นี่คือหนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนต) It's The Good Paper https://www.newworldbelieve.net For All Good For All Thought
อุดมการณ์ประชาธิปไตย สันติ อหิงสา ของประชาชนเสื้อแดง ทั้งแผ่นดิน ขอให้ยั่งยืน จำเริญนาน
ล่าสุด 26 เม.ย. 2553 เวลา 21.30 น. แกนนำ นปช. พายัพ ปั้นเกต เตรียมรับการสลายการชุมนึมของฝ่ายรัฐบาล ภาพนี้มาจากเวบไซต์ อีกเวบหนึ่ง ที่ผลัดเปลี่ยนกันหลบเลี่ยงการปิดกั้นของรัฐบาล ทำให้การสื่อสารของคนเสื้อแดงยังคงเดินไปได้
ล่าสุด 25 เม.ย. 2553 เย้น เสื้อแดงเปลี่ยนยุทธวิธีการรับ สุเทพ-อภิสิทธิ์ เตรียมสลายเสื้อแดงอีกครั้งหนึ่ง โดยให้เปลี่ยนเป็นเสื้อไม่มีสี หรือสวมเสื้อสีอื่น ทิ้งสัญลักษณ์ชั่วคราวเพื่อประโยชน์ในการต่อสู้ ทำให้การเดินทางเข้าร่วมในเวทีราชประสงค์สะดวกและคับคั่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีนี้ เนื่องมาจากการออกอากาศรายการไทยเข้มแข็งวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ออกรายการด้วย ซึ่งปรากฎว่า ถูกยิงคลื่นสกัดสัญญาณทำให้ต้องหยุดการถ่ายทอดไปเป็นเวลาประมาณ 10 นาที (ซึ่งทำให้มีผู้เรียกร้องให้ถอดถอนนายสาธิต วงศ์หนองเตย ออกจากตำแหน่ง ฐานที่ทำให้เกิดความบกพร่องครั้งนี้) นายอภิสิทธิ์เน้นว่าจะต้องขอพื้นที่คืนให้ได้ พล.อ.อนุพงษ์ ว่าทหารไม่ได้ปล่อยเกียว่าง แต่การจะสลายมวลชนนั้นต้องรอจังหวะ คืนวันที่ 25 เม.ย. 2553 เสื้อแดงยังคงคับคั่งและเหนียวแน่น พร้อมสู้ ในด้านสถานการณ์ ฝ่ายแดงใช้การสกัดมิให้กองกำลังตำรวจที่ได้รับคำสั่งให้เข้ามาสลายการชุมนุม หยุดการเดินทางเสีย (ที่จริงตำรวจเองเป็นฝ่ายขอร้องโดยลับ ให้ส่งคนไปสกัด เพราะตำรวจเองก็เหนื่อยหน่ายไม่ชอบงานปราบปรามประชาชนอยู่แล้ว แต่ทำเป็นรับคำสั่งของรัฐบาลเผด็จการไปเท่านั้นเอง) ทางด้านต่างประเทศ โทรทัศน์ อัลจาชีรา ยังคงติดตามรายงานข่าว โดย Wayne Hey รายงานภาคดึก ประมาณ 22.20 น. วันนี้ ว่าฝ่ายแดงเปลี่ยนสีเสื้อเป็นหลากหลายสี และยังนำสารคดีชีวิตของคนเสื้อแดงระหว่างอยู่ในการต่อสู้ที่แยกราชประสงค์เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย มีความยาวประมาณ 5 นาที ออกอากาศต่อไป ทำให้ภาพฝ่ายประชาชนแดงดีขึ้น
เมื่อมีการเข้าสลายการชุมนุม เราจะรายงานที่นี่
26 เมย.2553
20.00 น.
เราได้รับทราบจากรายงานของสื่อต่าง ๆ ว่า มีการเคลื่อนไหวของทางฝ่ายทหาร นำโดยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่พยายามเคลื่อนกำลังเพื่อทำการสลายการชุมนุมประชาชนแดง ณ สี่แยก ราชประสงค์ สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ มีม็อบ ที่เรียกว่า พันธมิตรประชาชนฯ หรือ พธม. ออกมาทำการบีบบังคับรัฐบาลอย่างเปิดเผย ให้ทำการสลายเสื้อแดงที่ราชประสงค์ให้จงได้ ล่าสุด เราได้ทราบว่า หัวหน้าม็อบกลุ่มนี้ ซึ่งเป้นนักกินผักกินหญ้า นามว่า จำลอง ศรีเมือง ซึ่งเราให้สมญาว่า อลัชชีสาวกเถรเทวทัต ถึงขนาดสั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 1 ประกาศกฎอัยการศึกจัดการกับพลเสื้อแดง รายงานข่าวที่เราได้รับมา มีข้อความว่าดังนี้ "จำลองบีบแม่ทัพภาค 1 ใช้กฎอัยการศึก เชื่อ 2 ชม.สลายแดงเรียบ สูญเสียไม่ผิดกฎหมาย" (wattanews 26 เม.ย.2553 18.38.48 น.)
