ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


ไทยรัฐ : ไทยรุก-โต้เขมร ฉีกเอ็มโอยู เขตพท.ทับซ้อน
 

 

"อภิสิทธิ์" ยันตอบโต้เขมรเพื่อปกป้องผลประโยชน์คนไทยและปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทย กระทรวงต่างประเทศรุกคืบเดินหน้าทบทวนเอ็มโอยู กรณีการอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน 2.6 หมื่นตารางกิโลเมตร ที่ทำในสมัยรัฐบาลทักษิณตั้งแต่ปี 2544 อ้างอดีตนายกฯรู้ข้อมูลดี   อาจทำให้ฝ่ายไทยเสียเปรียบในการเจรจา 40 ส.ว.-พันธมิตรฯประสานเสียงสนับสนุนท่าทีรัฐบาล แถมเรียกร้องให้กดดันกัมพูชาหนักขึ้น ขณะที่ "ทักษิณ" ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯอภิสิทธิ์ ฉะรัฐบาลทำเกินกว่าเหตุ ดักคออย่าปลุกกระแสชาตินิยม ด้านบรรยากาศชายแดนไทย-กัมพูชาเริ่มเหงา พ่อค้าแม่ค้าหวั่นความขัดแย้งบานปลาย เซียนพนันก็ผวาไม่กล้าเข้าบ่อน เขมรตอบโต้อ้างเลิกเอ็มโอยูไม่ได้

กรณีที่รัฐบาลไทยเรียกตัวเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ กลับมาที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต เพื่อแสดงออกถึงการตอบโต้ รัฐบาลกัมพูชาและนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่แต่งตั้ง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาก็แก้เกี้ยวด้วยการเรียกตัวเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กลับประเทศกัมพูชานั้น

"สุเทพ" ย้ำจำเป็นตอบโต้กัมพูชา

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 6 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีรัฐบาลไทยหลังลดระดับความสัมพันธ์ ทางการทูตกับกัมพูชาว่า ก็ต้องทำเป็นขั้นตอนไป เพราะวิธีดำเนินการทางการทูตมีขั้นตอนในการปฏิบัติ ในช่วงแรกต้องเรียนว่าฝ่ายไทยต้องใช้ความอดทนมาก เวลาที่ตนพูดจาถึงกรณีนี้จะพยายามระมัดระวังพูดให้ดูเบาเข้าไว้ แต่เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากเห็นแถลงการณ์ ของรัฐบาลกัมพูชา ชัดเจนว่าสิ่งที่แสดงออกมานั้นกระทบต่อเรื่องภายในของประเทศไทย ท่าทีที่เขาประกาศชัดเจนว่าจะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้กับประเทศไทย และให้เหตุว่าเพราะเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท. ทักษิณถูกเล่นงานทางการเมือง ทั้งที่ความจริงเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ตนได้รับมอบหมายให้ไปอธิบายกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า พ.ต.ท.ทักษิณหลบหนีคดีอาญาที่ผ่านการพิจารณาจากศาลยุติธรรมของไทย แต่เมื่อกัมพูชาแสดงท่าทีอย่างนี้แสดงว่าได้ก้าวล่วงเข้ามาในเรื่องภายในประเทศไทยแล้ว จึงจำเป็นที่รัฐบาลไทยต้องตอบโต้ ทางการทูต ยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะดำเนินการให้พอเหมาะพอดีกับเหตุการณ์ จะไม่ทำอะไรให้เกินเลยไป

รอดูท่าทีวันต่อวัน-ขู่อาจปิดด่าน


นายสุเทพกล่าวว่า ส่วนการลดระดับความสัมพันธ์ จะยืดเยื้อเท่าใดนั้น ต้องดูสถานการณ์ว่าฝ่ายกัมพูชาจะคิดได้หรือไม่ จะเข้าใจได้หรือไม่ เราต้องประเมินท่าทีทุกอย่างให้ชัดเจนก่อน บางอย่างเหมือนกับเป็นหวัด ถ้าเป็นน้อยทานยาก็หาย แต่ถ้าเป็นมากก็ต้องดำเนินการมากกว่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินว่าสถานการณ์ไปถึงระดับใดจึงจำเป็นต้องปิดด่านตามแนวชายแดน นายสุเทพกล่าวว่า "ก็ดูท่าที ถ้ากัมพูชาแข็งกร้าว โต้ตอบมาในลักษณะไม่ประนีประนอม ระดับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศก็ต้องลดลงไปเรื่อยๆ อาจจะต้องถึงขั้นปิดด่านชายแดนอะไรก็ว่าไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่านักธุรกิจของไทยได้รับผลกระทบ แต่ไม่ใช่เราจะไปเปิดศึกอะไร การยิงกันกับการปิดด่านเป็นคนละเรื่องคนละอย่าง ผมยังคาดหวังว่าอะไรมันจะต้องดีขึ้น โดยต้องดูสถานการณ์ วันต่อวัน"

ฉะ "ทักษิณ" เอาประเทศเป็นของเล่น

ต่อข้อถามว่า มีบางฝ่ายมองว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้ไทยรบกับเพื่อนบ้าน จะถือว่ารัฐบาลกำลังเดินตามเกมของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า มีหลายฝ่ายหลายคนบอกกับตนว่า ทั้งหมดสงสัยจะเป็นแผนการของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อที่จะทำให้ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีปัญหารุนแรงมากขึ้น แต่จะให้สรุปอย่างนั้นเสียทีเดียวคงไม่ได้ ต้องติดตามดูว่าจะจริงหรือไม่อย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณก็เคยเป็นนายกฯ ต้องมีความรับผิดชอบชั่วดีที่จะไม่ทำร้ายประเทศไทย เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่ารัฐบาลไทยตอบโต้กัมพูชาเกินความเป็นจริง นายสุเทพกล่าวว่า "คุณทักษิณไม่ควรจะเอาประเทศชาติมาเป็นของเล่นสำหรับการช่วงชิงอำนาจ เพราะยังสามารถทำได้ด้วยวิธีการอื่น ทั้งนี้ ผมได้กำชับให้ฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา และผมพร้อมที่จะเรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง"

อุ้ม "กษิต" ตอบโต้ถูกต้องแล้ว

เมื่อถามว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ มีบทบาทอ่อนเกินไป ตามเกมกัมพูชาไม่ทัน นายสุเทพตอบว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น และเรื่องนี้ไม่ใช่รัฐมนตรีของเราไปหาเรื่องเขา แต่เขาหาเรื่องเรา นายกษิตก็ต้องตอบโต้
เป็นธรรมดา เมื่อถามว่าถ้าถึงขั้นต้องรบกันจริงๆ ไทยพร้อมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ทำไมวัยรุ่นจัง มันไม่ใช่เรื่องสนุก เพราะถ้ารบกันยิงกันต้องมีคนบาดเจ็บล้มตาย ก็ล้วนแต่เป็นญาติพี่น้องเราทั้งนั้น อย่าไปคิดสนุกตามอารมณ์ เรื่องสงครามต้องหลีกเลี่ยง ใช้วิธีการอื่นไปก่อน

"อภิสิทธิ์" สั่งเตรียมมาตรการตอบโต้

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการร่วมประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ภายหลังงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นและสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำลุ่มน้ำโขงว่า   การปรับลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาหลังจากที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฮุน เซน และเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา รวมทั้งยืนยันจะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้ไทย หาก พ.ต.ท.ทักษิณไปพำนักในกัมพูชานั้น เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของไทย และปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทย ตนคิดว่ารัฐบาลและคนไทยได้แสดงออกบนความอดทนอดกลั้นพอสมควร เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขในระดับทวิภาคีทั้ง 2 ประเทศ แต่ปัญหาไม่ได้เกิดจากรัฐบาลไทย ดังนั้นอยู่ที่กัมพูชาต้องไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ต้องให้เวลาระยะหนึ่งเพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศเตรียมมาตรการต่างๆไว้แล้ว โดยรัฐบาลจะพิจารณาตามความเหมาะสมว่าเรื่องใดควรเดินช้าหรือเดินเร็ว แต่ยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาความรุนแรง

