ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bullet1 Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Finland-ฟินแลนด์
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.Check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


เสื้อแดงถวายฎีกา 17 ส.ค.2552

 

นี่คือหนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนต) It's The Good Paper https://www.newworldbelieve.net For All Good For All Thought
 
 
 
เสื้อแดงออกเดินถวายฎีกา ภาพวันที่ 17 ส.ค.2552
ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รายงานว่า มีสิ่งมหัศจรรย์ ภายหลังถวายฎีกาแล้ว ฟ้าร้องครืน ๆ  เลื่อนลั่น  และแสงแดดสาดลงมาต้องหลังคาพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สว่างเจิดจ้า ปรากฎแก่ตาของมหาชนทั้งปวง  อธิบายว่าฟ้ารับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนแล้ว
 
 
 
 
เรียน บก.
 
      ในฐานะที่ บก.เคยเป็นนายทหารมาก่อน อยากให้ท่านช่วยวิเคราะห์เรียนถามว่า
 
1. โรงเรียนทหารเขามีหลักสูตรพระพุทธศาสนาเรียนกันหรือไม่ เพราะเท่าที่มองเห็นรู้สึกว่าเขาไม่ค่อยเข้าใจสัจธรรมของชีวิต มุ่งมั่นแต่เรื่องอำนาจนิยม อยากปกครองประเทศ อยากปกครองประชาชน แต่ไม่เข้าใจวิธีการปกครองคน ไปเอาระบบทหารมาปกครองพลเรือนเขาไม่ชินกับระบบนี้ เขารับไม่ได้
 
2. ทำอย่างไร ? นายทหารจึงจะเข้าใจประชาธิปไตยและหน้าที่ของตนเอง
 
3. จากความรู้สึกของประชาชน ทหารไม่มีวันที่จะนำพาประชาชนให้พ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจไปได้ เพราะไม่มีทั้งความรู้และประสบการณ์ การก้าวเข้ามายึดอำนาจแล้วบริหารประเทศ มีแต่จะทำให้ประชาชนต่อต้าน เพราะนำพาเขาไปสู่ความลำบาก ยากแค้น
 
 
·         Post : พลเรือน Date : 2009-08-15 21:39:35 IP : 125.26.71.168
 
 
ความคิดเห็นที่ 1 (1971782)
 
