24 พ.ย. 2554

 

 

เริ่มมีเรื่องประหลาดมาตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.2554  นายสิทธิชัย ทาสัก (เขาอ้างว่าเขาเป็น)ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาในวัดมหาพุทธาราม ในสภาพโทรม มีวิกลจริต  มาที่กุฎิ พบอาตมภาพ  ในสภาพที่หมดหวัง สิ้นไร้ไม้ตอก  คุยกันแล้วทราบว่า มีเรื่องราวทางราชการ เขาจะย้ายไปเป็นรอง ผวจ.นราธิวาส ลาออก.....แล้วภริยาก่อเรื่องร้าย เอารถฟอร์ด ฟอร์จูนเนอร์ ส่วนตัวไปพร้อมเงินแสนกว่าบาท ไปเข้าบ่อนและโดนยึดรถ ฯลฯ ว่าอยากบวช.........เป็นช่วงทำวัตรเย็น เลยพาไปวิหารด้วย ให้นั่งหลังแถวสามเณร  พาสวดมนต์เย็น

 

 

 

 

 

 จัดที่นอนให้ห้องบนตะวันตก    บอกว่าอยู่ได้ 

 

 

 

 

30 พ.ย.2554 

 

 

 

ออกไปซื้อเนื้อหมูมาทอดทำกินเองและถวายเพล ด้วย

 

 

 

 

 

1 ธ.ค.2554

  ว่าข้าพเจ้ามีบุญคุณ หากไม่ได้พบข้าพเจ้าวันนั้นแล้ว บอกไม่ถูกว่าจะทำอะไรไปและตัวต้องติดคุก(เขาคิดจะยิงฆ่าเมียตัวเอง บังเอิญไม่ทันทำอะไรไปมาพบข้าพเจ้าก่อน)  จึงคิดจะถวายปืนรีวอลเวอร์ รุ่งเก่าแก่ (รุ่นพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์) ให้เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ ไว้ที่ข้าพเจ้า   โดยจะทำการโอนทะเบียนให้ 

 

2 ธ.ค.2554 

  เขาบอกว่าในการโอนทะเบียนจำต้องค้นประวัติผู้รับโอน ก็ให้ลูกน้องถามไปที่กลาโหม และสามารถถ่ายเอกสารอ้างอิงมาให้ได้  เป็นสำเนาบัตรประจำตัวเลขที่ 497/19 นายพยับ เติมใจ สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ออกโดย รองเสนาธิการทหาร  วันที่ 8 ก.ย.2519  หมายเลขประจำตัว  5192270885 เกิดวันที่ 27 ส.ค.2485   บัตรที่ 2 ร้อยตรีพยับ เติมใจ เลขที่ 65/21  ออกเมื่อ 23 ต.ค.2521 หมายเลข 5192270885  บัตรที่ 3 ร.ท.พยับ เติมใจ บัตรประจำตัวพลร่มสัมพันธ์ ที่อยู่  สสน.สน.บก.ทหารสูงสุด ออกเมื่อ 9 ก.พ.2523  ออกโดย ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ วันที่ 9 ก.พ.2523

เขาโทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ เขาว่าเป็นหน้าห้อง ณ ที่ทำงานเชียงใหม่   ว่ารองผวจ.อนุญาตไม่เข้าร่วมพิธี 5 ธันวามหาราช  ให้พักผ่อนให้สบายใจไปเลย  

บอกว่ามีดาบซามูไรเก่าแก่  จะเอามาถวายพร้อมกับปืนด้วย โทรศัพท์สั่งการลูกน้องให้ไปถาม

 

 

3-4-5  ธ.ค.2554

เขาทำความคุ้นเคย ขอดูแว่นตา แล้วตำหนิว่าตรงขอบชำรุด  ให้ลองของเขาดู ว่าใช้ได้ ก็บอกถวายแว่นตาคู่นั้น บอกว่าหลวงพ่อมีพระคุณผมถวาย อันนี้ราคา 4000 บาท ว่าของเขาใช้ได้กับหลวงพ่อพอดี 

 