"กษิต" เดินหน้าทบทวนเอ็มโอยู


ขณะที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งร่วมคณะนายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่ญี่ปุ่นด้วย ได้โทรศัพท์ทางไกลมาแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวประจำกระทรวงการต่างประเทศว่า กรณีรัฐบาลไทยประกาศท่าทีทบทวนพันธกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นกับฝ่ายกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ทบทวนแล้ว 1 เรื่องคือ บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน ฉบับวันที่ 18 มิ.ย. 2544 ซึ่งทำในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยจะนำเสนอให้ ครม.พิจารณาแจ้งการบอกเลิกเอ็มโอยูฉบับดังกล่าวกับฝ่ายกัมพูชาในวันที่ 10 พ.ย.นี้

หวั่นเสียประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อน


นายกษิตกล่าวว่า เหตุผลที่ยกเลิกเอ็มโอยูฉบับดังกล่าวคือ 1. กระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าการที่รัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชาภายใต้เอ็มโอยูฉบับนี้ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลักดันให้รัฐบาลไทยในขณะนั้นจัดทำเอ็มโอยูดังกล่าว และ พ.ต.ท.ทักษิณรับรู้ท่าทีในการเจรจาของฝ่ายไทย ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงไม่อาจดำเนินการเจรจากับฝ่ายกัมพูชาบนพื้นฐานของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ได้ 2. เรื่องพื้นที่เขตทางทะเลที่ไทยกับกัมพูชา อ้างสิทธิทับซ้อนกันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งต่อผลประโยชน์ของชาติ   เป็นพื้นที่กว่า 26,000 ตารางกิโลเมตร และมีศักยภาพอย่างยิ่งทางทรัพยากรธรรมชาติอย่างสูงคือก๊าซ การเจรจาเรื่องนี้จึงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศอย่างกว้างขวาง กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นสมควรให้ดำเนินการเรื่องนี้โดยให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม 3. การเจรจากรอบเอ็มโอยูดังกล่าวในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ไม่มีผลคืบหน้าเป็นรูปธรรมตามวัตถุประสงค์ของเอ็มโอยู กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นควรให้ทั้งสองประเทศใช้แนวทางการเจรจาอื่นตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ

ขู่เลิกให้งบช่วยสร้างถนน

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้บริหารประเทศในขณะที่ทำเอ็มโอยู ทำให้ได้รับทราบแนวทางการเจรจา ท่าทีและความลับที่มีอยู่ในขณะนั้น แต่ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาให้กัมพูชาแล้ว อาจมีผลเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์อย่างสำคัญ ทำให้รัฐบาลต้องยกเลิกเอ็มโอยูดังกล่าว ส่วนเอ็มโอยูอื่นที่ทำในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ อนาคตอาจมีการพิจารณายกเลิกอีก ส่วนที่มีการมองว่ารัฐบาลไทยเต้นตามเกมนั้น จะบอกว่าตกหลุมไม่ตกหลุมยังไงก็ต้องเดินหน้ารักษาศักดิ์ศรีของเรา ต้องดูว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร และหากถูกระงับการช่วยเหลือ การสร้างถนนอะไรต่างๆที่เราได้อนุมัติไว้แล้ว ถ้าไม่ออกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ล่าสุดขณะนี้ที่ ครม.อนุมัติกรอบงบประมาณ 1,400 ล้านบาทในการสร้างถนนเส้นที่ 68 แล้วก็ต้องดูอีกที ขอย้ำว่าทุกมาตรการไม่ใช่ข้อต่อรอง แต่สถานการณ์อย่างนี้หากรัฐบาลไทยช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชา แล้วเราจะตอบคนไทยอย่างไร

แฉอดีตนายกฯได้ประโยชน์ทับซ้อน


นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนการที่รัฐบาลเรียกทูตกลับประเทศไทย และทบทวนบทบัญญัติและข้อตกลงความร่วมมือกับกัมพูชา โดยสิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษคือ แบบแผนของการวางนโยบายสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่ามีการบรรลุข้อตกลงหลายอย่าง และเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นจากการเป็นนายกฯแล้วได้พยายามแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจกับข้อตกลงดังกล่าว 2-3 เรื่อง เรื่องแรกคือ บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชา อ้างสิทธิในหลายพื้นที่ทับซ้อนกัน ซึ่งลงนามไว้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2544 โดยเฉพาะการสำรวจทรัพยากรบริเวณเขตพื้นที่รอยต่อไทยกัมพูชา พ.ต.ท.ทักษิณพยายามขอสัมปทานเพื่อไปพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว โดยได้รับคำยืนยันทั้งจากรัฐมนตรีของกัมพูชาและรอง ผบ.ทบ.ของไทยว่ามีความพยายามดังกล่าวจริง เรื่องที่ 2 การออกมติ ครม.สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ กว่า 10 ครั้ง ที่มีการดำเนินการต่อเนื่องทั้งเรื่องการพัฒนาบริเวณที่เกาะกง-สะแรอัมเบิลในกัมพูชา เพื่อพัฒนาทางหลวงหมายเลข 48 เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นจากตำแหน่ง สื่อมวลชนกัมพูชารายงานว่า มีการคัดค้านการที่รัฐบาลมอบสัมปทานเกาะกงให้กับอดีตนายกฯไทยเป็นเวลา 99 ปี และเรื่องที่ 3 เมื่อเดือน ส.ค.2546 รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณยอมรับการจัดทำแผนแม่บทและข้อกำหนดอำนาจหน้าที่ในการสำรวจเขตแดนร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา หรือทีโออาร์ โดยในข้อตกลงข้อที่ 1 ค. ระบุถึงพื้นที่ 1 ต่อ 200,000 ผลจากทีโออาร์ดังกล่าวมีผลผูกพันต่อมาทำให้ข้อต่อสู้ของรัฐบาลกัมพูชาสามารถอ้างอิงถึงการ
ยอมรับแผนที่ของรัฐบาลก่อนหน้านั้น

ชี้ "ฮุน เซน" ตอบแทนบุญคุณ "ทักษิณ"

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฮุน เซนแต่งตั้ง พ.ต.ท. ทักษิณเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวว่า ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นทั้งหมด รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว ตนไม่มีอะไรที่จะเพิ่มเติม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกรณีนี้เข้าใจว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณของสมเด็จฮุน เซน เพราะต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยหรือพรรคไทยรักไทยหรือกลุ่มรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ช่วยเหลือในช่วงที่เขาเลือกตั้ง และหรือพูดง่ายๆว่ายอมสละประโยชน์ของประเทศไทย ฉะนั้นความเป็นบุญคุณนี้คงทำให้สมเด็จฮุน   เซนระลึกถึงและเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น ส่วนประเด็นอื่นๆรวมถึงการดูแลคนไทยในกัมพูชานั้น ต้องไปถามรัฐบาล

ชทพ.จี้ "ทักษิณ" สละเก้าอี้กุนซือเขมร


นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงว่า พรรคชาติไทยพัฒนาสนับสนุนท่าทีของรัฐบาลไทยที่จะใช้วิธีทางการทูตทุกมิติในการตอบโต้ แต่ด้วยเหตุที่เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อนสูง จึงขอเสนอว่าไม่อยากให้รัฐบาลและนายกฯให้ความสำคัญกับ พ.ต.ท.ทักษิณมากนัก เพราะจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนการดำเนินการขั้นต่อไปต้องไม่เป็นการผลักดันให้ กัมพูชาออกห่างไปมากกว่านี้ นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาแสดงความรักชาติและห่วงใยคนไทยทั้งประเทศ ด้วยการถอนตัวหรือลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา และที่ปรึกษาส่วน ตัวของสมเด็จฮุน  เซน เพราะจะเป็นการปลดชนวนเหตุที่อาจจะนำไปสู่ความรุนแรงระหว่างสองประเทศ และควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะไม่เดินทางเข้ามาในกัมพูชาในช่วงเวลาที่ยุ่งยากนี้