ประเด็นที่เราเห็นด้วยกับ พลเรือน ผู้ตั้งกระทู้นี้ก็คือ ข้อ 3 ตัวแปรคือยุคสมัย   ถ้าเป็นสมัยก่อนนี้ไปสักหน่อย เอาระหว่างยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็พอจะใช้วิธีการหรือระบบทหารจัดการเศรษฐกิจไปได้ดีอยู่    แต่ยุคนี้ เริ่มตั้งแต่ยุคโทรศัพท์มือถือเป็นต้นมา เป็นปัญหาสำหรับทหารอย่างยิ่ง ที่เราคิดเลยว่าทหารไทยควรจะถอยไปเสียโดยดีจะดีกว่า แล้วไปปรับหลักสูตรทหารเสียใหม่ สำหรับทหารยุคใหม่ให้เรียบร้อยเสียก่อน   นั่นคือสถานะการบริหารประเทศเป็นสากลประเทศ ที่ไร้พรมแดน เน้น ไร้พรมแดน   สมัยนี้เราจะต้องบริหารประเทศอย่างมีมันสมองที่ทันสถานการณ์ยุคใหม่ที่ไร้พรมแดน ที่หมายถึง การเศรษฐกิจยุคใหม่ การเงินการคลังยุคใหม่ การค้าขาย การตลาดยุคใหม่ การทูตยุคใหม่(ที่จะต้องค้าขายและเปิดตลาดใหม่เป็น) เครื่องมือสือ่สารเพื่อการบริหารประเทศยุคใหม่   รวมทั้งเรื่องทั่วไปอย่างยิ่งก็คือ ภาษายุคใหม่ การพูดการจากับคนยุคใหม่ และวัฒนธรรมใหม่ รวมทั้ง แนวคิดศาสนาแนวใหม่ ในประเทศเราเองและต่างประเทศ   ทหารต้องคิดว่ายุคนี้เราไม่สามารถจะปิดประตูประเทศ อยู่อย่างโดดเดี่ยวทำการบริหารไปตามคติของเราฝ่ายเดียวได้ เหมือนกับทีพม่ากำลังพยายามทำอยู่ นั่นคือความเข้าใจเรื่องพรมแดนยุคใหม่ จะต้องให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง อย่างที่มีท่าทีอยู่ด้านชายแดนเขาพระวิหารนั้น นั่นแหละ อย่านำความคิดเรื่องพรมแดนมาตัดสินสำหรับยุคใหม่นี้ แต่ต้องนำทฤษฎีหรือแนวคิดใหม่เรื่องไร้พรมแดนมาตัดสิน   แต่ นี่คือข้อจำกัดสำหรับทหารไทยอย่างยิ่ง   และเราหมายถึงทหารพม่าด้วย   เพราะทหารไทยมีลีลาและระบบเหมือนทหารพม่าค่อนข้างใกล้เคียงมากจนกระทั่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นแบบเดียวกัน เพียงแต่พม่าเขาเข้มจัดกว่ามาก      เราเคยมองไว้ตั้งแต่ สนธิ บัง จอมเนรคุณ (ผสมกับสนธิ เจ๊ก จอมบ่างช่างยุ) บังอาจก่อการปล้นประชาธิปไตยประชาชนไป ว่าเอาอย่างพม่าหรือเปล่า แต่ก็ดีที่ต่อมาทหารอย่างสุรยุทธ จุลานนท์ ยังมีความระวังระแวง สงสัยในระบอบทหารแบบพม่าอยู่ จึงไม่ไปไกลเกินไป   อาจจะกล่าวว่า กลับตัวทัน    แต่กระนั้น การปฏิวัติ 19 ก.ย.2549 นั้น เป็นเรื่องเลว สำหรับประชาธิปไตย และเป็นไปได้ยากที่ทหารจะพาประเทศเดินไปได้ด้วยความคิดอ่านทหาร    สติสตังที่ทหารจะต้องนำมาพิจารณาในขณะนี้ก็คือ สติในเรื่อง การใช้อำนาจโดยกระบอกปืนหรือรถถัง     ท่านจะทำให้ประเทศล่มจมลงไปกว่าพม่าขณะนี้ได้อย่างฉับพลันเลยทีเดียว     น่าจะเป็นเหตุผลที่มองได้ง่าย ถ้าเช่นนั้นจะทำอย่างไร   ทหารจะต้องมีสติว่า โดยสากลประเทศประชาธิปไตย เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ เราจะต้องเข้าใจและเชื่อในทฤษฎีนี้ ลองศึกษาดูเองจะเห็นสัจธรรม เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ อย่างไร    ท่านเพียงมองดูว่าขณะนี้ประชาชนโดยเฉพาะที่เห็นได้ว่าเสียงส่วนใหญ่และที่มีเหตุผลอันสอดคล้องหลักการของประชาธิปไตย เขาต้องการอะไร ก็จัดให้เขาอย่างนั้น   เท่านั้นเอง ทุกอย่างก็สงบสุข ขอย้ำประชาชนส่วนใหญ่เขาต้องการอะไรก็จัดให้เขาอย่างนั้น จบปัญหาลงทันที แต่ความยากก็คือ ยากที่จะให้ทหาเข้าใจคำว่า   เสียง ประชาชนคือเสียงสวรรค์ ไม่ใช่เพียงคำพูดที่ไพเราะห์เท่านั้น แต่เป็นสัจธรรม  ในคราวต่อไปเราจะพยายามวิเคราะห์ทหารในประเด็นอื่น ตามที่ พลเรือน ตั้งกระทู้มา 
 
 
·         Post : บก.นสพ.ดี(อินเทอเนต) (newworld_believe@hotmail.com) Date : 2009-08-16 19:15:44 IP : 125.24.145.141
 
 
 
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง จัดรายการใน ASTV และยังมีรายการ FM.92.25  ฟังทีแรกแล่วน่าสนใจในประเด็นที่ว่าเหมือนลีลาของใครคนหนึ่ง ทำนองถ่ายแบบคนนั้นมาเปี๊ยบ มิต่างลูกศิษย์ถ่ายแบบมาจากอาจารย์เลยทีเดียว และอาจารย์คนนั้นของเจิมศักดิ์ ปิ่นทองก็คือสนธิ ลิ้มทองกุล    ในวันที่ 23 ก.ค.2552 เวลาประมาณ 08.00 น. FM.92.25  นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กับ จิตกร บุษบา สนทนาเรื่องราวเกี่ยวกับวงการสงฆ์ ในทำนองแปลกและแปร่ง ที่ผิดไปจากสำนวนลีลาของ นายเจิมศักดิ์ คนเดิม เพราะได้พูดเรื่องที่ไม่ควรเอามาพูด โดยเอาเรื่องละเอียดอ่อนในวงการสงฆ์ธรรมยุติ-มหานิกาย และธรรมะที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้งมาพูดมาวิเคราะห์วิจารณ์คาบเกี่ยวไปถึงคนอื่น ซึ่งน่าที่จะส่งผลร้ายถึงอาจเป็นสาเหตุให้คนฟังสับสน ทำให้สังคมเข้าใจผิดเกิดความแตกแยกร้ายแรงได้ 

