ประมวลคำถามล่าสุดจากโหราศาสตร์ 8
เวบบอร์ด www.newworldbelieve.com
ดวงชะตาพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ กบฏ 26 มีนาคม 2520 พล.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
- ช. โหรชนบทให้การพยากรณ์ไว้ ณ 6 พ.ย.2555
เรื่องเดิม
ความเห็นที่ 25 (3349179)
ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับ เมื่อมาถึงเวลานี้ผมก็มีความศัทธาว่าโหราศาสตร์สามารถให้ความกระจ่างในด้านเหตุการณ์ทางการเมืองได้แน่นอน เท่าที่ได้ติดตามมาปรากฎว่าดวงชะตาฝ่ายค้าน กำลังตกต่ำไปทุกคน นับแต่อภิสิทธิ์ สุเทพ รวมไปถึง เจ๊กลิ้ม ตัวการยุแยกให้แตกสามัคคีของชนในชาติ รวมไปถึงดวงชะตา พล.อ.เปรม ฯ อมาตย์ใหญ่
มาคราวนี้ก็มีดวงชะตาพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ กับ พล.ต.อะไรครับ (หน้าแหลม ฟันดำ) พล.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พอจะวิเคราะห์ได้ไหมครับว่าดวงจะไปได้ขนาดไหน มีดวงความสำเร็จอยู่ในระยะนี้หรือเปล่าครับ ถือว่าเป็นเรื่องของการศึกษาทางโหราศาสตร์ครับ
- ผู้แสดงความคิดเห็น จาน ประครองจิต วันที่ตอบ 2012-10-29 19:14:42
ความเห็นที่ 26 (3349180)
ขอแจมหน่อยครับคุณจาน ...
ท่าน ช.โหร ชนบท ได้ให้คำพยากรณ์เตือนไว้ว่า จะมีเหตุไฟไหม้กรุงเทพมหานครครั้งใหญ่ ในเดือน ธันวาคม 2555 จากโหราศาสตร์ 7 คห. 11-12-13 ดวงประเทศไทย ; จะมีรัฐประหารในปีนี้หรือไม่ ทำไมบ้านเมืองวุ่นวายจัง?
ไม่มีรัฐประหาร แต่ระวังไฟไหม้กทม.ครั้งใหญ่ ระวังมีสิทธิ์เกิดวินาศน์กรรม......ความเห็นที่ 11-12-13-14
ท่านเคยพยากรณ์ชาตา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรไว้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป 4-5ปี หลังจากนั้นจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกไหมครับ เห็นมีคำทำนายของ พัชรี เภกะนันท์ ว่า ยิ่งลักษณ์ จะไปได้ 4 ปี 6 ปี แต่คราวต่อไปจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี (ปรากฎในคห.3) และท่านยังไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธ อยากให้วิเคราะห์ต่อหน่อยนะครับ
- ผู้แสดงความคิดเห็น คนนอก วันที่ตอบ 2012-10-29 19:37:03
ความเห็นที่ 27 (3349519)
รัฐบาลยิ่งลักษ์ 3 ไม่มีชื่อ จตุพร พรหมพันธ์ สำหรับจตุพร ยังมีโอกาสอยู่ไหมครับ ? ทำไมจึงไม่ได้เป็นรมต.ในยิ่งลักษณ์3ครับ กรุณาตอบด้วย
- ผู้แสดงความคิดเห็น คนเชียร์จตุพร วันที่ตอบ 2012-11-01 21:09:27
ประเด็นที่ 1
ดวงชะตากบฏ 26 มีนาคม 2520
บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์(ซ้าย) สนธิ ลิ้มทองกุล(ขวา) ศาลเรียกตัวไปรับฟังข้อกล่าวหาเป็นกบฏในวันที่ 7 พ.ย.2555
