ดวงอภิสิทธิ สุเทพ จะติดคุกไหม ?
[ This is a report on a research, for a highest education in the new world. Its result has to be prooved by itself. นี่คือรายงานการวิจัยชิ้นหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของการศึกษาระดับสูงสุดแขนงหนึ่งในโลกใหม่ยุคนี้ ผลของการรายงานจะได้รับการพิศูจน์ด้วยตัวของมันเอง....บก./webmaster..Jan 18,2012,06.25]
คำปรารภ
ความเห็นที่ 3 (3321547)
· คำถาม ดวงอภิสิทธิ์ ดวงสุเทพ จะติดคุกไหม ? กรุณารอ อีกไม่นานครับ ไม่เกินปี 2554 นี้ เองแน่ ๆ
ผู้แสดงความคิดเห็น บก. วันที่ตอบ 2011-12-28 22:12:45
ความเห็นที่ 4 (3321888)
สำหรับคำถาม ดวงอภิสิทธิ์ ดวงสุเทพ จะติดคุกไหม ? ........ นี้ เราเพียงต้องการที่จะให้เห็นแนวทางของโหราศาสตร์(สากล +ไทย) ว่ามีแนวทางที่จะพยากรณ์ได้และอย่างมีหลักการและมีความแม่นยำ ....... เพื่อส่งเสริมการศึกษาวิจัยทางโหราศาสตร์ไทยให้ละเอียด ลึกซึ้งไปกว่าเดิม หรืออย่างน้อยก็ไปไกลกว่าที่เราได้ศึกษามาขณะนี้.... ซึ่งมีแนวทางที่จะทำการศึกษาวิจัยไปไกลกว่านี้อีก อย่างน่าตื่นตกใจ อย่างกับศาสตร์ลึกลับสุดยอดแขนงหนึ่งเลยทีเดียว ........ และกรณีมีดวงตัวอย่างเช่นนี้ เป็นตัวอย่างที่อุปการะต่องานวิจัยทางโหราศาสตร์ อย่างยิ่ง เราจึงขออภัย และขอขอบพระคุณท่านเจ้าของดวงชะตาตัวอย่างนี้ด้วย ..... เนื่องเพราะเราว่าไปตามทฤษฎี .... และบางบทที่ยังไม่ชัดเจนนัก..... เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาอย่างแท้จริง .....
เรามาติดอยู่ที่ข้อมูล เวลาเกิดของท่าน สุเทพ เทือกสุบรรณ (หมายถึงเวลาเกิดจริง ๆ ซึ่งอาจจะไม่ตรงตามที่เจ้าชะตาจดจำมาหรือเชื่อมาก็ได้) เมื่อดู ก็พบว่ามีความสลับซับซ้อนหลายอย่าง ได้แก่
1. ลักคณาอยู่ราศีอะไร............ซึ่งเราเคยได้คำตอบไว้แต่คราวก่อนแล้วว่า อยู่ราศีมิถุน..... และเรายังคงยืนยันราศีมิถุนอยู่ .....
2. แต่มีประเด็นที่เปลี่ยนไป นั่นคือ ประเด็นวันเกิด ........ คราวที่แล้วเราให้เป็นวันเสาร์.......ก็เกิดมีคำถามว่า อาจจะเป็นวันศุกร์ก็ได้ จึงได้ทำการตรวจสอบขึ้นมาใหม่ ว่าเป็นวันเสาร์ หรือ วันศุกร ...... และเมื่อตรวจโดยละเอียดแล้วก็ได้ข้อยุติ ว่าเป็นวันเสาร์เหมือนเดิม)
นั่นก็คือ ยืนยัน ดวงชะตาเดิม ดังนี้
ดวงที่ 1
สุเทพ เทือกสุบรรณ
ดวงที่ 1
สุเทพ เทือกสุบรรณ
เกิดวัน ๗/2 กรกฎาคม 2492 เวลา 07.57 น.สุราษฎร์ธานี(เวลาเกิดโดยการคำนวณของผู้พยากรณ์เอง)
ลักคณาสถิตราศีมิถุน ตนุลั พุธ(๔)เป็นกาลกิณี
ส่วนดวงชะตาของท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้น มีโหราจารย์ได้คำนวณดวงชะตาเอาไว้แล้ว จึงยกมาได้เลย ดังนี้
ดวงที่ 2
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ดวงที่ 2
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เกิดวัน ๒/ 3 สิงหาคม 2507
ดวงนี้ผูกด้วยโหราจารย์แต่เดิมแล้ว ดาวตนุลักคณาพุธ(๔)ไปอยู่ภพวินาสน์ หมายถึงการกักกัน ที่คุมขัง และความผิดหวังประการต่าง ๆ
การพิจารณาดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์ประกอบ
อย่างไรก็ตาม การที่จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ขั้นร้ายแรงต่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้น ย่อมกระทบไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะท่านเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อยู่ จึงอาจจะตรวจสอบจากความเป็นไปของพรรคประชาธิปัตย์ประกอบด้วย โดยเอาดวงพรรคประชาธิปัตย์มาตรวงจสอบพร้อมกันไป หากพบว่าดวงชะตาพรรคไม่มีอะไรเลย ก้าวเดินไปอย่างปกติ นั่นก็ย่อมบอกไปถึงสภาพของหัวหน้าพรรคได้ด้วย ว่ามีสวัสดิภาพดี ไม่ได้รับผลกระทบใดใด เลย