การพูดถึงเรื่องธรรมยุติกับมหานิกายอันเป็นเรื่องในวงการสงฆ์ไทยที่สง์ไทยเข้าใจดี แต่คนที่ไม่เข้าใจอย่างนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทองเอามาพูดขึ้น รวมไปถึงเรื่องการคว่ำบาตรของหลวงตามหาบัวของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทองนั้น   คล้าย ๆ กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล เริ่มวางแผนการโฆษณาชวนเชื่อหลักการสำคัญ ด้วยแผนการดึงสถาบันกษัตริย์ลงมาเกี่ยวในเรื่องราวที่โฆษณาด้วย   จึงเริ่มด้วยกรณีรัฐบาลทักษิณทำบุญประเทศ โดยขอพระราชทานอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)เป็นสถานที่กระทำพิธีกรรมทำบุญประเทศ  ในช่วงที่ประเทศไทยพบความวิบัติหลังเกิดสินามิ โดยนำเรื่องที่ไม่เป้นความจริงเลยมากล่าวหาว่า ในการทำบุญประเทศครั้งนั้น ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกระทำตนเสมอกษัตริย์ โดยสวมรองเท้าเข้าไปประกอบพิธีกรรมในอุโบสถวัดพระแก้ว (ก็ไม่ผิดระเบียบของสำนักพระราชวัง) ไม่เคารพโดยสวมเสื้อแขนสั้น(ก็ไม่ผิดระเบียบ) และตีตนเสมอกษัตริย์โดยจัดที่นั่งทับที่กษัตริย์ขณะทำพิธีกรรม(ที่จริงไม่ได้ทับที่นั่งกษัตริย์เลย) เป็นเหตุให้เกิดโกลาหลในหมู่ประชาชนขณะนั้น แล้ว  ASTV ก็เริ่มดึงเรื่องราวเบื้องสูงลงมาสู่แผ่นดินต่ำ ในท่าทีเล่ห์กลว่าตนเองเป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันเป็นอย่างยิ่ง เป็นห่วงสถาบันอย่างยิ่ง จึงต้องถวายชีวิตเป็นพลีป้องกันสถาบัน ต้องสอดตาดูบุคคลผู้เป็นภัยต่อสถาบันกษัตริย์และเอามาเปิดเผยแก่ประชาชน (และคนที่ต้องสอดแนมติดตามอย่างไม่ละก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร)  ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งบัดนี้
 
วันนี้ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กำลังจะทำแบบเดียวกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล จอมบ่างช่างยุคนนั้น โดยคราวนี้ เปลี่ยนเป็นมาดึงสถาบันสงฆ์ลงมาเกลือกกลั้วตมอีกสถาบันหนึ่ง   ฟังลีลาวาทะข้อกล่าวหาของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง โดยอ้างสถาบันสงฆ์นี้ มิแตกต่างลีลาของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่กล่าวถึงเบื้องสูงเลย   จึงน่าฉงนว่า ดร.คนนี้จนปัญญาขนาดมารับเอาคำสอน ลีลาการโฆษณาชวนเชื่อมาจากนายสนธิลิ้มมาเต็มตัวราวกับเป็นศิษย์เอกผู้ซื่อกตัญญูแห่งสำนักเลยทีเดียวหรือ? เคยเป็นเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้เคยมีความเป็นอิสระ นักวิชาการเสรี มีเหตุมีผล และเป็นประชาธิปไตย  กลายมาซบหัวยอมตนเป็นสานุศิษย์ผู้ซื่อสัตย์ต่อคนล้มละลายทางการเงิน ผู้ต้องหาก่อการร้าย ยึดสนามบินนานาชาติ ฯลฯ อย่าง นายสนธิ ลิ้มทองกุลได้อย่างไร?  และภาระของนายเจิมศักดิ์ ที่กำลังเริ่มอยู่วันนี้ ก็บอกไปถึงนัยความหมายของเล่ห์กลและภาระที่จะกระทำต่อเป้าหมายอย่างไร ไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นโดยยากอย่างไร แต่เห็นง่ายว่า โดยการพูดถึงสถาบันสงฆ์นั้น มีจุดมุ่งหมายในการสร้างความแตกแยกให้แก่สถาบันสงฆ์ธรรมยุติ กับ มหานิกาย  โดยอยู่ในขั้นแรกที่เริ่มเจาะชอนไชนำทางทดลองหยั่งเชิงไปก่อน มิแตกต่างจากการเริ่มการก่อความปั่นป่วนโดยเอาเรื่องราวสถาบันกษัตริย์นับตั้งแต่เริ่มเอาเรื่องเท็จกรณีทำบุญประเทศในอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว)ของรัฐบาลทักษิณยุคสินามิ มาบิดเบือนโกหกพกลมทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจริงเลย อย่างหน้าด้านไร้ความอายโดยสิ้นเชิง(ซึ่งบ่งถึงขั้นตอนที่เริ่มจะดึงฟ้าต่ำลงมาโฆษณาเพื่อให้ใส่ร้ายผู้อื่นและเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตนอย่างไร) แต่ในครั้งนั้น สำนักพระราชวังได้ออกมาแก้ข้อกล่าวหาแทนรัฐบาล ว่าทักษิณ มิได้เป็นผู้จัดการพิธีกรรมนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบและการจัดการของสำนักพระราชวัง แผนการร้ายทางการโฆษณาชวนเชื่อจึงถูกจับได้และจับตามองมาตั้งแต่นั้น  และได้เป็นข้อคิดเตือนใจว่า  ลักษณะการโฆษณาเช่นนี้แหละเป็นจุดเริ่มต้นแผนการร้ายโดยอิงอาศัยสถาบันเบื้องสูงลงมาเพื่อสร้างความชอบธรรมแก่ฝ่ายตน ผู้ทำการโฆษณาชวนเชื่อ คือเอเอสทีวีมาจนกระทั่งบัดนี้
 
