที่ฆ่าตัวตายพอ ๆ กับการฆ่าคน ๆ หนึ่ง   ลองคิดดูเหมือนโจรเทียวปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ เผาสมบัติข้าวของคนอื่นเสียหายไปอย่างมากมาย  พอตำรวจจับได้ ก็ชิงฆ่าตัวตายด้วยนึกว่าตายไปก็พ้น ๆไม่ต้องรับโทษตามกฎหมายบ้านเมือง  ตายไปก็ไปสู่ความสุข  แต่ความจริงเขาไม่อาจจะพ้นผิด ไม่อาจจะพ้นกรรมไปได้  เขาจักได้รับผลสนองของกรรมชั่วของเขาอย่างแสนสาหัส  นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า   

 

 ดูเหมือนเขาจะเกิดเวทนาขึ้นมา

 

เวลาฟื้นขึ้นมาก็เหมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย  เสียงเขาแจ่มใสเหมือนคนปกติทุกอย่าง  บอกว่าหมอจะถอดแผ่นเหล็กที่ใช้รองหลังออกเย็นนี้แล้ว

 

18.10 น.

เสียงทิพย์เริ่มจาก  10,000 แล้วทวีไปถึง  13,000 ต่อ 30 หน่วย ซึ่งระดับนี้ เสียงใส และ ชัดเจนมาก มีเชิงรุก  คืออยู่เหนือเสียงใดใด

 

โทร.มาบอกด้วยน้ำเสียงยินดี ว่าหมอถอดแผ่นเหล็กรองหลังออกแล้ว ลุก เดินได้แล้ว  เขาว่าเดี๋ยวก็ทะเลาะกับพ่อได้เหมือนเดิม   เราก็ว่าดี  ไชโย  ไชโย  น้อยของพ่อชนะแล้ว 

 

 

เสียงเร้นลับมาข่มขู่เอาชีวิต

20.30 น.

 

เขาให้ฟังเสียงพูดเข้ามาจากอีกเครื่องหนึ่ง  เขาบอกไปว่าอย่าถาม  ปวดหัว เหนื่อย กินยาแล้วเหนื่อย  ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว  จำอะไรไม่ได้เลย  จะตายอยู่แล้วปวดหัว  พี่อยากให้คนอื่นรักพี่ไหม?  อยากให้รักก็รักคนอื่นบ้างสิ  ไปบอกท่านเถอะ  ไม่กลัวหรอก  อย่าทำแบบนี้ดีกว่า ไม่กลัวหรอก  โอย  ปวดหัว  ปวดหัว  จำอะไรไม่ได้  ไม่รู้เป็นอะไรปวดหัว สงสัยหัวจะกระทบแรงหน่อย  น้อยคงลืมมั้ง น้อยเหนื่อย  ให้น้อยหายก่อนเป็นไร  ไม่ต้องกลัวน้อย   ไหน เขาบอกว่าน้อยตายเหรอ  เงินเหรอ  ไม่เป็นไร  น้อยไม่รู้หรอก 

 

บอกว่าน้อยไม่สบายพักเถิด

 

9 พ.ค.2550

วันพระ 8 ค่ำ

04.40 น.

เขาปลุกว่าพ่อตื่นแล้วหรือยัง 

07.02 น.

 

เขาให้ดูรายการสรยุทธ รายงานเหตุการณ์ใต้  เขาว่าประเด็น พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ จะทำให้ใต้ลุกฮือ  เขาว่าพระศรีสะเกษจะต้องรับผิดชอบ  เขาเป็นฝ่ายตรงข้ามเราในประเด็นนี้  บอกเขาว่าอยู่ศาลาฉัน วันพระ แล้วค่อยคุยกัน

 

08.30 น.

 

แม่เรไรโทร.มา  บอกว่ากำลังยุ่งยากกัน ทุกคนตกอกตกใจไปหมดเรื่องของน้อย 

 

09.00 น.

 

โทร.ไป  และขอสัญญาจากเขาข้อหนึ่ง  เขาให้  

 

เขาเล่าว่ามีคณะบุคคล 3-4 คนมาเยี่ยมเขาในขณะที่เพ้อเสียสติอยู่ ไม่รู้สึกตัว  พอก่อนไปวางกล่องของขวัญไว้ให้ ข้างในเป็นเครื่องเพชร ทอง ราคาระดับล้านบาทขึ้นไป  เขาบอกว่าเขาเข้าใจ  แต่เขาไม่เอา  ไม่รับ

 

เห็นดวงไฟประหลาด

19.30 น.

แม่เรไรโทร.มา  รายงานเรื่องเขาโกรธ ว่าแม่โทร.ไปบอกหลวงพ่อทำไม  แม่บอกว่าไม่ได้โทร.  งั้นก็น้ายามแน่ ๆ  แม่เรไรกำชับว่าพ่ออย่าบอกนะ  ไม่งั้นมันโกรธอย่างแรงเลย จะไม่ปากหา(ถามหา)เลย   เล่าความดื้อดึงของสาวน้อย  ว่าแกล้งหมอประการต่าง ๆ เช่นทำวาดเท้าไปถูกเครื่องแก้วตกแตก  เป็นระนาว   พอหมอจะฉีดยาก็แหกปากร้องดัง เหมือนว่าเจ็บ  แต่จริง ๆ ไม่เจ็บ  จะแกล้งหมอเท่านั้นเอง    หมอก็เกรงว่าเป็นลูกสาวมหาเศรษฐี ก็ได้แต่ยิ้ม ๆ

 

 

เทพธิดามาเยี่ยม?

21.00 น.

เขาเล่าเรื่องประหลาดให้ฟังว่า   เห็นมา 3 วันแล้ว  วันแรกเป็นดวงเพลิงกลมลอยเข้ามาหา หยุดอยู่ต่อหน้าแล้วปรากฏเป็นเทพธิดา 2 องค์ยืนมองดูน้อย  ยิ้ม ๆ  แล้วพากันซุบซิบอะไรกัน ไม่ได้ยิน  แล้วลอยหายไป

 

วันที่ 2 มาอีกเป็นครั้งที่ 2  คราวนี้เขายกมือไหว้และถามว่าท่านมาทำไม   ไม่ตอบ  ทำกริยาเหมือนเดิม  คือมองดูเขายิ้ม ๆ  ซุบซิบกัน แล้วลอยจากไป 

 

วันที่ 3 ก็มาอีกเป็นครั้งที่ 3  เขายกมือไหว้เหมือนเดิม  ไม่กลัว  ถามเหมือนเดิมว่าท่านมาทำไม  ไม่ตอบ  แล้วลอยหายไปอีก

 

เขาถามว่า นี่คืออะไร   เราว่าไม่ทราบเหมือนกัน  เทพธิดาจากสวรรค์มาเยี่ยมมั้ง   คงเคยอยู่สวรรค์ด้วยกัน  เขาได้ข่าวก็มาเยี่ยม เพราะเขามายิ้มแย้มแจ่มใสดี 

 

 

 

โศกใจถึง 7 ทหารหาญ

 

10 พ.ค.2550

แต่แล้วก็เกิดโศกนาฎกรรมที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส  ทหารหาญ 7 นายถูกลอบทำร้าย  วางระเบิด  รถยนต์พังยับทั้งคันแล้วพวกก่อการร้ายจ่อหัวยิงปลิดชีวิต 7 ชีวิต

 

11 พ.ค.2550

12 พ.ค.2550

13 พ.ค.2550

14 พ.ค.2550

 

 

ช๊อคสลบเหมือดในเตาอบ

 