ดวงที่ 1 พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
ดวงที่ 1 พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
เกิด วัน ๕/19 กุมภาพันธ์ 2485 ไม่ทราบเวลาเกิด จะเห็นดาวอาทิตย์(๑)เป็นประ ณ ราศีกุมภ์ มีปัญหาด้านการนำหรือภาวะผู้นำ แต่ให้สังเกตราศีเมษ จุดนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ของชาตานี้โดยตรง มีดาวอังคาร(๓)เกษตรกุมกับดาวเสาร์(๗)กาลกิณี+นิจ...ดับแสงสนิท
1. อาทิตย์(๑) ในดวงชะตาเป็นประ มีดาวราหู(๘) เล็ง ดาวทั้งคู่นี้เป็นประด้วยกัน หมายถึงอ่อนแสง ในความหมายของภาวะผู้นำ เมื่อดาวอาทิตย์เป็นประ ยังสามารถที่จะดิ้นรนถีบตัวเองเป็นผู้นำได้ มีสิทธิ์ไปถึงระดับสุดยอดได้เหมือนกัน หากแต่ภาวะการนำจะไปไม่ค่อยรอดเสมอ หรือรอดได้แต่ตลอดเวลาที่อยู่ในภาวะผู้นำจะมีแต่ปัญหาต่าง ๆ เข้ามาสู้ชะตาผู้นำนี้อยู่ตลอดเวลา โหรสามารถสรุปทฤษฎีนี้ได้เลยว่า เมื่อดาวอาทิตย์เป็นประในดวงชะตาใด หากดาวใหญ่ โดยเฉพาะดาวพฤหัสบดี(๕) หรือดาวเสาร์(๗) มีพลังสนับสนุน ก็สามารถขึ้นสู่ภาวะผู้นำ หรือหัวหน้าผู้ทำการใดใดได้ ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าวคือ มีสิทธิ์ไปถึงระดับสุดยอดได้เหมือนกัน หากแต่ภาวะการนำจะไปไม่ค่อยรอดเสมอ หรือรอดได้แต่ตลอดเวลาที่อยู่ในภาวะผู้นำจะมีแต่ปัญหาต่าง ๆ เข้ามาสู้ชะตาผู้นำนี้อยู่ตลอดเวลา ราหู(๘) เล็ง อาทิตย์(๑) แน่นอนบ่งบอกถึงคนบ้าอำนาจ คนแบบนี้ถ้าได้เป็นใหญ่เป็นโตแล้วแน่นอนมีแนวโน้มการหลงผิด หลงตัวเอง เป็นเผด็จการตัวยง และขาดการสัมพันธ์กับพฤหัสบดี(๕) จึงเป็นไปแบบโง่ ๆ ไร้สติสัมปชัญญะ
2. ดาวอังคาร(๓) เป็นเกษตร เป็น 3 แก่อาทิตย์ และเป็น 9 แก่ราหู(๘) บอกถึงมันสมองและทางการศึกษาดีมากในสาขาวิชาการทหาร ให้ความก้าวหน้าทางอาชีพทหารไปได้ตลอด และดาวคู่นี้ช่วยให้รอดพ้นจากโทษกบฏ 26 มี.ค.2526(เป็นพันตรีขณะนั้น) แล้วได้กลับคืนสู่ราชการทหารพร้อมได้รับความก้าวหน้าในตำแหน่งทางทหารต่อมาถึงระดับพลเอก ได้เป็นเสนาธิการทหาร .....
3. แต่ ณ จุดนี้ กลับเป็นจุดที่สร้างความเสื่อมเสียและอันตรายอย่างร้ายแรงแก่เจ้าชะตาได้เช่นเดียวกัน เพราะอังคาร(๓)ที่เป็น 5 แด่ราหู(๘) ที่ให้คุณล้ำเลิศนี้ ได้มีเสาร์(๗) ซึ่งเป็นเสาร์ดับแสงสนิทโดยเป็นนิจและมีสถานะกาลกิณีตามทักษา เข้ามาเกาะกุมดาวอังคาร(๓) ทำให้เกิดสถานะ กลุ่มดาวร้าย 3 ดวง เปล่งกระแสถึงกันอย่างใกล้ชิด คืออังคาร(๓) ได้ 26 องศา 20 ลิบดา เสาร์(๗)ได้ 24 องศา 12 ลิบดา และราหู(๘) ได้ 20 องศา 41 ลิบดา ..... ตรงนี้มีความหมายส่วนหนึ่งถึงการคบเพื่อนเลวด้วย มีความหมายอย่างอื่นที่หมายถึงความเสื่อมเสีย และอันตรายร้ายแรงด้วย.....