40 ส.ว.สนับสนุนท่าทีรัฐบาล


ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหาแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. พร้อมคณะ ร่วมกันแถลงสนับสนุนท่าทีของรัฐบาลที่ออกมาตรการตอบโต้กัมพูชาว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และกลุ่ม 40 ส.ว.ขอเสนอมาตรการที่รัฐบาลควรทำต่อไปคือ 1.ขอให้รัฐบาลเตือนนักลงทุนหลีกเลี่ยงการไปลงทุนในกัมพูชา และหันไปลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีผู้นำที่น่าเชื่อถือเช่น ลาว เวียดนาม 2.ขอให้รัฐบาลทำหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการมรดกโลกว่า ไม่เห็นด้วยที่คณะกรรมการมรดกโลกจะขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และไม่ยินยอมที่จะให้นำแผ่นดินบริเวณเขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ไปบริหารจัดการใดๆอย่างเด็ดขาด 3.ขอให้รัฐบาลยกเลิกบันทึกข้อตกลงไทย-กัมพูชา ปี 2544 และปี 2546 ที่ออกในรัฐบาลสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ให้การรับรองการที่กัมพูชาอ้างสิทธิโดยไม่มีกฎหมายรองรับเข้ามาในเขตพื้นที่อาณาเขตทะเลไทย ซึ่งมีพื้นที่ถึง 1 หมื่นตารางกิโลเมตร และเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน มูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งต้องเป็นของประเทศไทยทั้งหมด

สับ "ทักษิณ" ข้า 2 เจ้าบ่าว 2 นาย

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวเสริมว่า สงสัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นคนไทยอยู่หรือเปล่า เพราะคนไทยมีวัฒนธรรมที่จะไม่คบคิดกับคนต่างชาติแล้วมาทำลายชาติตนเอง พ.ต.ท.ทักษิณเคยเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเคยถวายคำสัตย์ปฏิญาณมาหลายครั้ง ทั้งในฐานะ ส.ส. รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี และสมัยเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ แต่เหตุใดไปรับการแต่งตั้งตำแหน่งจากพระมหากษัตริย์ต่างแดน ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณยังสำนึกในความเป็นข้าในพระองค์ก็ไม่ควรรับตำแหน่งที่มาจากพระบรมราชโองการของพระมหากษัตริย์กัมพูชา เพราะการเป็นข้า 2 เจ้า บ่าว 2 นาย หมา 2 ราง คติไทยว่าไว้ว่าจะหาความเจริญในชีวิตไม่ได้พันธมิตรฯประณาม 2 คู่ซี้ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯนำโดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสุริยะใส กตะศิลา ร่วมกันออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5/2552 เรื่อง "ประณามระบอบทักษิณ สนับสนุนรัฐบาลในการปรับระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา และขอให้ยกเลิกแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ในข้อผูกพันระหว่างไทย-กัมพูชา โดยทันที" ทั้งนี้ นายสุริยะใสกล่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯมีมติเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการดังนี้ 1. ขอประณามสมเด็จฮุน เซน ที่ใช้เล่ห์เพทุบายเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในไทย ทำลายหลักนิติรัฐ และย่ำยีคำพิพากษาของศาลยุติธรรม โดยเจตนาให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นที่ปรึกษา ทางเศรษฐกิจ 2. ขอให้ประชาคมทั่วโลกดำเนินทุกวิถีทางเพื่อร่วมกันประณามพฤติกรรมของสมเด็จฮุน เซน ที่เป็นภัยคุกคามกับประเทศอื่น และกดดันให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กลับมารับโทษในราชอาณาจักรไทย 3. ขอประณาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่ได้สนับสนุนการรับตำแหน่งของ พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมหนี

คำพิพากษาของศาลฎีกา 4. ขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคนช่วยกันปกป้องศักดิ์เกียรติภูมิของศาลฎีกา 5. ขอสนับสนุนและให้กำลังใจกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลไทยที่ใช้ความกล้าหาญแสดงออกทางการทูต 6. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภายกเลิกข้อผูกพันทุกประเภทระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดความเสียดินแดนไทย

เรียกร้องนายกฯกดดันเขมรหนักขึ้น

นายพิภพกล่าวว่า พันธมิตรฯจะทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ เพื่อให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง 8 ประการคือ 1. ขอให้ยกเลิกเอ็มโอยูปี 2543 ที่เริ่มต้นดำเนินการให้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,0000 เป็นครั้งแรก 2. เอ็มโอยูปี 2544 และแถลงการณ์ร่วมฯ 2544 ที่รับรองเส้นเขตแดนทางทะเลโดยไม่ได้ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ 3. ขอให้ประกาศยกเลิกแถลงการณ์ร่วมฯ 2551 พร้อมทั้งประกาศคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก 4. ขอให้สมาชิกรัฐสภาเพิกถอนมติรัฐสภาเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2551 5. ขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจยกเลิกทีโออาร์ 2546 เพราะได้อ้างอิงและใช้แผนที่ตามมาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 6. ขอให้รัฐบาลถอนร่างข้อตกลงชั่วคราว 2552 ออกจากการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากรัฐสภา และหยุดนำผลการประชุมของเจบีซีทั้ง 3 ครั้งให้ที่ประชุมของรัฐสภาเห็นชอบ 7. ให้รัฐบาลและกองทัพบกปกป้องอธิปไตย โดยอาศัยกฎบัตรสหประชาชาติข้อ 51 และกฎอัยการศึก 8. กรณีที่กัมพูชาแต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษารัฐบาลทางด้านเศรษฐกิจ และเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกฯกัมพูชา ย่อมส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงขอให้รัฐบาลไทยยกเลิกโครงการและงบประมาณที่ช่วยเหลือประเทศกัมพูชาทั้งหมด ตลอดจนพิจารณาหามาตรการกดดันกัมพูชาเพิ่มเติม

"ทักษิณ" ฉะรัฐบาลทำเกินกว่าเหตุ


เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีที่ทางการไทยเรียกตัวเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ กลับประเทศไทยเพื่อประท้วงกรณีรัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ออกจดหมายเปิดผนึกเพื่อส่งถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงความเห็นและท่าทีต่างๆและการทำงานในฐานะที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ พ.ต.ท. ทักษิณเป็นห่วงสิ่งที่สุ่มเสี่ยงว่าจะทำให้ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเสียหาย เพราะรัฐบาลทำเกินกว่าเหตุ และนำประเด็นการเมืองภายในประเทศไปกดดันประเทศเพื่อนบ้านจนความสัมพันธ์เสื่อมทรามลง และจะนำไปสู่ความตึงเครียดตามแนวชายแดน ทำให้การแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบานปลาย ซึ่งขณะนี้ตามแนวชายแดนได้รับผลกระทบแล้ว

ดักคออย่าปลุกกระแสชาตินิยม


นายนพดลกล่าวว่า เราขอเรียกร้องให้นายกฯ อย่าปลุกกระแสชาตินิยม และขอให้นายกฯ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ หันไปมองตัวเองว่าสาเหตุที่แท้จริงที่เกิดขึ้นจากอะไร โดยเฉพาะการแต่งตั้งนายกษิตเป็น รมว.ต่างประเทศที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง อีกทั้งขอเรียกร้องให้นายกฯใช้ความยับยั้งชั่งใจและหาทางเจรจากับทางกัมพูชา แต่ท่าทีล่าสุดของนายกฯที่ประเทศญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่าไม่มีความสามารถ เพราะเมื่อมีการทะเลาะกันจะต้องหาโอกาสให้กระทรวงการต่างประเทศทาบทามขอเวลาหารือทวิภาคีเพื่อพูดคุยกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะทบทวนดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลกัมพูชาหรือไม่ นายนพดลตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณตอบรับไปแล้ว กัมพูชาต้องการใช้ความรู้ความสามารถของ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน และยังได้ตอบรับเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้อีกหลายประเทศเช่น นิการากัว สำหรับข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ชักศึกเข้าบ้าน ถือเป็นข้อกล่าวหาที่ง่าย สำนวนอย่างนี้เป็นของนักการเมืองแบบเก่าที่ใช้โจมตีคนอื่น