เพราะฉะนั้น เราจึงเห็นสมควรที่จะเริ่มต้นติดตามข่าว การสลายแดงต่อไป นับแต่วินาทีนี้ (เพราะเราชักจะเชื่อแล้วว่า จำลอง ศรีเมือง มีอิทธิพล สั่งทหารไทยทั้งกองทัพได้จริง เสียแล้ว)
เราคิดว่าจะไม่พยายามฟังข่าวจากทีวีไทย เพราะเชื่อถือได้ยากยิ่ง เราจะพยายามฟังข่าวจากสื่อต่างประเทศ เป็นหลัก
เราคอยดู BBC.ตั้งแต่ 2 ทุ่ม เห็นเรือรบถุกระเบิดกลางลำ น่าดูมาก เพราะภาพที่ส่งมา ให้ Lucy Hocking อ่านในรายการ Impack Asia นั้น เห็นความแม่นยำจริง ๆ โดยระบิดกลางลำ เรือรบสะเทือนแล้วแตกออกเป็นสองส่วน แล้วจมลง..เป็นเรือรบของเกาหลีใต้..เหตุเกิดเมื่อดือนที่แล้ว....... ที่จริง BBC ก็ได้ติดตามข่าวแดงไทยมาตลอด แต่วันนี้ขณะนี้ยังไม่รายงาน........เราจะไปดู Aljazeera ต่อไป ..... ยัง ยังไม่ถึงประเทศไทย.......... ขอย่าให้มีรายงานมาเลย.......
20.25 น. แล้ว BBC รายงานข่าวเกี่ยวกับไทยโพลิติกส์ ว่า Thai King tells judge to bring peace. ไม่มีคำอธิบายอะไร เป็นเพียงข่าวสั้น ๆ เวลา 20.25 น. ซึ่งประกาศโดย Lucy Hocking
21.05 น. ตราบเวลานี้ Aljazeera ไม่มีข่าวจากประเทศไทย...... ที่เวทีคนเสื้อแดง เห็นจากรายงานข่าวทางเวบไซต์ แห่งหนึ่ง การชุมนุมยังคงคับคั่งและร่าเริง แกนนำคนสำคัญ วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ยังคงทำหน้าที่อยู่ตามปกติ แสดงถึงพลังประชาชน เราได้รับข่าวการสกัดกั้นทหาร และตำรวจ ทุกทิศทางไม่ให้เข้ามาสู่กรุงเทพ จนกระทั่งทหารใช้วิธีแปลก ดังรายงานข่าว ดังนี้ "... ทหารเตรียมขึ้นเรือขนทรายจากอยุธยาล่องแม่น้ำเจ้าพระยามากรุงเทพหนีด่านคนไม่มีสี/คาดเป้าหมายราชประสงค์ รายงานเมื่อ 20.40 น. red." .....ขณะเดียวกันมีข่าวล่ารายงานว่า "จตุพรไม่ซีเรียสกรณีสลายด่านเสื้อแดงตลาดไทได้ เตือน ศอฉ.อย่าดีใจไปที่ทำสำเร็จเพราะแดงทะยอยกลับราชประสงค์เหลืออยู่แค่ 100 กว่าคน รายงานเมื่อ 20.14 น. red."
และแล้ว ก็แทบไม่น่าเชื่อว่า โทรทัศน์ไทย ได้รายงานข่าวใส่ร้ายประชาชนอย่างหนัก ช่อง 11 กลายเป็นทีวีโฆษณาชวนเชื่อ เหมือนสมุนของเอเอสทีวีไปเรียบร้อยแล้ว หมายความว่า ขาดความเป็นสถานีข่าวที่เชื่อถือได้ไปอย่างสิ้นเชิง และทั้งยังลดทอนคุณภาพของสถานีข่าวลงไปเรื่อย ๆ ตามลำดับ จนกระทั่งลืมหน้าที่ของสถาบันข่าวไปเสียสิ้น เพราะข่าวทุกข่าวได้นำมาบิดเบือนใส่ร้ายคนเสื้อแดงไปทุกข่าว ทุกชิ้น ทั้งข่าวเก่าข่าวใหม่ แม้กระทั่งการนำเอาสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนามาบิดเบือนโดยโง่เขลาในธรรมะ เช่นเอาวาทะท่านพุทธทาสภิกขุมาอ้างอิงให้ร้ายคนอื่น และเป้าหมายก็คือ จะให้คนทั้งหลายเชื่อให้ได้ว่าประชาชนที่ออกมาต่อสู้ทางการเมือง แบบประชาธิปไตยนั้นเป็นผู้ก่อการร้าย สร้างภาพ และใส่ความทุกวิถีทางให้คนเกลียดชังประชาชนคนเสื้อแดงไปอย่างสุด ๆ และที่สำคัญพยายามป้ายเรื่องเสียหายอย่างร้ายแรงให้คนไทยกลุ่มหนึ่งว่าเป็นผู้ไม่มีความจงรักภักดี คิดล้มเจ้า และนั่นคือเหตุผลที่รัฐบาลต้องการปราบปรามประชาชนด้วยอาวุธ (ทำให้ได้ข้อพิศูจน์ที่แน่ชัดขึ้น กรณี 12 เม.ย.2552 ว่ามีการสั่งการฆ่าประชาชนจริง และล่าสุด 10 เม.ย. 2553 นั่นก็เป็นการล้อมปราบปรามประชาชนมือเปล่าที่ต่อสู้โดยสุจริตจริงใจ ต่อเป้าหมายทางการเมืองของพวกเขา นั่นคือ ความเป็นฆาตกร และรัฐบาลทรราช ที่โลกนับวันจะเข้าใจดีขึ้น