ดวงที่ 3
ดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์
ดวงที่ 3
ดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์
๗/6 เมษายน 2489
ลักคณาอยู่ราศีสิงห์ ดวงเดิมที่โหราจารย์ผูกไว้แล้ว ข้อสังเกตคือมีดาวใหญ่โยคหลังลักคณา เป็นเหตุของความสำเร็จกิจการงานของพรรคมาโดยตลอด นั่นคือดาวเสาร์(๗)กุมราหู(๘)เป็น 11 แก่ลักคณา 60 องศาด้านหลัง เมื่อดาวคู่นี้จรประกบกันมาสู่ราศีตุลจึงเกิดผลร้ายขึ้น
ข้อพิจารณาพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อได้ทำการตรวจสอบดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์อย่างรอบคอบแล้ว สิ่งที่ได้พบ เป้นเรื่องที่น่าตื่นเต้นประหลาดใจมาก ดังต่อไปนี้
1. พรรคประชาธิปัตย์ระยะหลัง ๆ มา โดยเฉพาะตั้งแต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะขึ้นสู่ตำแหน่งแล้วเป็นต้นมา สถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ตกสู่ฐานะที่อย่ในความยากลำบาก ยุ่งเหยิง ตกต่ำมาตลอด มีการสลีบดีสลับร้ายบ้างเป็นครั้ง ๆ คราว ๆ และที่สุดรอดพ้นจากสถานการณ์ถูกยุบพรรคไปได้อย่างค่อนข้างสบาย ในการพิจารณาพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 29 พ.ย.2553 กระนั้นแทนที่จะพ้นภาวะวิกฤต กลับยังคงทำตนตกต่ำต่อมาอีก ตามที่สรุปว่า "ความจนมุมตกอับและการแตกแยกอย่างหนักของพรรคประชาธิปัตย์ระยะนี้" ที่เราได้ทำนายไว้ และการตกอับที่สุดก็ได้เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างหมดรูปในวันที่ 3 ก.ค.2554 เป็ฯผลให้รัฐบาลอภิสิทธิ์กลับสถานการณ์ไปเป็นตรงกันข้าม นั่นคือต้องกลายมาเป้นฝ่ายค้านที่โดดเดี่ยว
2. ถึงชะตาพรรคประชาธิปัตย์จะเลวร้ายมากอย่างขนาดหนักแล้วก็ตาม แต่ในอนาคตข้างหน้าของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังมองไม่เห็นอะไรดีขึ้น โดยระบบดาวที่จรมาเป็นประเด็นสำคัญขณะนี้ และในระยะข้างหน้านี้ กำลังเป็นประเด็นสำคัญยิ่งขึ้นมา
ดวงที่ 4
ระบบดาวใหญ่
ระหว่าง 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557
ดวงที่ 4
ระบบดาวใหญ่
ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557
เสาร์(๗)จร ร่วมราหู(๘)จรในราศีตุล, เสาร์(๗)เดิม ร่วมราหู(๘)เดิมในราศีมิถุน, พุธ(๔)เดิมร่วมเกตุ(๙)เดิมในราศีกุมภ์ ก่อเกิดแรงขึงที่ตรึงตราอย่างเหนียวแน่น ทั้งพลังกดขนาดหนัก ไม่ให้ขยับเขยื้อนได้
3. นั่นคือระบบการโคจรของดาวขนาดใหญ่ได้เข้ามาสู่องศา หรือมุมดาว อันบีบบังคับกดดันอย่างหนักยิ่ง ชนิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนต่อพรรคประชาธิปัตย์แล้ว นั่นคือ ปรากฎการณ์ดาวเสาร์(๗)จรสู่ราศีตุล 3 ระยะ ซึ่งฐานะของดาวดวงนี้คือ อริ+ลาภะเดิม ดังนี้
-ระยะที่ 1 ระหว่างวันที่ 7 ธ.ค. 2554 - 5 เม.ย. 2555 เป็นระยะแรก ดาวเสาร์(๗)จรเป็นกาลกิณี ถึง 6 เม.ย.2555 (จากนี้ดาวเสาร์(๗)พักรสู่ราศีกันย์ ระหว่าง 5 เม.ย.- 7 ก.ย.2555)
-ระยะที่ 2 ดาวเสาร์(๗)จรเข้าราศีตุลอีกครั้งระหว่างวันที่ 7 ก.ย.2555 - 10 ธ.ค.2555