ชั่วเวลาลำดับมาตามเวลานาทีที่ผ่านมาแล้วนี้   สาวน้อยประหลาด  ได้ก่อเรื่องราวไม่คาดฝัน เป็นความลับอย่างยิ่ง แล้วเก็บไว้จุกอกอยู่คนเดียว  เป็นเหตุให้ต้องหนีจากคฤหาสน์ของพ่อญี่ปุ่นไปพักผ่อนรักษาตัวที่บ้านในหุบเขาปากช่อง  แล้วให้โรงพยาบาลที่นั่นทำการรักษาต่อไป  แต่ก็พบเข้ากับเรื่องราวที่ตื่นเต้น ตกใจกันไปหมดอีกครั้ง  เมื่อหมอเอาเข้าห้องอบความร้อน  แล้วเร่งไฟเกินขนาด  ทำให้สาวน้อยดิ้นรนอยู่ในเตาอบจนสิ้นสติไป จนตำรวจพี่ชายชักปืนออกมาให้หมอรีบจัดการ เอาออกมาจากเตาอบ   จนหมอสารภาพว่าหมอฝึกหัดคุมเตาอยู่ไม่ทราบอัตราความร้อนของเตา ทำให้ร้อนเกินไป  หมอขอรับผิดชอบ และขอโทษโดยดี 

 

 

อีกวันหนึ่งที่ระทึก

15 พ.ค.2550

วานนี้พี่ใหญ่ พี่กลาง และพี่เล็ก พากันเดินทางกลับไปแล้ว เช้าเขาไปเก็บเห็ดที่หัวนาติดกับชายป่า ได้เห็ดละโงก เยอะแยะเต็มตะกร้า  เอามาแจกจ่ายคนข้างทาง  พอถึงบ้านจะแกงเห็ดแล้วจะนำไปส่งพี่ใหญ่ที่ด่านเกวียน  เขารู้สึกเหนื่อย  บอกพ่อเขาอายุ80ว่าเขาจะนอนพักหน่อย  ถ้าเขาสิ้นสติ ช๊อคไปอย่าตกใจ  อย่าเอาเขาไปโรงพยาบาล  ให้พ่อล๊อคประตูเสีย   พ่อเขาก็รับคำ

 

สู่โลกวิญญาณอีกครั้ง

 

เขาโทร.มาบอก และคุยกันไปจนถึง 10.00 น.เสียงเขาอ่อนลงและหายไป โทรศัพท์หลุดมือลง  บันทึกไว้ดังนี้

 

10.00 น.          นาฬิกาบรรเลงเพลงบอกเวลา ฟังไพเราะเหลือเกิน   เป็นเวลาที่สาวน้อยหลับลง

12.10 น.          โทร.ไป2ครั้ง ติดมีเสียงเพลงขานรับไปจนจบเพลงทั้ง2ครั้ง แต่ไม่มีเสียงรับ ยังหลับอยู่

เราตกใจ 2 ชม.แล้วยังไม่ฟื้นคืนมา  แม่เรไรก็โทร.มาบอก  ว่ารู้แล้วหรือยังว่าลูกสาวยังไม่ฟื้น แต่พ่อมันบอกว่ามันสั่งไม่ให้เอาไปโรงพยาบาล

13.20 น.          โทร.ไป2ครั้งไม่ได้เปิดเครื่องรับไว้

เราทำพิธีกรรม  เช่นเคย  คือป่าวประกาศเทวดาทุกแห่งหน ว่า น้อย สุนารักษ์ สาวน้อยโรงงานคนดัง บุตรสาวพระอาจารย์พยับ ปญฺญาธโร  เทวดาองค์ไหนพบให้พาส่งคืนด้วย  โอม นมัสศิวะ

13.42 น.          เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสียงเขาเอง  บอกว่าพ่อน้อยเหนื่อย  น้อยคิดถึงพ่อ  เสียงดังเบา ๆ เหมือนคนวิ่งมาแต่ไกลและเหน็ดเหนื่อย  บอกเขาค่อย ๆ ว่า เหนื่อยก็หลับเถิดน้อย  หลับพักผ่อนให้พอก่อนเถิด 

13.45 น.          เขาหลับลงไปอีกครั้ง

16.00 น.          ยังหลับ  โทร.ไป  ไม่เปิดเครื่องรับ

16.35 น.          โทร.ไปอีกครั้ง  เพลงขึ้น  จนจบ  แต่ไม่รับ

16.40 น.          โทร.ไป  เสียงเขารับสาย   เสียงแจ่มใส  คงฟื้นก่อนหน้านี้แล้ว

 

อภินิหาริย์สร้อยข้อมือ

 

เขาเล่าเรื่องให้ฟังว่า  เป็นเรื่องประหลาดมาก  พอเขาสิ้นสติไป  ก็คล้าย ๆ ว่ามาถึงที่แห่งหนึ่งซึ่งไกลเหลือเกิน  มองไปข้างหลังก็ไกล  มองไปข้างหน้าก็ไกล  รอบ ๆ ตัวเหมือนที่แปลกถิ่น  ที่ห่างไกลคนทั้งหลาย  ที่เราเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่เป็นที่ไหน  แล้วไม่นานก็มีบุคคล 2 คน  แต่งตัวเหมือนเทวดาหญิงชาย  ประดับด้วยเครื่องเพชรพราวไปหมดทั้งตัว แบบยี่เกไทย  เทวดาชายตัวสูงอยู่ห่าง ส่วนเทวดาหญิงมาใกล้ ๆ แล้วจับเอามือจูงพาเดินไปอย่างเร็วไม่หยุด เทวดาผู้ชายเดินนำไปข้างหน้า   น้อยก็เดินตามเขาไป  แล้วมาถึงที่สูงลิบลิ่วขึ้นไปข้างบน  มีขั้นบันได  ตรงนั้นสูงชันมาก คล้ายเป็นที่อยู่ของเทวดา   น้อยบอกเทวดาว่าเหนื่อย ขอพักสักประเดี๋ยวก่อน แล้วหยุดเดิน  มือหลุดลง   เทวดาทั้งสองก็หยุด  เทวดาผู้หญิงบอกว่าเร็ว ๆ อย่าหยุดนาน แล้วเร่งให้ไป  บอกว่าต้องไปเร็ว ๆ  น้อยก็เหนื่อยยังไม่อยากไป   เทวดาผู้หญิงก็มาจับที่ข้อมือ กะจะจับให้แน่นไม่ให้หลุด พอดี ที่น้อยสวมสร้อยมีชื่อพ่อจารไว้ จะดึงให้ไป  พอจับถูกสร้อยข้อมือเขาก็สะดุ้งและปล่อยมือน้อย  เขาจับอีกก็สะดุ้งอีก  จับไม่ได้  เลยถอยออกไปห่าง ๆ ถามว่าสวมอะไรมาด้วย  น้อยก็ว่าสร้อยข้อมือพ่อให้มา

 

พอดีเทวดาทั้งสองมองลงไป  เห็นพระองค์หนึ่ง  เดินมาอยู่ไกลลิบ ๆ  มองเห็นเท่าหัวแม่มือ   เทวดาทำท่าแปลกใจ ดูเกรงขาม  แล้วบอกให้น้อยดู แล้วถามน้อยว่า  เห็นพระองค์นั้นไหม  จำท่านได้ไหมว่าเป็นใคร  น้อยมองดูเห็นทีแรกก็ดูคุ้น ๆ แต่จำไม่ได้   เทวดาหญิงถามว่าจำได้หรือไม่ได้  ถ้าจำไม่ได้ก็รีบตามมาเร็ว ๆ  ให้รีบคิดเร็ว ๆ  ไม่ให้รอช้า  พอดีน้อยได้ยินเสียงเรียกว่าน้อยพ่อมาตาม  กลับมากับพ่อเถิด น้อยก็จำเสียงพ่อได้  และทั้งจำรูปร่างได้  ก็บอกเทวดาว่าจำได้แล้ว  เทวดาสององค์ก็ขยิบตาให้กัน  เทวดาหญิงถามว่า  อยากจะไปหรืออยากจะกลับ  ถ้าอยากจะกลับต้องรีบตามไปให้ทันท่าน  ต้องรีบไปเร็ว ๆ ไม่งั้นจะไม่ทันเวลา  และจะหลงทาง  จะไปหรือจะกลับ  ตัดสินใจเร็ว ๆ อย่าช้า 

