"อภิสิทธิ์" โวยเกมการเมืองสกปรกตัดต่อคลิปเสียง แฉเบื้องหลังเครือข่ายอดีตนายกฯและบางพรรคการเมือง ระบุคนทำต้องการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ขู่เวทีเสื้อแดงเปิดคลิปเสียงถือว่าทำผิดกฎหมาย สั่ง ผบ.ตร.เร่งจัดการเอาผิดคนทำคลิป "ชวน" ออกโรงการันตีนายกฯไม่ใช่คนรุนแรง ปชป.ดาหน้าโต้เป็นคลิปเสียงตัดต่อชัดเจน กอ.รมน.ย้ำห้ามชุมนุมเด็ดขาดที่ทำเนียบ-สภาพระราชวังดุสิต แต่เว้นพื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้าให้ม็อบเสื้อแดง เด็กภูมิใจไทยสวน ส.ส.ปชป.ไร้มารยาท ไม่ให้ เกียรติหัวหน้าพรรคร่วม รบ.

จากการที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะมาชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 30 ส.ค. และรัฐบาลได้เตรียมรับมือด้วยการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เฉพาะเขตดุสิต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงนั้น เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินสายพบนักธุรกิจเพื่อยืนยันว่าเป็นการประกาศใช้ระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้ ประเทศชาติเกิดเสถียรภาพและความสงบสุข

นายกฯย้ำใช้ ก.ม.มั่นคงแค่เวลาสั้นๆ

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างปาฐกถาเปิดงาน "ศูนย์บริการธุรกิจ ก้าวอย่างมั่นคงลงทุนในประเทศไทย" ของบริษัทเอ็กซอนโมบิล จำกัด โดยมีบรรดานักธุรกิจชั้นนำเข้าร่วม ฟังตอนหนึ่งว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นไปเพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมประท้วงรัฐบาลเท่านั้น กฎหมายดังกล่าวจะสร้างความเชื่อมั่นและป้องกัน ความโกลาหล โดยมาตรการต่างๆ จะดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่รัฐและยึดหลักกฎหมายและรัฐธรรมนูญเป็นที่ตั้ง และมีผลบังคับใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เฉพาะในเขตดุสิต ของกรุงเทพฯเท่านั้น พื้นที่อื่นๆสามารถดำเนินงานทางธุรกิจหรือกิจกรรมทางสังคมได้ตามปกติ และยินดีที่ได้ทราบว่ากลุ่มธุรกิจให้การสนับสนุนการออกกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้เกิดความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าของประเทศต่อ และหวังว่าทุกฝ่ายจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความเจริญเติบโตและโอกาสต่อประเทศไทย เช่นเดียวกับความสงบและเสถียรภาพของสังคม

โวยเกมสกปรกตัดต่อคลิปเสียง

จากนั้นเวลา 09.40 น. นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงของนายอภิสิทธิ์ที่มีเนื้อหาเป็นการพูดระบุให้ทหารสร้างสถานการณ์ระหว่างการชุมนุม ของคนเสื้อแดง เพื่อเป็นเหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทางอินเตอร์เน็ตว่าเพิ่งได้ฟังคลิปเสียงเมื่อคืนวันที่ 26 ส.ค. ก็ชัดเจนว่าเป็นการตัดต่อ และพร้อมที่จะพิสูจน์ว่าเป็นการตัดต่อ คนที่ทำมีเจตนาที่จะทำร้ายบ้านเมืองอย่างชัดเจน เพื่อต้องการ ยั่วยุให้เกิดความเข้าใจผิดให้เกิดความรุนแรง และถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเพราะเป็นการใช้เทคโนโลยีในการตัดต่อ และมีการเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายทางด้านคอมพิวเตอร์ อยากจะขอเตือน เพราะว่าหลายคนอาจไม่มีเจตนาหากมีการส่งคลิปดังกล่าวต่อๆไปจะเป็นความผิดตามกฎหมายด้วย ขอยืนยันคนที่รู้จักกับตนทราบดีว่านโยบายที่ตนใช้แก้ปัญหาการชุมนุมความไม่สงบต่างๆอยู่บนหลักกฎหมาย การเคารพเสรีภาพอย่างชัดเจน และเหนือสิ่งอื่นใดโดยส่วนตัวไม่เคยต้องการเห็นการทำร้ายใครทั้งสิ้น นอกจากการที่จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นตอและคนที่ใช้คลิปนี้เผยแพร่ไม่ว่าวัตถุประสงค์อะไรก็ตาม เช่นทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้นก็ดี หรือจะช่วยเหลือคดีให้กับคนที่ตนฟ้องอยู่ก็ดี ก็อยากจะเตือนว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินการ

แฉเบื้องหลังเครือข่ายอดีตนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสทำความเข้าใจเบื้องต้นตรงนี้ ถ้าจะกรุณาเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของตนอย่างเต็มที่ แต่จะทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่องและถ้าพิสูจน์ได้ หลายคนคงต้องรับผิด เพราะพอทราบเหมือนกันว่าหลายคนที่เผยแพร่เกี่ยวข้องอยู่กับพรรคการเมืองบ้าง และอยู่กับเครือข่ายบริษัทอดีตนายกรัฐมนตรีบ้าง ขณะนี้ตนกำลังดูข้อกฎหมายอยู่ เพราะมีกฎหมายเฉพาะอยู่ ที่จริงมันมีที่อยู่ของคนที่ปล่อยคลิปเป็นคนแรกตามลูกโซ่ของมัน แต่ว่าต้องไปตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับเขา เมื่อถามว่าจะติดตามหาคนตัดต่อคลิปหรือจะเอาแค่คนที่อยู่เบื้องหลัง นายอภิสิทธิ์ตอบว่า จับได้ก็ยิ่งดี เพราะเป็นเรื่องซึ่งต้องไม่ให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม

ขู่เวทีเสื้อแดงเปิดคลิปเสียงผิด ก.ม.

เมื่อถามว่า มองการปล่อยคลิปเสียงดังกล่าวในช่วงที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงอย่างไร นายอภิสิทธิ์ตอบว่า คงเป็นเจตนาชัดเจนที่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิด เพื่อเป็นการยั่วยุให้เกิดความเกลียดชัง ให้เกิดปัญหามากขึ้น และตนจะนัด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มาคุย เพราะ ผบ.ตร.ต้องไปทำความเข้าใจกับผู้ที่ชุมนุมโดยเฉพาะ ตนอยากให้ไปเจรจาเงื่อนไขของการชุมนุม เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจเพื่อไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น เมื่อถามต่อว่า เป็นห่วงหรือไม่ที่จะมีการนำคลิปเสียงดังกล่าวไปเปิดบนเวทีชุมนุมของคนเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ตอบว่า "ถ้าเวทีคนเสื้อแดงทำ เนื่องจากขณะนี้ผมบอกชัดเจนว่าเป็นการตัดต่อก็แสดงว่ามีการเจตนาก็จะมีความผิดด้วย" เมื่อถามว่า จะคุยกับ ผบ.ตร.เรื่องคลิปเสียงด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ถ้ามีโอกาสก็จะคุย เพราะตนจะมุ่งในเรื่องที่จะให้ไปพูดคุยกับผู้ชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากัน

ระบุคนทำต้องการให้เกิดความรุนแรง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ผมเข้าใจว่าเป็นเสียงของผม ผมก็ฟังดูสังเกตว่าเสียงอื่นๆข้างหลังระดับเสียงมันไม่เท่ากัน เพราะผมไม่เคยพูดอะไรอย่างนั้นอยู่แล้ว ผมไม่อยากจะเชื่อว่าใช้วิธีการที่สกปรกและเป็นวิธีการที่ทำให้ เกิดความวุ่นวายความรุนแรงในบ้านเมือง ผมคิดว่าอยากจะดำเนินการทางกฎหมายกับคนที่ทำ" เมื่อถามว่าเหมือนกับว่ามีความพยายามทำลักษณะใต้ดินอย่างนี้ไปเรื่อยๆหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า อันนี้เป็นตัวฟ้องว่าถ้าคนที่ทำไปเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่ชุมนุมก็อยากจะเรียนกับผู้ชุมนุมว่าวิธีการอย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยเลย การใส่ความ การตัดต่อ การพยายามที่จะสร้างเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่ความรุนแรงไม่ใช่ประชาธิปไตย ก็หวังว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ใครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องรู้ว่าตัวเองไม่ใช่นักประชาธิปไตยและทำผิดกฎหมาย