ความวุ่นวายทั้งหลายในประเทศไทยวันนี้ จึงเป็นเพราะรัฐบาลไม่ยอมมองปัญหาของประชาชน และไม่ยอมมองสิทธิของปัจเจกบุคคล ตามระบอบของความเท่าเทียมกันในฐานะไท ไม่ใช่ทาส ในฐานะคนผู้มีความเป็นมนุษย์ และบัดนี้ พวกเขาถูกบีบบังคับให้จำต้องป้องกันตนเอง จากความตาย จากกองกำลังอาวุธ และจากบุคคลผู้ถืออาวุธสงครามมุ่งเข้าเข่นฆ่าอย่างไมปรานี พวกเขาก็เป็นคนไทย มีบรรพบุรุษ แต่ไม่มีสิทธิในการป้องกันตนเอง ..สิทธิในการที่จะมีชีวิตอยู่ ..เลยหรืออย่างไร??? ในเมื่อแท้จริงแล้ว พวกเขาเป็นเจ้าของประทศ (จะให้พวกเขาซึ่งมีเพียงมือเปล่า นอนรอคอยซึ่งการเข่นฆ่าเช่นเหตุการณ์ 10 เม.ย. 2553 อย่างนั้นหรือ ????) การเรียกร้องสิทธิ และการต่อสู้เพื่อสิทธิ ในประเทศที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่รัฐบาลยุคนี้ถือว่าเป็นการก่อการร้ายอย่างนั้นหรือ ? และที่สำคัญ รัฐบาลไม่เคยมองความต้องการของประชาชน ที่ต้องการความยุติธรรมทางกฎหมาย กฎหมายมีไว้เพื่อที่รัฐบาลจะอ้างไว้เพื่อการปราบปรามประชาชน เท่านั้นเองหรือ? ...และกฎหมายมีไว้เพื่อพวกพ้องของรัฐบาล ทำการโกงกินจากงบประมาณรายปีอย่างนั้นหรือ??? กฎหมายมีไว้เพียงเพื่อป้องกันพวกพ้องของรัฐบาล...จากการกระทำผิดกฎหมายเสียเอง ฉะนั้นจึงมีคำว่าสองมาตรฐานเกิดขึ้น เท่านั้นเองหรือ?? ......ทำไมรัฐบาลไม่มองตรงนี้บ้าง??? และในที่สุด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด.... นั่นเป็นของธรรมดา และธรรมชาติ แต่สมดุลของโลกทั้งโลกมีอยู่ว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ มิฉะนั้นแล้วโลกก็หมุนไปไม่ได้ และโจรย่อมได้รับการตอบแทนของความเป็นโจร บัณฑิตย่อมได้รับการตอบแทนของความเป็นบัณฑิตเสมอ.....(ช่วงนี้รายงานและวิเคราะห์โดย สุไหงปาดี ชินะกุล)
27 เม.ย. 2553
16.40 น. Thailand Tension ในชม.ข่าว Aljazeera เสนอข่าวสั้น ๆ หัวข้อว่า ประเทศไทยตึงเครียด แล้วเสนอภาพเหตุการการปิดเส้นทางรถไฟฟ้า BTS เมื่อเช้าวันนี้ ซึ่งเดิมไม่มีใครเชื่อว่า เป็นเสื้อแดงทำ และเสื้อแดงได้ปฏิเสธ ตามรายงานข่าวว่า "บชน.5 แจงตรวจสอบแล้ว นปช.ไม่ได้วางยางบนรางรถไฟฟ้า BTS แค่ตั้งแนวรับบนสถานี w. 10.28.06 น." ที่จริงมีกล้องวงจรปิดทุกสถานี สามารถดูพิศูจน์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มีข่าวต่างประเทศถ่ายทอดการให้สัมภาษณ์ของนางอ่องซาน ซุจี ผู้นำฝ่ายค้าน ที่นำประชาชนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย จนเกิดเหตุการณ์นองเลือดในย่างกุ้ง กรณี 10 ต.ค. 2550 ประชาชนออกมาร่วม 7 หมื่น พระสงฆ์อีก 3 หมื่น รวมเป็น 1 แสนคน/รูป เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย (ตามรายงานสำนักข่าวไทย ประเทศไทย) ถูกปราบปรามโดยกองทหารฝ่ายรัฐบาลทหารเผด็จการอย่างเหี้ยมโหด(โหดกว่าทหารไทยมาก) ประชาชนเสียชีวิตไปร่วม 200 คน พระสงฆ์มรณภาพไปร่วม 50 รูป(ตามรายงานข่าวบางกระแส) และให้กักกันนางอ่องซาน ซูจีไว้ เป้นเหตุให้ประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกนับแต่อเมริกา อังกฤษ ทำการประท้วงมาเป็นระยะ ๆ ให้คืนประชาธิปไตยให้แด่ประชาชนชาวพม่า คราวนี้นางอ่องซาน ซุจี เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ในประเทศไทยมีสาเหตุมาจากคณะเผด็จการปกครองประเทศ ข้อความตามรายงานข่าวว่า "ซูจีมองไทย เผด็จการทำวุ่น ปณิธานสวนพม่าปิดกั้นข่าวเลยไม่รู้ความจริง wat. 26เม.ย.2553 11.36.05" การที่เราให้ความสนใจข่าวนี้ก็เพราะ ทางคณะรัฐประหาร-ปฏิวัติไทย 19 ก.ย.2549 ได้มองพม่าเป็นแบบอย่าง แต่กลับประเมินสถานการณ์ประชาชนไทยผิดพลาดไปมหันต์ จึงทำการยึดอำนาจ 19 ก.