 

น้อยก็ตัดสินใจกลับ เดินไปหาพ่อ  พ่อก็ออกเดินไปทันที  ดูเหมือนเส้นทางนั้นเป็นเส้นขาวโพลนฝ่าไปในป่าใหญ่ เห็นชัดเจน แต่พ่ออยู่ไกลมากมองเห็นเล็กเท่าหัวแม่มือเท่านั้นเอง    และพ่อไม่รอน้อยเลย   พ่อออกเดินไปทันที  น้อยก็ตาม ๆ ๆ แต่ไม่ทันพ่อ  แต่พอน้อยหยุดเพราะเหนื่อยพ่อก็จะหยุดรอ   แล้วไม่นานพ่อก็หายไป   น้อยก็วิ่งมาเหนื่อยหอบไปหมด  เป็นคราวที่น้อยฟื้นมาคราวแรก  และโทรศัพท์หาพ่อบอกว่าน้อยเหนื่อย  น้อยคิดถึงพ่อ  แล้วพ่อบอกว่า เหนื่อยก็หลับเถิดน้อย  หลับพักผ่อนให้พอก่อนเถิด  น้อยก็หลับไปอีกรอบหนึ่ง  มาฟื้นเอาตอนไหนก็ไม่รู้  เห็นพี่ใหญ่ พ่อ  ป้า  น้ายาม  ไอ้หมวย กับคนนั่งดูอยู่  พี่ใหญ่ก็มาอุ้มว่าอย่าเพิ่งจากพี่ไปเลย น้ำตาก็หยดลงถูกตัวน้อย    คนอื่น ๆ ก็ร้องไห้ตาม ๆ กัน  ว่าน้อยเป็นเทวดา  จะไปก็ไปง่าย ๆ  ทิ้งพวกเราง่าย ๆ

 

18.45 น.          เขาบอกว่ายังโผเผคล้ายจะเป็นอีก บอกว่ากำลังคุยอยู่กับไอ้หมวย แล้วเครื่องตัดไป

 

18.50 น.          สักครู่โทร.ไป  เสียงเพลง  ดังจนจบ   โทร.ไปอีก เสียงเพลงดังจนจบอีก  หรือว่าสาวน้อยช๊อคไปอีกแล้ว ?????

                       

แต่สักครู่โทร.มา  บอกว่าดูหลง ๆ ลืม ๆ  จำอะไรไม่ค่อยได้  โทร.ไปหาแม่เรไร แม่บอกว่ามันพูดอะไร ก็ไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่อง  ไม่รู้น้อยเป็นอะไรไป   พูดกับเราก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

แล้วเสียงสิ้นไป 

 

น้อยจะเสียสติสตังไปหรืออย่างไร????  ทำไม?

 

 

16 พ.ค.2550

วันพระ แรม 15 ค่ำ เดือน 7 ปีกุน

 

เช้าลงศาลา แสดงธรรมก่อนฉัน 

กลางวันฉันเช้าแล้วพบประชาชน

ฉันเพลแล้ว พบประชาชน  แล้วลงอุโบสถ ฟังพระปาฏิโมกข์

หลังฟังพระปาฏิโมกข์ พบประชาชน  มีอาเสี่ยใหญ่เจ้าของกิจการรถยนต์มาพบถวายผลไม้

เย็นลงวิหาร พาพระสงฆ์-สามเณร และอุบาสกอุบาสิกาผู้ปฏิบัติธรรมประจำวันพระ สวดมนต์ทำ

กรรมฐาน

ออกมาก็ทาน้ำมันนวดชโลมบ่าไหล่และแขนที่เจ็บยังไม่หาย เอาใบละหุ่งเทศรมไฟนวดไป 2 วันแล้วรู้สึกดีขึ้น ถ้าแขนหายเสียทีจะได้ออกเดินทางไปเที่ยวบ้าง

 

แล้วพอทุ่มเศษ ๆ ก็ลงศาลาเมรุสวดศพอีก

 

 

เสียงต่อว่าพ่อไม่เหมือนเดิม

 

ก็ถูกต่อว่าจากสาวน้อย  ว่าไม่มีเวลาให้เขาเหมือนเดิม  ว่าพ่อไม่เหมือนเดิม  พ่อรักคนอื่น บอกว่าไม่ใช่อย่างนั้นเลย  วันพระพ่อมีกิจของสงฆ์มากอย่างนี้แหละ ส่วนประชาชนไปห้ามเขาก็ไม่ได้ เขาบอกเมื่อกลางวันว่าออกไปตลาด เอายา4เม็ดไปให้หมอที่คลินิคคนกันเองพิศูจน์ดู  หมอบอกว่ายาอันตราย ยิ่งกว่ายาอี  ทำลายประสาทอย่างรุนแรง  และเป็นสาเหตุที่น้อยช๊อคและผิดปกติไปเมื่อวานนี้  เพราะเธอหลงหยิบยาผิด  ยังบอกเลยว่าคิดถึงพ่อเหลือเกิน  ครั้นสามทุ่มคล้ายมีอะไรในใจ ต่อว่าต่อขาน  ร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด ในทำนองว่าพ่อไม่รักน้อยเหมือนเดิม พ่อไปรักคนอื่น  พ่อหายไปทั้งวันพ่อไปไหน  แต่ก็บอกว่าพ่อนอนเถอะดึกแล้วเดี๋ยวพ่อจะไม่สบาย  แล้วประเดี๋ยวแม่เขาโทร.มาว่าน้อยเป็นอะไร  มันร้องไห้ ฉันถามมันก็ไม่บอกเอาแต่ร้องไห้ แล้วบอกเอาแค่นี้ละ หยุดไปเฉย ๆ

 

17 พ.ค.2550

 

ตั้งแต่ 03.50 น.  มาถึงบัดนี้

 

เวลา 07.35 น.แล้ว  ยังไม่ทราบข่าวว่าอย่างไร  โทรศัพท์ไปร่วม  20 ครั้งแล้ว  ปิดเครื่องสนิท

แม่เรไรก็ไม่ทันติดต่อมาว่าอย่างไร

 

จะมีอะไรอีกหรืออย่างไรหนอ ?????? 

 

09.10 น.

 

เสียงโทรศัพท์  หน้าปัดบอกชื่อสาวน้อย  ก็ไม่ค่อยไว้วางใจ  กลัว  กลัวจะได้รับข่าวร้าย ๆ   เป็นเสียงของเขาเอง   เขาว่าน้อยใจพ่อ  ไม่มีเวลาให้น้อยเลย   น้อยอยากจะปรึกษาก็ไม่ได้ปรึกษา  โทร.ไปหาแม่ ๆ บอกจึงได้คิด และรีบโทร.มาหาพ่อ  กำลังจะขนของขึ้นรถ จะเข้าโคราชกัน  ก็ทำความเข้าใจกันดี

 

ประเด็นที่ขัดแย้งกันเอง

 

20.30 น.