พท.ออกแถลงการณ์ตำหนิรัฐบาล

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านเป็นเรื่องสำคัญ ไม่สามารถแบ่งแยกได้ โดยเฉพาะเป็นประเทศกลุ่มอาเซียน พรรคเพื่อไทยจึงขอแสดงจุดยืนดังนี้ 1. พรรคเห็นว่ารัฐบาลทำเกินกว่าเหตุ นำผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศไปสู่ภาวะสุ่มเสี่ยง เป็นการตอบโต้ที่ไร้วุฒิภาวะทางการทูต 2. รัฐบาลต้องรับผิดชอบในความเสื่อมทรามของความสัมพันธ์ ความเสียหายทางเศรษฐกิจ ตลอดจนความตึงเครียดตามแนวชายแดน 3. การที่พระมหากษัตริย์ของกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาให้รัฐบาลกัมพูชา ถือเป็นกิจการภายในของกัมพูชา การที่รัฐบาลอ้างเหตุผลนี้มาตอบโต้ก็คงฟังไม่ขึ้น 4. ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยเสื่อมทรามลงมาตลอด ตั้งแต่นายกฯตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็น รมว.ต่างประเทศ 5. ตลอด 10 เดือนรัฐบาลไม่มีมาตรการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับกัมพูชาอย่างเป็นรูปธรรม 6. รัฐบาลไม่ได้กระทำตามขั้นตอนจากมาตรการขั้นเบาไปหาหนัก 7. รัฐบาลแอบอ้างว่าดำเนินการประท้วงกัมพูชาในนามคนไทยทั้งประเทศ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมรับรัฐบาลชุดนี้ 8. รัฐบาลไร้ความรับผิดชอบในการนำประเด็นการเมืองภายในไปกดดันประเทศเพื่อนบ้าน

เลือกปฏิบัติตอบโต้เฉพาะกัมพูชา

9. ทุกพรรคควรช่วยกันเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน 10. รัฐบาลดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาด ทำลายจิตวิญญาณและปณิธานของสมาคมอาเซียน 11. มีหลายประเทศแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาเช่น ฮอนดูรัส นิการากัว จึงขอถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ดำเนินการเช่นเดียวกับกรณีรัฐบาลกัมพูชา แต่เลือกปฏิบัติเฉพาะกับนายกฯกัมพูชา 12. การที่นายกฯอ้างว่าจำเป็นต้องตอบโต้สมเด็จฮุน  เซน  เพราะวิจารณ์ระบบกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น เป็นการพูดแบบแก้เกี้ยว เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญก็ควรดำเนินการเมื่อ 1 เดือนมาแล้ว

ยุ ส.ว.เข้าชื่อซักฟอกนายกฯ

นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า วิป ฝ่ายค้านจะเรียกร้องให้ ส.ว.จำนวน 1 ใน 3 เข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของรัฐบาลในการเรียกเอกอัครราชทูตไทย ออกมาจากกัมพูชา เนื่องจากเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 82 และมาตรา 190 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทยและกัมพูชา รัฐบาลใช้อภิสิทธิ์แทนประชาชน 62 ล้านคนโดยไม่ได้หารือผ่านระบบของรัฐสภา จึงขอให้วุฒิสภาใช้สิทธิ์ในการตรวจสอบและเรียกนายกฯมาชี้แจงต่อสภาโดยด่วน

ใช้อคติส่วนตัวตัดสิน

นายพิทยา พุกกะมาน คณะทำงานด้านการต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศชิลี กล่าวว่า การดำเนินการทางการทูตควรทำจากเบาไปหาหนัก และมีวิธีการอื่นที่ดีกว่าการเรียกทูตกลับประเทศไทย เช่น การเรียกทูตเขมรมาประท้วงหรือทำบันทึกช่วยจำ แต่รัฐบาลกลับเลือกวิธีตอบโต้ที่รุนแรง จึงสะท้อนชัดเจนว่าเป็นรัฐบาลใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาดำเนินนโยบายต่างประเทศ เปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามรบ

นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การเรียกทูตไทยกลับประเทศจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ขอติงรัฐบาลว่า การตัดสินใจดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานความอคติส่วนตัวหรือไม่ เพราะยังมีมาตรการอื่นที่จะสามารถดำเนินการได้เช่น การส่งทูตเข้าไปชี้แจงและสอบถามเหตุผลที่แน่ชัด แต่รัฐบาลกลับเลือกเล่นเกมการเมืองที่ขาดวิจารณญาณอย่างมาก เพียงเพราะต้องการฉีกหน้าสมเด็จฮุนเซนเท่านั้น

นปช.เผยลาวเคยตั้ง "โกร่ง" เป็นกุนซือ


ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช. แถลงว่า กลุ่ม นปช.วิเคราะห์สาเหตุความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชาว่า เป็นเพราะรัฐบาลไทยพยายามสร้างเรื่องมาปกปิดความผิดตัวเอง จึง ต้องแก้ปัญหาด้วยการสร้างเรื่องปลุกกระแสชาตินิยมขึ้นมากลบ ส่วนการตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุน เซน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะครั้งหนึ่งประเทศลาวก็เคยตั้งนายวีรพงษ์ รามางกูล อดีต รมว.คลัง เป็นที่ปรึกษา อีกทั้งกรณีนี้เป็นเรื่องภายในของกัมพูชา และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะรับตำแหน่ง ไม่ได้ทำให้ไทยเสียหาย นอกจากนี้ การนำเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นข้ออ้างตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเพื่อนบ้าน แสดงถึงความขาดวุฒิภาวะ เพราะการที่รัฐบาลนำผู้ก่อการร้ายมาเป็น  รมว.ต่างประเทศ  ยังไม่เห็นมีมิตรประเทศใดประท้วงไทยเลย

เตือนอย่าหาข้ออ้างสกัดม็อบแดง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า รัฐบาลจะนำกรณีตัดความสัมพันธ์กัมพูชามาสกัดการชุมนุมของ นปช.ในปลายเดือน พ.ย. โดยจะกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณเห็นประโยชน์ของต่างชาติมากกว่า ปัจจุบันไทยได้เปรียบดุลการค้าเขมรปีละ 4 หมื่นล้านบาท ถ้ามีการปิดพรมแดน กัมพูชาจะไปทำการค้ากับเวียดนาม ต่อจากนี้ประเทศใดตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือให้ที่พักพิง คงต้องตัดความสัมพันธ์หมด และไทยจะปิดประเทศ อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จการจัดคอนเสิร์ตที่เขาใหญ่ ในวันที่ 14 พ.ย. จะมีการประชุมแกนนำและ ประกาศชุมนุมใหญ่ทันที

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษก นปช. กล่าวว่า ได้รับ จดหมายที่ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา ส่งถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดย ได้รับคำยืนยันจาก พล.ต.มนูญกฤตว่า เป็นจดหมายที่ส่งไปจริงๆ เพื่อตอบโต้กรณีที่ พล.อ.เปรมระบุว่าคนชั่วอย่างมนูญกฤตเป็นประธานวุฒิสภาได้อย่างไร เมื่อตนอ่านเนื้อความในจดหมายทั้งหมดแล้ว คาดไม่ถึงว่า พล.อ.เปรมจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับหลายเรื่องที่คนอื่นไม่กล้าทำ

ตำรวจระดมคุ้มกันสถานทูตเขมร

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหน้าสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นไว้ด้านหน้าไม่ให้ใครเดินขึ้นมาด้านบนฟุตปาทเพื่อป้องกันการก่อเหตุ พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลอยู่บริเวณรอบนอกสถานทูต ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. เดินทางเข้าไปภายในสถานทูต ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางออกมา พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า มาดูความสงบเรียบร้อย โดยจัดกำลังตำรวจจาก บก.น.  4  จำนวน  50  นาย ไว้คอยดูแลด้านนอกในระยะ 50 เมตร ส่วนภายในสถานทูตมีตำรวจสันติบาล และหน่วยอรินทราชอีกจำนวนหนึ่งคอยดูแลอยู่ และจากการข่าวขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าจะมีกลุ่มใดมาชุมนุม หรือมือที่สามมาก่อความวุ่นวายที่หน้าสถานทูต แต่ได้กำชับให้ทุกหน่วยระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อความไม่ประมาทแล้ว