ย.2549 อย่างผิดพลาด สร้างความเสียหายแด่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่โตมาจนถึงปัจจุบันนี้ คนอย่างนายปณิธาน วัฒนายากร ก็ยังมองไม่เห็นความผิดพลาดอย่างไร และยังมองไปถึงการปิดข่าวในพม่า แท้จริงเป็นเพราะรัฐบาลพม่าเองเป็นผู้ปิดข่าว โดยทำการปิดกั้นสื่ออย่างสนิท เดิมชาวโลกสามารถรับข่าวจากสถานีโทรทัศน์เมียนมาทีวี 1-2-3 ได้ ทำให้ทราบเรื่องราวในพม่าบ้าง แต่บัดนี้รัฐบาลเผด็จการได้ทำการปิดสถานีข่าว เมียนมาร์ทีวีเสียสนิท จนกระทั่งบัดนี้พม่าเป็นแดนสนธยา ไม่มีใครทราบเรื่องภายในอะไรในพม่าเลย และรัฐบาลอภิสิทธิ์-นายสุเทพ ประเทศไทย พยายามทำตามอย่างที่ผิดพลาดเช่นนั้นทำไม?????
17.00 น. อัลจาชีรา ถ่ายทอดข่าวสั้น เกิดการตีกันในขณะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรประเทศ Ukrain ถ้ามองแบบการกีฬาชนิดหนึ่งก็น่าดูไปอีกแบบหนึ่ง มีการยื้อยุดประท้วงขณะมีผู้อภิปราย บนบัลลังก์ แล้วมีการโยนของใส่กันและกัน แล้วมีต่อยตีกันปากแตกเลือดอาบไปหลายคน มีการโยนแก๊สหลังที่ประชุมควันโขมง อยู่ชั่วขณะการประชุมจึงสงบ เป็นการประชุมเพื่อผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งเกี่ยวกับเรือ(อัลจาชีรา ยังนำมาออกซ้ำอีกหลายครั้ง คงมองว่าดูสนุกดีเหมือนกัน)
ในเวลาก่อนที่จะเกิดฆ่าล้างผลาญกันอีกครั้งในพม่า หลังเหตุการณ์ 10 ต.ค. 2550 ทางเรายังได้เตือนไปยังรัฐบาลพม่า ให้ระวังการก่อกรรมบาป ถึง 3 ครั้ง เราจะยกมาให้ฟังครั้งที่ 2 ดังนี้ :-
A Second Urgent Message to Myanmar
According to tv news in Thailand and all over the world especially BBC in England and VOA in America today; October 31, 2550[2007], everyone sees a long parade of the monks in Union of Myanmar, marching along the road to protest the government of Myanmar about the soldier regime. They want not dictator. But they call for freedom. They want not autocracy. But they want democracy. These news remind us the sad stories in Myanmar last October 10,2550[2007]. For in the day,the government did a heavy sins. A specific source said more than 50 monks were killed which was an unexpected event in Myanmar. For Myanmar has been the land of pagodas or the land of yellow robes where Buddhism has been established firmly. The world has accepted many good things from Buddhism Myanmar. But today Myanmar seems to have a great change. They change from freedom to slavery. From grand expansive to narrow-minded and backward thought. From merciness to cruelty. So it seems the people of the world are being afraid that those monks marching in the street would be harmed, or killed as well as those eliminated in October 10,2550[2007]. Not only the European and American countries but all countries in the world dislike violence. Now the soldier regime in Myanmar is trying to do what would result a bad luck to its own country. For example; The minority groups in the border of Myanmar who are different in race and believes would grow stronger and cause a more trouble to all Myanmar and to its believe in its olden religion. What would reflect a justice conscience from the present ruler? So I would like to beg for peace not violence.To live not to die. The only way is to give the people a new constitution with freedom, liberty and equality. Men in uniform should withdraw. Best Wish from Me.