-ระยะที่ 3 ของดาวเสาร์(๗)ในราศีตุลต่อดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะเป็นระยะที่หนักหน่วง เพราะมีการจรของดาวราหู(๘)เข้ามาสมทบกับดาวเสาร์(๗)ในราศีตุล และเกาะกันไประหว่างวันที่ 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557 ซึ่งชั่วเวลา 1 ปี 6 เดือนนี้ จะเป็นระยะปรากฎการณ์สำคัญหนักหน่วงที่ไม่เคยมีปรากฎมาก่อนจากการกุมกันของดาวเคราะห์ใหญ่เสาร์(๗)+ราหู(๘) ในราศีตุล....ดาวคู่นี้ไม่เคยพบกันมาก่อนชั่วระยะเวลากว่า 88 ปีถอยหลังไป ... ซึ่งณราศีตุลนี้จะเป็นมุม 60 องศา จากลักคณาของดวงพรรคประชาธิปัตย์ ๆ จะได้รับผลร้ายแรงมาก(พอ ๆ กับสินามิ 2 ครั้งในประเทศไทยที่ผ่านมาแล้ว)
4. สำหรับสถานการณ์ย่อม ๆ คือเสาร์(๗)ดวงเดียวในราศีตุลของพรรคประชาธิปัตย์ เคยมีมาล่าสุดในระหว่างวันที่ 24 ต.ค. 2525 - 18 ต.ค. 2528 เมื่อประมาณ 29 ปีมาแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นต่อพรรคประชาธิปัตย์ ก็พอประมาณ แต่สถานการณ์ลำดับยิ่งใหญ่ที่จะเกิดระหว่างวันที่ 10 ธ.ค.2555 - 30มิ.ย.2557 นั้น โดยการจรร่วมกันของสองดาวเคราะห์ขนาดใหญ่คือเสาร์(๗)และราหู(๘) ในราศีตุล อันเป็นจุดที่องศาดาวเป็น 60 องศาจากด้านหน้าลักคณาพรรคประชาธิปัตย์ นั้นไม่เคยปรากฎมากว่า 88 ปีแล้ว (เลยอายุพรรคประชาธิปัตย์ไปอีก พรรคประชาธิปัตย์มีอายุ เพียง 56 ปี เมื่อ 6 เม.ย.2555) และความหมายนี้เป็นความหมายทางลบอย่างหนักมาก
5. ในขณะนั้นดาวพฤหัสบดี(๕)จรในราศีพฤษภ แม้จะทับจันทร์(๒)มหาอุจเดิม+มฤตยู(๐)เดิม ก็ตาม แต่ไม่มีอำนาจอะไรเพราะพฤหัสบดี(๕)จรเป็นกาลกิณี ซึ่งส่อความหมายถึงกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นคุณแก่พรรคประชาธิปัตย์ไปอีก
6. จึงน่าเป็นข้อสังเกตแต่แรกว่าจะมีเรื่องใหญ่โตมโหฬารมาก ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนกระทบพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน ในช่วงเวลาดังกล่าว คือ เริ่มตั้งแต่ 7 ธ.ค.2554 ป็นต้นไปตามลำดับ ไปทวีเข้มจัดในวันที่ 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557 นี่ก็คือการที่พรรคจะต้องเกี่ยวข้องกับการต่อสู้คดีของหัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรคอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น นั่นคือคดี 91 ศพที่กำลังอยู่ระหว่างเร่งรัดคดีเป็นที่สนใจของประชาชนอยู่ขณะนี้นั่นเอง คำถามที่ว่า อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ กับ สุเทพ เทือกสุบรรณ จะติดคุกหรือไม่ ก็น่าสนใจยิ่งขึ้น ในเมื่อดวงชะตาของพรรคประชาธิปัตย์ส่อถึงความหยุดลง เป็นอัมพาต แบบไม่อาจขับเคลื่อนอะไรได้เลย
ข้อพิจารณาดวงชะตานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เรามีเรื่องเดิมที่ให้การพยากรณ์ดวงชะตา อภิสิทิ์ เวชชาชีวะไว้แล้ว จากการพยากรณ์ในชุด
สินามิ โปรดดูสารบาญโหราศาสตร์ เรื่อง "การพยากรณ์ดวงชะตาประเทศไทย พ.ศ.2554 จะเกิดสินามิอีกครั้ง" ดังนี้
ดวงที่ 5
ดวงชะตาอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ดวงที่ 5
ดวงชะตาอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
อดีตนายกรัฐมนตรี ดวงชะตามีดาวพุธ(๔)ตนุลักคณาอยู่ราศีสิงห์ ซึ่งเป็นภพที่ 12 จากลักคณา ที่มีความหมายถึงการซุกซ่อน หลบมุม ไม่เปิดเผย รวมทั้งการกักขัง เรือนจำ หรือคุกด้วย ในณะเดียวกันที่อาทิตย์(๑)กาลกิณี ไปเป็น 11 แก่ลั ซึ่งบอกความหมายในทางได้ผลประโยชน์ ได้อำนาจการปกครองจากตำแหน่งใดใดแบบไม่ตรงไปตรงมา แบบทำความชั่วได้ทุกชนิดเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ
" 9. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะพ้นจากตำแหน่ง และเผชิญชะตากรรมอันร้ายแรง หมายความว่า ตกจากตำแหน่ง(ตำแหน่งใดใดในขณะนั้น) แล้วจักเผชิญชะตากรรมของชีวิตที่ระหกระเหินยากลำบาก รวมทั้งมีนัยยะของอุบัติเหตุที่ร้ายแรงมาก รวมทั้งเผชิญคดีความที่ร้ายแรง........เหตุการณ์นี้ปรากฏจากการจรของระบบดาวร้ายในชะตานี้ ที่จรมาทับและถึงดวงชะตา ระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2555 รวมเป็นเวลาประมาณ 6 เดือนสำหรับช่วงเวลาที่เลวร้ายและแรงของเจ้าชะตานี้
(เหตุผลทางโหราศาสตร์ ตามบันทึกต่อไปนี้ : 22 มิ.ย.2555 นรม.นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ พ้นตำแหน่ง ๓ จรเป็นกาลกิณีร่วม ๗ จรเป็นอายุจร เข้าทับลักคณา ระหว่างนี้พ้นตำแหน่ง เผชิญชะตากรรมร้ายแรง เพราะว่า ๓ เป็นมรณะเดิม(ดาวฆาต) เดิมสถิตเป็นกัมมะ จรถึง ๗เดิม(เจ้าเรือนปุตตะ)ในภพอริ เมื่อ ๓ เป็นมรณะจรเป็นกาลกิณีมาร่วมกับ๗จรมาทับลักคณา แล้วมีมฤตยู๐ เล็งตรงมายัง ๓๗ลั. ๔ ตนุลั. จรเข้าราศีกรกฎ ระหว่าง 22 มิ.ย. – 12 ก.ค.2555 พักรสู่มิถุน อยู่ในมิถุนถึง 3 ส.ค.2555 เป็น๔กาลกิณีจรถึง 24 ส.ค.2555 แล้วเสิรดสู่ราศีสิงห์-ตุล- และเมื่อจรสู่ราศีพิจิก....5-10 ธ.ค.2555 - ก็ทับราหู(๘)มหาอุจ.......นี่คือนัยยะทางคดีความที่ร้ายแรง รวมทั้งการถูกลอบทำร้าย.......ช. โหรชนบท; บันทึกดวงชะตา, พ.ศ.2554 เล่มที่ 31 หน้า162)· ชลัมพุช โหรชนบท
ให้การพยากรณ์ไว้ ณ 7 ม.ค.2554"
และครั้นดาวราหู(๘)จรเข้าสู่ราศีตุล ในวันที่ 10 ธ.ค.2555 ทับเสาร์(๗)จรมหาอุจ ปรากฎการณ์เดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ตามดวงที่ 4 ก็เกิดขึ้น ในแบบเดียวกัน ดังนี้
เสาร์(๗)จร ร่วมราหู(๘)จร ในราศีตุล ตรึงตนุลักคณาพุธ(๔)+มฤตยู(๐)เดิม ด้านหน้า 60 องศา ขณะเดียวกัน ดาวอังคาร(๓)+ราหู(๘)เดิม+ดาวศุกร์(๖)เดิม ตรึงตนุลักคณา(๔) ด้านหลัง 60 องศา และด้านมุมเล็ง มีดาวเสาร์(๗)เดิมเล็งตรึงตนุลักคณาพุธ(๔)+มฤตยู(๐)เดิม นี่คือสภาวะการตรึงอย่างแน่นหนา ยิ่งกว่าการตรึงตรวนนักโทษฉกรรจ์เสียอีก เพราะอำนาจการตรึงเกิดจากดาวขนาดใหญ่ทั้งสิ้น
นั่นคือ เกิดการกดดันอย่างหนักหน่วง แบบขยับเขยื้อนไม่ได้เลย เป็นอัมพาต ไปยังดวงอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยพุ่งแรงกดไปที่ดาวพุธ(๔)ที่เป็นตนุลักคณา+ดาวมฤตยู(๐)เดิม เจ้าแห่งความตาย ในราศีสิงห์ ที่เป็น 12 แก่ลักคณา แทนลักคณา (ภพที่ให้ความหมายถึงการจองจำ การสูญสิ้นอิสรภาพ) แต่แรงกดดันนี้ แรงยิ่งกว่าแรงกดดันสู่ดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์เสียอีก ดังปรากฎในดวงดาวจร ดวงที่ 6 ต่อไปนี้
ดวงที่ 6
ระบบดาววันที่ 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557
ดวงที่ 6 ดวงชะตาอภิสิทธิ์ ถูกตรึง
ระบบดาววันที่ 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557
ดาวร้ายขนาดใหญ่ 2 ดวง คือเสาร์(๗)+ราหู(๘) ตรึงตนุลักคณ์พุธ(๔) +มฤตยู(๐)ด้านหน้า 60 องศา ดาวร้ายราหู(๘)เดิม+อังคาร(๓)เดิม ตรึงด้านหลัง 60 องศา ในมุมเล็งมีดาวขนาดใหญ่อีกดวงคือเสาร์(๗)เดิมเล็งตรงมา นี่เป้นการประสานงานทำร้ายของดาวร้ายขนาดใหญ่ทั้งสิ้น
ในขณะเดียวกัน การจรของดาวพฤหัสบดี(๕) ที่จรลงสู่ราศีพฤษภ ในวันที่ 15 พ.ค.2555 ก็ได้ทำให้องศาดาวพฤหัสบดี(๕) ที่เคยพิทักษ์ปกป้องดาวพุธ(๔)มาเป็นเวลา 1 ปีเต็ม ๆ คลาดไป องศาไม่สัมพันธ์กับดาวตนุลักคณ์พุธ(๔) ทำให้ขาดการปกป้องคุ้มครอง การช่วยเหลือของดาวไม่ตรงจุดหมาย ผลจากการล้อมตรึงทำร้ายดาวพุธ(๔)ตนุลักคณ์ตามดวงที่ 6 จึงบังเกิดอย่างรุนแรงปราศจากการขัดขวางแต่ประการใดใด นั่นหมายถึง ให้ความหมายในทางร้ายแก่เจ้าชะตาอย่างยิ่ง
การพิจารณาดวงชะตาของสุเทพ เทือกสุบรรณ
ดวงที่ 7
สุเทพ เทือกสุบรรณ