ผวจ.สระแก้วตรวจด่านชายแดน


ทางด้านบรรยากาศตามด่านชายแดนไทย-กัมพูชา การค้าขายและท่องเที่ยวยังคงเป็นไปตามปกติ โดยเมื่อเวลา 12.00  น.  นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว พ.อ.ศรีศักดิ์ พูนประสิทธิ์ รอง เสธ.กองกำลังบูรพา  พ.อ.วสุ  เจียมสุข ผบ.ฉก.กรม.ทพ.  12 กกล.บูรพา เดินทางไปที่หน้าด่านพรม แดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังมีกระแสข่าวบรรดาคนไทยที่ไปทำธุรกิจในฝั่งกัมพูชาและพ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรที่เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือ เกิดความตื่นตระหนก หวั่นเกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลายถึงขั้นปิดด่านพรมแดน ทั้งนี้  นายศานิตย์  นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว เผยว่า ด่าน พรมแดนอรัญประเทศยังคงเปิดตามปกติ ไม่มีเหตุการณ์ ใดๆ การค้าขายและการท่องเที่ยวชายแดนยังเป็นไปอย่างปกติ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกประชาสัมพันธ์ ให้พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรทราบแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนปัญหาในพื้นที่ไม่มีผู้นำท้องถิ่นของกัมพูชาและจังหวัดสระแก้ว รวมทั้งชาวไทยและชาวเขมรที่อยู่ตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศ ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ทูตเขมรเดินทางกลับประเทศ


ต่อมาเวลา 14.00 น. มีรถเก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยู สีบรอนซ์ ทะเบียน ท 45-0001 ของสถานทูต ขับมาที่ด่านพรมแดนอรัญประเทศเพื่อออกไปฝั่งกัมพูชา โดยมีนางยู ออย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย นั่งอยู่ ที่เบาะหลัง เพื่อเดินทางกลับประเทศตามคำสั่งของรัฐบาล กัมพูชา ระหว่างนั้นนายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว เข้าไปทักทายนางยู ออย เพื่อกล่าวขอบคุณในไมตรีจิตและความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมากที่มารอถ่ายภาพทำข่าว ทำให้นางยู ออย ไม่ยอมลงจากรถหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ จากนั้นรีบเดินทางไปฝั่งกัมพูชาทันที

เซียนพนันผวาไม่กล้าไปบ่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ ยังคงมีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาค้าขายและรับจ้างในตลาดโรงเกลือเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อสอบถามก็ทราบว่า ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ต่างหวั่นวิตกว่าเหตุการณ์อาจบานปลาย ส่งผลกระทบให้มีการปิดด่านชายแดน จะทำให้ไม่สามารถเข้ามาค้าขายได้ ต้องติดตามข่าวสารในฝั่งกัมพูชาและฝั่งไทยตลอดเวลา นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรยังงดสั่งสินค้าเข้ามาขายในตลาดโรงเกลือเป็นการชั่วคราว เนื่อง จากยังไม่ไว้ใจในสถานการณ์ ส่วนที่ช่องทางขาออกด่านตม.อรัญประเทศ เป็นไปด้วยความเงียบเหงา นักพนันชาวไทยต่างยกเลิกการเดินทางเข้าไปบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพราะยังไม่ไว้ใจในสถานการณ์

ยันกัมพูชาไม่ได้เสริมกำลังทหาร

ที่สนามบิน กองร้อยบิน กองพลทหาราบที่ 3 ภายในกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะนายทหารระดับสูง ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไป จ.ศรีสะเกษ และ จ.บุรีรัมย์ เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนผามออีแดง บริเวณเขาพระวิหาร พร้อมทั้งเยี่ยมเยียนราษฎรตามแนวชายแดน ก่อนเปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทยบริเวณเขาพระวิหารยังเป็นปกติ ยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีการเสริมกำลังทหาร 4 พันนาย ตามที่เป็นข่าว ความสัมพันธ์ ในระดับพื้นระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังคงเป็นไปด้วยดีเช่นเดิม รวมทั้งชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าทั้งไทยและกัมพูชาก็ยังไปมาหาสู่ตามปกติ ได้ชี้แจงให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายอย่าได้ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเกิดเหตุรุนแรงกองทัพภาคที่ 2 มีมาตรการเตรียมอพยพคนไทยที่อยู่ในกัมพูชากลับประเทศอย่างไร พล.ท.วีร์วลิตตอบว่า มีแผนปฏิบัติตามขั้นตอนอยู่แล้ว กองทัพมีความพร้อมในการอพยพ หากจำเป็นที่ต้องเคลื่อนย้ายประชาชนกลับประเทศ

ร้านค้าด่านช่องจอมปิดเงียบ

ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่นำสินค้ามาเปิดร้านขายในฝั่งไทย ตลาดโอทอปของ อบจ.สุรินทร์ ส่วนใหญ่พากันปิดเงียบ ชาวบ้านต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความวิตก ส่วนบ่อนกาสิโน 2 แห่งในฝั่งกัมพูชาที่ตั้งอยู่ใกล้จุดผ่านแดนมีนักพนันชาวไทยที่ข้ามไปเล่นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังมีบางส่วนที่ข้ามไปเสี่ยงโชค เพราะเชื่อว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะสามารถกลับฝั่งไทยได้ทัน อีกทั้งทางกาสิโนได้ให้ความมั่นใจลูกค้าว่าปลอดภัย

พ.ต.ต.อนันต์ ทองสุข สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องจอม เผยว่า พ่อค้าแม่ค้ากัมพูชามีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์กว่าพ่อค้าแม่ค้าไทย จึงยังไม่กล้าเข้ามาเปิดร้านค้าในตลาดไทย อย่างไรก็ตาม จะเข้มงวดการผ่านเข้าออกให้มากขึ้น แต่จะไม่ให้ส่งผลต่อธุรกิจการค้าของทั้ง 2 ประเทศ

สวนลำไยหวั่นไม่มีคนงานเขมร

ส่วนบรรยากาศชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.จันทบุรี ที่มีด่านการค้าถาวร 2 จุดคือ ด่านถาวรบ้านแหลม และด่านถาวรบ้านผักกาด และจุดผ่อนปรนทางการค้าอีก 3 จุดในเขต อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว ทุกจุดยังคงเปิดให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ แต่การค้าขายของกลับเงียบเหงา ไม่คึกคักดังเช่นที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ประกอบการชาวสวนลำไยบริเวณชายแดนซึ่งกำลังเก็บผลผลิตและต้องใช้แรงงานชาวกัมพูชา เกรงว่าหากด่านปิดจะส่งผลกระทบมาก เนื่องจากปัจจุบันมีการจ้างแรงงานชาวกัมพูชาแบบเช้าไปเย็นกลับวันละกว่า 20,000 คน ค่าแรงคนละ 80-90 บาท ถูกกว่าอัตราค่าจ้างชาวไทยที่มีค่าแรงขั้นต่ำวันละ 150-200 บาท

สินค้าตกค้างกว่า 50 ล้านบาท

นายอิสิวุฒ ตั้งเกียรติ์ นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการชาวกัมพูชาขาดความมั่นใจ หลายรายสั่งยกเลิกและชะลอการนำเข้าสินค้า ทำให้สินค้าตกค้างในประเทศไทยมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท หากข่าวแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยการค้าชายแดนคงพังแน่นอน ส่วน พ.ต.ท.อโนทัย แสงเฟือง สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง จ.จันทบุรี กล่าวว่า ยังไม่มีการสั่งการใดๆลงมา ด่านการค้าถาวร 2 จุด และจุดผ่อนปรนทางการค้าอีก 3 จุดยังเปิดตามปกติ คาดว่าสถานการณ์ชายแดนด้านนี้ไม่มีความรุนแรง เนื่องจากที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนกระชับสัมพันธ์ที่ดีกันอย่างต่อเนื่อง