"พัชรวาท" รับคำสั่งนายกฯกล่อมม็อบ

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เข้าพบเพื่อหารือแนวทางการเจรจากับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่ห้องรับรองนายกรัฐมนตรีชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1 โดยใช้เวลาหารือประมาณ 45 นาที จากนั้น พล.ต.อ.พัชรวาทให้สัมภาษณ์ว่า มอบให้ตนลองไปเจรจากับกลุ่มเสื้อแดงที่จะชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ดูว่าทำอย่างไรไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง เมื่อถามว่า ผบ.ตร.จะคุยเองหรือจะมอบหมายให้คนอื่นที่มีความใกล้ชิดกับคนเสื้อแดงไปคุยผบ.ตร.ตอบว่า นายกฯใช้ตน ตนก็ต้องทำ ส่วนแนวทางที่จะดำเนินการนั้น มีหลักการคือการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธตามปกตินั้นสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง เมื่อถามว่า จะไปคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงในวันนี้เลยหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทตอบว่า มันจำเป็น เพราะนายกฯสั่งมา เมื่อถามว่า หากเกิดความรุนแรง ผบ.ตร.จะรับผิดชอบอย่างไร ผบ.ตร. ตอบว่า ต้องคิดและมองในเชิงบวกว่าคนไทยด้วยกันคงไม่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน แต่ทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงออก

"พัชรวาท" ขอเวลาตรวจสอบคลิป

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวถึงคลิปเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตในขณะนี้ว่า นายกฯได้มอบหมายให้รับผิดชอบเรื่องนี้ แต่ ไม่เคยฟังจึงต้องนำคลิปนี้ไปฟังใหม่อีกครั้งว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ต้องใช้เวลาพอสมควร ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯระบุว่าคลิปนี้เป็นการตัดต่อ จะสาวไปยังต้นตอได้หรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า ขอเวลาหน่อย ต้องหารือกับฝ่ายกฎหมายว่าจะให้หน่วยงานไหนตรวจสอบ เมื่อถามว่า หากคนเสื้อแดงนำคลิปนี้ไปเปิดบนเวทีการชุมนุม ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ จะเป็นอย่างไร ผบ.ตร.ตอบว่า อันนี้ต้องระวังเหมือนกัน เพราะถ้านายกฯไม่ได้พูดจริง มันอาจผิดกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม ต้องไปศึกษากฎหมายก่อน เมื่อถามว่า เรื่องนี้ละเอียดอ่อนซึ่งอาจจะนำไปปลุกระดมได้ ผบ.ตร. ตอบว่า เข้าใจและกลัวเรื่องนี้อยู่แล้วและพยายามแก้ไข

ยันคลิปเสียงนายกฯตัดต่อชัวร์

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่รัฐสภา นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายกฯ ได้นำภาพคลื่นเสียงที่อ้างว่าตรวจสอบจากโปรแกรมสำเร็จรูป sonysound forge จำนวน 2 แผ่น มาให้กับผู้สื่อข่าวดู โดยแผ่นหนึ่งเป็นกราฟคลื่นเสียงการพูดของคนปกติ และอีกแผ่นหนึ่งเป็นกราฟคลื่นเสียงจากคลิปที่ถูกอ้างว่าเป็นน้ำเสียงของนายกฯ ที่สั่งให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อช่วงเดือน เม.ย. พร้อมกล่าวว่า หลังจากได้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป พบว่าตัดต่อ 100% เพราะเสียงพูดของคนปกติทั่วไป กราฟคลื่นเสียงมีลักษณะเริ่มจากหัวเสียง หางเสียง มีช่วงเว้นหายใจ แต่จากภาพกราฟคลื่นเสียงที่อ้างว่าเป็นของนายกฯพบว่าเส้นกราฟคลื่นเสียงไม่มีหัวเสียง แต่มาเริ่มที่หางเสียง มีลักษณะโดนหั่น มีรอยตัด เชื่อมต่อของเสียง จะไม่มีการเฟด โดยเฉพาะช่วงที่สั่งให้ใช้ความรุนแรงจะเห็นชัดเจนว่าไม่มีช่วงเริ่มต้นของคลื่นเสียง แต่มาเริ่มที่ช่วงกลางเสียงเลย ไม่มีช่วงเว้นหายใจด้วย เหมือนเสียงตัดมาแปะ ดังนั้น หลักฐานชิ้นนี้สามารถนำไปพิสูจน์ในศาลได้ นอกจากนี้กองพิสูจน์หลักฐานได้ผลสอบออกมาในลักษณะเดียวกันว่าเป็นลักษณะการตัดต่อ คนทำมีฝีมือพอใช้ได้ โดยคนฟังอาจคล้อยตาม เข้าข่ายความผิดต่อรัฐ สามารถนำไปก่อจลาจลได้ ทั้งนี้ หากดูในฟอร์เวิร์ดเมล์ก็รู้ว่ามาจากพนักงานที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยพนักงานเหล่านั้นเป็นประชาสัมพันธ์ของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งมีการส่งคลิปนี้ไปทางอีเมล์ไปยังนักการเมืองที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น

"ชวน" การันตี "อภิสิทธิ์" ไม่รุนแรง

ทางด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นคลิปหรือข้อความที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีสั่งการทหารให้ใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ขอรับประกันว่านายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนอย่างนั้น เพราะตนรู้จักมานาน แต่ไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการปล่อยคลิปดังกล่าว เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีการหนึ่ง เพื่อสร้างสถานการณ์และเงื่อนไขให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย คนที่ทำเรื่องนี้คงไม่ได้สนใจอะไร และคงทำอะไรได้ทุกอย่าง รวมถึงสามารถโกหกได้ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจะต้องอธิบายให้ชาวบ้านทราบว่าความจริงคืออะไร ซึ่งอาจจะต้องเหนื่อยในการชี้แจง แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจ คิดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจ แต่รัฐบาลควรชี้แจง โดยเฉพาะนายกฯที่เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดหยาบคาย อย่าว่าแต่ชีวิตการเมืองเลย ชีวิตธรรมดาทั่วไปยังไม่เคยได้ยิน

"เทือก" ย้ำคลิปนายกฯการตัดต่อ

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเผยแพร่คลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่านทางอินเตอร์เนต โดยมีการระบุให้ใช้ความรุนแรงในการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้รัฐบาลใช้เป็นข้ออ้างในการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า ทราบว่ามีคนเอาคลิปเสียงคนพูด คล้ายเสียงนายกรัฐมนตรีไปเปิด แต่เท่าที่ได้รับรายงานมานั้นเนื้อหาของคลิปดังกล่าวไม่เป็นความจริง นายกฯไม่เคยพูดจาอย่างนั้น แต่ปัจจุบันนี้มีเทคนิคในการตัดต่อ ก็ต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบต่อไปว่า ทำกันโดยวิธีใด อย่างไร เมื่อถามว่า ยืนยันว่าเป็นการตัดต่อใช่หรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ข้อความที่รายงานมาให้ทราบเป็นเรื่องจริงไปไม่ได้เลย เป็นเรื่องตลกร้าย เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านนำคลิปเสียงดังกล่าวไปเปิดในที่ประชุมสภา วันที่ 27 ส.ค. รัฐบาลจะขัดข้องหรือไม่ นายสุเทพตอบว่าเป็นหน้าที่รับผิดชอบของประธานสภาฯ แต่คลิปเสียงนี้ผิดกฎหมาย ตนจะต้องดำเนินการ เมื่อถามว่า เป็นกระบวนการดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า แน่นอน เพราะมีการทำทุกอย่าง ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ให้คนเข้าใจผิด ขอให้ประชาชนไต่ตรอง ใช้วิจารณญาณ