แล้วเขาถวายนาฬิกา ยี่ห้อ  Rolex เรือนเงิน บอกว่า ราคาปัจจุบัน 17,000 บาท

 

ว่าจนท.ประวัติ ทางราชการทหารแจ้งว่า ได้พิจารณาขณะรับราชการทำความดีงามโดยตลอด ไม่มีความด่างพร้อย บำเหน็จรางวัลความดีความชอบ ขณะรับราชการว่าได้เหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้น 4  ทางราชการไม่สามารถตามตัวได้ จึงยังไม่ได้มอบให้

 

ได้อธิบายให้ทราบเรื่องเหรียญตรา  ว่าเป็นเครื่องหมายคุณงามความดีประจำตระกูล  จะขอมาให้ เขาติดต่อ สั่งการลูกน้องให้ไปดำเนินการอย่างรวดเร็ว คล่อง และให้ จนท.ติดตาม เหรียญ 4 ชั้นมาให้ด้วย โดยจะมอบหนังสือทำการแทนไป

 

เขาบอกเล่าเรื่องรถฟอร์ด ฟอร์จูนเนอร์ ราคาล้านกว่าบาทของเขา ว่าเมียเอาไปจำนำเล่นการพะนันที่สุรินทร์  ว่าพรุ่งนี้จะไปตามรถ นัด จนท.ตำรวจไว้แล้ว  5 นาย บอกว่าต้องให้เบี้ยเลี้ยง วันละ 200บาท/คน  ขอยืมเงิน 5,000  บอกว่าเงินสดไม่มี พรุ่งนี้จะไปเอามาให้ จากธนาคาร 

 

วันที่ 6 ธ.ค.2554 

ได้นำขบวนเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย จนท.ตำรวจ 5 นาย นำโดย ร.ต.ท. เขาว่าตำรวจจาก อุบลฯ(ขอความร่วมมือไป)   ยืมเงินข้าพเจ้าไป 9,000 บาท กลับมาตอนเย็นบอกว่าพบรถแล้ว  ให้ ผกก.ที่สุรินทร์ จัดการบางประเด็นทางกฎหมายอยู่

 

 

7 ธ.ค.2554

  จัดการติดต่อเรื่องเหรียญแต่เช้า จนเสร็จ  ว่าจะจัดการติดตั้งให้คนเห็น ในกุฏิ  ว่า เรามิใช่พระธรรมดา 

 ค่าใช้จ่าย 7000 ไปเบิกมา  10,000 เขายืม 3,000 บาท  

 

 

๔/7 ธ.ค.2554

วันนี้เวลา  18.20 น. ดาวเสาร์(๗) ยกย้ายจากราศี จากกันย์ เข้าสู่ราศีตุล  อันเป็นตำแหน่ง เสาร์(๗)มหาอุจ
แล้วพักรสู่กันย์อีกครั้งใน 5 เม.ย. 2555 เวลา 21.44 น.

 

โดยทักษา  เสาร์(๗)นี้เป็นกาลกิณีเดิม จรมาเป็น เดชจร    
                พฤหัสฯ(๕)เป็นบริวารเดิม  จรมาเป็น ศรีจร

 

การที่ดาวเสาร์(๗)ยกย้ายเข้าตุล เป็นสัญญาณของ รายรับ-รายจ่ายขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียง หรือไม่

 

 หมายเหตุ    รายการยืมของสิทธิชัย  เข้า 20,000 แล้ว  

บันทึกสุขภาพ   

 เมื่อเช้า เจ็บรอบเอว คลึงแล้วก็ยังไม่หายเป็นปกติ  รู้สึกไม่สบายใจ

ตอนเพลถึงเที่ยงวัน  เจ็บอีก  เจ็บรอบ ๆ เอว  ทำท่าว่าจะนั่งตรง ๆ ไม่ได้  นึกวิตกหากนั่งไม่ได้จะทำอย่างไร คงจะอายุไม่ยืน  ขณะนั่งฉันข้าวก็ยังเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย   ขณะนี้ฉันเพลเสร็จ จะพักผ่อนสักหน่อย จะหายหรืออย่างไร ? 