ดวงที่ 2 วันก่อการกบฏ 26 มีนาคม 2520
ดวงที่ 2 วันก่อการกบฏ 26 มีนาคม 2520
จะเห็นดาวราหู(๘)กับดาวมฤตยู(๐) กุมกันในราศีตุล เล็งตรงไปยังราศีเมษที่มีดาวอังคาร(๓)เดิมกับดาวเสาร์(๗)เดิมกาลกิณีเดิม กุมกันอยู่ ดาวอังคาร(๓)จรทับอาทิตย์(๑)เดิม ในราศีกุมภ์ และดาวเกตุ(๙) จรเข้าสู่ราศีเมถุน ทำให้เกิดการปะทะรุนแรงระหว่างดาวในราศีตุลกับราศีเมษ คือ มฤตยู(๐)จร+ราหู(๘)จร ปะทะ ๓เดิม+เสาร์(๗)เดิม และเกิดสภาวะร่วมธาตุ ของหมู่ดาวร้ายเกิดขึ้นในราศีธาตุลมทั้ง3ราศี นี่คือสภาวะร้ายแรง ที่น่าจะให้ผลแด่เจ้าชะตาถึงตายได้ แต่บังเอิญดาวพฤหัสบดี(๕)อายุจรขณะนั้น มีจันทร์(๒)มหาอุจจรกุมอยู่ และทั้งคู่เป้นดาวธาตุดินจรในราศีธาตุดิน ต้องหลักอสีติธาตุบริสุทธิ์ ประกอบกับมีดาวศุกร(๖) จรทับอังคาร(๓)เดิมอยู่ในราศีเมษ จึงรอดชีวิตมาได้
4. และครั้นถึงวันที่ 26 มีนาคม 2520(วันก่อการกบฏ เรียกว่า กบฏ 26 มีนาคม 2520 นำโดย พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ) เมื่อมีการจรของดาวร้าย 5 ลักษณะคือ
[1] ดาวมฤตยู(๐)จรสู่ราศีตุล เล็งตรงไปสู่ราศีเมษ ที่มีอังคาร(๓)+เสาร์กาลกิณีนิจกุมกันอยู่
[2] ราหู(๘)จรมาสู่ราศีตุล สมทบกับดาวมฤตยู(๐)ที่มาก่อนแล้ว เล็งตรงไปยังดาวอังคาร(๓)เดิมกับเสาร์(๗)เดิม ก็เพิ่มน้ำหนักและในความหมายรุนแรงแตกหักแก่เจ้าชะตานี้ มีเหตุมาจากเพื่อนเลว ชวนกระทำการสิ่งที่รุนแรงแตกหักซึ่งผิดทำนองคลองธรรมและจริยธรรมของทหารเอง
[3] ดาวอังคาร(๓)จรเข้าทับอาทิตย์(๑)เดิมในราศีกุมภ์ เล็งราหู(๘)ดาวอายุเดิมในราศีสิงห์ ตรงนี้หมายถึงเลือดและการบาดเจ็บด้วยคมอาวุธ หอก ดาบ ของปลายแหลม ถึงขั้นเสียชีวิตได้
[4] เกต(๙)จรสู่ ราศีเมถุน
[5] เสาร์(๗) จรดับแสงเป็นประอยู่ณราศีกรกฎทอแสงถึงราศีเมษ ถึงอังคาร(๓) + เสาร์(๗)นิจเดิม
5. ท่านจะเห็นว่าปรากฎการณ์นี้เป็นการเคลื่อนไหวของหมู่ดาวร้ายทั้งสิ้น นั่นคือกระบวนการดาวอังคาร(๓)เดิม+เสาร์(๗)เดิม+มฤตยู(๐)จร + ราหู(๘)จร + อังคาร(๓จร + อาทิตย์(๑)เดิม + ราหู(๘)เดิม + เกตุ(๙)จร +เสาร์(๗)ประจร ส่วนดาวดีหรือศุภเคราะห์หลบหลีกไปทุกดวง นี่หมายถึงอันตรายร้ายแรงเกิดแก่ชะตานี้ในวันที่ 26 มีนาคม 2520 ในระดับที่เรียกว่าไม่น่ารอดชีวิตไปได้
6. แต่บังเอิญในขณะนั้น ดาวอายุจรเป็นดาวพฤหัสบดี(๕)กำลังจรอยู่ในราศีพฤษภอันเป็นธาตุดิน ตรงจุดที่ห่างออกมาจากกระบวนการดาวร้าย แล้วบังเอิญมีดาวจันทร์(๒) จรเข้าไปสมทบพอดี และจันทร์(๒)ในราศีพฤษภนี้มีพลังสูงสุดเป็นมหาอุจ และดาวทั้งคู่คือพฤหัสบดี(๕)เป็นดาวธาตุดิน จันทร์(๒)ก็ธาตุดิน และราศีพฤษภที่จรเข้าไปก็เป็นราศีธาตุดิน ครบลักษณะอสีติธาตุตามตำราโหราศาสตร์ไทย เกิดพลังอสีตธาตุบริสุทธิ์ ที่มีพลังสูงตามอำนาจจันทร์มหาอุจ ก็เลยรอดพ้นจากอันตรายถึงชีวิต หรือการประหารชีวิต ไปได้ แต่ก็โดนลงโทษติดคุกอยู่หลายปี ปรากฎในดวงที่ 2
7. ในการชุมนุมวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2555 (ดูดวงที่ 3) จะเห็นดาวอังคาร(๓)จรเป็นกาลกิณีเกษตรในราศีพิจิก กุมกับดาวคู่ธาตุลมราหู(๘)ซึ่งแรงจัดเป็นศรีมหาอุจ ตรงนี้บอกถึงความกล้าหาญและความมั่นใจตัวเองโดยเป็นความกล้าหาญและพลังที่รับมาจากความเชื่อที่ผิด ๆ และหมายถึงความทะเยอทะยานใฝ่สูง หลงตัวเองไปอย่างสุด ๆ แต่ตรงนี้มีสิทธิ์คิดการใหญ่ให้สำเร็จได้เหมือนกัน แต่มีเวลาจำกัดเพียงวันที่ 7 พ.ย.2555 เท่านั้น เมื่อดาวอังคารเคลื่อนออกไปจากจุดที่เข้มแข็งที่สุดของอังคาร แต่จุดที่อันตรายและเป็นการซ้ำวาระกับการกบฏคราวแรก ก็คือดาวร้าย 2 ดวงจรกุมกันเข้าสู่ราศีตุล(ดูที่ราศีตุลในดวงที่ 2 และดวงที่ 3) ได้แก่เสาร์(๗)จรมหาอจ พลังสูงสุดของเสาร์ กับ อาทิตย์(๑)นิจ กุมกัน เล็งไปยังดาวอังคาร(๓)เดิมกับดาวเสาร์(๗)นิจกาลกิณีเดิมในราศีเมษ ......... มันเป็นอย่างเดียวกับวันกบฏ 26 มี.ค. 2520.....ซึ่งได้แก่ดาวมฤตยู(๐)จร กับดาวราหู(๘)จรราชาโชคกุมกันเล็งเล็งไปยังดาวอังคาร(๓)เดิมกับดาวเสาร์(๗)นิจกาลกิณีเดิมในราศีเมษ ........นี่คือจุดที่พ่ายแพ้แหลกราญ ของเจ้าชะตานี้ เช่นเดียวกันกับปี 2520 ครั้นดาวศุกร์(๖) จรเข้าสู่ราศีตุลเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2555 และครั้นเมื่อดาวพุธ(๔) จรเข้าสู่ราศีพิจิก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป นั่นบอกถึงคดีความทางกฎหมาย
ดวงที่ 3
อดีตผู้ก่อการกบฏนัดชุมนุม วันที่ 28 ตุลาคม 2555
ดวงที่ 3
อดีตผู้ก่อการกบฏ คิดก่อการกบฏครั้งใหม่ โดยนัดชุมนุม วันที่ 28 ตุลาคม 2555 ณ สนามม้านางเลิ้ง
วางแผนล้มล้างรัฐบาล ณ สนามม้านางเลิ้ง จะเห็นดาวเสาร์(๗)จรมหาอุจกุมดาวอาทิตย์(๑)จรเป็นนิจ ดับแสงสนิท หมายถึงไร้เกียรติ์ ทำลายเกียรติยศตนเองลงโดยสิ้นเชิง เล็งอังคาร(๓)เดิมกับเสาร์(๗)กาลกิณีเดิมในราศีเมษ เป็นปรากฎการณ์ร้ายเช่นเดียวกันกับวันกบฏ 26 ก.พ.2520 และมีผลแล้ว นั่นคือถูกฟ้องร้อง ศาลนัดไปรายงานตัวข้อหากบฏวันที่ 7 พ.ย. 2555
8. ตามสถานการณ์วันที่ 28 ตุลาคม 2555 ซึ่งมีประเด็นสำคัญคล้ายคลึงกันกับสถานการณ์ 26 มีนาคม 2520 วันทำการกบฏ ของเจ้าชะตานี้ โดยเฉพาะตรงจุดยุทธศาสตร์ของดวงชะตา ที่ราศีเมษ ที่ถูกโจมตีจากดวงดาวจรเข้าสู่ราศีตุล ผลจึงออกมาคล้ายคลึงกันมาก หากแต่สถานการณ์วันที่ 28 ต.ค.2555 อ่อนกว่า หมายถึงเจ้าชะตาได้รับผลร้าย จะได้รับผลร้ายแรงอยู่ในช่วงนี้ในระดับหนึ่ง ครั้นเลยวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ไปแล้ว ก็พอประกันได้ว่าจะไม่มีเรื่องเลือดเนื้อ การแตกหักร้ายแรง และการสูญเสียชีวิต หมายถึงพล.อ.บุญเลิศเอง จะไม่ถึงแก่ความอันตรายร้ายแรง ถึงเสียเลือดเนื้อและชีวิต แต่โทษกบฏนั้นได้ถูกฟ้องร้องและศาลนัดไปรับฟังคำฟ้องในวันที่ 7 พ.ย.2555 ........