ไม่ให้มีเหตุการณ์แบบสงกรานต์

นายสุเทพกล่าวถึงกรณีการรับมือการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นี้ว่า รัฐบาลนี้ไม่จำกัดสิทธิประชาชนในการแสดงออก แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยชุมนุมอย่างสงบ ไม่ทำให้คนอื่น หรือการปฏิบัติราชการเสียหาย ถ้าทำตามกติกาเหล่านี้สามารถชุมนุมได้ไม่ว่า ที่ไหน กี่วัน ก็ไม่เป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า สภาพเหตุการณ์ที่พัทยา และช่วงสงกรานต์ ต้องไม่เกิดขึ้นอีก โดยวันที่ 28 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมพิจารณาในระดับ กอ.รมน.เพื่ออนุมัติการจัดตั้งศูนย์อำนวยการ ที่มีตนเป็น ผอ.ศูนย์ฯ และ รมว.กลาโหม เป็นรอง ผอ.ศูนย์ฯ นอกจากนี้จะอนุมัติแผนดำเนินการ เมื่อถามว่า มีข่าวออกมาว่าจะมีการใช้ มาตรา 18 ในการห้ามออกจากเคหสถาน และห้ามเข้าเขตพื้นที่ที่กำหนด นายสุเทพตอบว่า ไม่มี พยายามจะไม่ทำอะไรกระทบต่อสิทธิของประชาชนโดยเด็ดขาด แต่บางพื้นที่ห้ามเข้า เช่น ทำเนียบรัฐบาลนั้น จะบุกเข้ามาไม่ได้ รวมถึงถนนรอบทำเนียบฯด้วย อย่างไรก็ตาม หน่วยงานราชการอื่นๆยังทำงานตามปกติ และประชาชนยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ที่มีบ้างคือ อาจต้องตรวจอาวุธ เพราะตนกังวลใจเรื่องอาวุธ เมื่อถามว่าจะมีการนำกำลังพลเข้ามาประจำในสถานที่ และวางแนวป้องกันและสิ่งกีดขวางเหมือนที่เคยทำหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ต้องทำด้วย เพราะกลัวจะมีคนมาทำให้เกิดความรุนแรง

"ถาวร" โบ้ยใส่คนอยู่เมืองนอกสั่ง

ส่วนนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการนำคลิปเสียง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯสั่งการทหารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้ใช้ความรุนแรง เพื่อที่รัฐบาลจะได้เกิดความชอบธรรมในการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า เป็นการตัดต่อและใส่ร้าย ถ้ารู้จักนายกฯดี ก็จะทราบว่าท่านไม่ใช่คนอย่างนั้น คิดว่าเจตนาในการปล่อยคลิปออกมา เพื่อชี้ให้เห็นว่านายกฯใช้วิธีการผิดกฎหมาย ลดความน่าเชื่อถือในตัวนายกฯ เป็นวิธีการที่คนอยู่เมืองนอกสั่งมา โดยทำทุกทางเพื่อล้มล้างรัฐบาล ถ้าหากเป็นเรื่องจริง ให้คนที่ทำออกมาพูด อย่ามาทำเป็นลับๆล่อๆ คนที่จะยืนยันว่า นายกฯจะกระทำความผิด ต้องกล้าออกมาให้สัมภาษณ์ ทำตัวเป็นแหล่งข่าวให้ชัดเจน อย่าทำเป็นคลิปให้เหมือนเป็นเรื่องฉาวโฉ่ ขณะที่นายกฯพร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบ และพร้อมที่จะถูกฟ้องร้อง ถูกดำเนินการทุกเรื่อง แต่เมื่อเรื่องมาเกิดขึ้นแบบนี้ ถือว่าคนที่กระทำพยายามทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อตัวนายกฯ จึงขอให้ประชาชนรับฟังโดยใช้ดุลพินิจ สำหรับรัฐบาลจะต้องรอการตรวจสอบเสียง สืบสวนหาแหล่งที่มา

รับลูกสอบคลิปนายกฯ

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา พล.ต.ต. สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์การชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง แถลงว่า คณะอนุกรรมการฯได้รับซีดีบันทึกเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ที่พูดในช่วงที่มีเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อช่วงกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เมื่อใครได้ยินก็รู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ จึงจะรับเรื่องนี้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเสียงพูดที่ได้ยินตัดต่อหรือพูดจริง โดยคณะอนุกรรมการฯจะเชิญนายกฯและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนมาให้ปากคำด้วย ด้านนายเฉลิมชัย อุฬารกุล ในฐานะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า เสียงที่ได้ยินจากซีดีนั้น เบื้องต้นกรรมการหลายคนเชื่อว่าน่าจะตัดต่อ อย่างไรก็ตามจะนำเรื่องนี้เสนอต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองชุดใหญ่ ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ว่าจะดำเนินการตรวจสอบต่อไปอย่างไร ขณะที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า แผนซีดีนี้ตนเป็นคนนำมามอบให้คณะอนุกรรมการฯ หลังจากได้รับมาเมื่อวันที่ 26 ส.ค. เวลา 20.00 น. มีคนขี่มอเตอร์ไซค์มาให้ที่บ้าน เมื่อเอามาเปิดดูแล้วจึงทราบว่าเป็นเสียงบันทึกของนายกฯ

ส่งคลิป "มาร์ค" ให้ พฐ.พิสูจน์

ทางด้าน พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. กล่าวว่า หลังจากที่ได้ฟังคลิปเสียงที่มีการอ้างว่าเป็นเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สลายม็อบกลุ่มเสื้อแดงว่า ยอมรับว่าถ้าหากเป็นการตัดต่อก็ค่อนข้างแนบเนียน ซึ่งจะต้องส่งคลิปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้ง และในขณะนี้ได้สั่งตำรวจสันติบาลตรวจหาสถานที่แจกจ่ายคลิปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีแล้ว คาดว่าภายในวันพรุ่งนี้ น่าจะทราบถึงต้นตอที่มาของคลิปดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่าคลิปดังกล่าวถูกเปิดในเวทีปราศรัยที่ จ.อุดรธานี

ยัน ก.ม.มั่นคงไม่กระทบชาวบ้าน

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อควบคุมการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า ครม.ประกาศให้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เขตดุสิตเขตเดียว เป็นกฎหมายป้องกันการเกิดเหตุมากกว่าให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้ และไม่ได้ไประรานใคร ส่วนต้องออกข้อกำหนดอย่างระมัดระวัง โดยจะต้องมีการประชุมกันระหว่างคณะกรรมการอำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในอีกครั้ง เมื่อถามว่าประชาชนนอกพื้นที่ที่มาจากต่างจังหวัดจะเข้ามาร่วมชุมนุมจะปล่อยให้เข้ามาในพื้นที่เขตดุสิตหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า มีการจัดตั้งจุดตรวจด่านตรวจ ไม่ให้มีการพกพาอาวุธ สามารถเดินทางเข้ามาในพื้นที่ที่ไม่ได้กำหนดได้ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เมื่อถามว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่าจะเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาลจะมีการสกัดกั้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า มีพื้นที่ให้ทำอยู่ไม่ต้องห่วง แต่ต้องรอให้รัฐบาลออกกำหนดเสียก่อน เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีกังวลเรื่องมือที่สามจะเข้ามาก่อความวุ่นวาย พล.อ.ประวิตรตอบว่า ยังไม่ได้ข่าวเรื่องนี้

โฆษก กห.แจง จนท.ต้องเข้มงวด

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ภายหลังการประชุม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมหารือถึงการรับรองมติ ครม.ที่มีการประกาศ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่เขตดุสิตระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย. 2552 โดยมีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นผู้รับผิดชอบ โดยมาตรา 18 ที่เกี่ยวกับข้อกำหนดการบังคับใช้ข้อห้าม กอ.รมน.จะเป็นผู้ชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 28 ส.ค. ทั้งนี้ พ.ร.บ.ความมั่นคงออกมาเพื่อป้องกันการก่อเหตุ รวมถึงการระงับยับยั้งหากมีเหตุการณ์ที่ส่อไปในทางที่ไม่ดี โดยเราสามารถเชิญผู้ต้องสงสัยมาชี้แจงสอบถามได้ และมีความจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้มีมือที่สามเข้ามาแทรกแซงสร้างสถานการณ์ ดังนั้นการปฏิบัติคงมีความเข้มงวด โดยเฉพาะการพกพาอาวุธในเขตพื้นที่ดุสิต ทั้งนี้จะใช้วิทยุความมั่นคง และมวลชน กอ.รมน.ในพื้นที่เขตดุสิตเข้ามาสร้างความเข้าใจกับประชาชนในเขตดุสิตถึงความจำเป็นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง

ห้ามชุมนุมที่ทำเนียบ-สภา-วัง

พ.อ.ธนาธิปกล่าวว่า ตามแผนการรักษาความปลอดภัยจะมีการสนธิกำลังจากทุกภาคส่วนทั้งตำรวจ ทหารจาก กอ.รมน. ภาค 1 และฝ่ายพลเรือนคือ เทศกิจ กทม. อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตรในฐานะประชาชนก็มีความกังวลอยู่บ้าง แต่หลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เชื่อว่าความกังวลจะคลายลงไป เพราะแผนที่ใช้มีการเตรียมการดี และกำชับเจ้าหน้าที่ให้มีความเข้าใจแผนงานทุกอย่าง ซึ่ง พล.อ.ประวิตรเน้นย้ำว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงแม้จะยังไม่เกิดเหตุการณ์แต่มีแนวโน้ม จึงต้องเตรียมป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความพร้อมและมีกฎหมายรองรับในการปฏิบัติงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมมีความกังวลเรื่องกลุ่มมือที่สามเข้ามาก่อเหตุรุนแรง และได้มีการโฟกัสพื้นที่ที่ต้องดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษคือ พระราชวังดุสิต ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ที่จะห้ามไม่ให้มีการชุมนุมโดดเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ไม่ห้ามชุมนุมในพื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้า