ดวงที่ 7
สุเทพ เทือกสุบรรณ
เกิดวัน ๗/2 กรกฎาคม 2492 เวลา 07.57 น.สุราษฎร์ธานี
ดวงชะตาของสุเทพ เทือกสุบรรณ ในช่วงเวลาเดียวกัน ก็เห็นชัดเจนถึงความหมายในทางร้าย พอ ๆ กัน กระนั้นดวงชะตาสุเทพ ได้บอกถึงคดีมากกว่า 1 คดี ที่ล้วนบันดาลผลร้ายให้เจ้าชะตาทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตาม มีร่องรอยของคดีสำหรับสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าจะมีบางคดี ที่ยังไม่จบลงในระยะนี้ คงต้องรอไปถึงเดือนกรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป (ดูดวงที่ 8 และดวงที่ 13)
ดวงที่ 8
ดวงชะตาสุเทพ เทือกสุบรรณ
ดวงที่ 8
ดวงชะตาสุเทพ เทือกสุบรรณ
แสดงถึงบางคดีที่ต้องรอไปถึงเวลาหลังเดือน ก.ค.2556 อีกครั้งหนึ่ง
ดาวเสาร์(๗)กุมดาวราหู(๘)ในราศีตุลเป็นดาวจร
คำถามว่า มีร่องรอยของการต่อสู้ทางคดีความปรากฎที่ดวงชะตานี้หรือไม่ ตอบได้ว่า มี ไม่แพ้ชะตาอภิสิทธิ์ และชะตาพรรคประชาธิปัตย์เอง
ความหมายเกี่ยวกับความยุ่งยากในเชิงคดีของดวงชะตานี้เริ่มขึ้นเมื่อดาวพุธ(๔) อันเป็นดาวตนุลักคณ์ และดาวเจ้าเรือนภพที่ 4 พันธุ ซึ่งให้ความหมายถึงบ้าน เคหสถานที่อยู่อาศัย ได้เปลี่ยนทักษาประจำปีไปเป็นดาวกาลกิณีจร เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2555 เป็นต้นไป
ครั้นดาวพุธ(๔)จรถึงราศีกรกฎ นั่นบ่งถึงคดีความ การที่ดาวพุธ(๔) อยู่กรกฎระหว่าง 22 มิ.ย. - 24 ส.ค.2555 นั้นมีความหมาย 2 ประการใหญ่ ๆ (1) คดีที่รุมเร้าชะตานี้อย่างหนัก และ(2) หมายถึงการใช้จ่ายเงินอย่างมากมาย เพื่อการต่อสู้ในเรื่องราวของคดีความ .....:ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น ดาวเสาร์(๗)จรพักร์สู่ราศีกันย์ มีดาวอังคาร(๓)จร ซึ่งมาจากภพอริ+วินาสน์ จรกุมเสาร์(๗)จร ทับจันทร์(๒)เดิม ในราศีกันย์อยู่ มีดาวมฤตยู(๐)จรเล็งเข้ามายังอังคาร(๓)จร+เสาร์(๗)จร ที่ทับจันทร์(๒)เดิมอยู่ (ดูดวงที่ 7) ตรงราศีกันย์นี้เป็นภพที่ 4 พันธุ หมายถึงเคหสถาน ที่อยู่อาศัย แต่ความหมายที่ดาวร้ายคือ เสาร์(๗)จร กุมอังคาร(๓)จรมาทับจันทร์(๒)เดิมในราศีกันย์ ภพที่ 4 นี้ เป็นความหมายที่เห็นชัดกว่าประเด็นความหมายอื่นในดวงชะตาสุเทพ เทือกสุบรรณ และความหมายนั้นก็คือ หมายถึง บ้านแตก น่าจะสัมพันธ์ทางความหมายคดีความว่า หมายถึง การพ่ายแพ้ทางคดีความ ผลก็คือ มีการโยกย้ายจากบ้านที่อยู่สำราญเข้าไปสู่บ้านหลังใหม่ที่ระกำลำบากมาก นั่นคือความหมายถึงการตัดสินคดีความน่าจะมีขึ้นในระยะนี้ ระยะที่ เสาร์(๗)+อังคาร(๓) จรในราศีกันย์ (ตามความหมายดวงที่ 12) และนั่นคือความหมายของการโยกย้ายบ้านที่อยู่ไปอยู่ในที่อันลำบาก ไม่สบาย(ซึ่งก็น่าจะเป็นเรือนจำ นั่นเอง) คำตอบ ว่าจะติดคุกไหม ก็น่าจะชัดเจน
ระยะอันตรายอีกระยะหนึ่งเกิดขึ้น ในแบบถูกตรึงไม่ให้กระดุกกระดิกเหมือนดวงพรรคฯ และดวง หัวหน้าพรรค ก็เกิดขึ้นเมื่อดาวอังคาร(๓)จรเข้าสู่ราศีธนู ระหว่างวันที่ 7 พ.ย.2555 - 16 ธ.ค.2555 [ตามความหมายดวงที่ 8 เมื่อเติมดาวอังคาร(๓)จร ลงในราศีธนูด้วย]) อันนี้น่าหมายถึงการสิ้นอิสระภาพ
เนื่องจากมีการจรสัมพันธ์กันของระบบดาวใหญ่ ที่จรมาสัมพันธ์กับระบบดาวเดิมอย่างเหมาะเจาะมาก ปรากฎตรงกัน 2 ดวง คือดวงพรรคประชาธิปัตย์ กับ ดวงอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมีดาวจรใหญ่คือเสาร์(๗)กับราหู(๘) กุมกันเข้าสู่ราศีตุล เป็นเวลา 1 ปีครึ่ง ระหว่าง 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557 ซึ่งการจรกุมกันในราศีตุลของดาวคู่นี้ไม่เคยมีมาก่อน กว่า 88 ปี เมื่อมีขึ้นในปีนี้ ช่วงเวลานี้ ก็กลายเป็นระเด็นสำคัญยิ่งใหญ่ขึ้นมาเฉพาะกับดวงพรรคประชาธิปัตย์ กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พอดี ดังนี้