 

แล้วมาพูดกันเรื่อง พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เขาว่าภาพพระสงฆ์ไม่งาม ไม่เห็นด้วย  เขามีเหตุผลที่คมกริบทีเดียว   เราบอกเขาว่าอย่ามองด้านเดียว และมองให้ตรงจุดที่เป็นปัญหา  ขณะนี้เป็นปัญหาการเมือง ไม่ใช่ปัญหาศาสนา   ประเด็นคือ สถานการณ์ยุคนี้การเมืองเป็นเรื่องของคนทุก ๆ คนในประเทศไทยเพราะแม้พระสงฆ์องค์เจ้าก็ได้รับผลกระทบพอ ๆ กับคนอื่น ๆ และองค์กรอื่น ๆ เราเหมือนอยู่ร่วมชะตากรรมกันอย่างปลีกหลีกเลี่ยงไปอยู่เฉพาะตัวไม่ได้อีกแล้ว    เมื่อเราทำการเมืองตามหลักการของประชาธิปไตย เมื่อพระสงฆ์เป็นส่วนหนึ่งและส่วนมากที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตย  ย่อมมีสิทธิ์ในการมีส่วนร่วมในการกำหนดวิถีทางแห่งการเมือง  และในส่วนของเราคือต้องการให้การเมืองดูแลเรื่องศาสนาตามที่เราต้องการ  ไม่งั้นศาสนาเราจะเสียผลประโยชน์เพราะการเมือง  ยกตัวอย่าง การร่างพระราชบัญญัติคณะสงฆ์มาตลอดทุกฉบับ  จนมาถึงฉบับปัจจุบัน คือฉบับ พ.ศ.2505 ซึ่งจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ร่างขึ้นอย่างเป็นเผด็จการและไร้ความรู้ความคิดทางพระธรรมวินัยเลย จึงไม่มีแนวคิดทางพระธรรมวินัยอยู่ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์เลย  ผลก็คือนำหมู่สงฆ์ไปห่างไกลมรรคผลนิพพานไปเรื่อย ๆ  เป็นต้น     เขาฟัง  ยังต้องบอกเขาไปอีกมาก เขาเรียนรู้เร็ว

 

ถามว่าเคียดพ่อไหม ที่เห็นตรงข้ามกับน้อยและค่อนข้างพูดแรง เขาว่าไม่หรอก  ไม่เลย น้อยเข้าใจพ่อ  พ่อเป็นคนตรง 

 

 

ความลับของเส้นผมประหลาด

18 พ.ค.2550

 

07.20 น.

 

เช้า ๆ โทร.มา ทีแรกเขาให้ดูข่าว แล้ววิจาร์ข่าวให้ฟัง   เราเห็นด้วย

 

ต่อมาเขาบอกว่าวันนี้จะตัดผม  แม่โคราชจะตัดให้  ลับกรรไกรมาคมกริบเลย  เขาบอกว่า  มันยาวเร็วและบัดนี้ยาวมาก เวลายืน จรดดินกองเป็นกองใหญ่  ทำให้หนัก  ไปมาไม่คล่องตัว  เมื่อตอนตกเขาสลบอยู่แม่เรไรถามมาว่าจะตัดผมออกหน่อยดีไหม?    เรายังไม่เข้าใจ   มาบัดนี้จึงเข้าใจ   ว่าเส้นผมของสาวน้อยนั้นตัดแล้วเจ้าตัว จะเจ็บปวดไปทั่วตัว ปวดหัวไปจนช็อคสลบ  ตอนเด็ก ๆ  ผมยาวพวกพี่ ๆ จะหลอกล่อต่าง ๆ เพื่อตัดผมไม่ให้เจ้าตัวรู้  แม่เคยเอายาให้กิน ให้นอนหลับ จึงตัดผมได้  นี่เป็นเรื่องประหลาดอีกเรื่องหนึ่งของสาวน้อยโรงงาน

 

เขาเคยถามว่าจะส่งมาให้เอาไหม  บอกว่าไม่เอา เพราะพ่อเป็นพระสงฆ์ จะเอาของในเนื้อในตัวสตรีมาอยู่ด้วยไม่เหมาะสมหรอก  ทำให้เป็นห่วงกังวล  คราวนี้ ดูท่าทีเขาคล้ายจะอยากจะส่งมาให้  แต่เราทำเป็นเฉยเสีย 

 

ตัดผมแล้วสะดุ้งช็อคไปเลย

09.05 น. 

 

ครั้น 09.05 น.  เขาโทร.มา  บอกว่าตัดผมแล้ว  เจ็บปวดเหลือเกิน  ปวดหัวเหลือเกิน  น้อยเหน็ดเหนื่อยไปหมด   เสียงเขาเหมือนจวนจะช๊อคไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว  เราก็บอกว่าให้ส่งเส้นผมน้อยมาให้พ่อ  ไม่ต้องกลัว  น้อยถอนใจเสีย  ถอนใจ  ถอนใจ  ออกจากเส้นผมเสียก็จะหายเจ็บ เพียงแค่ถอนใจ  ถอนใจออกจากเส้นผม    เราหมายความว่าให้เขาปล่อยใจ ปล่อยวาง อย่ายึดติดในเส้นผมว่าเป็นเขา เป็นของเขา  อย่ายึดว่านี่เป็นเรา  เป็นของเรา เส้นผมของเรา  เราถูกคมมีดเข้าเสียแล้ว  ทำนองนั้น   แต่ดูเหมือนเขายังไม่เข้าใจ   ก็เลยค่อย ๆ อ่อนเสียงสิ้นแรงสลบไป  อีกครั้งหนึ่ง  

 

09.50 น.

 

แม่เรไรโทร.มารายงานข่าวว่าลูกสาวช๊อคไปเลย พอตัดเขาสะดุ้งสุดตัว  ร้องปวดหัว ๆ ว่าอยากตัดก็ทนเอา  พอเล็ม ๆ เสร็จ เอายางรัด ก็วิ่งเข้าห้องนอนล็อคประดู   ตัดออกมายาวแค่แขนหนึ่ง  ผมมันยาวเร็ว  มันนิ่งไปแล้วก็เอากุญแจเปิดเข้าห้องไป  มันนอนนิ่งไม่ไหวติง  แต่น้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลา    ว่ามันเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว  ก็เลยไม่ค่อยตัดผม  ปล่อยให้ยาวมาตลอด  พ่อมัน พี่ ๆ น้อง ๆ มันก็รู้ดี  ขณะนี้พ่อปากช่องมันนั่งเฝ้าอยู่  แกรู้  แต่ทำใจไม่ได้สักที  กลัวมันจะไม่ฟื้น  อีกหน่อยก็คงโทร.ไปบอกพี่น้องมันว่าน้อยตัดผมแล้วช๊อคไป  พวกเขาก็คงไม่ว่าอะไรเพราะรู้ว่ามันเป็นอย่างนี้เอง  ว่าไอ้หมวยเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าตาให้   อีกหน่อยก็คงฟื้นขึ้นมาแล้วคงจะโทร.มาหมาหลวงพ่อเองแหละ  แม่เรไรว่าจะไปโรงพยาบาล  ไปดูเจ้าเทพ ลูกชายที่ป่วยอยู่   ไอ้หมวยขอผมก็ไม่ให้ เอาเก็บไว้ในหีบ  มันหวงเส้นผมมัน

 

 

ประเด็นแห่งโหราศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง

พระศุกรทับองศาพระราหู จันทร์จรสู่มหาอุจ

 

เอาละ   เราดูดวงดาวไว้ล่วงหน้าแล้ว  ขณะนี้ดาวพระศุกร์(๖)จร อยู่ในความคุ้มครองของดาวพระอังคาร(๓)เต็มที่   และดาวพระจันทร์(๒)อยู่ราศีพฤษภ ทับลักคณาเป็นมหาอุจ  มีพระพฤหัสบดี(๕)มหาจักรจรเล็งคุ้มครองอยู่  ย่อมมีสวัสดิภาพทุกประการอยู่แล้ว

 

แม้กระนั้น  เราก็ยังรู้สึกกังวลอย่างเร้นลึก   เพราะเหตุพระศุกร์(๖)จรได้องศากับพระราหู(๘)จร ณ  16 และ 17 องศาตามลำดับ  เท่ากับทับองศากัน แต่ราหูเป็นเกษตร  กระนั้นพระอังคาร(๓)จรเป็นคู่ธาตุกับพระราหู(๘)  ย่อมประนีประนอมกันได้ ไม่ร้ายแรง

 

จำต้องทำพิธีกรรมสักหน่อยหรืออย่างไร? 