มท.1 หนุนใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงว่า เชื่อว่าการประกาศ พ.ร.บ.ดังกล่าว จะสามารถควบคุมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ ดีกว่าไม่มีการประกาศกฎหมายใดๆเลย แต่ตอนนี้ทราบว่า แกนนำกลุ่มเสื้อแดงมีความคิดที่แตกต่าง แต่เชื่อว่าการชุมนุมจะไม่ทำให้เศรษฐกิจแย่ลง เพราะขณะนี้เศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว ส่วนปลัดกระทรวงมหาดไทยและ ผวจ.ทำหน้าที่รายงานตัวเลขตามปกติ ไม่มีอะไรเพิ่มเติม และตอนนี้ไม่มีจังหวัดใดน่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการชุมนุมในแต่ละจังหวัดเริ่มลดน้อยลง

ชี้อากาศร้อนทำ ส.ส.ระเบิดคำหยาบ

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ใช้คำหยาบตะโกนด่าทอกันกลางสภาฯเมื่อวันที่ 26 ส.ค.นั้น เข้าใจว่าขณะนี้เป็นหน้าร้อน อากาศร้อน เลยเป็นแบบนั้น ถ้าหากเป็นฤดูหนาวคงไม่เป็นอย่างนี้ คงจะดีขึ้น แต่ อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ จะเตือนให้ลูกพรรคมีความอดทนอดกลั้นในการแสดงอารมณ์มากขึ้นในที่ประชุม และต้องรักษามารยาทในสภาฯ เพราะเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยจะอบรมลูกพรรคในการประชุมพรรคครั้งหน้า เพราะทำให้เสียภาพลักษณ์ของพรรค เมื่อถามว่าเป็นเพราะโดนโจมตีว่าทรยศต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยไม่พอใจ จนระเบิดอารมณ์ออกมา นายชวรัตน์ตอบว่า ไม่มีความคิดเห็น แต่เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาในการทำงานร่วมกับรัฐบาล เพราะผู้ใหญ่เข้าใจกัน

ยันแนวคิดรวม ก.ม.นิรโทษ-ปรองดอง

เมื่อถามถึงกฎหมายนิรโทษกรรมฯ ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าไม่เห็นด้วย นายชวรัตน์ตอบว่า ไม่เป็นไร ไม่เห็นด้วยก็เก็บเข้าลิ้นชักไว้ก่อน เพราะถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ผ่านสภาฯอยู่แล้ว เราคงไม่ฝืนกระแส ตอนนี้รอแค่ความคิดเห็นจากสภาฯ เพราะถ้าเข้าสภาฯได้ต้องมีการอภิปราย ถ้าสภาฯไม่เห็น ด้วยก็ไม่ว่าอะไร พรรคภูมิใจไทยต้องทำงาน ต้องเสนออะไรใหม่ๆเข้ามา เมื่อถามอีกว่า พรรคภูมิใจไทย มีแนวคิดที่จะเสนอกฎหมายอะไรใหม่ๆอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตอบว่า กำลังคิดอยู่ และยังยืนยันที่จะสนับสนุนกฎหมายนิรโทษกรรม และกฎหมายปรองดอง ถ้าเป็นไปได้ ควรจะรวมเป็นกฎหมายเดียวกัน เพราะเป็นเรื่องดีสำหรับส่วนรวม ถ้าอะไรทำให้เสียหาย เราก็ไม่ร่วมด้วย ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขของประชาชนส่วนรวม

ยันพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา

นายชวรัตน์กล่าวถึงปัญหาในการตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวโยงกับการตั้ง ผบ.ตร.หรือไม่ ว่า ไม่ทราบว่าใครเป็นคนโยงเรื่องนี้ สื่อเป็นคนโยงเองมากกว่า และยังยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหาต่อกัน เมื่อถามถึงกรณีที่นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโจมตีอีกรอบ ว่านายชวรัตน์เป็นนักการเมืองมือใหม่ เพิ่งคลอดออกมา นายชวรัตน์ตอบว่า ไม่ต้องการที่จะตอบโต้กับเด็กหางแถว เมื่อถามว่า นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุด้วยว่า ตัวเองเล่นการเมืองมา 20 ปี มีประสบการณ์มากกว่า นายชวรัตน์ตอบว่า นายประมวล เป็นใคร ตนไม่เคยรู้จักมาก่อน ถ้าอยู่มาถึง 20 ปี คงรู้จักบ้าง แต่ก็ต้องปล่อยเขา อยากพูดอะไรก็ปล่อยเขา เราต้องอดทนอดกลั้น

"อนุทิน" เย้ยแค่สุนัขฉี่รดภูเขาทอง

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย บุตรชายนายชวรัตน์ กล่าวถึงกรณีนายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์โจมตีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยว่า "ไม่เป็นไร แค่สุนัขเยี่ยวรดภูเขาทอง ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์เคยชี้แจงแล้วว่า นายประมวล ไม่สบาย"

เด็ก ภท.ด่ากราด "ประมวล"

ทางด้าน น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า นายประมวล เป็น ส.ส.ได้เพราะนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ เหมือนศพไร้ญาติที่ถูกฝัง ประชาชนขุดขึ้นมาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ ยังไม่สำนึก สงสารพรรคเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ ส.ส.คนนี้มาเหมือนผีจับยัด ครั้งที่แล้วที่นายประมวลออกมาโจมตีนายชวรัตน์ คิดว่าผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์น่าจะว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วบ้าง เพราะสิ่งที่นายประมวลทำ ผิดมารยาททางการเมืองอย่างร้ายแรง ที่ออกมาด่าทอหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น ดังนั้น พรรคภูมิใจไทย ฝากเตือนไปยังพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า น่าจะดำเนินการอะไรสักอย่าง เพราะพรรคภูมิใจไทยไม่เคยก้าวล่วงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่างนายอภิสิทธิ์ หรือนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค แต่เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะวุฒิภาวะต่างกัน เหมือนสุภาษิตที่ว่า สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล

อัด "อภิสิทธิ์" เล่นเกมกดดันแบบเด็ก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคภูมิใจไทยว่า จากกรณีกระแสข่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความไม่พอใจ และไม่ยอมให้มีการเสนอชื่อนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในการประชุม ครม.ครั้งที่ผ่านมานั้น แกนนำพรรคภูมิใจไทยระบุว่าเป็นเรื่องที่นายอภิสิทธิ์เล่นเกม ใช้วิธีการกดดันแบบเด็กๆ เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่า หากนายชวรัตน์ยังคงไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ตามที่นายกฯเสนอ นายกฯก็จะขวางพรรคภูมิใจไทยบ้าง อย่างไรก็ตาม แกนนำพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน ได้หารือแล้วว่า เรื่องดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจและยังไม่จำเป็นต้องตอบโต้ เพราะนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ สามารถเสนอใหม่ได้ เนื่องจากการแต่งตั้งปลัดกระทรวงนั้น นายกฯมีหน้าที่แค่รับทราบ เพราะเป็นวาระเพื่อทราบ ไม่ใช่เพื่อพิจารณา นายกฯไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจว่าได้ หรือไม่ได้ เพราะการแต่งตั้งปลัดไม่มีกรรมการสรรหา เหมือน ผบ.ตร. และในการประชุม ครม.ครั้งหน้า หากเรื่องนี้ยังไม่เข้า ครม. นางพรทิวาก็จะเสนอต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้รู้ว่านายอภิสิทธิ์จะเล่นเกมอะไรต่อไปอีก

"เทือก" สั่งจับตาดูไบไล่ "ทักษิณ"