ภาคเอกชนวอนเลิกทะเลาะ

สำหรับผลกระทบทางธุรกิจและการค้าจากความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชานั้น นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนอยากให้ปัญหาความสัมพันธ์ ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชายุติลงโดยเร็ว ที่สุด เพราะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจและภาคประชาชนตามแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ หากปล่อยให้ยืดเยื้อออกไป 1-2 สัปดาห์จะกระทบต่อภาคเอกชน แม้ในช่วงนี้จะยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรก็ตาม แต่ภาคเอกชนยังมีความหวั่นใจอยู่ลึกๆ ไม่รู้ว่าเรื่องจะจบอย่างไร กลัวจะมี ความรุนแรงลุกลามออกไปวงกว้าง จนต้องปิดพรมแดน จะทำให้การค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างชายแดนลดน้อยลง แม้ว่าหากปล่อยเรื่องให้นานฝ่ายกัมพูชาน่าจะได้รับผลกระทบจากการปิดชายแดนมากกว่าไทย เพราะกัมพูชาส่วนใหญ่นำเข้าสินค้าจากไทย ส่วนไทยอาจทำให้มูลค่าการค้าลดลง

ธุรกิจไทยในเขมรยังบริการปกติ

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทั้งทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดรายงานว่าบรรยากาศการค้าขายตามแนวชายแดน 2 ประเทศ และการทำธุรกิจของไทยในกัมพูชายังเป็นปกติ ประชาชนค้าขายระหว่างกันเหมือนเดิม ไม่มีการตื่นตระหนกกับข่าวสาร แต่ได้ กำชับให้ทั้งทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดทำความเข้าใจกับนักธุรกิจและประชาชนให้ดีว่า นโยบายของรัฐบาลไม่ต้องการทำให้การค้าและธุรกิจได้รับผลกระทบ

ปตท.เพิ่มมาตรการเข้มดูแลปั๊ม

นายกำพง กิตติธรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศธุรกิจน้ำมันบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.ได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของคลังน้ำมัน ปตท.ในกัมพูชาแล้ว ขณะนี้ ปตท.มีคลังน้ำมันในกัมพูชา 3 แห่ง มีปั๊ม ปตท. 6 แห่งในกรุงพนมเปญและเมืองเสียมเรียบ แต่ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เพราะคลังน้ำมันดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตกองทัพเรือกัมพูชาที่มีการดูแลรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด แต่ไม่ได้วางใจ ได้สั่งเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลรักษาความปลอดภัยและสั่งให้เจ้าหน้าที่ของ ปตท.เตรียมเอกสารและข้อมูลการเดินทางไว้ให้พร้อม หากเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่ไม่คาดคิดขึ้นก็จะอพยพออกจากกัมพูชาได้ทันที

การบินไทยเตรียมแผนฉุกเฉินรองรับ

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อตั้งรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ขณะนี้สายการบินไทยมีเที่ยวบินไป-กลับเส้นทางบินสุวรรณภูมิ-กรุงพนมเปญวันละ 2 เที่ยว

นายสุรพล อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์ ปฏิบัติการภาวะวิกฤติ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปกติการบินไทยมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่แล้ว เป็นแผนหลายระดับ โดยยึดสถานการณ์ความปลอดภัยเป็นหลัก หากพบว่าพื้นที่ใดไม่ปลอดภัย จะเรียกเจ้าหน้าที่การบินไทยที่อยู่ในประเทศนั้นกลับทันที

ขณะที่ ม.ล.นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า บางกอกแอร์เวย์สยังให้บริการตามปกติ แต่หากมีสถานการณ์อะไรที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยผู้โดยสารจะแจ้งให้ทราบทันที

โพลชี้คนหันมาหนุนรัฐบาลมากขึ้น

วันเดียวกัน เอแบคโพลเปิดเผยผลสำรวจประชาชน 3,709 คน เรื่องฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ภายหลังความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา พบว่าแนวโน้มการสนับสนุนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่ที่ร้อยละ 68.6 เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 3 เท่าตัว จากร้อยละ 23.3 ในเดือน ก.ย. ขณะที่เสียงไม่สนับสนุนรัฐบาลอยู่ที่ร้อยละ 21.1 และร้อยละ 10.3 ยังคงขออยู่ตรงกลาง

นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพล กล่าวว่า ผลวิจัยครั้งนี้น่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการให้สัมภาษณ์ของผู้นำประเทศกัมพูชาที่โจมตีกระบวนการยุติธรรมของไทย และกระแสข่าวผู้นำกัมพูชาจะรับรอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษา ส่งผลให้กลุ่มคนที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หันกลับมาสนับสนุนรัฐบาลปัจจุบัน เพราะคนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ

กัมพูชาคัดค้านไทยปิดด่าน

นายพาย สีพัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แสดงความเห็นผ่านสำนักข่าวต่างประเทศ ต่อต้านคำสั่งปิดด่านบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีไทย โดยระบุว่า การสั่งปิดด่านไม่ใช่เรื่องที่ดี และมีความหมายไม่ต่างจากการโดดเดี่ยวตัวเอง ไม่ได้ช่วยในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันไม่ได้เป็นตัวแทนเจตจำนงและผลประโยชน์ของชาวไทยทั้งประเทศอย่างแน่นอน

สิงคโปร์ห่วงส่งผลกระทบอาเซียน

เมื่อเวลา 15.30 น. สถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย ได้ส่งแถลงการณ์มาที่กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์แสดงความห่วงกังวลต่อกรณีมาตรการตอบโต้ ทางการทูตของรัฐบาลไทยและกัมพูชา มีใจความว่าสิงคโปร์มีความรู้สึกห่วงกังวลต่อความสัมพันธ์ของไทย-กัมพูชาที่จะส่งผลกระทบโดยรวมของอาเซียน โดยหวังว่ามิตรประเทศที่ดีของเราทั้ง 2 ประเทศจะคำนึงผลประโยชน์ของอาเซียนเป็นสำคัญ และหวังว่าทั้ง 2 จะหาทางแก้ข้อขัดแย้งด้วยจิตวิญญาณบนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี

"เทือก"  ลั่นยังไม่ถึงเวลาปรับ  ครม.

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ เสนอให้ปรับ ครม.ใหญ่เพื่อกอบกู้วิกฤติศรัทธาของรัฐบาลว่า นายพิเชษฐ์มักแสดงความคิดเห็นเช่นนี้บ่อยครั้ง และเป็นความคิดเห็นของนายพิเชษฐ์คนเดียว ไม่ใช่ของคนส่วนใหญ่ในพรรค ยืนยันว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องปรับ   ครม. ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์มีแนวคิดที่จะปรับรัฐมนตรีที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เช่น นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข และ รมต.ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานในโครงการไทยเข้มแข็ง และชุมชนพอเพียง ก่อนที่จะถูกซักฟอกหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะนายวิทยาแก้ปัญหาในกระทรวงเรียบร้อยแล้ว

"ชวน"  ติงก๊วนเฉลิมชัยอย่าโวยวาย

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า ส.ส.ในกลุ่มของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบภาคกลาง ออกมาทวงสัญญาให้มีการปรับครม.หลังทำงานครบ 1 ปีว่า ไม่ทราบว่าตอนตั้งรัฐบาลมีการตกลงกันในเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไร แต่ไม่เคยได้ยินว่าทำงานครบ 1 ปี แล้วจะปรับ ครม. อย่างไรก็ตาม เห็นข่าวแล้วรู้สึกว่าไม่ดี "ในข้อเท็จจริงที่ว่าเขาตกลงกับลูกพรรคว่าอย่างไร ผมไม่ทราบ ส่วนตัวไม่ได้ยิน แต่ถึงอย่างไรไม่ควรจะออกไปเป็นข่าว เพราะไม่ดี จะทำให้ส่วนรวมคนที่ทำงานเพื่อพรรคเสียใจ คนที่สนับสนุนพรรคก็ไม่อยากจะเห็นภาพนี้"

ชทพ.ขย่มกระทรวงต่างประเทศ

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ขอเสนอความคิดเห็นส่วนตัวกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีต้องพิจารณากลไกการทำงานเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งอุปกรณ์ บุคลากรทางการทูตทุกระดับ ว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ขณะนี้หลายคนมองว่ากลไกการทำงานทางการทูตและด้านต่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ ทำงานไม่เต็มสูบ สังเกตได้จากความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน นายกฯจึงต้องหันกลับมาดูว่ามีกลไกส่วนใดบกพร่องหรือไม่ เราจะเลือกคนหนึ่งคนหรือเลือกที่ความสำคัญของประเทศไทย แต่ก็ไม่ได้พูดว่าให้ปรับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เพียงแต่เสนอให้พิจารณาทั้งกระบวนการ

