ศึกชิงเจ้าอาวาสวัดโสธร พันล้าน
พระเณรค้านไม่รับคนนอกมาบริหารวัด
ปัญหาการแต่งตั้งเจ้า- อาวาสวัดโสธรฯ รูปใหม่ ส่อเค้าบานปลาย คณะสงฆ์วัดโสธรฯ บุกสภายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี คัดค้านเจ้าคณะจังหวัดเสนอชื่อแต่งตั้ง “พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์” อายุ 84 ปี เจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน และเจ้าคณะอำเภอบางปะกง มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรฯรูปใหม่ แต่ พระภิกษุสามเณรในวัดมีมติให้ “พระปริยัติกิจวิธาน” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯอาวุโสสูงสุดขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน ยืนยันจะต่อต้านให้ถึงที่สุด หวั่นพระนอกวัดมาเป็นแล้วจะเกิดปัญหาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ โดยเฉพาะเงินบริจาคของวัดที่มีนับพันล้านบาท แฉตอนนี้ไม่มีใครรู้ยอดเงินในบัญชีที่ชัดเจน ที่ผ่านมารักษาการเจ้าอาวาสกับไวยาวัจกรวัดเท่านั้นที่มีอำนาจเบิกจ่าย แถมไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการวัดตรวจสอบ เลยต้องการให้จัดระบบใหม่เพื่อความโปร่งใส ด้านพ่อเมืองแปดริ้วเรียกประชุมส่วนราชการ หาทางช่วยเจรจาสางปัญหาให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
กรณีพระภิกษุสามเณรวัดโสธรวนารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา กว่า 400 รูป รวมตัวกันต่อต้านเจ้าคณะปกครอง เรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ที่ขาดความชอบธรรม หลังจากมีการแต่งตั้งพระพรหมสุธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ครบกำหนด 5 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่ หวั่นเกรงจะเกิดความเสียหายกับทางวัด โดยเฉพาะเรื่องเงินบริจาคที่มีเป็นพันล้านบาท จึงพากันไปยื่นหนังสือถึงผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ระงับการทำธุรกรรมทางการเงินของวัดโสธรฯไว้ก่อน ด้านพระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เผยว่า ได้เสนอรายชื่อผู้สมควรเป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรฯรูปใหม่ไปยังเจ้าคณะภาค 12 แล้ว และจะได้ส่งต่อไปยังมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณา เชื่อว่าน่าจะมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯรูปใหม่ภายในกลางเดือนนี้นั้น
ความคืบหน้าที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 พ.ย. พระครูปลัดสันติภัทร ชุดิปญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ พร้อมตัวแทนคณะสงฆ์วัดโสธรฯรวม 9 รูป ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่านนายณัฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ พระครูปลัดสันติภัทรกล่าวว่า เนื่องจากวัดโสธรฯเว้นว่างเจ้าอาวาสมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว หลังจากมีการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาส ขณะนี้ก็ได้หมดวาระลงแล้ว แต่ทางเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทราจะเสนอชื่อพระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ อายุ 84 ปี เจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน และเจ้าคณะอำเภอบางปะกง มาเป็นเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่ แต่คณะสงฆ์ไม่เห็นด้วยกับการเสนอชื่อของเจ้าคณะจังหวัด เนื่องจากไม่ได้มีการหารือกับคณะสงฆ์ในวัด ทั้งนี้ ควรจะพิจารณาจากคณะสงฆ์ภายในวัดโสธรฯซึ่งมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสถึง 11 รูป โดยเฉพาะพระปริยัติกิจวิธาน เป็นพระอาวุโสสูงสุด อายุ 53 ปี 32 พรรษา เป็นผู้ที่คณะสงฆ์และญาติโยมเห็นว่าเหมาะสมและเป็นที่เคารพนับถือของทุกฝ่าย
“แม้ว่าการเสนอชื่อแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่เป็นอำนาจของเจ้าคณะจังหวัดก็ตาม แต่คณะสงฆ์วัดโสธรฯขอยืนยันว่าหากไม่มีการเปลี่ยนการเสนอชื่อ คณะสงฆ์จะคัดค้านและมีมาตรการในการเคลื่อนไหวต่อไป นอกจากนี้ทางวัดมีความกังวลและเป็นห่วงเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ เนื่องจากวัดโสธรฯมีเงินเป็นพันๆล้านบาท จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาแก้ปัญหาพร้อมประสานกับพระผู้ใหญ่เพื่อให้มีการพิจารณาทบทวนเรื่องนี้โดยด่วน” พระครูปลัดสันติภัทรกล่าวในตอนท้าย
ที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผวจ.ฉะเชิงเทรา ได้เรียกประชุมส่วนราชการเพื่อร่วมพิจารณาปัญหาความขัดแย้งภายในวัดโสธรฯ เรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่ ซึ่งคณะพระภิกษุสามเณรในวัดมีมติสนับสนุนให้แต่งตั้งพระปริยัติกิจวิธาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯและเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปใหม่ แต่เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรายังคงเพิกเฉย กลับเสนอให้พระนอกวัดคือ พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้านและเป็นเจ้าคณะอำเภอบางปะกง ซึ่งมีอายุมากถึง 84 ปี ให้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรฯรูปใหม่ สร้างความไม่พอใจให้คณะพระภิกษุสามเณรวัดโสธรฯออกมารวมตัวประท้วงและให้ธนาคารระงับการทำธุรกรรมทางการเงินของวัด เนื่องจากคลางแคลงใจว่าการเสนอพระนอกวัดเป็นเจ้าอาวาสรูปใหม่ น่าจะเป็นการมารักษาผลประโยชน์ของพระผู้ปกครองบางรูป ด้วยเหตุนี้ทางจังหวัดจึงต้องเรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว
ภายหลังการประชุม นายสุรพล เผยว่า การประชุมวันนี้เป็นการสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมร่วมกันพิจารณาหาทางแก้ไข ขณะเดียวกัน ยังไม่ต้องการให้สื่อมวลชนออกไปขยายความขัดแย้ง เพราะอยากให้เรื่องยุติโดยเร็ว ทั้งนี้อาจมีการไปเจรจากับพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้อยู่ในความสันติ หากพบว่าอะไรที่เป็นปัญหาและสามารถแก้ไขได้ ทางจังหวัดก็จะเข้าไปช่วยเจรจา ส่วนปัญหาที่เกินกว่าอำนาจของทางจังหวัดก็จะนำเสนอไปยังเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีหรือมหาเถรสมาคมเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดท่าสะอ้าน อ.บางปะกง เพื่อขอพบพระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัด ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากพระเทพปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯรูปใหม่ พบว่าบริเวณหน้ากุฏิได้มีทหาร 3 นายคอยเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัย เพราะเกรงว่าอาจได้รับอันตรายจากผู้ไม่หวังดี อย่างไรก็ตาม พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ปฏิเสธจะตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว บอกเพียงว่าไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น เพราะยังไม่มีหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
ทางด้านพระปริยัติกิจวิธาน เจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพระในวัดโสธรฯให้เป็นเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่ เผยว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯมีทั้งหมด 11 รูป และมีถึง 9 รูป ที่มีคุณสมบัติเป็นเจ้าอาวาสได้ เพราะกฎมหาเถรสมาคมกำหนดให้พระที่มีสัญญาบัตรตั้งแต่พระครูชั้นโทขึ้นไปและมีพรรษาไม่น้อยกว่า 10 พรรษา สามารถเป็นเจ้าอาวาสวัดอารามหลวงชั้นตรีได้ ส่วนกรณีที่คณะสงฆ์ในวัดเสนอให้ตนเป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรฯนั้น ก็เป็นเรื่องที่คณะสงฆ์ส่วนใหญ่เสนอ อาจเป็น เพราะเห็นว่าตนเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่มีอาวุโสสูงสุด โดยเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสมาตั้งแต่สมัยพระพรหมคุณาภรณ์ หรือ หลวงปู่เจียม เป็นเจ้าอาวาส จึงมองเห็นว่ามีความเหมาะสม ส่วนกรณีที่พระสงฆ์ออกไปเดินขบวนเรียกร้องนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนมอง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเหตุผลในตัวของมันเอง หากคนมองจะเอาความคิดของตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่มองว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร ทำไมพระสงฆ์ต้องการกระทำอะไรก็แล้วแต่ย่อมต้องมีเหตุผล แต่จะไม่ขอออกความคิดเห็นเรื่องที่มีการเสนอแต่งตั้งให้ พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์มาเป็นเจ้าอาวาสรูปใหม่
ต่อมาเวลา 13.00 น. พระครูปลัดสันติภัทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ที่เดินทางกลับจากการไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่รัฐสภา กล่าวว่า นายกฯได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ออกมารับหนังสือ ท่านได้รับปากว่าจะดำเนินการให้อย่างเต็มที่โดยจะประสานไปยัง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ ในฐานะผู้ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยจะดำเนินการให้ทราบผลภายใน 3 วัน ส่วนกรณีที่คณะสงฆ์ต้องออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้ก็เพื่อต้องการให้เจ้าอาวาสวัดโสธรฯรูปใหม่เป็นพระที่อยู่ภายในวัดเพราะจะทราบถึงปัญหาต่างๆ ได้ดีกว่าพระที่มาจากนอกวัด ที่ผ่านมาเรื่องรายรับรายจ่ายต่างๆของวัดจะไม่มีการชี้แจงหรือเปิดเผยให้คณะผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้ตรวจสอบเลยแม้แต่น้อย เป็นที่ทราบกันดีว่าทางวัดมีเงินรายได้เข้ามาจำนวนมหาศาล มีเงินฝากอยู่หลายบัญชีและหลายธนาคารมาก โดยที่ไม่มีผู้ใดทราบจำนวนที่ชัดเจนนอกจากผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดกับไวยาวัจกรวัดเท่านั้นที่มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินต่างๆ นอกจากนี้ ระหว่างที่รักษาการแทนเจ้าอาวาสก็ไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการวัดเพื่อตรวจสอบ ทางคณะสงฆ์จึงต้องการให้พระปริยัติกิจวิธาน เข้ามาเป็นเจ้าอาวาสเพื่อจัดระบบใหม่ให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้