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายเทพ�ไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกนอกประเทศ เพราะไม่ต้องการให้ใช้เมืองดูไบเป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า กำลังติดตามข่าวอยู่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ หนีคดี เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่จะดำเนินการเอาตัวกลับมาดำเนินคดี ส่วนมิตรประเทศถ้ามีความเป็นมิตรกับประเทศไทยก็ต้องให้ความร่วมมือกับประเทศไทย ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหนก็ต้องส่งตัวมาให้เรา เพราะตามปกติคนที่จะอ้างว่า ลี้ภัยทางการเมืองไปอยู่ประเทศอื่น ก็ต้องรับรองโดยประเทศนั้นๆว่า จะไม่ใช้ประเทศเขาเป็นฐานโจมตีประเทศที่ตัวเองหนีมา กรณี พ.ต.ท. ทักษิณต้องดูต่อไปว่า ทางการของดูไบคิดอย่างไร โดยกระทรวงการต่างประเทศพยายามติดต่อกับประเทศต่างๆ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในฐานะของผู้ที่หลบหนีคำพิพากษาของศาล เป็นผู้หลบหนีคดี

"เทพไท" ยัน "ทักษิณ" โดนทัณฑ์บน

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกนอกประเทศ แต่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวว่า ขอยืนยันว่าเรื่องนี้แหล่งข่าวจากกระทรวงต่างประเทศยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้มาหลายครั้ง โดยทางยูเออีไม่ พอใจกับพฤติกรรมดังกล่าว แต่โดยมารยาทคงไม่มีการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณคงจะรู้ตัวเองจึงเดินทางออกไปยังประเทศมอนเตเนโกร และประเทศไลบีเรีย ทั้งนี้ มีเอกสารลับทางการทูตที่ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกกดดันจากยูเออี โดยบางตอนของเอกสารระบุว่า ทางการยูเออี ได้เรียกตัว พ.ต.ท.ทักษิณเข้าพบเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 52 และขอให้อดีตนายกฯอยู่ในความสงบ ห้ามดำเนินการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลไทยในดินแดน ยูเออี เพราะอาจจะทำให้รัฐบาลยูเออีขายหน้าได้ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ไปติดต่อขอพบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลยูเออี พร้อมทั้งตอบรับว่าจะไม่ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองใดๆ และสัญญาว่าจะเก็บตัวเงียบ รวมทั้งจะไม่ แทรกแซงกิจกรรมราชอาณาจักรไทยตามคำขอของรัฐบาลยูเออี ซึ่งเป็นการทำทัณฑ์บนของรัฐบาลยูเออีกับพ.ต.ท. ทักษิณ

ขู่สื่อระวังเสนอข่าวโฟนอิน 30 ส.ค.

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะผู้บริหารสื่อวิทยุ โทรทัศน์ เพื่อทำความ เข้าใจเกี่ยวกับการเสนอข่าวการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค. ภายหลังการหารือนายสาทิตย์กล่าวว่า เป็นการเรียกหารือกลุ่มสื่อมวลชนที่จะมาทำข่าวสถานการณ์ การชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 30 ส.ค. เพื่อให้ เข้าใจถึงจุดที่จะนำรถโอบีมาจอด และการประสานงานระหว่างทีมข่าวที่เข้ามาทำข่าวกับเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้เกิด อันตรายในขณะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกัน ก็ขอให้สื่อมวลชนระมัดระวังเรื่องการฉกฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ เช่น กรณีที่มีการโฟนอินเข้ามา เพื่อสร้าง สถานการณ์ให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ สื่อมวลชนยังสามารถทำหน้าที่ได้เต็มที่ รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นการเสนอข่าว หรือตรวจสอบข่าวก่อนนำเสนอต่อประชาชน นอกจากนี้ ยังขอให้สื่อมวลชนช่วยเผยแพร่การทำความเข้าใจเรื่อง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ซึ่งในวันที่ 28 ส.ค. เวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาลจะมีการแถลงข่าวของศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะเชิญสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศมาชี้แจงให้ทราบถึงจุดมุ่งหมายของการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่เขตดุสิต และมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร

ปูด "ทักษิณ" เร่งจบเกมใน 2 เดือน

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข ประกาศแยกตัวออกจากการทำงานร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ในความคิดของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น สะท้อนให้เห็นหลายครั้งว่าความเห็นไม่ตรงกัน แต่คนเหล่านี้มีเป้าหมายชัดเจน คือช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสุดท้ายแม้จะแตกแยกกันอย่างไร ก็ยังคงช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่อาจจะแยกกันคนละวิธีการ ทั้งนี้ การเร่งเกมของ พ.ต.ท.ทักษิณชี้ให้เห็นว่า อาจมีเงื่อนเวลาบางอย่างที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเร่งรีบทำ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหาย อาจเป็นเรื่องของถิ่นที่อยู่ที่ขณะนี้ค่อนข้างมีปัญหา การพิจารณาคดีหลายคดีที่เร่งรัด เรื่องทางการเงินที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องใช้เงินจำนวนมากในการสนับสนุนสมาชิก และในทางการข่าวเรารู้ว่า มีความพยายามเร่งเกมตลอดเวลา เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งรัฐบาลจะตั้งรับอย่างมีสติ

ทำเนียบฯ ตื่น "ตัวเงินตัวทอง" ตายคาท่อ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ที่บริเวณห้องผู้สื่อข่าว หรือรังนกกระจอกใหม่ ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้สื่อข่าวที่เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ได้กลิ่นเน่าเหม็นคล้ายซากสัตว์โชยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จึงเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบ ปรากฏว่าเจอซากตัวเงินตัวทองขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 2 เมตร ตายอยู่ในท่อน้ำ ด้านหน้ารังนกกระจอกใหม่ ติดกับโรงจอดรถด้านข้างตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลมาเก็บซากดังกล่าว โดยต่อมาผู้ดูแลสวนได้ มาดำเนินการเก็บซากตัวเงินตัวทองออกไป อย่างไรก็ตามได้มีการวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งบรรดาผู้สื่อข่าวและข้าราชการประจำทำเนียบรัฐบาลไปต่างๆนานา เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้มาก่อน เนื่องจากปกติตัวเงินตัวทองภายในทำเนียบรัฐบาลก็จะเดินหากินอยู่ในท่อระบายน้ำ ภายในทำเนียบรัฐบาลอยู่แล้ว

กลุ่มแดงสยามไม่เห็นด้วยยื่นฎีกา

วันเดียวกัน นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ 1 ในแกนนำ นปช.ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า ตนและนายจักรภพ เพ็ญแข ไม่เห็นด้วยกับการยื่นถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเห็นว่าแนวทางการต่อสู้ของกลุ่ม 3 เกลอกำลังออกนอกกรอบ ซึ่งเป็นการยากที่จะบรรลุสู่เป้าหมาย อีกทั้งยังทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังมีอุดมการณ์ชัดเจนพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย การที่กลุ่ม 3 เกลอกำลังต่อสู้เพื่อโค่นล้มระบบอำมาตย์ซึ่งมีความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์จนแยกกันไม่ออก การขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตลอดถึงการใช้แนวทางการปฏิรูปจึงเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จ ตนและนายจักรภพมีแนวคิดตรงกันที่จะจัดตั้งกลุ่มแดงสยาม ขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมในแนวทางการปฏิวัติ โดยการรวบรวมกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีอุดมการณ์ตรงกันพร้อมชูนายจักรภพเป็นประธานกลุ่ม

ด่ากลับ "จตุพร" ด้อยประสบการณ์

นายสุรชัยกล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมากล่าวโจมตีนายจักรภพว่าหนีทำไม การพูดเช่นนี้ ทำให้ไปกระทบต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็หนีเหมือนกัน ส่วนที่กล่าวว่าตนเป็นคอมมิวนิสต์นั้น นายจตุพรมีความรู้สึกช้า ใครๆก็รู้ว่าตนติดคุกเพราะเป็นคอมมิวนิสต์ ขอเตือนว่าตัวนายจตุพรเองยังด้อยประสบการณ์ทางการเมือง การออกมาพูดในลักษณะนี้ให้ระวังให้ดีอาจกระทบต่อคนรอบข้างของนายจตุพรได้ เพราะคนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับนายจตุพรเคยเป็นคอมมิวนิสต์ มาแล้วหลายคน อย่างไรก็ตามการตั้งกลุ่มแดงสยามในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง แต่เกิดจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งตนขอท้าว่าระหว่างแนวทางการต่อสู้ของกลุ่ม 3 เกลอคือกลุ่มแดงทั้งแผ่นดินกับแนวทางกลุ่มเสื้อแดงสยาม หรือแดงสยาม ดูซิว่าใครจะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน

"ทักษิณ" โชว์รวยโพสต์รูปเพชร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความลงบนเว็บไซต์ twitter.com โดยระบุว่า กำลังนั่งดูเหมืองเพชรอยู่และจะถ่ายรูปเพชรมาฝากนั้น ปรากฏว่าเมื่อเวลา 10.25 น. พ.ต.ท.ทักษิณได้เขียนข้อความลงบนเว็บไซต์ twitter. com 2 ข้อความ โดยข้อความแรกระบุว่า "http:// twitpic.com/fet1w-เพชรที่เคยบอกว่าจะเอามาให้ดูกันครับ" และข้อความที่สองระบุว่า "ผมพยายามส่งมาให้ดูอีกครับ http://picasaweb.google.com" ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวลิงก์เข้าไปดูรูปตามที่มีการระบุเอาไว้นั้นปรากฏว่า ในลิงก์แรกเป็นรูป พ.ต.ท.ทักษิณสวมเสื้อโปโลสีแดงและสวมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตสีแดงอีกชั้นหนึ่ง โดยในมือซ้ายถือเพชรดิบที่ยังไม่ได้เจียระไน ขณะที่ลิงก์ที่ 2 นั้นมีทั้งหมด 6 รูป ซึ่งเป็นรูปของ พ.ต.ท.ทักษิณขณะอยู่ภายในเหมืองเพชรและกำลังดูเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน

"วุฒิ" เลี่ยงตอบคดีปิดสนามบิน

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีม็อบพันธมิตรฯปิดล้อมสนามบิน เปิดเผยว่า คดีนี้ได้สั่งกำชับ ให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดดำเนินการไปแล้ว ให้รวบรวมรายละเอียดคดีทั้งหมดเพื่อเสนอขึ้นมา ส่วนรายละเอียดยังไม่ได้รับรายงาน ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันที่จะแจ้งข้อหา "ก่อการร้ายสากล" หรือไม่ พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวเลี่ยงว่า อยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ด้าน พล.ต.ท. ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ได้มีข้อตกลงของคณะพนักงานสอบสวนในการให้ข้อมูลหรือแถลงข่าวคดีปิดล้อมสนามบิน ต้องเป็นอำนาจของ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ตอบคำถามเท่านั้น พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตรฯในข้อหาบุกรุกสนามบินดอนเมืองทั้งหมด 27 คน แต่ยังไม่มีใครมาพบ ขณะนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด ส่วนขั้นตอนดำเนินการต่อไปขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร.

"สุวรรณ" ให้ "กษิต" รับผิดชอบ

พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงคดีพันธมิตรฯปิดสนามบินว่า โดยภาพรวมการบุกเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้ทำสนธิสัญญากับองค์การสหประชาชาติ เหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองนาน 3-4 วัน ทำให้สายการบินกว่า 80 สายทั่วโลก ได้รับความเสียหาย ระบบธุรกิจด้านต่างๆ ได้รับผลกระทบเป็นเงินจำนวนมหาศาล หากผู้ได้รับความเสียหายจะให้ชดใช้ ก็ต้องฟ้องเอาผิดกับรัฐบาล และเงินที่จะนำมาชดใช้ค่าเสียหาย ก็ไม่ใช่เงินของนายกรัฐมนตรี แต่เป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน แต่ถ้าเป็นความผิดของผู้ก่อการร้าย ต้องไปฟ้องผู้ก่อการร้ายและผู้สนับสนุนให้ชดใช้ค่าเสียหาย หนึ่งในนั้นคือนายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ เพราะมีตัวตนและอยู่ในเหตุการณ์ด้วย รวมถึงบริษัทห้างร้านที่มีชื่อในการสนับสนุนให้บุกยึดสนามบิน รัฐบาลต้อง ไม่โกหกประชาชน เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นการหยามตำรวจอย่างมาก มีการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ตำรวจเองต้องกล้าหน่อย อย่าทำตัวเป็นลูกไล่ องค์กรตำรวจเท่านั้นที่จะทำให้เกิดความสมานฉันท์ของคนไทยทั้งชาติ ตำรวจต้องยึดมั่นทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกฝ่าย ไม่เลือกข้าง

พงส.ยันตั้งข้อหา "ก่อการร้าย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนของ บช.น. และ บช.ภ.1 ได้มีการสรุปสำนวนคดีม็อบพันธมิตรฯปิดสนามบิน หลังจากเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายต่างประเทศกระทรวงต่างประเทศ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และกรมการขนส่งทางอากาศ กระทรวงคมนาคม มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสียหาย และข้อกฎหมายต่างประเทศ พนักงานสอบสวนได้สรุปความเห็นเพื่อเตรียมเสนอ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ให้แจ้งข้อกล่าวหาแกนนำพันธมิตรฯ ที่อยู่ในข่ายร่วมกระทำความผิดตามข้อหา "ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ ก่อการร้าย บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ ทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง"

แบ่งเวลาอภิปรายงบฯลงตัว

อีกเรื่อง วันเดียวกัน เมื่อเวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการจัดสรรเวลาในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ว่า ได้มีการหารือและจัดสรรเวลาแล้วว่าการอภิปรายจะมี 2 วัน โดยจะพยายามให้มีการลงมติได้ก่อนเวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 ส.ค. เพราะในวันที่ 29 ส.ค. มี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยจะเดินทางไป จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยผู้สมัครของแต่ละพรรคหาเสียง ขณะที่พรรคภูมิใจไทยจะไปร่วมงานศพของนายวีระ รักความสุข ส.ส.สัดส่วนพรรคภูมิใจไทย ส่วนการจัดสรรเวลาได้แบ่งสัดส่วนของคณะกรรมาธิการ 5 ชั่วโมง รัฐบาล 10 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 15 ชั่วโมง โดยจะเปิดโอกาสให้อภิปรายได้อย่างเต็มที่ กำหนดให้แต่ละคนมีเวลาในการพูดคนละไม่เกิน 10 นาที โดยกำหนดว่าจะต้องพูดไม่ซ้ำซ้อน ประเด็นที่มีผู้อภิปรายอื่นได้พูดไปแล้ว เพราะมีการแปรญัตติมากถึง 184 คน

ได้ข้อสรุป รมต.ลงมติไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ยังมีความสับสนกรณีที่จะให้บรรดารัฐมนตรีว่าจะสามารถลงมติได้หรือไม่ เพราะมีหลายคนออกมาระบุว่าจะไม่ขอลงมติ เพราะไม่อยากจะไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. นายชินวรณ์ตอบว่า ได้หารือเป็นที่ชัดเจนแล้ว โดยตามมาตรา 177 ของรัฐธรรมนูญระบุชัดว่า กรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ รัฐมนตรีไม่สมควรลงมติ เพราะมีหลายมาตราที่อาจจะหมิ่นเหม่หรือกระทบต่อผลประโยชน์ได้เสียของรัฐมนตรี จึงชัดเจนว่ารัฐมนตรีไม่สามารถที่จะลงมติได้ในกรณี พ.ร.บ.รายจ่ายงบประมาณประจำปี 2553 นี้ ทั้งนี้จะได้ปฏิบัติให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป อย่างไรก็ตาม ไม่กระทบเสถียรภาพของรัฐบาลแต่อย่างใด และมั่นใจว่าจะสามารถผ่านได้ เพราะขณะนี้รัฐบาลมีเสียงสนับสนุนที่ 275 เสียง ตัดรัฐมนตรี 22 คน เหลือ 253 เสียง ยังมีจำนวนมากพอเกินกึ่งหนึ่งของเสียง ส.ส.ในสภาอีก 18 เสียง ทุกพรรคมีความมั่นใจ

"ประสิทธิ์" โวยหาตัว ส.ส.แจกของลับ

นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย แถลงว่ารับไม่ได้กับการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรระบุว่า ไม่รับทราบกรณีที่ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ตะโกนแจกของลับให้ตนกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เพราะขนาดกรณีการทะเลาะวิวาทระหว่างนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายชัย ชิดชอบ ไม่เห็นเหตุการณ์ ยังมีการตั้งกรรมการสอบสวนจนทำให้นายการุณเสียหาย ดังนั้นตนจึงได้ทำหนังสือถึงประธานสภาฯเพื่อขอให้ตรวจสอบ และประณามคนที่แจกของลับและด่าตนกลางสภาฯ เพราะตนทำหน้าที่ ส.ส.เพื่อทักท้วงให้มีการถ่ายทอดสดการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จึงขอให้ตั้งกรรมการเพื่อสอบสวนเรื่องดังกล่าวด้วย นพ.ประสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ไม่ต้องการให้ถึง ขั้นต้องไล่ออก เพียงแต่อยากให้ประณามเท่านั้น เพราะถือเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมาก เที่ยวมาแจกของลับด่าคนอื่นด้วยคำพูดไม่สุภาพ ถือว่าทำให้เกียรติภูมิของสภาฯตกต่ำ ทั้งนี้ตนได้ไปสอบถาม ส.ส.พรรคภูมิใจไทยที่นั่งอยู่ในกลุ่มดังกล่าวแล้วว่าใครเป็นคนด่าตน ทุกคนก็ไม่ยอมตอบ