ข้อคิดก็คือ ต่อมาผลกรรมบาป ที่ฆ่าภิกษุและประชาชนคราวนั้น ประเทศพม่าได้เกิดพายุ นากิสถล่ม คนพม่าตายไปกว่า 1.5 แสนคน มากพอ ๆ กับคนตายรวมกันของสินามิของประเทศแถบทะเลอันดามัน ปีนั้นเสียอีก คงจะจำได้.....
ภาพล่าสุด 20 เม.ย. 2553 โทรทัศน์ Aljazeera โดย Ziah Ibrahim นักข่าวสาว (ยืนตรงกลาง) รายงานจากกรุงเทพ เสื้อแดงเตรียมงานการรุกขั้นต่อไปอย่างไม่หวาดหวั่น พวกเขาต้องการต่อสู้เพื่อ ประชาธิปไตย พวกเขาประกาศให้โลกรู้ไปทั่วโลกแล้วว่า We just want democracy นั่นคืออำนาจการปกครองเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน พระมหากษัตริย์มิได้ทรงพระราชทานอำนาจของพระองค์ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือ คณะบุคคลใดคณะบุคคลหนึ่ง แต่ทรงพระราชทานให้ประชาชนทั้งปวง บัดนี้ มีเพียงคณะบุคคลหนึ่ง ปล้นอำนาจประชาธิปไตย อันเป็นของพระราชทานจากกษัตริย์ พวกเขาจึงต้องต่อสู้ เพื่อเอาประชาธิปไตยคืนมา ในเวลาใกล้เคียงกันนี้ กระทรวงต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่า ขบวนการเสื้อแดง ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย กรุงเทพมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายแก่นักท่องเที่ยว (ทั้งนี้ ตามกระแสข่าว SMS ที่เชื่อถือได้)
ทูต 40 ประเทศเยี่ยมชนเสื้อแดง
ภายหลังเหตุการณ์สลายม๊อบเสื้อหลากสี ในคืนวันที่ 22 เมษายน 2553 แล้ว ทางนปช.หรือแนวร่วมประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ ได้เดินเรื่องเพื่อเผยแผ่ความจริงวันนี้ เกี่ยวกับการที่รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้ทำการล้อมปราบปรามประชาชน ตลอดวันที่ 10 เมษายน 2553 เป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิตเพราะผลของการใช้อาวุธสงคราม มีปืน และระเบิด เป็นต้น จำนวนถึง 25 คน บาดเจ็บอีกจำนวนกว่า 800 คน พร้อมกับทางพรรคฝ่ายค้านคือพรรคเพื่อไทย ได้เสนอความจริง ทางเอกสารและซีดี ไปทางสถานทูตประเทศต่าง ๆ ในประเทศไทย การที่ทางสถานทูตประเทศต่าง ๆ ส่งทูต จำนวน 40 คน/ประเทศเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยเพื่อรับทราบความจริง แล้ว ได้เดินทางต่อมาเยี่ยมเยียนและรับทราบความจริงเพิ่มเติมในที่ชุมนุมเวทีคนเสื้อแดง และรับทราบการต่อสู้ทางสันติและอหิงสา ณ เวทีราชประสงค์ ในวันที่ 23 เมษายน 2553 เวลา 17.48 น.ขณะการชุมนุมคับคั่งนั้น น่าที่รัฐบาลจะได้คิดเป็นอย่างดีชัดเจนว่า ขณะนี้บทบาทของรัฐบาลไทยนั้น ผิดพลาด จนเตลิดไปนอกครรลองของสันติ อหิงสาไปอย่างไรแล้ว และไม่เป็นไปตามครรลองการบริหารงานภายใต้การเมืองระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่เห็นชัดเจนก็คือการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มิได้มองว่าประชาชนมาชุมนุมตามสิทธิทางการเมืองวิถีทางประชาธิปไตย เป็นการชุมนุมทางการเมือง แต่ ได้กล่าวหาว่าประชาชนที่มาชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้าย และเรียกร้องให้ประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง คือชนเสื้อหลากสี ออกมาชุมนุมเผชิญหน้าประชาชนเสื้อแดง ในคืนวันที่ 22 เม.