- ดวงพรรคประชาธิปัตย์ มีเสาร์(๗)อริเดิม กุมกับราหู(๘)ปัตนิเดิมอยู่ในศีมิถุน และมีดาวพุธ(๔)เดิม+เกตุ(๙)เดิมกุมกันอยู่ราศีกุมภ์ มุมดาวดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดสภาวะการตรึง อย่างเหนียวแน่นเกิดขึ้นต่อพรรคประชาธิปัตย์ ยากที่จะดิ้นรนขัดขืนได้ เมื่อดาวเสาร์(๗)จรโดยกุมดาวราหู(๘)จรเข้าสู่ราศีตุลพร้อมกัน (ดูดวงที่ 9)
ดวงที่ 9
ระบบดาวใหญ่โคจรเข้าทำร้ายดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์
ระหว่าง 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557
ดวงที่ 9
ระบบดาวใหญ่โคจรเข้าทำร้ายดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์แบบไม่เคยมีมาก่อน กว่า 88 ปี
ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557
เสาร์(๗)จร ร่วมราหู(๘)จรในราศีตุล, เสาร์(๗)เดิม ร่วมราหู(๘)เดิมในราศีมิถุน, พุธ(๔)เดิมร่วมเกตุ(๙)เดิมในราศีกุมภ์ ก่อเกิดแรงขึงที่ตรึงตราอย่างเหนียวแน่น ทั้งพลังกดขนาดหนัก ไม่ให้ขยับเขยื้อนได้
-ดวงอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีดาวอังคาร(๓)มรณะ+อายุเดิมกุมกับราหู(๘)อริ+อุตสาหะเดิม กับศุกร(๖)ศุภะ+มนตรีเดิม ในราศีมิถุน โยคหลังพุธ(๔)ตนุลักคณา มีดาวเสาร์(๗)เดิมเล็งตนุลักคณา+มฤตยู(๐)เดิม จากราศีกุมภ์ ครั้นดาวเสาร์(๗)จรกุมราหู(๘)จรเข้าสู่ราศีตุล อันเป็นปรากฎกรณ์พิเศษไม่เคยมีมากว่า 88 ปีดังกล่าวแล้ว กระทำให้เกิดสภาวะการตรึงอย่างเหนียวแน่นขึ้นต่อ ตนุลักคณาพุธ(๔)+มฤตยู(๐)เดิมในราศีสิงห์ ทำนองเดียวกับการตรึงในดวงพรรคประชาธิปัตย์ และทั้งตรงกันในเรื่องช่วงเวลาเลยทีเดียว มีข้อสังเกตว่า ดวงอภิสิทธิ์ ค่อนข้างจะโดนหนักกว่าดวงพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเหตุที่มีเสาร์(๗)ในราศีกุมภ์เล็งตนุลักคณาพุธ(๔) อีกดวงหนึ่ง (ดูดวงที่ 10)
ดวงที่ 10
ระบบดาวใหญ่สัมพันธ์กันกดตนุลักคณา อภิสิทธิ์
ดวงที่ 10
ระบบดาวใหญ่สัมพันธ์กันกดตนุลักคณา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ดาวใหญ่ที่ทำการตรึงดวงชะตาอภิสิทธิ์ ก็คือ มฤตยู(๐)เดิมกุมพุธ(๔)ตนุลัเดิมในราศีสิงห์, เสาร์(๗)จร + ราหู(๘)จร ในราศีตุล, ราหู(๘)เดิม+อังคาร(๓)เดิมในราสีมิถุน และดาวเสาร์(๗)เดิมในราศีกุมภ์ จะเห็นว่าล้วนดาวขนาดหนักและร้ายแรงทั้งสิ้น ดาวที่บอกถึงคดีคือ ราหู(๘) กับพุธ(๔)
สรุปได้ว่า อันตรายขนาดใหญ่กำลังรอพรรคประชาธิปัตย์ และ อภิสิทธิ เวชชาชีวะอยู่ ใน 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557 นั่นมีเปอร์เซนต์สูงที่จะเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับคดีความและพ่ายแพ้คดีสำคัญ เป็นเหตุให้ต้องติดคุก และเมื่อหัวหน้าพรรคต้องได้รับผลร้ายแรงก็ย่อมกระทบไปถึงพรรคด้วย สมตามการจรของดาวใหญ่สู่พรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมกัน โดยเรื่องราวน่าจะได้เริ่มเข้มข้นขึ้นตั้งแต่ 7 ธ.ค.2554 เป็นต้นมาแล้ว
ดวงที่ 11
ดาวพุธ(๔)ตนุลักคณาดวงสุเทพ จรสู่ราศีกรกฎ
ดวงที่ 11
ดาวพุธ(๔)ตนุลักคณาดวงสุเทพ จรสู่ราศีกรกฎ
จะเห็นดาวราหู(๘) 2 ดวง ๆ เดิม+มฤตยู(๐)ในราศีมีน และดวงจรมหาอุจ ในราศีพิจิกทำการตรึงพุธ(๔)ตนุลักคณ์จรในราศีกรกฎ,ดาวเสาร์(๗)จร+อังคาร(๓) ตรึงด้านหน้า 60 องศา, อังคาร(๓)เดิม+เกต(๙)เดิมตรึงด้านหลัง 60 องศา, ดาวพฤหัส(๕)เดิมนิจ-ศุกร์(๖)จรราชาโชค-จันทร์(๒)จร พยายามเข้าป้องกันช่วยเหลือ แต่อ่อนแรงเกินไป ทั้งดาวเหล่านี้ก็โดนประกบอย่างใกล้ชิด จึงไร้ผล โปรดสังเกตดาวราหู(๘) 2 ดวง คือราหู(๘)เดิม กับราหู(๘)จรมหาอุจ ว่าทำอะไรแก่ดาวพุธ(๔)ตนุลักคณ์จรในราศีกรกฎ