ปธ.วิปรัฐลั่นทำภาพสภาฯเสียหาย

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.ในสภาฯกล่าวคำไม่สุภาพ ทั้งการให้ของลับและตะโกนคำด่าลั่นสภา และเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหลังในการประชุมสภาฯว่า เคยได้เตือนไปแล้วว่า ส.ส.เป็นอย่างไรประชาชนก็จะเป็นเช่นนั้น ทำให้ประชาชนเสียหายได้ ดังนั้นการใช้วาจาและกิริยาที่ไม่สุภาพก็ต้องระมัดระวัง ซึ่งการพิจารณาญัตติต่างๆในสภาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่หารือและพูดกันได้มีสาระ แต่พอมีประเด็นเรื่องการทะเลาะวิวาทก็เป็นที่สนใจของสื่อมวลชน ทำให้ภาพพจน์ของสภาฯเสียหาย ดังนั้น ส.ส.ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณวุฒิต้องตระหนักต่อตนเอง ไม่เช่นนั้นจะทำให้คนที่เลือกตัวเองเข้ามาเสียหายไปด้วย ให้กรรมาธิการกิจการสภาพิจารณา อย่างไรก็ตาม เวลามีการอภิปรายในสภาฯจะมีการปะทะคารมกัน ถือเป็นเรื่องธรรมดา

"ชัย" ขอร้องผู้ทรงเกียรติระวังคำพูด

ต่อมาเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ในวาระ 2 และ 3 เป็นวันแรก โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณราย จ่ายประจำปี 53 ชี้แจงสรุปสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ว่า ได้ปรับลด 22,505,238,100 บาท ในโครงการที่มีความ ซ้ำซ้อน เบิกจ่ายล่าช้า และงบครุภัณฑ์ที่สามารถประหยัดได้ ส่วนการพิจารณาเพิ่มงบประมาณนั้นได้พิจารณา
งบที่ ครม.ให้ความเห็นชอบ หรือหน่วยงานของศาลและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในวงเงินเท่ากับที่ปรับลด จากนั้นนายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ได้สอบถามถึงรายละเอียดของโครงการที่ได้รับการปรับเพิ่ม ซึ่งนายบัณฑูร สุภัควณิช ผอ.สำนักงบประมาณ ชี้แจงว่า หากเป็นงบครุภัณฑ์เกินหนึ่งล้านบาท หรือสิ่งก่อสร้างที่เกิน 10 ล้านบาท จึงจะลงรายละเอียด ต่อมานายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนการขอรายละเอียดโครงการว่า เห็นชัดจากการโยกย้ายงบประมาณของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นปี 2552 จำนวน 6,000 ล้านบาท ที่ทำเหมือนสภาผู้แทน-ราษฎรไร้ความหมาย นอกจากนั้นในครั้งนี้ยังไม่มีรายการ ที่โยกงบประมาณจากกระทรวงคมนาคมมาให้รัฐสภาด้วย ทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่พอใจและกล่าวตอบโต้ว่า "คุณพูดเท็จ ใส่ร้ายผมมากเกินไป แล้ว" ทำให้ที่ประชุมเกิดความวุ่นวาย โดยนายสุรพงษ์ ขอให้นายชัยถอนคำพูด ในที่สุดนายชัยก็ยอมถอน

อภิปรายงบฯฝ่ายค้านรุมอัดเละ

ที่รัฐสภา ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 53 ตลอดทั้งวันเป็นไปอย่างกว้างขวางเนื่องจากมีสมาชิกขอสงวนคำแปรญัตติไว้จำนวนมาก เริ่มตั้งแต่มาตรา 3 ว่าด้วยยอดรวม 1.7 ล้านล้านบาท ปรากฏว่ามีสมาชิกขอแปรญัตติไว้ถึง 111 คน เพื่อขออภิปรายในสภาฯ โดยส่วนใหญ่ขอปรับลดงบประมาณที่ใช้ ในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ยังไม่สามารถทำให้สถานการณ์เบาบางลงได้ รวมไปถึงงบของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ที่ถูกนำไปใช้เพื่อหาเสียงให้กับพื้นที่ ของพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้อภิ-ปรายตำหนิการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่ไม่สามารถทำได้ ตามที่เคยประกาศไว้ โดยนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย อภิปรายโดยให้ฉายารัฐบาลว่า เป็นรัฐบาล "4 ก. คือ กู้ โกง กิน และเก็บภาษีน้ำมัน" คิดแต่จะกู้ เงิน ทำโครงการก็เกิดการทุจริตคอรัปชันเรียกค่านายหน้า 20% ไม่เว้นแม้กระทั่งโครงการชุมชนพอเพียง

"หมอแว" อัดยับบัวแก้วทำงานเหลว

นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน อภิปรายขอปรับลดยอดรวมลง 30% โดยให้เหตุผลว่า หลายหน่วยงานได้ของบเพื่อใช้ในด้านการข่าวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้รับข้อเท็จจริง อาทิ การตั้งสมมติฐานว่าผู้ก่อความไม่สงบส่วนใหญ่เป็นพวกมุสลิมอาร์เคเค ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นทั้งหมด หรือกรณีรถยนต์ที่ใช้คาร์บอมบ์ ล่าสุดก็เป็นรถของเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่ถูกขโมยมานานกว่าสี่เดือนแล้ว และนำไปทำสีใหม่ แต่การข่าวกลับไม่ ระแคะระคาย

นพ.แวมาฮาดีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศล้มเหลว และสร้างปัญหาให้กับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กรณีที่หนังสือ พิมพ์ของประเทศมาเลเซียลงรูป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางแวะที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ก็ถูกกระทรวงการต่างประเทศ และ รมช.มหาดไทยของไทยให้ข่าวโจมตีประเทศมาเลเซียว่าให้ที่พักพิงกับบุคคล ที่มีปัญหากับทางการไทย จนทำให้ ผบ.ตร.ของประเทศมาเลเซียตอบโต้ว่าเป็นการพูดที่ไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกันเพราะมาเลเซียไม่เคยได้รับหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ จากประเทศไทยแม้แต่ฉบับเดียว

ขู่ฟ้องศาล รธน.งบประมาณทำผิด

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า วันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) ตนและทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่มีการนำรายละเอียดของโครงการต่างๆที่พิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯ มาให้ ส.ส.ในสภาฯ ได้รับทราบ งบประมาณปี 53 มีงบลงทุนเพียงสองแสนล้านบาทนอกนั้นโยกไปอยู่ในงบไทยเข้มแข็งที่ไม่มีการระบุรายละเอียดโครงการ นอกจากนั้นขอตัดงบประมาณสัมพันธ์ของทุกกระทรวงที่นายกรัฐมนตรีทำตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์เป็นพระเอกทุกเรื่อง และยังมีการโยกย้ายบุคลากรของสื่ออย่างไม่เป็นธรรมด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสุรพงษ์ ได้นำตุ๊กตาโดเรมอน และหน้ากากแบ๊ทแมนขึ้นมาโชว์ในที่ประชุมพร้อมกับเปรียบเปรยว่า รัฐบาลบริหารประเทศเหมือนเด็กที่คิดว่าตัวเองเป็นโดเรมอน ล้วงกระเป๋าวิเศษแล้วจะได้ทุกอย่าง ทำให้ ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงกันวุ่นวาย

ทั้งนี้หลังจากที่ประชุมใช้เวลาอภิปรายมาตรา 3 ยอดรวมมานานกว่า 7 ชั่วโมงครึ่งในที่สุดที่ประชุมเห็นชอบให้คงยอดงบประมาณไว้ตามเดิมคือ 1.7 ล้านล้านบาทโดยไม่มีการแก้ไขด้วยคะแนนเสียง 243 ต่อ 92 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 15

« Back

ข่าวการเมืองแฟ้ม 2

มติชน "มาร์ค"บอกสื่อนอก"วิกฤตไทย" คือ"ประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวา"

มติชนว่า "มาร์ค-สุเทพ"ลั่นเอาผิด2ฝ่าย ใช้ภาพมัด

ข่าวไทยรัฐ พธม.บุกผามออีแดง ปทะชาวบ้านบาดเจ็บนับสิบแล้วหนีไป

ไทยรัฐ:แฉปลุกระดมหนัก ม็อบแรง ถกผบ.4ทัพรับมือ

มติชน ยูเอ็นขอตั้งสำนักงานในสามจังหวัดชายแดนใต้ไทย

ใต้ระอุ ลอบถล่มฆ่า5อส. ก.ย.52

มติชน : สั่ง22รมต.งดโหวต"งบฯ" รบ.ไม่เสี่ยง เกิน18เสียงเชื่อผ่านสภา

ไทยรัฐ : ชาวเน็ตโจมตีหมอ คนดังติดหวัดตาย

ไทยรัฐ:เผยเบื้องหลังสุเทพ เทือกสุบรรณ ลาออกจาก ส.ส.