ย.2553 โดยไร้เหตุผลอย่างยิ่ง และยังพยายามที่จะขัดคำสั่งศาลแพ่ง ที่ได้ออกคำสั่งให้ความคุ้มครอง นั่นคือศาลเองก็มีเจตนาให้ทุกฝ่ายใช้หลักสันติ อหิงสา มิให้มีการใช้อาวุธเข้าเข่นฆ่าประชาชนต่อไปอีก โดยนายสุเทพยังคงพยายามที่จะใช้กองกำลังทหาร ตำรวจ เข้าสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงต่อไป (แต่ที่ทำไม่ได้นั้นเป็นเพราะแดงทั้งแผ่นดินร่วมกันสกัดกั้นกองกำลังต่าง ๆ เอาไว้เสียก่อนเคลื่อนย้ายมาถึงกรุงเทพ) นั้นเป็นการมองจากสายตานักการเมืองยุคเผด็จการทรราชอย่างแท้จริง ทางโทรทัศน์ต่างประเทศอัลจาชีรา ล่าสุดวันที่ 25 เม.ย.2553 ก็ยังคงติดตามเหตุการณ์และรายงานความจริงการต่อสู้ของชนเสื้อแดง ที่แดงทั้งแผ่นดินต่อไป เมื่อค่ำนี้เวลา 18.30 น. ก็ได้รายงานการชุมนุมคนเสื้อแดง และทำการสัมภาษณ์ประชาชขนี่เข้าร่วมการต่อสู้ และยังสัมภาษณ์ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนสำคัญของคนเสื้อแดง อันเป็นการเผยแผ่ความจริงของการต่อสู้อย่างสันติ อหิงสา เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยไทยต่อไปจนถึงที่สุด จนกว่ารัฐบาลจะยุบสภา และยังนำรายการศึกษาโครงการมาบตาพุดของรัฐบาลอภิสิทธิ์ มาออกซ้ำอีก
ล่าสุด 22 เม.ย.2553 ข่าวภาคกลางคืน ของโทรทัศน์ Aljazeera โทรทัศน์ที่ดมกลิ่นสงครามมาทั่วโลก บัดนี้ได้ติดตามเหตุการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และได้ทำการศึกษาถึงต้นตอปัญหาต่าง ๆ ในประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่อง ในวันก่อน ๆ ได้ทำการสัมภาษณ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ฝ่ายเสื้อแดง และทำการสัมภาษณ์นายไกรศักดิ์ ชุณหวัณ ฝ่ายรัฐบาล เพื่อทราบปัญหาทางการเมืองไทย วันต่อมาได้สัมภาษณ์นักการเมืองไทยอีกหลายคน วันนี้ ขณะที่นำเสนอภาพแผนที่ประเทศไทยแดงทั้งประเทศนี้ เป็นการเสนอขณะเบรกข่าว เวลาประมาณ 20.40 น. ว่ามีการระเบิดในประเทศไทย 3 จุด อย่างไรก็ตาม นี่อาจจะเป็นเหตุให้ อัลจาชีรา มองว่าสถานการณ์เมืองไทยรุนแรงขึ้นไปก็ได้ แต่ในขณะเดียวกัน วันนี้ทั้งวัน อัลจาชีรา ให้ความสนใจติดตามศึกษาโครงการมาบตาพุดที่ผิดพลาดของรัฐบาลอภิสิทธิ์ การที่พวกเขาติดตามหาความจริงเหล่านี้ น่าเป้นผลดี เพื่อทั่วโลกจะได้ทราบว่าเบื้องหลังแดงทั้งประเทศไทยนั้น แท้จริงเป็นเพราะรัฐบาลบริหารงานอ่อนด้อยอย่างไร เชื่อว่า อัลจาชีรา จะยังคงติดตามศึกษาประเทศไทยต่อไปอีกอย่างละเอียด และดูเหมือนจะเป้นเป้าหมายการศึกษาที่สำคัญ เพื่อสรุปหาทฤษฎีต้นเหตุแห่งความรุนแรงในประเทศไทย และต้นเหตุของ การแดงทั้งแผ่นดินอยู่ในขณะนี้
Thailand Violence แล้วเบรกนิวส์ชั่ว อึดใจต่อมา เวลาประมาณ 20.50 น. อัลจาชีราก็รายงาน มีระเบิดลูกที่ 4 ว่า เป็น Thailand Crisis แล้ว จุดที่ระเบิดเป็นบริเวณถนนสีลม ปรากฎว่าระเบิดลงที่บริเวณชุมนุมของคนเสื้อหลากสี ที่อยู่คนละฝั่งกับคนเสื้อแดง นปช. มีคนเสื้อหลากสีล้มเจ็บ และไม่นานคนที่มาชุมนุมตื่นตกใจแตกหนีไปหมดเห็นการเคลื่อนของกองกำลังทหารส่วนหนึ่งเข้าสู่สถานที่เกิดเหตุการณ์ (โปรดติดตามข่าวจากสื่อหลาย ๆด้านต่อไป....)