 

8 ธ.ค.2554

นายสิทธิชัย ทาสัก  เขียนสัญญากู้ยืมเงินให้   ลงวันที่ 24 พ.ย. 2554  ลงตัวเลขว่า ได้กู้เงินของ พระพยับ ปัญญาธโร (เติมใจ)  เป็นจำนวนเงิน  35,000 บาท..........ยอมให้ดอกเบี้ย  ร่วมทำบุญรวมต้นดอก 40,000 บาท  ....จะนำมาใช้ให้เสร็จภายในวันที่ 20 เดือนธันวาคม 2554 ........ได้นำชื่อของนางธันยนันท์ พิบูลย์ธนพิตร ซึ่งเป็นภรรยา...ทำการแทน คือชำระหนี้ตามแจ้งไว้จนครบที่ระบุทุกประการ หากข้าพเจ้าล้มหายตายจาก  ....

ทำขึ้น 2 ฉบับแล้วลงนามทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้  เรียบร้อยเก็บไว้คนละฉบับ  แล้วยืมเงินอีกรวมเป็น 30,000 บาทพอดี 

วันนี้ได้ไปติดตามเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ โนตบุ๊คที่เมียเอาไปจำนำไว้มา  บอกว่าเสียเงินไป 9000 บาท(ยืมข้าพเจ้าไป)

ให้เลขา นายนภดล ลูกน้องเดินทางไป กทม.เพื่อเอาเครื่องราชอิสริยาภรณ์มาถวายพระ  ขึ้นค.ไป
(คนนี้น่าจะเป็นคนขับรถ )

 

9 ธ.ค.2554

ได้รับโทรศัพท์ จากนายนภดล ลูกน้องสิทธิชัย บอกว่าติดต่อสิทธิชัยไม่ได้ ถามว่าหลวงพ่อใช่ไหม  ก็บอกว่ามีข่าวดี  ขณะไปติดต่อเครื่องราช  ทางจนท.ทหารบอกว่า  ร.อ.พยับ เติมใจ มีสิทธิ์ได้รับบำเหน็จตกทอด หรือ บำนาญ ........เดือนละ 8,200 บาทไปตลอดชีพ   หรือจะรับบำเหน็จทีเดียว ราว ๆ 1 ล้านบาท (คิดถึงอายุ 80 ปี).... 

ครั้นไปถึงวัด สิทธิชัยแจ้งว่า ทางทหารเขาตามตัวไม่พบ เพราะย้ายสำมะโนกรไปแล้ว และย้ายไปเข้าวัด ซึ่งสังกัด กระทรวงวัฒนธรรม จึงหาไม่พบ ......  ก็ให้ลูกน้องทำเรื่องขอบำเหน็จไปเลย  ให้ทำเรื่องเลยไปพร้อมกัน  ............เขาอธิบายว่า....ท่านมีสิทธิ์อยู่แล้ว แต่ท่านลาออกไป ย้ายสำมะโนครัวหนีหายไปด้วย  จนท.ไม่สามารถติดต่อได้  จึงเก็บเรื่องค้างเอาไว้ตลอดมา      สรุปว่าเป็นลาภเหมือนถูกรางวัลที่ 1  ไม่คาดคิด   

แล้วให้หาเอารูปภาพ ร.ต.  ร.ท.  ร.อ. และเงินค่าดำเนินการส่งไป  5000 บาท  อธิบายสิทธิต่าง ๆ  ว่ามีสิทธิ์ทางมรดกด้วย   จะให้ใครเป็นทายาทมรดก  อายุ 21 ปีขึ้นไป  มีสิทธิ์ เป็นทหาร ส.อ.ได้เลย   เขาให้หามาด่วน

 

10 ธ.ค.2554

ได้โทร.ไปปรึกษาพี่ทองหล่อ ๆ จัดการถามน้อง ๆ ทางบ้านโคกกลางให้  ปรากฎว่าจะมีคนหนึ่งเป็นหลาน
ลูกชายเบอร์ ก็ให้มาพร้อมกันเพื่อพูดคุยในวันรุ่งขึ้น