ดวงที่ 4
เปรียบเทียบวันทำการกบฏ 2520 กับวันชุมนุมณสนามม้านางเลิ้ง 2555
ดวงที่ 4
เปรียบเทียบดวงวัน 2 ดวง ซ้ายมือวันทำการกบฏ 26 มี.ค.2520 กับขวามือวันชุมนุมณสนามม้านางเลิ้ง 28 ต.ค. 2555 ความเหมือนกันก็คือ ที่ราศีตุล(ตรงระบายสีเหลืองเอาไว้ด้านล่าง) มีดาวร้ายขนาดหนักจรเข้ามาเป็นคู่ ดวงซ้ายมือ ดาวมฤตยู(๐)+ราหู(๘) ดวงซ้ายมือ ดาวเสาร์(๗)จรมหาอุจ + อาทิตย์(๑)นิจ ทั้งสองคู่นี้เล็งตรงไปยังราศีเมษ อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ของชะตานี้ ปะทะกับอังคาร(๓)เกษตรเดิม + เสาร์(๗)นิจ ผลร้ายทั้งปวงเกิดจากสถานการณ์นี้ก็ตกแก่เจ้าชะตานี้ทั้งหมด (ไม่ได้อะไรดีขึ้นมาเลยสักนิดเดียว)
9. อย่างไรก็ตามเจ้าชะตายังจะเผชิญสถานการณ์จะมีความยุ่งยากต่อไปอีกจนถึงวันที่ 10 ธ.ค.2555 วันที่ราหู(๘)จรยกย้ายราศีจากพิจิกเข้าสู่ราศีตุล ก่อเกิดการรวมตัวของดาวร้ายขนาดหนัก 2 ดวงคือเสาร์(๗)จรมหาอุจ + ราหู(๘) ราชาโชค ซึ่งตรงนี้หมายถึงสถานการณ์2อย่าง คือ
[1] การฮึดสู้ของเจ้าชะตานี้เพราะแรงส่งเสริมของมิตรชั่วอย่างแท้จริง และ
[2] ฃะตาชีวิตของบุญเลิศคับขันยิ่งขึ้นกว่าวันที่ 28 ต.ค.2555 หลายเท่า และใกล้เคียงสถานการวันกบฏ 26 มี.ค.2520 เข้าไปทุกที และจะไปใกล้เคียงยิ่งขึ้นในช่วงเวลาต่อไปไม่ช้าไม่นานนั่นคือช่วงเวลาระหว่างวันที่ 24 ธ.ค.2555 - 10 ม.ค.2556 ดูดวงที่ 5 : ระบบดาวช่วง 24 ธ.ค.2555 - 10 ม.ค.2556 ความคิดกบฏและผลกบฏ คดีความ ดวงวันที่ 10 ม.ค.2556 ซึ่งมีความหมายถึงการจับกุม ตั้งข้อกล่าวหาอันร้ายแรงและการดำเนินคดีแก่เจ้าชะตานี้ และเรื่องน่าจะจบลงในช่วงนี้เอง ปรากฎในดวงที่ 5
ดวงที่ 5
ระบบดาวที่ให้ความหมายเลวร้ายแด่เจ้าชะตา พอ ๆ กับการกบฏ 26 มี.ค.2520
ดวงที่ 5 ระบบดาวที่ให้ความหมายเลวร้ายแด่เจ้าชะตา พอ ๆ กับการกบฏ 26 มี.ค.2520 แสดงถึงระบบดาวช่วงวันที่ 24 ธ.ค.2555 - 10 ม.ค.2556 ซึ่งเป็นระยะที่ดวงชะตาคล้ายคลึงกับดวงชะตาวันที่ 26 มี.ค.2520 มากที่สุด ดาวอังคาร(๓)กาลกิณีจร จรในราศีมังกรเป็นมหาอุจ โจมตีเข้าไปยังราศีเมษและราศีสิงห์ จุดยุทธศาสตร์หลักของเจ้าชะตา ตรงนี้อาจจะ บอกถึงการฮึดสู้แบบยอมตายถวายชีวิตในแบบที่ไร้ศีลธรรมทุกชนิด(ความหมายของอังคารมหาอุจเป็นกาลกิณีจร) ก็ได้แต่ไม่สำเร็จ แล้วถึงวันที่ 24 ธ.ค.2555 เป็นต้นไปบอกถึงการดำเนินการฝ่ายกฎหมายและความมั่นคงของชาติหรือปฏิบัติการของตำรวจและการจับกุมดำเนินคดีต่อกบฏ