21.50 น. Aljazeera รายงานการระเบิดมีถึง 5 ครั้ง ระเบิดขึ้นในย่านธุรกิจ มีคนเจ็บจำนวนหลายโหล ดูเหมือนเป้ฯการระเบิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมของพลเสื้อหลากสี เห็นพลเสื้อหลากสีล้มลง และถูกหามส่งรพ.หลายคน อัลจาซีรา เสนอภาพการขว้างปากันระหว่างคนสองกลุ่ม เห็นภาพของฝ่ายที่สวมเสื้อหลากสีออกอาการเกรี้ยวกราด กระทำต่อฝ่ายเสื้อแดง อัลจาชีรา มีข่าวระเบิดในประเทศอื่นอีกคือที่จอร์แดน มีไครสิสของรัฐบาลเบลเยียม และมีข่าวการประชุมสภาใหม่ของศรีลังกา........และมีข่าวภูเขาไฟระเบิด.....
Aljazeera ในช่วงนี้ยังได้เสนอข่าวเสื้อแดงยกขบวนทัพไปที่ทำการสหประชาชติ มีการสัมภาษณ์หมอเหวง โตจิราการ ๆ ว่าเพื่อขอให้หน่วยรักษาความปลอดภัยสหประชาชาติมาดูแลคนเสื้อแดงผู้ต่อสู้อย่างสันติและอหิงสาตามหลักการประชาธิปไต แต่เกรงว่ารัฐบาลนี้จะทำการปราบปรามด้วยอาวุธเฉกเช่นเหตุการณ์ 10 เม.ย.2553 หากไม่มีกองกำลังมาดูแล ชนเสื้อแดงอาจถูกฆ่าล้างยกทั้งหมดแบบกัมพูชาก็ได้
22.30 น. รายงานเพิ่มเติม ว่ามีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 75 คน กลุ่มคนเสื้อหลากสีแตกกระเจิง
23 เม.ย. 2553
0800 น. อัลจาชีรา รายงานต่อ โดยนักข่าวชายจากกรุงเทพ ว่า เชิร์ตแดงมาชุมนุมกันหลายสัปดาห์แล้ว เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก เพราะเหตุไร้ฝีมือการบริหารประเทศ ว่าประชาชนในชนบท และชนชั้นกลางส่วนมากมีความพอใจการบริหารงานของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ... ประมาณ 08.30 น. Sean Boonprakong ฝ่ายเสื้อแดงรายงานความจริง ผ่านทีวีช่องนี้ และมี ปณิธาน วัฒนายากร ออกแถลงการณ์เช่นเดียวกัน ... ชอน บุญประคอง เป็นคนไทยในอเมริกา ที่มาชื่นชมอุดมการณ์ของเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย และรับหน้าที่แถลงวความจริงการต่อสู้ของเชิร์ตแดงออกไปสู่สากลประเทศ วันนี้ อัลจาชีรา และสื่อโลกยอมรับเขา
ล่าสุด สุเทพ เทือกสุบรรณ ยังเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรับผิดชอบฝ่ายความมั่นคง ของประเทศอยู่ ภาพนี้ออกที่เอเอสทีวี ดึกคืนวันที่ 13 เม.ย.2553 แถลงว่าพวกเสื้อแดงคือผู้ก่อการร้าย ประเทศไทยถูกยึดครองโดยผู้ก่อการร้าย ขอให้ประชาชนออกมาช่วยกันขับไล่พวกก่อการร้าย และด้วยการแถลงของ สุเทพ ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาอีก ตลอดคืน โดยได้มีกระแสการเข้าปราบปรามประชาชนขึ้นอีก ซึ่งถ้านับยกแล้ว รัฐบาลแพ้มา 2 ยกแล้ว กำลังพยายามจะแก้ตัวอีก เป็นยกที่ 3 บางทีรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะพลาดในเรื่องการบริหารจัดการบุคคลไปอีกครั้งหนึ่ง โดยเอาคนหัวเก่าที่สุด มาจัดการเรื่องความมั่นคง ซึ่งเป็นการใช้แนวคิดที่ผิดยุค จนกระทั่งเราก็ได้เคยชี้แนะเอาไว้ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ........ แกเป็นคนยุคไดโนเสาเต่าล้านปีจริง ๆ ...คนผิดยุค........... และมีเหลือมาเพียงไม่กี่ตัว กำลังจะสูญพันธ์ ๆ สุดท้ายแล้ว ........... เพราะอึดอัด นึกไม่ออกว่าแกจะปรับตัวอย่างไร จึงจะอยู่ต่อไปได้ในยุคไฮเทกนี้.............. คำว่าความมั่นคง มันไม่ใช่แบบที่คุณคิด ......... ไม่ใช่กองทหาร.......ไม่ใช่อาวุธ................. ไม่ใช่รถถัง..........