 

11. ธ.ค.2554

พวกบ้านโคกกลางมาที่วัด  ได้พูดกันแล้ว ให้เอาหลักฐาน 7 อย่าง พวกเขาก็พากันไปเอาหลักฐานที่อุบล  คอยจนเย็น หลานโทร.มาถามว่า ชื่ออะไร   ตอบว่าสิทธิชัย ทาสัก   ว่า  ค้นในเนทแล้วไม่พบว่ามีชื่อ  สิทธิชัย ทาสัก    ในทำเนียบใดใด จังหวัดเชียงใหม่  เขาก็สงสัย  และระงับเรื่อง  ......

บอกเขาว่า หลานมันสงสัยเพราะค้นไม่พบชื่อสิทธิชัย ทาสัก เขากังวลบอกว่า นั่นเป็นความลับ  ตำแหน่งเขาลอยอยู่ และชื่อสิทธิชัย เป็นชื่อเก่า  นามสกุลใหม่ เป็น พิบูลธนพิตร ..... เขาว่าไม่เป็นไร   แล้วโทรศัพท์สั่งการไปทางลูกน้องที่ ไปรออยู่ที่ กทม.  ว่าให้ดำเนินเรื่องไปก่อนเรื่องทายาทให้ระงับไว้พลางก่อน เขาไม่พร้อม  

เขาบ่นว่าจะต้องไปเอง  จะทำให้เห็น  

 

พอถึง2 ทุ่มขอยืมเงิน 3000 ว่าจะลงไปเอง ให้ไป 2000  ออกไปตอน 2ทุ่มเศษ ๆ .....  โทร.ตาม บอกว่ารอรถนครชัยอยู่ คนแน่นมาก  ว่าจะรอเที่ยวต่อไป.........เขารอ.......ขึ้นไปดูห้องนอน ปิดล๊อคอยู่   

 

เขาบอกจะกลับมานอน  ตี 5 จะไปใหม่  แล้วกลับมา  

 

12 ธ.ค.2554

04.00- 05.00 น.เขาออกไป เอาของทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์มือถือ ที่ไปไถ่มาวันนั้นไปด้วย

โทร.ตามไป  เขาบอกได้ของแน่วันที่ 13 จะมา  ไม่ต้องห่วงผม

08.50 น. น้อยโทร.มาบอกว่า  สิทธิชัยโทร.ไปหา  ไม่ทราบได้เบอร์จากไหน ถามขอยืมเงิน

พัชรีมา  ถามถึงสิทธิชัย  บอกหลวงพ่อว่าเขาโทร.ไปขอยืมเงิน 2000 บาท   ทำให้ประหลาดใจ  เพราะไม่เคยรู้จัก  พบที่กุฏิหลวงพ่อครั้งเดียวเท่านั้นเอง

 

11.12 น. น้อยโทร.มาเล่าว่า สิทธิชัย โทร.ขอให้น้อยยืมเงินหลวงพ่อให้ 1 แสนบาท บอกว่าหลวงพ่อมีเงิน  ดูดวงได้วันละ 2-3 พันบาท  ว่าวันละหมื่นก็มี      น้อยปฏิเสธ  เขาว่าขอให้น้อยเบิกให้หน่อยได้ไหม   น้อยว่าไม่มีเงิน เป้นแค่ลูกจ้างเงินเดือน 3000 บาท   บอกน้อยว่าอย่าเพิ่งเปลี่ยนเบอร์ ให้ซ้อนกลเขาดู  คอยฟังว่าเขาจะว่าอย่างไรบ้าง.....น้อยตกลง 

เที่ยงวันเศษ  เขาโทร.มา  ไม่ได้รับ

1900 น.  โทร.ไป   บอกว่าอยู่ กทม. พ่อไม่ต้องห่วงผม ๆ จะโทรไปเอง

มีโทรศัพท์มาจากพี่ทองหล่อ  บอกว่า เขาหาชื่อไม่เจอ  ให้หลวงน้าค้นดูในอินเทอเนต หน่วยงานเขา .....  