ปชป.แฉพันธมิตรฯแทงหลัง

นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในเดือน ธ.ค.เป็นต้นไปสถานการณ์การเมืองจะยุ่ง หากดูความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องทุ่มเท่าไหร่ก็ต้องทุ่มแล้ว เพราะเงินที่ถูกอายัดเอาไว้ 7.6 หมื่นล้านบาทกำลังจะถูกตัดสินในเดือน ม.ค. 2553 การที่ พ.ต.ท.ทักษิณเลือก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธานพรรคเพื่อไทย อย่ามองว่ามีแค่ พล.อ.ชวลิต แต่นายทหารที่เข้ามาด้วย 50 คนก็เท่ากับ 50 กองทัพ แต่ละคนมีแนวร่วมของตัวเอง แม้ว่าบางคนไม่มีคุณภาพเพราะเกเร แต่เขาก็จะใช้ความเกเรมาเป็นประโยชน์ ตอนนี้เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ทางภาคใต้ก็ไม่ดีนัก สถานการณ์วันนี้ของรัฐบาลมีทั้งเสื้อแดงและเสื้อเหลืองคอยขย่ม กลุ่มพันธมิตรฯหันกลับมาเล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ เล่นแม้กระทั่งเรื่องที่ไม่จริง เมื่อก่อนพันธมิตรฯบอกกู้เงินไอเอ็มเอฟไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่วันนี้พูดไปพูดมากำลังเริ่มเล่นงานว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปกู้เงินไอเอ็มเอฟ

ประเมินคะแนนเสียงหายเพียบ

นายพิเชษฐ์กล่าวอีกว่า เสียงในภาคใต้ที่เป็นฐานคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์น่าเป็นห่วง ถ้าไม่แก้เรื่องรถไฟให้ดี ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เกือบหมดเกลี้ยง ส่วนจังหวัดอื่นคะแนนเสียงของ ส.ส.เขตจะลดลงทุกเขต แต่ไม่ถึงกับแพ้ เพราะพรรคการเมืองใหม่จะดึงเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ไป ส่วนเสียง ส.ส.สัดส่วนของพรรคก็จะลดลง สำหรับ กทม.จะเป็นโอกาสดีของพรรคเพื่อไทย ทุกเขตที่พรรคประชาธิปัตย์ชนะผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยไม่ถึง 5,000 เสียง ต่อไปนี้เขตนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะแพ้หมด เพราะจะถูกพรรคการเมืองใหม่แย่งไปเกิน 5,000 เสียง ซึ่งเป็นเสียงที่พรรคการเมืองใหม่แบ่งจากพรรคประชาธิปัตย์ไปทั้งนั้น ไม่สามารถแย่งจากพรรคเพื่อไทยได้เลย ดังนั้น ใน กทม.ภาคกลางจะได้รับผลกระทบมากและอันตราย "ผมเคยบอกกระทรวงการคลังว่าตอนนี้ต้องเอาเศรษฐกิจปี 2552-2553 ให้อยู่ ทุ่มเทเอาตรงนี้แล้วปีต่อๆไปจะดีด้วยตัวของมันเอง วันนี้อย่าไปพูดเรื่องไทยเข้มแข็งปี 2555 ชาวบ้านไม่ตอบรับ เขาจะย้อนกลับมาด้วยว่ารัฐบาลจะอยู่ถึงวันนั้นด้วยหรือ"

"ประสิทธิ์" สับ 40 ส.ว.แอบอ้างล้มโต๊ะ


นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี กล่าวถึงกลุ่ม ส.ว.นำโดย พ.ท.กมล ประจวบเหมาะ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการบังคับใช้ รัฐธรรมนูญ 2550 วุฒิสภา แถลงข่าวถอนตัวไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เป็นเพียงการแอบอ้างเรียกประชุมกันเฉพาะพวกกลุ่ม 40 ส.ว. แล้วมาแถลงข่าวแอบอ้าง ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่สนใจ ส.ว.กลุ่มนี้แล้ว จะทำอะไรก็ทำไป เป็นเพียงการร้องแรกแหกกระเชอเพื่อให้ตัวเป็นข่าวไม่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น ยืนยันว่าวิปวุฒิสภาที่จะไปร่วมกันประชุมกับวิปรัฐบาลในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ยังคงเป็นกลุ่มบุคคลเดิม นำโดย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา และนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ นอกจากนี้การรวบรวมรายชื่อ ส.ว.เพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นขณะนี้มีรายชื่อพร้อมแล้ว รอเพียงการหารือระหว่างวิปวุฒิสภากับวิปรัฐบาล ที่อ้างว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญหากขาดฝ่ายค้านจะทำไม่ได้ เพราะไม่ตรงกับหลักการสมานฉันท์นั้น เป็นเพียงข้ออ้างของกลุ่ม 40 ส.ว. เพราะในการรวบรวมรายชื่อมีการยืนยันจาก ส.ส.ฝ่ายค้านว่าจะร่วมลงชื่อด้วย ถือเป็นเอกสิทธิ์ตามความมุ่งหมายเดิมของเขาคือแก้ไข 6 ประเด็น

ส.ส.ปชป.เย้ยคนใต้เมินฟัง "บิ๊กจิ๋ว"

นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยระบุว่ารัฐบาลสั่งห้ามคนไทยพุทธและมุสลิมมาร่วมรับฟังนโยบายดับไฟใต้ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยว่า เป็นความเข้าใจผิดและบิดเบือนข้อมูล การที่ไม่มีประชาชนไปร่วมงานของ พล.อ.ชวลิตเพราะการเสนอตั้งนครรัฐปัตตานีไม่มีความชัดเจน พอถูกซักหนักขึ้นจึงเปลี่ยนมาเป็นนครปัตตานีแทน พล.อ.ชวลิตลืมไปว่าในอดีตเคยทำอะไรในพื้นที่นี้มาก่อน โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยไม่มีฐานเสียงในพื้นที่ ลูกน้องเก่าของ พล.อ.ชวลิตไปสังกัดพรรคมาตุภูมิหมดแล้ว ที่สำคัญประชาชนในพื้นที่รู้ดีว่าเป็นแค่การโปรยยาหอม

ผลโพลค้านตั้งนครปัตตานี

ด้านสวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในจังหวัดปัตตานีและพื้นที่เกี่ยวข้อง จำนวน 364 คน หัวข้อ "ประชาชนคิดอย่างไรกับแนวคิดของพล.อ.ชวลิตเรื่อง นครปัตตานี" ปรากฏว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 72.11 ไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้ประเทศถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ก่อให้เกิดความแตกแยกรุนแรงเพิ่มขึ้น อาจมีผลต่อการควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง และอยู่ในผืนแผ่นดินของไทยทำไมต้องเป็น "นคร" ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 17.31 เห็นด้วย เพราะอาจมีการแบ่งเขตพื้นที่การดูแลแบบเมืองพัทยาหรือเชียงใหม่ เป็นแนวคิดที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปควรนำแนวทางการเมืองการปกครองและดูแลเศรษฐกิจในท้องถิ่นเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 10.58 ไม่แน่ใจ เพราะจากข้อมูลข่าวสารที่รับทราบ อาจเป็นแนวคิดส่วนหนึ่งเท่านั้น น่าจะมีเป้าหมายอื่นที่คิดหวังไว้ด้วย

6 พนง.รฟท.ยื่นอุทธรณ์ขอกลับทำงาน

ส่วนการสอบสวนเอาผิดพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่หยุดเดินรถไฟสายใต้ในช่วงที่ผ่านมา นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท. เปิดเผยว่า พนักงาน รฟท.ทั้ง 6 คนที่มีคำสั่งไล่ออกไปก่อนหน้านี้ ได้ทำหนังสืออุทธรณ์คำสั่งมา แต่ทราบว่าพนักงานต้องการยื่นต่อนายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานบอร์ด รฟท. แทนที่จะยื่นให้ตนที่เป็นผู้บริหาร สูงสุดพิจารณา ตอนนี้หนังสือดังกล่าวอยู่ที่สำนักงานเลขานุการของ รฟท.แล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจากภายนอก ประกอบด้วยตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงคมนาคม ขึ้นมาพิจารณาหนังสืออุทธรณ์ดังกล่าว

นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) กล่าวว่า พนักงาน รฟท.สาขาหาดใหญ่ 6 คนที่ถูกคำสั่งไล่ออกได้ส่งหนังสือขออุทธรณ์แล้ว เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และยืนยันจะขอทำงานต่อไป โดยจะต้องมีการพิสูจน์หลักฐานและข้อกล่าวหาทั้งหมด เพราะจนถึงขณะนี้ทั้ง 6 คน ยังไม่เห็นรายละเอียดและสำนวนข้อกล่าวหาที่ชัดเจน ส่วนกรรมการของสร.รฟท.ที่โดนไล่ออก 7 คน ซึ่งผู้บริหารได้ส่งเรื่องไปยังศาลแรงงานนั้น จะดำเนินการอุทธรณ์ตามขั้นตอนเช่นกัน

ปลื้มญี่ปุ่นดูลู่ทางลงทุนในไทย

วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ภายหลังงาน เลี้ยงอาหารกลางวันที่สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำลุ่มน้ำโขงว่า การที่ภาคเอกชนญี่ปุ่นร่วมจัดกิจกรรมครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของญี่ปุ่นที่อยากมีส่วนร่วมในการลงทุน และมีความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ญี่ปุ่นให้ความสนใจความเติบโตของภูมิภาคนี้ เพราะอาเซียนกำลังจะรวมกันเป็นตลาดเดียว และการลดภาษีเป็นศูนย์ในปีหน้ายิ่งจะทำให้มีความร่วมมือกันในหลายด้าน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ภาคเอกชนของญี่ปุ่นจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในเดือน พ.ย.นี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี

นายกฯ ห่วงกระทบความมั่นคง

ต่อมาเวลา 20.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ จากประเทศญี่ปุ่น ถึงกรณีที่สิงคโปร์ออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชาจะมีผลกระทบต่ออาเซียนว่า คิดว่าคงไม่กระทบ เพราะขณะนี้ทั้ง 2 ประเทศมาร่วมประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น เราต่างทำหน้าที่กันไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาในกรอบทวิภาคี บังเอิญเราไม่ได้เป็นฝ่ายสร้างปัญหา และก็แสดงท่าทีชัดเจนไปแล้ว ส่วนกระทรวงการต่างประเทศก็ดำเนินการด้วยการแสดงออกทางการทูต และทบทวนข้อตกลงใดๆที่เกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนขึ้นในแง่สถานะของอดีตนายกฯ เนื่องจากว่าคนที่เคยอยู่ ฝ่ายไทยปัจจุบันไปอยู่ฝ่ายกัมพูชาแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีกัมพูชา อาจจะกระทบความมั่นคงของชาติ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ใช่ มีบางเรื่องเป็นกรอบเจรจาที่เริ่มต้นสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นจะทราบเรื่องของจุดยืน ที่มา ข้อมูลของไทย แต่ปัจจุบันกลายเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกัมพูชาเสียแล้ว จึงจำเป็นต้องมีการทบทวน กระทรวงการต่างประเทศจะพิจารณาอย่างรอบคอบ

นั่งร่วมโต๊ะ "ฮุน เซน" แต่ไม่คุยกัน

ต่อข้อถามว่าการที่กัมพูชาเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศ หากไม่รอมชอมกันจุดจบปัญหาจะอยู่ที่ไหน นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เวลานี้สถานะต้องเป็นอย่างนี้ ต้องดูสถานการณ์ต่อไป เพราะปัญหาทั้งหมดไม่อยู่ที่ฝ่ายเรา เมื่อถามว่าในช่วงร่วมรับประทานอาหารค่ำ นายกฯ นั่งร่วมโต๊ะกับสมเด็จฮุน เซน มีการทักทายกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า บังเอิญนั่งไกลกัน และมีแจกันดอกไม้ขวางอยู่

"ทักษิณ" ซัดรัฐบาลผลีผลามขาดสติ

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ผ่านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย มีใจความสำคัญว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่รัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดำเนินมาตรการเช่นนั้น เพราะเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ตอบโต้อย่างผลีผลาม ใช้อารมณ์และขาดสติยั้งคิด จะส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเสื่อมทรามลง และนำไปสู่ ความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง การให้คำปรึกษาทางเศรษฐกิจแก่รัฐบาลกัมพูชานั้น เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนบ้าน และเป็นการช่วยประเทศไทยทางตรงและทางอ้อม ตนกระทำไปโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่มีวาระแอบแฝงซ่อนเร้น นอกจากประเทศกัมพูชาแล้วยังได้ตอบรับเป็นที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจให้แก่หลายประเทศ กรณีของกัมพูชาต้องถือว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์กำลังนำปัญหาการเมืองภายในไปกดดันประเทศเพื่อนบ้าน โดยเอาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวประกัน ขอกราบเรียนพี่น้องชาวไทยว่าตนเทิดทูนสถาบันและรักชาติเช่นคนไทยทุกคน ไม่เคยคิดร้ายต่อบ้านเมือง  กำลังพยายามแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้นักธุรกิจไทยให้สามารถแข่งขันได้ ในเวทีโลก หวังว่าสักวันหนึ่งจะได้เดินทางกลับแผ่นดิน แม่ของตน เพื่อนำความรู้และประสบการณ์มารับใช้พี่น้องคนไทยต่อไป

เขมรตอกกลับเลิกเอ็มโอยูไม่ได้

สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานว่า กรณีนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เตรียมเสนอที่ประชุมรัฐสภายกเลิกข้อตกลงร่วมเพื่อพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอ่าวไทยระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ทำขึ้นเมื่อปี 2546 ภายใต้รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าการยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวจะไม่มีผลบังคับ โดยนายวาร์ คิมฮอง ผู้เจรจาเรื่องพรมแดนระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาเผยว่า ไม่เห็นว่าจะมีข้อความหรือประโยคไหนที่ระบุยินยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยกเลิกข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ส่วนนี้ได้ ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามข้อตกลงจนกว่าจะหาข้อสรุปเรื่องพื้นที่ทับซ้อนกันได้




ข่าวการเมือง แฟ้ม 3

ไทยรัฐ : บึมปลัดอ.สหัสฉีกร่างอส.5ศพยิงชรบ.ดับอีก1
เดลินิวส์ : ไทเกอร์"อาจจ่ายเงินดูแลภรรยา 9 พันล.
ไทยรัฐ : ตัดขาดวัดไทยในออสซี่ บวชภิกษุณี ละเมิดระเบียบสงฆ์
ไทยรัฐ : 'วิศวกร' เจอคุก 7 ปี ศาลเขมร ฟันข้อหาสายลับ
ไทยรัฐ : สีชมพูสะพรั่งทั้งแผ่นดิน ความสุขในหลวง เกิดด้วยบ้านเมืองปกติ
ไทยรัฐ : ทักษิณโฟนอินปิดการอบรมเสื้อแดง ว่าโพลอภิสิทธิ์ชนะควรยุบสภา
ตำรวจให้สอบเพิ่มเติมราเกซ
ไทยรัฐ:ศึกชิงเจ้าอาวาสวัดโสธรพันล้าน
ไทยรัฐ:รัฐบาลดาหน้าต้านแนวคิดนครปัตตานี
ไทยรัฐ : ณัฐวุฒิว่า ผู้นำประเทศอาเซียนไม่มา 5 ประเทศ
ไทยรัฐ : การประชุมสุดยอดอาเซียน ฮุนเซนให้สัมภาษณ์
ไทยรัฐ : โจรใต้ประกบยิงถล่มหนุ่มลูกจ้างร้านขายอะไหล่ยนต์ปางตายคาถนนที่ จ.ปัตตา
ไทยรัฐ : เปรมเตือนจิ๋วอย่าทรยศ
คมชัดลึก : ย้าย"ป๋าลอ"เข้าขังแดนประหารวันนี้
ไทยรัฐ : กลุ่ม 40 สว.คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ไทยรัฐ : ศาลฏีกาฯ ตัดสินคดีหวยบนดิน



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----