ส่วนดวงชะตาของสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้บอกลักษณะการคดีความชัดเจนขึ้น เมื่อดาวตนุลักคณาพุธ(๔)จรเป็นกาลกิณีจรเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2555 เป็นต้นมา นี่บอกถึงความยุ่งยากลำบากใจของเจ้าชะตาและบอกถึงการเตรียมการต่าง ๆ ในทางที่ไม่ถูกต้องครรลองที่ชอบธรรม มีร่องรอยการใช้จ่ายเงินจำนวนมหาศาล ครั้นดาวพุธ(๔)กาลกิณีจรดวงนี้ จรเข้าราศีกรกฎ วันที่ 3 ส.ค. - 24 ส.ค.2555 ได้สัมผัสกับราหู(๘)ศุภะ+เดชเดิม+มฤตยู(๐)เดิมในราศีมีน และสัมผัสกับราหู(๘)เดชจรมหาอุจ ในราศีพิจิก และยังต้องกระแสของเสาร์(๗)มรณะ+บริวารจรมหาอุจที่ราศีกันย์ ก็เกิดสภาวะถูกตรึงอย่างไม่มีทางดิ้นรนไปอีกเหมือนชะตาอภิสิทธิ์ และชะตาพรรคประชาธิปัตย์ หากแต่ชะตาสุเทพ ค่อนข้างบอกชัดเจนถึงเรื่องคดีความ ที่เขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ [ดูดาวพุธ(๔)ตนุลักคณ์จร ถูกกระแสดาวราหู(๘)ที่ร้ายกาจถึง 2 ดวง [ราหู(๘)จรเป็นมหาอุจ) รวมทั้งมฤตยู(๐)จร ดาวขนาดใหญ่ที่สุดอีกดวงหนึ่งในจักรราศี ที่บอกความหมายของความตายอีกดวงหนึ่ง (ดูดวงที่ 11)
ดวงที่ 12
แสดงสถานะที่ถูกทำลายของภพที่ 4 ดวงชะตาสุเทพ
ดวงที่ 12
แสดงสถานะที่ถูกทำลายของภพที่ 4 ดวงชะตาสุเทพ
ซึ่งหมายถึงอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ สูญเสีย และการโยกย้ายที่อยู่ จากถิ่นที่สำราญไปสู่ที่ทุรกันดาร ลำบากยากแค้น
มีประเด็นของสุเทพที่ชัดเจนอีกประเด็นหนึ่งก็คือ ช่วงเวลาระหว่างนี้ ดาวอังคาร(๓)จร ได้จรเข้าสู่ราศีกันย์อันเป็นภพที่ 4 จากลักคณา (ระหว่างวันที่ 22 มิ.ย.- 12 ส.ค.2555) และทับดาวเสาร์(๗)จรตลอดช่วงเวลานี้ ยังผลให้จันทร์(๒)เดิมในราศีกันย์ถูกกดอย่างหนัก โดยมีดาวมฤตยู(๐)จรเล็งตรงมายังดาว 3 ดวงนี้ และยังมีอาทิตย์(๑)จรโยคหลัง 60 องศา มีราหู(๘)มหาอุจจรโยคหน้า 60 องศา ..... ซึ่งความหมายตรงนี้ หมายถึงบ้าน เคหะสถานที่อยู่ อสังหาริมทรัพย์ของเจ้าชะตา ทั้งหมดทั้งสิ้น จะประสบความเสียหาย ครั้งยิ่งใหญ่ และยังมีนัยยะความหมายของการโยกย้ายที่อยู่ แต่การโยกย้ายนี้เป็นการโยกย้ายจากบ้านที่อยู่สบาย ไปสู่บ้านที่ไร้ความอุดมโดยแท้จริง ประกอบด้วยความสับสนของสมาชิกหลายประเภทที่ล้วนร้าย ๆ มาอยู่ด้วยกัน บ้านก็เป็นบ้านที่ไร้ความสบายโอ่อ่าไปทั้งสิ้น ซึ่งนี่ก็ได้บอกความหมายถึงการติดคุกของสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่นเอง (ดูดวงที่ 12)
อย่างไรก็ตาม ดวงของสุเทพ เทือกสุบรรณ เหมือนจะมีอีกคดีหนึ่ง ที่จะปรากฎผลขึ้นภายหลังเดือน กรกฎาคม 2556 ไปแล้ว (ดูดวงที่ 13)
ดวงที่ 13
ดวงสุเทพ เทือกสุบรรณ
ดวงที่ 13
ดวงชะตาสุเทพ เทือกสุบรรณ
ดาวเสาร์(๗)จร+ราหู(๘)จร ส่อถึงมีบางคดีที่ยังไม่เสร็จ ต้องดำเนินการต่อไปจนถึงเดือน ก.ค.2556 เป็นต้นไป
ฉะนั้น คำตอบ ก็คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับสุเทพ เทือกสุบรรณ จะถูกพิพากษาให้จำคุก ในช่วงเวลาอันไม่ไกลนักข้างหน้านี้ ซึ่งผลของการเป็นเช่นนี้ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ประสบความตกใจสุดขีด ถึงขนาดหยุดการเคลื่อนไหวลงไป ดุจดั่งอมพาตไป ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
- ชลัมพุช โหรชนบท
16 ม.ค.2555/20.50 น.