 

13 มี.ค.2554  

0600 น.  เราหนักใจ  ไม่น่ามีเรื่องราวอย่างนี้   คิดว่าถ้าสิทธิชัยทรยศ..... จะเป็นไปได้หรือ  ....ก็จะใช้เป็นหนูทดลองไสยเวทย์อีกตัวหนึ่ง ก็ดีเหมือนกัน......

08.58 น. พี่ทองหล่อโทร.มา ถามว่าค้นอินเทอเนตดูแล้วยัง   บอกว่ายัง  ... บอกว่าขออภัยน้องสาว น้องเขยด้วย  ...  มันมีเรื่องตุกติกน่าคิดบางอย่าง  ...   พี่ทองว่า เสียเงินแล้วยัง   เป็นหมื่น หรือเป็นแสน   บอกว่าอย่าคิดอย่างนั้น เราเป็นพระ   เสียไปกี่หมื่น  ....    ถามว่ากี่หมื่นล่ะ ถึง 5 หมื่นไหม .... ก็บอกว่ายังไม่อย่างนั้นหรอกน่า.....คอยฟังก่อน

11.22 น. น้อยโทร.มา   เล่าว่าสิทธิชัย  โทร.ไปขอให้ยืมเงินให้ 1 แสนบาท ว่าจะไปพบน้อย จะไปที่โคราช  น้อยบอกว่าพ่อเป็นพระจะมีที่ไหน   ทำไมไม่ขอเอากับลูก และที่ว่ามีเงินเข้าจากลูกคนละ 2 หมื่น ได้แล้วเดือนละ 8 หมื่นนั้นอย่างไร  บอกว่าหลวงพ่อท่านมีมนต์ดำ เคยทำผีปอบฟันร่วงหมดปากเห็น ๆ

11.50     โทร.ไปเบอร์พระ 080 152 1304  (โทรศัพท์เราเองเขาขอไปใช้)  ว่ากำลังจะเข้าไปสวนจิตร  ทำพิธีอยู่ลานพระบรมรูป    จะโทร.กลับเอง  

13.35   น้อยโทร.มา  ว่าเขาอ้อนวอนให้น้อยยืมเงินหลวงพ่อให้ 1 แสนบาท  ว่าหลวงพ่อโปรดน้อยมาก ขออะไรก็ได้    พ่อจะเอาไปไถ่รถออกมา 

 

17.49 น.  โทร.ไป 2 ครั้ง ไม่มีเสียงรับ  ฝากข้อความกด 1        

18.17 น.   น้อยโทร.มา  ว่าคราวนี้เป็นผู้หญิงโทร.ไปหา  ขอให้ช่วยให้หลวงพ่อให้ยืมเงินสักแสนบาท   จะเอาไปไถ่รถยนต์  น้อยว่าพ่อไม่มีเงินหรอก    ก็รบเร้าว่าพ่อมี วันหนึ่ง ๆ พ่อมีรายได้ร่วม 1-2พันบาท   น้องเป็นคนที่หลวงพ่อโปรด ขออะไรก็ได้ ให้ช่วยขอหน่อย  ไถ่รถแล้วจะรีบเอามาคืน จะเอารถไปหาลูก ๆ  น้อยบอกว่า หลวงพ่อมีมนต์ดำท่านรู้หมดแต่ไม่พูด เคยปราบผีปอบฟันร่วงหมดปาก โดยนั่งอยู่ที่วัด ไม่ได้ไปใกล้ก็ทำได้

น้อยบอกว่าจะเดินทางไปโคราช ไปรถบัส ให้พัทยาเขาจัดที่ทางให้เรียบร้อยก่อนจึงจะกลับมา

 

