ชาวเน็ตโพสต์กันสนั่นเว็บ ไว้อาลัย "เดย์" เจ้าของนามแฝงในบอร์ด Creative 7419 เจ้าพ่อแห่งฟอนท์ บนไอโฟน ที่เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 เจ้าตัวโพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้าจะเสียชีวิต ระบุต้องนั่งรถไฟฟ้าไปหาหมอถึง 3 โรงพยาบาล หมอเมินไม่สนตรวจเชื้อ ได้แค่ยาลดไข้พาราเซตามอล แล้วให้กลับบ้าน จนกระทั่งตาย
การเสียชีวิตของนายพีรวีร์ ดวงสินกุลบดี อายุ 28 ปี ที่ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ 2009 และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน 3 แห่ง แต่โรงพยาบาล 2 แห่งแรก กลับไม่ให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ เพราะแพทย์วินิจฉัยว่า ไม่ได้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จนผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลแห่งที่ 3 ทั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมกว่า 3 ล้านบาท ทำให้ญาติต้องเข้าร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่า การเสียชีวิตของนายพีรวีร์ได้กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตพากันโพสต์ ข้อความโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์การวินิจฉัยของแพทย์ เนื่องจากก่อนหน้าเสียชีวิตนายพีรวีร์ ซึ่งมีชื่อเล่นว่า "เดย์" และเป็นที่รู้จักกันในนามแฝงในบอร์ดว่า Creative7419 นอกจากนี้ ยังนับเป็นเจ้าพ่อแห่งฟอนท์ (font) บนไอโฟน (iPhone) ที่ทำให้ชาวไอโฟนใช้ฟอนท์ภาษาไทยได้ ได้โพสต์ข้อความเล่าอาการป่วยของตนเอง และมีการฟอร์เวิร์ดเมล์ข้อความของนายพีรวีร์ โดยมีการลิงก์เข้าไปในเว็บไซต์ Smart-Mobile.com ตลอดทั้งวันที่ 27 ส.ค. ซึ่งข้อความที่นายพีรวีร์ได้โพสต์เล่าอาการป่วยของตนเองก่อนหน้าเสียชีวิต มีว่า
"วันนี้ไปหาหมอตามที่หมอนัด ขึ้น BTS ไป คนก็เยอะ เลยต้องยืน สักพักเริ่มหวิวๆเริ่มคลื่นไส้ แล้วโลกก็มืดลง แขนก็เริ่มชา มองอะไรไม่เห็นเลย ประมาณ 5 นาทีจนถึงสยาม คนลงเยอะก็ตั้งสติ เพ่งเห็นรางๆ ว่าที่นั่งว่าง ไม่ฟังเสียงล่ะครับ (หูอื้อ) คลำๆแล้วนั่งเลย แล้วก็นั่งก้มหน้าแบบสุดๆ โลกเริ่มสว่างขึ้น ทางเดินสายโลหิตเหือดแห้ง มือซีดเหลืองชาๆ แอร์บนรถเย็นมาก แต่เหงื่อยังกับอาบน้ำใหม่ๆ แบกสังขารไปจนถึง พุ่งหาร้านข้าวกินข้าว แล้วก็ไปพบหมอ หมอเจาะเลือดไปตรวจ เอ่อ หมอครับ เมื่อวันพฤหัสฯผมก็เพิ่งโดนเจาะไปครับ แล้วเมื่อกี้ก็หน้ามืดเลือดหมดครับหมอ หมอบอกไม่เป็นไรเอานิดเดียว ผลตรวจเลือดออกมา เกล็ดเลือดปกติ เม็ดเลือดขาวปกติ ไข้เลือดออกไม่เป็น ทำหมองงอีกคนแล้ว เลยถามไปว่าหรือจะเป็น 2009 หมอบอกตัดไปเลย 2009 อาการหลักต้องไอ เจ็บคอ แต่คุณไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ไม่มีอะไรเลย ตัวร้อนเฉยๆ สรุปก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ นัดให้มาวันจันทร์อีก บอกว่าถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ต้องเรื่องใหญ่กันเลยล่ะ ต้องแอดมิดให้น้ำเกลือ เอาเลือดไปตรวจละเอียดหาไทรอยด์ หานั่นนู่นนี่ คิดในใจว่านี่ต้องทรมานไปอีก 2 วันหรือนี่ แล้วหมอก็ให้ยาลดไข้มาแค่นั้น" นอกจากนี้ ในวันรุ่งขึ้น "เดย์" โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า "ไม่ไหวแล้ว ไปกราบขอหมอนอน รพ.ดีกว่า จะกี่หมื่นกี่แสนก็ยอม เรียก Taxi มารับก่อน เดี๋ยวไปเองหน้ามืดอีก"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ได้มีการวิพากษ์ วิจารณ์กันถึงการวินิจฉัยของแพทย์ ตั้งแต่ รพ.เอกชนแห่งแรกที่ไปหา แล้วแพทย์ระบุว่าเป็นไข้ติดเชื้อ ให้ยาพาราเซตามอลมากิน สองวันต่อมาไข้ไม่ลด ผู้ป่วยไปหาแพทย์ใหม่อีกครั้ง แพทย์ก็ยังไม่ใส่ใจที่จะตรวจละเอียด ให้พาราเซตามอลมาอีก จนไม่ไหวผู้ป่วยนั่งรถไฟฟ้าไปพบแพทย์ ตามสิทธิประกันสังคม แพทย์ฉีดยาให้กลับบ้าน วันรุ่งขึ้นแน่นหน้าอก ไปตรวจใหม่พบปอดติดเชื้อถึง 25% แต่แพทย์ก็ยังไม่สั่งให้นอน รพ. บอกให้กลับบ้าน จนกระทั่งผู้ป่วยรู้ตัวว่าไม่ไหวจึงไป รพ.แห่งที่ 3 และพบว่าเป็นไข้หวัด 2009 แต่ก็สายเกินไป ในที่สุดผู้ป่วยก็เสียชีวิต ทั้งนี้ ผู้ที่ฟอร์เวิร์ดเมล์นี้ระบุว่า อยากให้เป็นอุทาหรณ์ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขมีการประชาสัมพันธ์ทั้งในส่วนของแพทย์และประชาชน แต่กลับมีความผิดพลาดดังกล่าวเกิดขึ้น
ในส่วนการระบาดที่ต่างประเทศ มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ว่า กระทรวงสาธารณสุขบราซิล ประกาศว่ามีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ถึง 557 ราย ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ของโลก แซงหน้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอันดับ 2 เพราะมีผู้เสียชีวิต 522 ราย และอาร์เจนตินาอันดับ 3 เสียชีวิต 439 ราย ส่วนญี่ปุ่นพบผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย รวมเป็น 5 ราย
ด้าน ดร.โธมัส ฟรีเดน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) คนใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า แม้เหล่าที่ปรึกษาของประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน แต่คาดว่าจะมีวัคซีนพร้อมใช้ชุดแรกอย่างเร็วในกลางเดือน ต.ค. นี้ เขายังกระตุ้นไม่ให้ชาวอเมริกันตื่นตระหนกหลังมีการประเมินว่า อาจมีผู้เสียชีวิตเพราะไข้หวัด 2009 ในสหรัฐฯ ในปีนี้อาจสูงถึง 30,000-90,000 คน โดยชี้แจงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นในสหรัฐฯและทั่วโลกจนถึงบัดนี้ บ่งชี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจะไม่สูงขนาดนั้น ถ้าไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่เปลี่ยนแปลงหรือกลายพันธุ์จนมีฤทธิ์เดชรุนแรงยิ่งขึ้น