ถ้าคุณคิดแบบนั้น มันผิดยุค......มันสิ้นเปลืองงบประมาณเหลือเกิน โดยไม่คุ้มค่า...และไม่เกิดความมั่นคงเลย .................. ยุคนี้ ความมั่นคงอยู่ที่การจัดการประชาชน ให้เขาเลื่อนไหลไปตามครรลองของสิทธิ....ผลประโยชน์.... การอาชีพ.........วิธีที่เขาได้เขาเสียอย่างไร......ให้เกิดความเป็นธรรม............ ซึ่งวิธีเหล่านี้แหละเรียกว่าครรลองประชาธิปไตย....... เข้าใจหรือเปล่า???????? ซึ่งสุเทพ ทึบเกินกว่าจะเข้าใจและบริหารได้ จึงเกิดเหตุการณ์ 10 เม.ย.2553 อันเป็นเหตุของหายนะแก่รัฐบาลเขาเอง เมื่อได้ชื่อเต็มสมบูรณ์ว่ารัฐบาลทรราช รัฐบาลฆาตกร
เป็นเวลา 9 วันต่อมา ในวันที่ 21 เม.ย.2553 ภายหลังการออกวาทะของนายสุเทพ เทือกสุบรรณว่า พวกเสื้อแดงคือผู้ก่อการร้าย ประเทศไทยถูกยึดครองโดยผู้ก่อการร้าย ขอให้ประชาชนออกมาช่วยกันขับไล่พวกก่อการร้าย จนเป็นเหตุให้สถานการณ์ตึงขึ้นมาทันที สืบมาถึงปัจจุบันนี้ (พวกเอเอสทีวี ระดมกันยุยงส่งเสริมฝ่ายตรงข้ามเสื้อแดงกันใหญ่ โดยระดมกล่าวหาว่าพวกเสื้อแดงคิดการจะล้มจ้าวอีกต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีสถาบันของรัฐให้การชำระความยุติธรรมแด่ฝ่ายที่ถูกกล่าวหา) ได้มีข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา อันเป็นประเทศแบบอย่างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริการะบุสั้น ๆ เชิงเตือนสติฝ่ายรัฐบาลไทยว่า เหตุการณ์เสื้อแดงในประเทศไทยเป็นเรื่องการเมือง (แบบประชาธิปไตย) ประชาชนที่ออกมาประท้วงไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย และให้คำมั่นว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยมีความปลอดภัยสูง (Wattnews.21เม.ย.53 10.44.31) ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะต้องรับผิดชอบอย่างไร ก็เป็นสิ่งที่ประชาชนไทยจะต้องมองด้วยความเป็นธรรมและโดยการใช้พิจารณญาณบนพื้นฐานหลักการการปกครองของระบอบประชาธิปไตยเป็นหลักสำหรับการตัดสินใจด้วย ซึ่งสำหรับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เราขอเน้นว่า ท่านจะต้องเข้าใจประเด็นของความมั่นคงให้ถูกต้องตามยุคสมัยเสียก่อน ขอเน้นว่า ความมั่นคงของยุคใหม่ ยุคที่ประชาชนมีเสรีภาพ มีภราดรภาพ และมีอำนาจการปกครองคนละ 1 เสียง ตามหลักความเสมอภาคสากลนั้น ความมั่นคงของชาติไม่ได้อยู่ที่ อำนาจ ไม่ใช่กองทหาร.......ไม่ใช่อาวุธ................. ไม่ใช่รถถัง..........ถ้าคุณคิดแบบนั้น มันผิดยุค......มันสิ้นเปลืองงบประมาณเหลือเกิน โดยไม่คุ้มค่า...และไม่เกิดความมั่นคงเลย .................. ยุคนี้ ความมั่นคงอยู่ที่การจัดการประชาชน ให้เขาเลื่อนไหลไปตามครรลองของสิทธิ....ผลประโยชน์.... การอาชีพ.........วิธีที่เขาได้เขาเสียอย่างไร......ให้เกิดความเป็นธรรม............ ซึ่งวิธีเหล่านี้แหละเรียกว่าครรลองประชาธิปไตย....... เข้าใจหรือเปล่า???????? และวันนี้สิ่งที่รัฐบาลจะต้องหยุดเพื่อการไตร่ตรองให้รอบคอบ มีเหตุมีผลก็คือ ความต้องการของประชาชน พวกเขาเรียกร้องอะไร และเพียงความพอใจในทฤษฎีที่ว่า เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ เท่านั้นเอง ท่านก็จะสามารถตัดสินใจได้โดยง่ายดาย และ ประเทศคืนสู่ความสงบทันที.... โปรดเชื่อในประชาชน เชื่อในประชาธิปไตย
|