หมายเหตุ ดาวเกต(๙) จรในราศีเมษระหว่างวันที่ 4 พ.ย. - 31 ธ.ค.2555
10. บทสรุป ดวงชะตานี้ กำลังพยายามในสิ่งที่คล้ายคลึงมากกับความพยายามกบฏวันที่ 26 มี.ค.2520 ซึ่งจะส่งผลแก่เจ้าชะตาในแบบเดียวกัน ในการกระทำกบฏ 26 มี.ค.2520 ได้บ่งบอกถึงหายนะอันใหญ่หลวงของเจ้าชะตานี้ แทบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อเทียบกับการชุมนุม 28 ต.ค.2555 และระยะต่อไป ถึงต้นปี 2556 มีลักษณะตรงกันเลยในเรื่องของความหายนะแก่เจ้าชะตานี้เอง นั่นคืออาจถูกข้อหากบฏอีกครั้งหนึ่งถึงประหารชีวิต หลังจากวันนี้มีแนวโน้มของการฮึดสู้ของเจ้าชะตานี้ คิดผิดหลงผิดต่อไปอีกในช่วงหลังวันที่ 24 ธ.ค.2555 แต่ระบบดาวทั้งสิ้น ไม่อาจเห็นได้เลยว่าจะให้ประโยชน์อะไรแก่เจ้าชะตา มีแต่ให้ความหายนะล้วน ๆ และในที่สุดก็จะไปจบลงที่คดีความ จะถูกดำเนินคดีฟ้องร้องและหายนะเสียชื่อเสียงเกียรติยศไปอย่างยิ่งใหญ่ ภายในปลายปี 2555 ต่อต้นปี 2556 (ตามดวงที่ 5) นั่นเอง
ดวงชะตา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
ดวงที่ 6
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
ดวงที่ 6
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ จุดยุทธศาสตร์ของชาตานี้อยู่ที่ราศีกรกฎ-มีน-พิจิก มีดาวร้ายคือเกต(๙) + มฤตยู(๐) ร่วมธาตุ ณ ราศีมีน มีดาวเสาร์(๗)ร่วมธาตุ ณ ราศีพิจิก แต่จุดยุทธศาสตร์นี้ค่อนข้างเข้มแข็งและเหนียวแน่น เพราะมีพฤหัสบดี(๕) เกษตรร่วมในราศีมีนด้วย แต่สถานการณ์ระบบดาวร้ายระหว่างวันที่ 24 ธ.ค.55 - 10 ม.ค. 2556 นั้นได้เปลี่ยนการโจมตีจุดยุทธศาสตร์ใหม่ คือโจมตีที่ราศีทวาร(ไม่ได้บุกเข้าตีที่ราศีร่วมธาตุ อันเป้นจุดแข็ง) และการโจมตีมีพลังเข็มแข็งอย่างยิ่ง ยากจะต้านทานได้ (โปรดดูดวงที่ 5 และดวงที่ 7ประกอบ)
11. ในขณะที่ระบบดาวให้โทษแด่ดวงชะตาพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในระหว่างวันที่ 24 ธ.ค.55 - 10 ม.ค.2556 อย่างร้ายแรงตามดวงที่ 5 นั้น ก็ปรากฎว่ากระแสดาวร้ายทั้งระบบส่งผลต่อดวงชะตา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อย่างแรงเหมือนกัน โปรดสังเกตดาวที่ราศีทวารทั้ง 4 คือ ราศีตุล มีดาวเสาร์(๗)จรมหาอุจ เป็นกาลกิณีจรมาแต่เดือน ส.