ไทยรัฐ:กกต.ฟัน13สส. สิ้นสภาพ เทพเทือกไม่รอด

ไทยรัฐ : ทักษิณ'เล็ง3ธุรกิจ ในไลบีเลีย พร้อมทุ่มเงินลงทุน

ไทยรัฐ : รุกไล่ถลุงมิแรนด้า 'ไอ้กร'ยังเจ๋ง สอยเข็มขัดแชมป์

ไทยรัฐ : ตะลึงพบเว็บไซต์กลุ่มหัวรุนแรงเกิดขึ้นเกลื่อน [19 เม.ย. 52 - 16:37]

ไทยรัฐ : 7 องค์กรแถลงการณ์ร่วมใช้แนวทางสันติวิธี [13 เม.ย. 52 - 12:41]

ไทยรัฐ : เสื้อแดงโต้กร้าว ไล่พิจิตร ลาออกองคมนตรี [5 เม.ย. 52 - 03:07]

ไทยรัฐ : ทีมการเมืองวิเคราะห์ : ล่อแหลมละเมิด เขย่าสถาบัน [5 เม.ย. 52 - 00:55]

ไทยรัฐ : บีบีซีจี้ถามที่มารบ.อภิสิทธิ์ กรณ์ไม่หวั่นเสื้อแดงค้านกู้ [2 เม.ย. 52 - 08:05]

ไทยรัฐ : ศิษย์เก่าสวนฯให้กำลังใจเปรม คิวต่อไปเชียร์สุรยุทธ์ [2 เม.ย. 52 - 06:41

ไทยรัฐ : เขมรรุกพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารไทยท้วงติงไม่ได้ผล [1 เม.ย. 52 - 19:21

ไทยรัฐ : เทพไทยันไม่งดประชุมครม. ยื่นศาลเปิดประตูทำเนียบ [31 มี.ค. 52 - 07:35]

ไทยรัฐ : “จาตุรนต์”ไล่บี้“สุรยุทธ์”ไขก๊อกองคมนตรี [30 มี.ค. 52 - 20:14]

ไทยรัฐ : แฉ'กษิต'หมดเปลือก แม้วให้เงินใช้ประจำ [30 มี.ค. 52 - 21:55]

ไทยรัฐ : เสื้อแดงบุกเผาหุ่นป๋าเปรมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ [28 มี.ค. 52 - 16:31]

ไทยรัฐ : สุรยุทธ์ออกโรงโต้ ปัดรวมหัวคิดปฏิวัติ [28 มี.ค. 52 - 18:04]

ไทยรัฐ : 'ทักษิณ' ดับเครื่องชน แฉเปรม ผู้มีบารมีนอกรธน. [28 มี.ค. 52 - 05:02

มติชน : อัยการสั่งไม่ฟ้องนปช.บุกบ้าน"เปรม"

มติชน : พัลลภ"ยัน"สุรยุทธ์"ร่วมวง วางแผนล้ม"ทักษิณ" จี้ลาออก"องคมนตรี"

ไทยรัฐ : “พัลลภ” แฉจำลองเพื่อนรัก “จปร.7” หลอกใช้ [28 มี.ค. 52 - 10:22

ไทยรัฐ : สุรยุทธ์นัดแถลง 4 โมงเย็น พะจุณณ์แอ่นอกป้องเปรม [28 มี.ค. 52 - 10:01]

ไทยรัฐ : ยุบสภาไม่ใช่ทางออก นายกฯปัดข้อเสนอทักษิณ [28 มี.ค. 52 - 12

ไทยรัฐ : ปิดแผนนายกฯเข้าทำเนียบ น.1มั่นใจได้ทำงานแน่ [27 มี.ค. 52 - 06:53]

ไทยรัฐ : มาร์คเตือนทักษิณอย่าดึงสถาบันมาเกี่ยวการเมือง [23 มี.ค. 52 - 16:

ไทยรัฐ : พัลลภรับเล่าเบื้องหลังปฏิวัติ ปัดวางแผนลอบฆ่าทักษิณ [23 มี.ค. 52 - 14:43]

มติชน : เฉลิม VS ปชป. "ไซฟ่อนเงิน" ทีพีไอ-กกต.?

มติน : กกต.รับลูกดีเอสไอเร่งชงคดี"258ล." "สดศรี"ขู่ปมเงินปชส.ถึงขั้นยุบพรรคได้

ไทยรัฐ : กัลยาเดือดโต้หนักหัวใครใช้นามสกุลโสภณพนิช [20 มี.ค. 52 - 18

ไทยรัฐ : มหาเถรฯต้านแก้กม.สงฆ์ให้นายอำเภอ-ผอ.เขตสึกพระ [20 มี.ค. 52 - 18:25

โพสต์ทูเดย์ : จตุพร"อัด"นายกฯ"ใช้ สด.9 เท็จ

โพสต์ทูเดย์ : ฝ่ายค้าน เกือบเสียท่า!

ไทยรัฐ : สภาเดือดหวิดปะทะ แจกกล้วยกลางที่ประชุม [19 มี.ค. 52 - 21:00]

ไทยรัฐ : ส.ส.เพื่อไทยสดุดี “เฉลิม” อภิปรายเยี่ยม-จ่อแฉอีก [19 มี.ค. 52 - 16:44

ไทยรัฐ : วิปรบ.ประเมิน'เฉลิม' อภิปรายเหมือนปืนใหญ่ยิงด้าน [19 มี.ค. 52 - 16:35

ไทยรัฐ : เหลิมโชว์หลักฐานกลางสภาเส้นทางไซฟ่อนถึงยุบปชป. [19 มี.ค. 52 - 13:

มติชน : "มาร์ค"มั่นใจผ่านปม258ล. ยุบ"ปชป."ไม่ได้ "เฉลิม"ย้ำ"เช็ค-เอกสาร"มัด

ไทยรัฐ : ประชาให้เวลากษิตบ่าย2 ตัดสินใจลาออกก่อนยังทัน [19 มี.ค. 52 - 12:17

มติชน : ส่งฟ้องสินบนบ้านเอื้ออาทร ปปช.ฟัน"วัฒนา"

มติชน นาทีต่อนาที รบ.พลิกเกมหนีเสื้อแดง ชิงแถลงนโยบาย กท.ต่างประเทศ

ไทยรัฐ โปรดเกล้าฯครม. มาร์คปัด 500ล้านซื้อเก้าอี้ [21 ธ.ค. 51 - 03:40]

ไทยรัฐ ปชป.อกหักแฉแก๊งออฟโฟร์ [21 ธ.ค. 51 - 04:28]

ไทยรัฐ โปรดเกล้าฯครม. มาร์คปัด 500ล้านซื้อเก้าอี้ [21 ธ.ค. 51 - 03:40]

เลขาธิการสภาฯ นำชื่อ “อภิสิทธิ์” ทูลเกล้าฯแล้ว [15 ธ.ค. 51 - 19:56]

ไทยรัฐ:สนธิ' ประกาศชัยชนะยุติการชุมนุม 10 โมงเช้า [2 ธ.ค. 51 - 19:47]

ไทยรัฐ:นปช.ปักหลักถึง 5 ธ.ค.-ผบช.น.วอนอย่าเคลื่อนพล [30 พ.ย. 51 - 20:40]

ไทยรัฐ:รัฐประกาศฉุกเฉิน ไม่ใช้ทหาร ลุยกลุ่มสนามบิน [28 พ.ย. 51 - 05:47]

ไทยรัฐ : บุกปิดสนามบินสุวรรณภูมิ

ไทยรัฐ:สุวรรณภูมิหยุดให้บริการ ผู้ชุมนุมพังประตูสนามบิน [25 พ.ย. 51 - 22:10]

----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----