 

 

09.35 น.

 

เราลองโทรศัพท์ไป  เขาเปลี่ยนซิมใหม่ เบอร์ใหม่  เอี่ยมเลย ลองโทร.ไปดู 

เสียงตอบว่าเลขหมายนี้ยังติดต่อไม่ได้    แสดงว่ายังไม่ฟื้น

 

 

สามชั่วโมงยังไม่ฟื้น

เลือดสด ๆ ออกปากจมูก

12.05 น.

 

แม่เรไรโทร.มาเสียงตื่นเต้นตกใจ  ว่ามันเป็นไปใหญ่เลย  เลือดออกปาก จมูก เต็มไปหมด  ฉันอยู่โรงพยาบาลไอ้หมวยโทร.ไปบอก  ฉันก็รีบมา  เลือดมันออกมากเหลือเกิน แดงใสเต็มหน้ามันไปหมด  มันไม่เคยเป็นแบบนี้  แต่ก่อนก็เพียงสลบไป แล้วไม่กี่ชั่วโมงก็ฟื้นคืนมา   พ่อมันสลบไปด้วย  พี่ชายคนโตมาจากด่านเกวียน  อุ้มออกไป  เอาไปโรงพยาบาล  หมอก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรเหมือนกัน แต่ตัวมันร้อน  อ่อนระทวยอยู่  ก็เลยให้นอนอยู่เฉย ๆ   แม่เรไรบอกว่าฉันไม่รู้จะไปทางไหน  ถ้ามันเป็นอะไรไปฉันก็ไม่สบายใจ ฉันคงตายไปกับมัน  เพราะฉันเป็นคนตัดผมมันจริง ๆ  แต่ก่อนก็แค่สลบ  แล้วก็ปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้อยู่สามสี่วัน  เราก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก  รอดูต่อไปก็แล้วกัน

 

ตอนโทรศัพท์ดังขึ้น  เรากำลังทำพิธีกรรมอยู่  ฟังเสร็จก็มาทำพิธีกรรมต่อ  คือป่าวประกาศเทวดาทั้งหลายว่าลูกสาวไปอีกแล้ว ช่วยดูแลให้หน่อย

 

ฟังเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้วหรือนี่ ????????

 

 

อานุภาพแห่งฌานเสียงทิพย์

ประเด็นการศึกษาเรื่องเจตภูติ

14.05 น.

 

เวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงไหนแล้วนี่ ?????   ตั้งแต่ 09.05 น.จนบัดนี้ 14.05 น. ก็เป็นเวลา  5 ชั่วโมงแล้ว  ทำไมอะไร ๆ ยังเงียบกริบ ??????

 

รำลึกเสียงทิพย์  !!!!!

เสียงทิพย์อยู่กับเรา   เมื่อหลังเพลเศษ ๆ ฝนตกหนักสักหน่อย  เสียงทิพย์โหมสนั่นเหนือเสียงฝนเสียอีก    ขณะนี้อยู่ระดับ   13,000 ต่อ  40 หน่วย

 

เดี๋ยวนี้ เราไม่จำเป็นต้องเข้าสมาธิ  ไม่ต้องผ่านสมาธิตามลำดับไปเหมือนเดิม ซึ่งหากกำลังไม่เพียงพอก็ไม่สามารถเข้าสมาธิได้   บัดนี้ เพียงนิ่งฟังเสียงทิพย์  นั่นหมายถึงเข้าฌานไปเลย

 

นี่คือสิ่งใหม่  ที่มีประสิทธิภาพสูงเร็ว ยิ่งกว่าของเก่ามากมายหลายเท่า  และซ้ำเป็นดนตรีแห่งชีวิตที่ล้ำเลิศประเสริฐ เพราะได้ฟังแล้วก็อยากฟังไปนาน ๆ  ไม่อยากทำอะไร  นั่นหมายถึงการพัฒนาเสียงทิพย์ เป็นเรื่องอัตโนมัติ และเป็นเรื่องสนุกสนาน   จนทำให้ลืมเรื่องอื่น   แม้กระทั่ง  ปราณ ที่เราเคยคิดว่าเป็นของวิเศษอย่างยิ่ง   บัดนี้ เรามาสู่ระดับที่สุดยอดแล้วจริง ๆ

 

เอาละ  !!!!!!

 

เราจะลองเข้าฌานเสียงทิพย์นี้  โดยเพียงนิ่งฟังเสียงทิพย์  ที่ขณะนี้บรรเลงอยู่ ณ ระดับ 13,000 ต่อ 40 หน่วย  เท่านั้นเอง  แล้วใส่ความปรารถนา  ที่เราเรียกว่า เจตสิก เข้าไป 

 

ทันใดก็เห็นเป็นนกตัวใหญ่โตมโหฬารมาก คล้ายเราเห็นเฉพาะช่วงหัวและปีกสองข้าง บินไปครืน ๆ  เพราะแรงลมขยับปีก  บินเรี่ย ๆ อยู่เหนือผืนป่าดงดิบและภูเขาสูง  แล้วคล้ายว่านกนั้นมองสำรวจดูแผ่นดินข้างล่าง  มองหาใครสักคนหนึ่ง  พอร้องหลุดปากออกมาว่า น้อย สุนารักษ์  พ่อมาตาม  กลับเถิด     ก็คล้ายว่านกกับเราเป็นคนเดียวกัน  ใจเดียวกัน   

 

ในใจนึกว่านี่คืออะไร  แน่ละ !!!   เราเคยมีประสบการณ์มาก่อนหลายครั้งแล้ว  เพียงแต่ยังไม่ทราบที่ไปที่มาอย่างแน่ชัดเท่านั้น  สังเกตอยู่ และนี่เราคือนกใหญ่กำลังบินอยู่  นี่ด้วยอำนาจของฌาน

 

เหินบินไปถึงสวรรค์  ที่เขาเล่าให้ฟังในคราวที่แล้ว  ว่าเป็นป่า  และภูเขาสูงเป็นขั้นบันไดขึ้นไป  เป็นที่อยู่ของเทวดา   แต่ไม่เห็นอะไร  เพราะป่ารก และภูเขาก็รก   แต่เปล่งเสียงเรียกหาเป็นระยะ ๆ โดยทึกทักเอาว่าให้เทวดารู้และขอให้ช่วยด้วย 

 

นี่ก็ถือว่าเป็นการจดบันทึกข้อมูลนี่ก็ควรเป็นสมมติฐานอันหนึ่งไว้ก่อน   เพื่อการศึกษาต่อไป 

 

แล้วออกจากฌานเจตภูต  ลืมตาฟังเสียงทิพย์ ซึ่งหมายถึงยังอยู่ในฌานนั่นเอง พลางสวดมนต์ชุมนุมเทวดาทุกราศี   รำลึกนาม2เทพเจ้าว่า  โอมนมัสศิวะ  และ  โอม  นารายณ์ นารายณ์    แล้วจำเริญพระปริตร 12 ตำนานย่อ เพื่อถ่ายทอดธรรมะแด่เทวดา ตอบแทนเทวดาด้วยการแสดงพุทธธรรมให้สดับ  แล้วจบลงด้วยการหยาดน้ำอุทิศบุญบารมีอย่างเต็มที่แด่เทวดาและส่ำสัตว์ทั้งหลาย

 

เราตั้งใจทำเพื่อเป็นแบบทดลองทางวิทยาศาสตร์เลยทีเดียว   และจดบันทึกข้อมูลเอาไว้ไม่ว่าผลจักเป็นอย่างไร  ถือว่านี่คือการทดลองแบบวิทยาศาสตร์

 

 

ฟื้นขึ้นมาในทันใด

 

14.40 น.