 19.52 น.  น้อยโทร.มา บอกว่าเปลี่ยนแผนการเดินทาง ว่าได้เล่าให้พ่อลุงฟัง ๆ ว่ามีโทรศัพท์แปลก ๆ มา พ่อลุงบอกให้ไปจองที่รถบัสไว้ แต่พ่อลุงจะให้คนเอารถตู้ไปส่งถึงโคราช เอง   น้อยโทร.มาบอก ว่าเขาจอดกินข้าว มากันสามคน คนขับกับคนงานหญิง และน้อย   ทางพ่อลุง และเถ้าแก่โรงงานโทร.เชคเป้นระยะ ๆ

 

20.34 น. น้อยโทร.บอกถึงโคราชแล้ว  ไม่ต้องเป้นห่วง 

 

14 ธ.ค.2554

08.37 น.  น้อยโทร.บอกว่า มีสายโทร.มา เบอร์ของพ่อ........080 152 1304  (โทรศัพท์เราเองเขาขอไปใช้) ..... ว่าไม่รับ  .........ว่าแปลกใจตั้งแต่เขาขอยืมเงินแล้ว  ตอนนั้นเขาว่าได้เงินแล้วจะไปไถ่รถแล้วเอามาจอดไว้ที่วัดพระโต  จะถวายเงินวัด 1 แสน ถวายพ่อ 1 แสน ......บอกว่าเขายืมเงินพ่อไปไถ่คอมพิวเตอร์มือถือของเขา...วันนั้นเอาของไปหมดเลย.... นัดจะมาวันที่ 13 นี่เลยแล้ว  อีกวัน ๆ ที่ 15   อีกวัน ๆ ที่ 20 ....

 

17 ธ.ค.2554

ตั้งแต่ 13 ธ.ค.2554 ติดต่อสิทธิชัย ไม่ได้   เอาละ....เรายังให้เครดิตเขาอยู่   

 

 

 

เรื่องของลูกสาว

น้อยออกจาก ร.พ.เย็นวันที่ 12 ธ.ค.2554 รายงานว่าดีใจมากที่สุด  หมอบอกว่าโรคหัวใจหายแล้ว ไม่กำเริบแล้ว ให้กินยาปกติได้ ราคาไม่แพง ระดับ 30 บาททุกโรค  โรคสมอง (มะเร็งสมอง) แพทย์เขาใช้แสงฉีดเข้าไป  วันนี้ว่าหายดีแล้ว อย่างน้อยก็พ้นระยะอันตราย  พ่อหมอบอกว่าลดการรับยาลงจาก 13 เม็ดกินทุก 3 เวลา เหลือเพียง 2 เม็ด กินเช้ากับเย็น 2 เวลา  ค่าจ่ายเงินค่ายาก็ลดลงเหลือเดือนละ 1000 บาท ดีใจมากจะได้ไม่เปลืองเงินพ่อ(ก่อนเข้าร.พ.ครั้งล่าสุดเพื่อฉายแสงนี้  น้อยกลัวว่าจะไม่รอดชีวิต ได้ให้แม่เรไรนำเอาทอง แหวน และกำไลข้อมือ ราคาร่วม 1 แสนบาทมาคืนไว้ที่พ่อก่ อนแล้ว เอาไว้แต่สร้อยข้อมือ มีชื่อจารึก พยับ เติมใจ,ร.อ.เส้นที่หวงที่สุดเส้นเดียว.....คราวสุดท้ายนี้ส่งเงินไปค่ายา ค่ารักษาพยาบาลทุกอย๋าง 16,000 บาท  เดือนก่อน ๆ ราว ๆ เดือนละ 13,000 บาท  ล่าสุดมีพิเศษ ส่งให้เป็นค่าผ้าห่มผืนใหญ่กันหนาว  1000 บาท ว่าชอบมาก อุ่นมาก)  กลับไปพัทยา มีการจัดงานฉลองวันเกิดลูกสาวเจ้าของโรงงาน  ว่าจะแต่งตัวสวยเลย   แต่งตัวด้วยชุดไหมที่พ่อให้ไป บอกตอน 2 ทุ่มแต่งตัวเสร็จแล้ว...เดี๋ยวจะลงไปแล้ว   เขาบอกว่าหงส์กำลังจะเหินลงไปข้างล่างแล้ว  ......(เขามักบอกว่าเขาเป็นคนสวยมาก)