ค.2555 รอเวลาที่จะลงโทษเจ้าชะตานี้อยู่, ราศีมังกร มีดาวอังคาร(๓)จรเป็นมหาอุจ สุดฤทธิ์ร้ายของอังคาร เล็งตรงไปยังราศีกรกฎ ซึ่งมีดาวอาทิตย์(๑)มหาจักรศรีเดิม +พุธ(๔)มนตรีเดิม, ราศีเมษซึ่งว่างเปล่ามาแต่กำเนิด ก็เป็นคราวเคราะห์จริง ๆ ที่มีดาวร้ายอีกดวงหนึ่งคือดาวเกตุ(๙)จรเข้ามารออยู่ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 2555 แล้ว ตราบใดที่เกตุอยู่ ณ ราศีเมษนี้ นั่นแหละเป็นช่วงชะตาคับขันอย่างยิ่งของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และความจริงก็คือ เกตุ(๙) ยังจะอยู่ต่อไปในราศีเมษนี้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555 ผลก็คือความคับขัน ไม่มีทางออก ทุกเส้นทางถูกปิดกั้นหมดและถูกบีบถูกกดดันรอบด้าน ตั้งแต่บัดนี้ไปถึง 31 ธ.ค.2555 จะหมายถึงเหตุร้ายแรงถึง 4 ประการ คือ
[1] อุบัติเหตุร้ายแรงทางรถหรือยานพาหนะใดใด แม้กระทั่งการลอบสังหาร โดยมือปืนอาจซุ่มซ่อนอยู่ในอาคารระหว่างรถที่ใช้โดยสารผ่านมา
[2] คับขันทางการเงินและเศรษฐกิจทั่วไป ปราศจากการช่วยเหลือเจือจุน มีรายจ่ายมหาศาล
[3] ปัญหาทางสุขภาพกำเริบและการเยียวยารักษาล้มเหลว อาจถึงอมพาตและเสียชีวิตในที่สุด
[4] แผนงานใดใดที่วางไว้พังพินาศราบเรียบ
ดวงที่ 7
แสดงดาวร้ายจรเข้าราศีทวารในดวงชะตาครบทุกราศี
ดวงที่ 7
แสดงดาวร้ายขนาดหนักทรงพลังสูงสุดจรเข้าราศีทวารในดวงชะตาครบทุกราศี ดังนี้ ราศีกรกฎมีอาทิตย์(๑)มหาจักรศรีเดิม+พุธ(๔)มนตรีเดิม, ราศีตุลมีเสาร์(๗)มหาอจน์ กาลกิณีจร, ราศีมังกรมีอังคาร(๓)มหาอุจ + จันทร์(๒)ประเดิม และราศีเมษมีเกต(๙) นี่คือสภาวะทวารทั้ง 4 ถูกคุมโดยดาวร้ายล้วน ๆ และเป้นจุดยุทธศาสตร์ที่ปราศจากการป้องกันอย่างสิ้นเชิง ความหมายคืออันตรายร้ายแรงมาก อาจถึงแก่ชีวิตได้
12. สมมติฐานที่น่าตื่นเต้น
สิ่งที่น่าสังเกตเป็นพิเศษจากระบบดาวจรช่วงนี้ก็คือ อังคาร(๓)มหาอุจ เล็งอาทิตย์(๑)มหาจักร + พุธ(๔) หมายถึงเลือด แต่ไม่น่าจะเกิดจากบาดแผล เพราะถูกของมีคมหรืออาวุธปลายแหลมตามความหมายปกติ ทั่วไป เพราะพุธ(๔)หมายถึงระบบทางเดินอาหาร ปอด ปากและฟัน จึงน่ามีเรื่องปากและฟันมาเกี่ยวข้องด้วย ฉะนั้น ในประเด็นนี้ก็ยังไม่ใช่คำพยากรณ์ แต่เป็นสมมติฐานว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ อาจถึงกระอักเลือด หรืออาเจียรเป็นโลหิต สิ้นชีพในคราวนี้ก็ได้ (แบบจิวยี่เลย)
- ช. โหรชนบท
6 พ.ย.2555
16.30 น.