เสียงทิพย์อยู่ระดับ 13,000 ต่อ 20 หน่วย  ไพเราะมาก

 

เสียงโทรศัพท์มาทันใด  เสียงของเขา  ว่า พ่อจ๋า  น้อยปวดหัว  ปวดหัว    แล้วหลุดไป   อีก 2 นาทีต่อมา มาใหม่  เขาว่าเพิ่งฟื้นขึ้นมา  น้ายามรู้ก่อนเพื่อน  เอาข่าวไปบอกทั่วแล้ว 

 

            แล้วเสียงก็แจ๋ว ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น   คำแรกว่าพ่อน้อยหิวข้าว 

            แล้วเขาทำท่าคิด  ว่าไปไหนมา

 

ผจญภัยในโลกวิญญาณอีกครั้ง

ขอนไม้พาทวนแม่น้ำกลับมาได้

 

เล่าว่า คราวนี้น้อยไปตามลำน้ำ  ข้างฝั่งสองข้างมีป่าไม้เต็มไปหมด  น้ำใสและเย็นฉ่ำ  น้อยถูกกระแสน้ำพัดพาไปลิ่ว ๆ ๆ ๆ ๆ  จนจวนจะตกไปสู่กระแสเกรี้ยวกราดของแม่น้ำใหญ่อยู่แล้ว    พอดีมีขอนไม้ใหญ่ขอนหนึ่งลอยมา  น้อยก็เกาะเอาไว้และขึ้นขี่ขอนไม้นั้น  ขอนไม้ก็พาทวนน้ำขึ้นมา  ไม่ไหลไปตามกระแสน้ำ   น้อยดีใจเหลือเกิน  มันทวนกระแสน้ำมาได้อย่างไร  เรารอดตายแล้ว  แล้วพอมาถึงกองหินโสโครกกลางแม่น้ำขอนก็เกยหินนั้น  พอน้อยขึ้นกองหินได้  ขอนก็ล่องลอยไปตามกระแสน้ำลิ่ว ๆ ไป  น้อยเสียใจเหลือเกินเพราะไม่ทันได้เอ่ยขอบคุณ ขอนไม้ก็ไปเสียก่อน   แล้วน้อยก็คิดถึงพ่อ  ว่าอยากโทรศัพท์ถึงพ่อจัง  ก็ฟื้นขึ้นมา  และโทรศัพท์ถึงพ่อ

 

เขาถามทันทีว่า 

-          เมื่อตอนพ่ออดข้าวและน้ำถึง 7 วันนั้น  พ่อทำได้อย่างไร ? 

-          ตอบว่า ปราณ

 แล้วตั้งคำถามไปอีกหลายคำถาม  

-ว่าพ่อคิดว่าน้อยเป็นใคร  มาจากไหน?  ตอบเขาว่า

-เป็นนางฟ้า  ลงมาจากสวรรค์มาตามหาพ่อ   เขาว่าเขา

-รู้สึกคุ้นสนิทกับพ่อเหลือเกิน  ตั้งแต่แรกได้ยินเรื่องราวของพ่อ 

 

พ่อได้ดูข่าวไหม   เขาเริ่มจับแล้ว  ต่อไปจะจับขนาดใหญ่กว่านี้อีก 

 

14.05-16.50 น.

 

2 ชั่วโมง45นาทีต่อมา  เป็นรายการสนทนา  โดยเขาเป็นผู้จ้ออยู่คนเดียวเป็นส่วนมาก  เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย  รอน้ำเกลือหมดก็จะกลับโรงงานทันที    เขาพูดถึงพ่อญี่ปุ่นว่า  เร่งรัดมา ว่าน้อยเอาเปรียบพ่ออย่างนี้จะพาไปญี่ปุ่น แล้วใส่ห้องขังไว้เลยไม่ให้ไปไหนมาไหน  เขาเถียงพ่อเขาอย่างไม่ยอมราให้ว่า  ถ้าไม่ค่อยเป็นค่อยไปแล้วก็จะหนีไปไม่ให้คนญี่ปุ่นเห็นเลย จนกว่าจะอายุครบ 20 ปี  คนญี่ปุ่นก็หมดสิทธิ์  เขาว่าคนญี่ปุ่นให้เอารถพี่สาวมา  ในรถมีฟ่อนเงินใบละพันบาทยัดไว้เต็มไปหมด  แต่เขาไม่แตะต้องเลย  พ่อญี่ปุ่นจะเอารถเขามาและเอารถพี่สาวกลับไป  เขาบอกไม่ต้องมา ๆ ๆ  จะให้น้ายามเอาไปให้  เบื่อหน้าคนญี่ปุ่นจังไม่อยากเห็น

 

เราบอกท้าย ๆ ว่าอยากให้น้อยเป็นนักการเมือง   เคยบอกเขาไว้แต่แรกรู้จักกันแล้วว่าให้เขามุ่งไปเป็นนักการเมือง   ในใจเราว่าจะสอนยุทธศาสตร์และยุทธวิธีการเมืองให้เขาไปตามลำดับ ๆ  แต่เขารีบปฏิเสธว่า ไม่เอา  บางทีขณะนี้เขาอาจจะยังไม่รู้ว่าการเมืองคืออะไร  ทั้ง ๆ ที่เขาทำการเมืองอยู่โดยตรงอยู่แล้ว

 

 

ญี่ปุ่นสั่งลาโรงงานดูถูกคนไทย

ว่าลูกอยู่กับคนชั้นต่ำก็ต่ำตาม

 

19 พ.ค.2550

 

ก่อนจากโรงงานไป  นายห้างญี่ปุ่นกล่าวคำดูถูกคนไทยโรงงานว่า  เป็นพวกชั้นต่ำ  ลูกสาวเขาคบหาสมาคมอยู่กับคนชั้นต่ำจึงได้นิสัยใจคอวัฒนธรรมคนชั้นต่ำไปด้วย  ทำให้ชาวโรงงานที่ฟังอยู่ไม่พอใจเบือนหน้าหนีไปตาม ๆ กัน  แม้กระทั่งเถ้าแก่โรงงานเอง ก็เดินหนีไป

 

เราไม่เคยปักใจว่าญี่ปุ่นนายนี้จักชั่วทรามขนาดไหน แบบไหน  แต่ถ้าฟังสาวน้อยแล้วเชื่อ  นั่นคือชั่วทรามไปอย่างสุด ๆ  เขาบอกว่าญี่ปุ่นวางกฎให้เลยว่าสาวน้อยไปกับพ่อคราวนี้   ต้องแต่งตัว ต้องเปิดหน้า  ต้องเที่ยว ต้องกิน ต้องดื่ม   ต้องคบผู้ชาย  ต้องออกเดทเป็น  และต้องแต่งงาน

 

โดยคติวัตถุนิยมญี่ปุ่น ญี่ปุ่นบอกว่านั้นเป็นวิธีการเพิ่มค่าตัวให้แก่สาวน้อย  การแต่งตัว  เข้าสังคม  กินและดื่ม  เที่ยวกับผู้ชายไม่ใช่เรื่องเสียหายตรงไหน   ขณะนี้ เพียงพ่อพาไปญี่ปุ่นเท่านั้น ก็มีเศรษฐีญี่ปุ่นพร้อมจะจ่ายค่าตัวให้ถึง 500 ล้านบาทแล้ว เป็นอย่างต่ำ 

 

สาวน้อยจะทำอย่างไร ????