หมายเหตุ
ดวงที่น่าสังเกตคือ ดวงชะตา นายครรชิต ทับสุวรรณ สส.ปชป.จ.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาฆ่า นายอุดร ไกรวัตนุสรณ์ ประธานอบจ.สมุทรสาคร ในบริเวณปัมน้ำมัน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร กลางวัน ขณะมีคนเห็นนับสิบ ๆ คน เมื่อเวลาประมาณบ่ายวันที่ 26 ธ.ค.2554...........ต่อมาศาล จ.สมุทรสาครได้ออกหมายจับไปแล้ว ได้ใช้เอกสิทธิ์ ความเป็นสส. คุ้มครองตนเองอยู่ เกิดวันที่ 26 ต.ค.2513 (โดยกูเกิ้ล) ดวงชะตาเป็นดังนี้
ภาพที่ได้ลงในสื่อมวลชนทั่วไปแล้ว คนกุมมือที่เอวคือ นายครรชิต ทับสุวรรณ วันมอบตัวตำรวจ โดยมีนายนิพิธ อินทร์สมบัติ สส.พัทลุง คนยิ้มเห็นฟัน อ้างตัวเป็นทนายความให้ รูปดวงชะตาเป็นดั่งนี้
ดวงที่ 14
นายครรชิต ทับสุวรรณ สส.ปชป.สมุทรสงคราม
ดวงที่ 14
นายครรชิต ทับสุวรรณ สส.ปชป.สมุทรสงคราม
ผู้ต้องหาฆ่านายอุดร ไกรวัตนุสรณ์ ประธานอบจ.สมุทรสาคร ในบริเวณปัมน้ำมัน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร กลางวัน ขณะมีคนเห็นนับสิบ ๆ คน เมื่อเวลาประมาณบ่ายวันที่ 26 ธ.ค.2554...........ต่อมาศาล จ.สมุทรสาครได้ออกหมายจับไปแล้ว ได้ใช้เอกสิทธิ์ ความเป็นสส. คุ้มครองตนเองอยู่ เกิดวันที่ 26 ต.ค.2513 (โดยกูเกิ้ล)
ข้อสังเกต ก็คือ องศาดาวเสาร์(๗) ซึ่งเป็นนิจ(เลวมาก) กับ องศาดาวพฤหัสบดี(5) ทับกันสนิทในดวงเดิม โดยดาวเสาร์(๗)ได้ 21 องศา 32 ลิบดา ดาวพฤหัสบดีได้ 21 องศา 6 ลิบดา ดาวเสาร์(๗)เป็นนิจ ดาวพฤหัสบดี(๕)เป็นมูละ ความหมายคือเจ้าชะตานี้ได้รับความดีความงามจากดาวพฤหัสบดีอย่างเข้มแข็ง โดยคุ้มครองให้พ้นภัยจากอันตรายต่าง ๆ อันเกิดจากความประพฤติเสื่อมเสีย[จากดาวเสาร์(๗)] และให้ประสบความสำเร็จในด้านชื่อเสียงเกียรติยศ เศรษฐกิจและทั้งความดีงามต่าง ๆ .... แต่แล้วครั้นดาวพฤหัสบดี(๕)จรเป็นกาลกิณีในราศีเมษ ในระยะปัจจุบัน(เริ่มจาก 26 ต.ค.2554 เป็นต้นมาจนไปถึง 26 ต.ค.2556 เป็นระยะที่ดาวพฤหัสบดี(๕)ให้โทษแก่ชะตานี้...รูปธรรมก็คือ คณะผู้พิพากษาจะให้ผลร้ายต่อผู้ก่อคดีนี้) ช่วงนี้ตัวเองไปปราศจากการคุ้มครองของดาวพฤหัสบดีเพราะเหตุที่พฤหัสบดีเป็นกาลกิณี ........ เหตุร้ายจึงได้เกิดขึ้นกับเจ้าชะตานี้ สมเหตุผลตามหลักการโหราศาสตร์
โดยจะเห็นได้โดยชัดเจนว่า เหตุการณ์ในระยะที่เกิดเหตุ(วันที่ 26 ธ.ค.2554นั้น) เป็นเพราะเสาร์(๗)ซึ่งเป็นดาวนิจเดิม จร + ดาวเกต(๙)จร เข้าสู่ราศีตุล ทับดาวอาทิตย์(๑)กาลกิณีเดิม +ดาวเล็งคือดาวพฤหัสบดี(๕)กาลกิณีจร และดาวอังคาร(๓)จรในราศีสิงห์ เป็น 60 องศา โยคหลังราศีตุล ดาวอาทิตย์(๑)ดาวนิจเดิม 60 องศา โยคหน้าราศีตุล ...... นี่เป็นต้นเหตุร้ายของชะตานี้ .......
ฉะนั้น ในอนาคต อันไม่ไกลนักนี้ เจ้าชะตาจะได้รับผล ที่มาจากอิทธิพลของดาวใหญ่จร คือ เสาร์(๗)จร และ ราหู(๘)จร กุมกันในราศีตุล(ซึ่งเป็นปรากฎการณ์พิเศษที่ไม่เคยมีมากว่า 88 ปี ) เช่นเดียวกันเลยกับดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ ตามหลักฐานการวิเคราะห์ที่ได้แสดงมาข้างต้นนี้..... ....แต่สำหรับชะตานี้โทษน่าจะรุนแรงถึงประหารชีวิต[เพราะอังคาร(๓) ดาวอายุเดิมกุมมฤตยู(๐)+อาทิตย์(๑)เดิมเป็นนิจ +เสาร์(๗)เดิมเป็นนิจ] ...... จึงเป็นกรณีการศึกษาที่มีคุณค่าต่อโหราศาสตร์อย่างยิ่ง และเราก็ขอขอบคุณท่านเจ้าของดวงชะตานี้ไว้อย่างสูง ณ โอกาสนี้ด้วย
-ช. โหรชนบท
18 ม.ค.2555/09.35 น.