 

เราบอกว่าต้องไปตำหนิศาลไทย  ที่พิพากษาไป  ให้อำนาจเขาไปเช่นนั้น  บางทีผู้พิพากษาก็แค่คนกินเงินเดือนไปเหมือน ๆ เรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายผู้รับราชการ  ไม่พิเศษอะไรหรอก  ตัดสินไปแล้วก็ไม่เคยติดตามผลงาน

 

 

แผนรวบรัดมอมเหล้าสาวน้อย

แล้วข่มขืนทำเมีย

20 พ.ค.2550

 

นายห้างญี่ปุ่นให้ทำงาน ทำบัญชี  มีกองกระดาษมาเป็นตั้ง ๆ  วางรอบ ๆ แทบไม่มีทางเข้าออก  ให้ทุ่มเทเท่า ๆ กับทุ่มเทให้โรงงานโคราช อ้างว่าทีทำให้คนอื่นทำมาก ทำให้เราเองก็ต้องทำให้พอ ๆ กัน  แล้วคอยปลุกให้ตื่นขึ้นทำงานตลอด 24 ชั่วโมง   เธอบอกมาว่าเหนื่อยเหลือเกิน  อยากนอนก็ไม่ได้นอน  เขาคอยปลุกให้ทำงาน  รายงานมาว่า  ถ้าไม่ทำงานก็ต้องไปเที่ยวกับเขา  ต้องกินและดื่ม  และคบผู้ชาย   น้อยว่าจะขออนุญาตพ่อกินเบียร์ดูสักหน่อย   ตอบว่าอย่ากินมากเลยทีเดียว กินทีละน้อย ๆ  แต่ระวังท้องว่างจะเมาเบียร์  

 

21 พ.ค.2550

12.00 น.

 

แล้วสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูกก็ขาดลงสิ้นเชิง  เมื่อมาถึงวันนี้  พ่อเขาบอกว่าเธอควรจะมีสามีได้แล้ว  แล้วแนะนำสุภาพบุรุษให้รู้จักกัน แล้วสุภาพบุรุษผู้นั้นก็ถือวิสาสะ มานั่งคุยด้วย ในห้องทำงานส่วนตัว  และนำเอาเหล้านอกราคาแพงมาวางที่โต๊ะ   อ้างว่าพ่อญี่ปุ่นอนุญาตแล้ว   เขาชวนคุย ชวนดื่ม ขอจับมือ  ขอลูบผม  ขยั้นขยอให้ดื่ม  ว่าเอาหน่อยน่ะ ๆ ๆ  พอยื่นจอกเหล้าส่งให้เธอก็รับเอาแล้วสาดเข้าที่หน้าสุภาพบุรุษญี่ปุ่นคนนั้น  เขาผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ  ว่าไม่ให้เกียรติ์เขา  สาวน้อยรูดซิบขากางเกง  ดึงเอามีดกดสปริงใบมีดยาวเฟื้อยดีดออกมาขาววับ ถามว่าจะให้เข้าจุดไหน อยากรู้ไหมว่าแม่นยำขนาดไหน    จะขว้างออกไปปักอก  วิ่งแจ้นหนีไปบอกพ่อญี่ปุ่น  แล้วเกิดเรื่องวิวาทใหญ่โต  ลูกสาวด่าพ่อตัวเองสาดเสียเทเสีย  แม้กระทั่งลูกสาวญี่ปุ่นเองก็ด่าพ่อตัวเองว่าทำได้อย่างไร   ในที่สุดให้พ่อมาขอโทษ

 

 

ตาสว่างได้รู้ทันคนเลว

 

เรื่องราวนี้  ทำให้เราตื่น ได้ความรู้ว่า พ่อญี่ปุ่นคนนี้ นับว่าเป็นญี่ปุ่นอันตรายทางวัฒนธรรมในประเทศไทย  เป็นคติวัตถุนิยมจัดจ้าน  เขาสอนอบรมลูกสาวน้อยของเขาระหว่างพากลับกรุงเทพว่า การร่วมเพศไม่ใช่เรื่องน่าอับอายอะไร  อยากร่วมเพศกับใครก็ทำไป กี่คน ๆ ก็ได้  ไม่สึกหรอ เสียหายอะไรเลย   ไม่ถือว่าต้องผูกมัด  ถ้าชอบก็เอาเป็นสามี  ไม่ชอบก็รอหาคนใหม่มา  ลองไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจเรา    ผู้หญิง ๆ มีความสวยงามจะสามารถทำเงินได้จากความสวยงาม โดยประการใดใดก็ไม่มีใครรังเกียจในสังคมญี่ปุ่น

 

วันนี้ได้พิศูจน์ว่าสาวน้อยรู้เรื่องนี้ดีอยู่แต่แรกพบคนญี่ปุ่นแล้ว  เขาอ่านคนไว้ไม่ผิดเลย   ญี่ปุ่นเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างจัด    เขารู้ดีว่าเขามีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง  แต่ทอดทิ้งไปตามยถากรรมไม่เคยนึกเอ็นดู นึกห่วงหา  จนเธออายุ 18 ปี เวลาที่เธอมีพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง สุขภาพดีเยี่ยมไม่เคยเจ็บป่วย  เงิน งาน  คนรอบข้างที่รักและมีความสุขทุกอย่าง   แต่พอญี่ปุ่นมาเท่านั้นเอง  ชีวิตที่มีความสุขสงบสบายก็เปลี่ยนไปหมด เป็นทุกข์ระทม  อันเนื่องมาจากความเห็นแก่ตัวของญี่ปุ่นคนนี้  เมื่อได้พบเห็นรูปสวยงามล้ำเลิศก็เกิดโลภหลงในรูปของลูกสาวตนเอง มิได้มองเรื่องความเป็นบิดาหรือบุตร แต่มองเรื่องเงินเรื่องประโยชน์ทางธุรกิจไปหมด    ถ้าเธอไม่สวยอย่างนี้เขาก็จะไม่สนใจเลย     แล้วอ้างสิทธิของความเป็นพ่อขึ้นมาทันใด  และใช้อำนาจเงินอำนาจศาลไทยตัดสินบังคับให้อยู่ใต้การปกครองของเขา  และต้องเป็นไปตามคติของตระกูลเขาคือ  วัตถุนิยมจัดจ้าน เช่นนี้ 

 

สาวน้อยบอกมาว่าพ่ออย่างนี้มีอยู่ในประเทศไหน  จะมอมเหล้าให้ผู้ชายข่มขืนทำเป็นเมีย   มิควรเรียกว่าพ่อ นี่หรือสังคมชั้นสูง  กล้าด่าประนามพี่ ๆ น้อง ๆ เขาที่โรงงานว่าชั้นต่ำ  แท้จริง ญี่ปุ่นคนนี้ยังต่ำกว่าชาวบ้านในโรงงานของน้อยเสียอีก  แกรู้อยู่ว่าน้อยกินเหล้าไม่ได้  กินแล้วจะสลบลง  แสดงเจตนาว่าต้องการให้ผู้ชายมาข่มขืนลูกสาวตนเอง เอาทำเป็นเมีย   น้อยทนอยู่ต่อไปไม่ได้  กลัวเขาไปหมด  กลัวเขาเอายาใส่น้ำให้กิน  น้อยตัวคนเดียวระวังไม่ไหว  คงจะเผลอเข้าสักวันหนึ่ง 

และแน่ละ  คนอย่างสาวน้อย  ผู้เคร่งครัดในวัฒนธรรมพรหมจรรย์ ย่อมยอมรับไม่ได้ 

 

หนีและหนีไปให้ไกล

21.20 น.

 

สาวน้อยใจเด็ด ผู้อุทิศชีวิตแด่อุดมการณ์แห่งความรัก  หนีไปจากโรงงานญี่ปุ่น แม่เรไร ผู้รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างของสาวน้อย และเป็นพยานแห่งความรักของเขาโทร.มาบอกและขอว่าหากเขาจะหนีก็ขออย่าให้ไปภาคใต้เลย  มันอันตราย  มันคงจะเงียบไปสักหลาย ๆ วัน กลัวพ่อมันจะดักคลื่นและตรวจสอบที่อยู่ได้    

 

เวลา 21.20 น.  เขาโทร.มาบอกขณะรถวิ่งไปอยู่  สั้น ๆ ว่า

 

พ่อ น้อยเปลี่ยนเบอร์แล้วเดอ  มาไกลแล้วเดอ  เอาแค่นี้แหละ

 

สักครู่โทร.มาอีก  ต่อว่าสั้น ๆ ว่า

 

พึ่งรู้เหมือนกันว่ารักใครไม่เป็น ตอแหลเสียนาน เอาละเนอ

 

 

ซึ้งความหมายของน้อย สุนารักษ์

 

สาวโรงงานผู้นี้ใจเด็ดและฉลาดปราดเปรื่องยิ่งนัก

เป็นเรานี่เองที่ตามสองพ่อลูกไม่ทัน   เราพึ่งมาสว่างเอาบัดนี้เอง

 

พ่อเขาจะรวบรัดให้เสร็จเรียบร้อยลงโดยเร็ว  ไม่คำนึงจรรยาบรรณ จริยาใดทั้งสิ้น เพียงให้ลูกสาวเขาเสียตัวและยอมจำนนแต่งงานกับคนที่เขาต้องการ  แต่ลูกสาวตามทันเกมส์พ่อเขาตลอด และทั้งวางแผนทีหนีทีไล่ไว้พร้อมเสร็จ   โดยที่เรายังงุ่มง่ามอยู่ว่าทั้งคู่จะประนีประนอมได้   และหลงเพ้ออยู่ว่าญี่ปุ่นจะพาเดินไปในเส้นทางที่เป็นจรรยาบรรณที่ประเสริฐ 

 

เราเห็นแล้วว่า ญี่ปุ่นคนนี้น่ารังเกียจจริง ทรามจริง  อย่างที่แม่เรไรได้ออกปากแล้ว   เป็นบุคคลที่น่าเป็นภัยทางวัฒนธรรมของชาติอย่างร้ายแรงอีกด้วย   เขามาอยู่  เขามีแต่ความดูถูกคนไทย อย่างน้อยก็ดูถูกว่าคนไทยหัวอ่อน จูงจมูกง่าย  และหัวขี้เลื่อย ปล่อยให้เขามากอบโกยทรัพย์สมบัติเอาไป ๆ ๆ ๆ  อย่างง่ายดาย  

 

บัดนี้น่าตั้งคำถามว่าเขาทำประโยชน์อะไรแก่คนไทยบ้าง  นอกจากการกอบโกย

 

น้อย สุนารักษ์ เธอเป็นคนเก่ง  ที่ยืดตัวเองขึ้นต่อสู้แทนคนไทยทั้งประเทศ

 

เสียงทิพย์อยู่ระดับ 10,000 ต่อ 10 หน่วย  เรานิ่งฟัง และรำลึก  สาวน้อย สุนารักษ์ ลูกสาวพ่อ  ป่านนี้ไปถึงไหนหนอ ??? 

 

หมายเหตุ

10 มิ.ย.2550

สาวน้อยหนีไปอยู่ที่ไม่เปิดเผยแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ2คืน เหตุการณ์ก็กลับสงบ พ่อญี่ปุ่นขนพี่น้องป้าอาว์ไปโคราช ขอให้สาวน้อยอภัยให้ พ่อญี่ปุ่นจะกลับญี่ปุ่น จะไม่รบกวนอีกต่อไป จะปล่อยให้เป็นอิสระ  บอกสาวน้อยให้ไปพักหลบหนีญี่ปุ่นที่บ้านน้องชายกันทรลักษ์ เธอมีข้อแม้ว่าต้องไปด้วยกัน พ่อจะต้องลาสิกขาออกมา ไปภูสิงห์แล้วกลับปากช่อง แม่เลี้ยงเสียชีวิต เหลือแต่พ่อเลี้ยง  อายุร่วม 80 ปีแล้ว เสร็จงานไปอยู่กับพี่คนที่2 ที่เพชรบูรณ์ได้ 2-3 วันเขาพาออกสมาคมใหญ่ ทนผู้ชายตามจีบไม่ได้ พาพ่อกลับปากช่อง  ว่าอยู่กับพ่อที่บ้านเกิดเมืองนอนสบายกว่า  แล้วแบ่งสมบัติแม่กัน  มีที่ดินหลายร้อยไร่ แบ่งไป 5 ส่วนเท่า ๆ กัน ยังไม่เรียบร้อย สาวน้อยช็อคไปอีกหน ตั้งแต่เวลา 20.50 น.วันที่ 8 มิ.ย. ถึงเวลา 14.55 น.วันที่ 9 มิ.ย.2550 จึงฟื้น  รวมเวลาสลบอยู่ 18 ชั่วโมงเศษ ๆ  คราวนี้หมอต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพราะชีพจรเต้นอ่อนและช้ามาก  ว่าหากเป็นเช่นนี้อีกจะเป็นอันตรายมาก  ทุกคนรู้ดีว่าสาวน้อยเป็นโรคความรัก และทุกคนก็เชื่อในคำทำนายของพระธุดงค์ ว่าเธอมาจากเบื้องสูง จึงรักคนไม่เป็น  พระที่เธอรักก็เป็นคู่กรรมคู่เวร แต่พระจะไม่ลาสิกขา จะไปธุดงค์จะเป็นพระผู้สำเร็จแบบพระพุทธเจ้า กลับมาก็จะได้พบกันอีก 

 

วันนี้ที่10มิ.ย.2550 บอกเธอว่าได้สำรวจดวงชะตาเธอแล้วพบว่าจะมีการแต่งงานปลายปีนี้  เธอหัวเราะว่าจะแต่งกับใครได้ล่ะ  ถามว่าจะให้พ่อทำอะไรบอกได้เลย  เธอว่าถ้าให้พ่อลาสิกขามาอยู่กับน้อยล่ะ  เราบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ขอต่อรองสักหน่อย  ต่อรองอย่างไร  ให้พ้นพรรษาไปเสียก่อน  เธอบอกว่ารู้หรอกว่าพ่อรักผ้าเหลืองมากกว่า พ่อไม่ยอมลาสิกขาหรอก  น้อยขอแต่อย่าให้พ่อไปธุดงค์ก็พอ  จะรับปากได้ไหม  บอกว่าได้  แต่พ่อจะต้องปฏิบัติธรรม ไม่อยู่เฉย ๆ เธอว่าเห็นด้วย ว่าพ่อแก่แล้วอย่าไปธุดงค์เลยน้อยทนเห็นภาพพ่อเดินทางไม่ไหว พ่อจะลำบาก  เราก็เข้าใจว่าผ่านวิกฤตชีวิตนักบวชไปได้แล้วกระมัง????

 

 

 

จบตอน

โปรดติดตามต่อไปในลำดับที่ 14

ศึกษาโลกลี้ลับภาค 14

 

 




Mystery World Report ศึกษาโลกลี้ลับ การศึกษาเชิงงานวิจัยสมาธิและไสยศาสตร์

ศึกษาโลกลี้ลับตอนที่ 27 Mystery worldreport 27 เร่ิม วันกาลเข้าพรรษา 27 ก.ค.2564
Mystery World Report 26 : บันทึกสำคัญ
Mystery World Report 25
Mystery World Report 24
Mystery World Report 23
Mystery World Report 22
Mystery World Report 21
Mystery World Report 20 : ศึกษาโลกลี้ลับ 20 (ภาษาไทย)
Mystery World Report 19 article
MysteryWorld Report 18
Mystery World Report 17
Mystery World Report 16
Mystery World Report 15
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 14 ย่อ
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 13 ต้นฉบับสมบูรณ์ ตอนที่ 1
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 13 ย่อ
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 12 ต้นฉบับสมบูรณ์
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 12 (ย่อ)
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 11 (ย่อ)
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 10 article
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 9 article
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 8 article
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 7 article
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 6 article
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 5 article
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 4 article
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 3 article
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 2 article
ศึกษาโลกลี้ลับภาค 1 article
ศึกษาโลกลี้ลับ 1



แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----