เพราะเหตุใด นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง จึงตั้งใจไปขุดคุ้ยเอาเรื่องที่ไม่มีความจริงมาโจมตีคนอื่น ใส่ร้ายคนอื่น โดยไปอ้างหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ว่าท่านได้ระดมลูกศิษย์สายวัดป่า ซึ่งล้วนเป็นพระวิปัสสนากรรมฐานมาสวดมนต์สาปแช่งและคว่ำบาตร ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น โดยอ้างว่าหลวงตามหาบัวเองท่านมีญาณทัศนะว่า ดร.ทักษิณ มิได้เป็นคนดีตามที่ภาพภายนอกปรากฏ แท้จริงเป็นคนโกงชาติ ขายชาติ ขายแผ่นดิน จึงไม่ควรที่จะอยู่ต่อไป ต้องทำพิธีกรรมคว่ำบาตร (ที่จริงเคยมีกรณีนายทองก้อน ศิษย์หลวงตามหาบัว ระดมประชุมพระสายวิปัสสนา ศิษย์หลวงตามหาบัว มาประชุมกันในวัดสายธรรมยุติแห่งหนึ่งในกรุงเทพในกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2547 เพื่อต่อต้าน คัดค้านรัฐบาลทักษิณ กรณีรัฐบาล โดยรองนายกรัฐมนตรี ดร.วิษณุ เครืองาม ลงนามตั้งคณะทำการแทนสมเด็จพระสังฆราช และได้ทำพิธีคว่ำบาตรนายวิษณุ เครืองาม ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลทักษิณ ในขณะนั้น)   ซึ่งประเด็นนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้เคยพูดใน เอเอสทีวีมาก่อนแล้วบ่อยครั้ง โดยแสดงตนว่าตนเป็นศิษย์เอกหลวงตามหาบัว คราวนั้นนายสนธิ ถึงกับอ้างว่าหลวงตาบัวถึงกับเอ่ยคำสาป ดร.ทักษิณ ชินวัตร เอาไว้ว่า แม้จะอยู่ในตำแหน่งสูงส่งร่ำรวยก็จะต้องพังพินาศน์ ประสบความหายนะตลอดไป  แล้ววันนี้ นายเจิมศักดิ์ ก็ดำเนินรอยตามนายสนธิและโฉมหน้าให้เห็นว่าจะทำเรื่องการดึงสถาบันสงฆ์ลงมาเกลือกกลั้วราคีอีกสถาบันหนึ่ง และนั่นหมายถึงเจตนาร้ายต่อประเทศและประชาชน โดยแผนการสร้างความแตกแยกของประชานในชาติไปอีกระดับหนึ่ง
            การไปอ้างพระผู้ใหญ่มาทำการโฆษณาโดยระบุถึงพฤติกรรมของพระผู้ใหญ่รูปนั้นในลักษณะว่าท่านกล่าวคำอาฆาตแค้น และประกอบกรรมร้ายโดยวจีทุจริต นั่นคือสาปแช่ง และทำพิธีกรรมคว่ำบาตร (ซึ่งทางพระย่อมหมายถึงการลงโทษอย่างรุนแรงระดับประหารชีวิต ซึ่งหมายถึงตัดขาดไปจากพระพุทธศาสนา) นั้น น่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง หวังผลทางการโฆษณาชวนเชื่อ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่พึงจะเป็น  ตามเหตุผลที่พึงพิจารณา 2 ประการ คือ
            ประการแรก ท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านย่อมสมกับฉายา เป็นผู้ที่มี ญาณสัมปันโน(ผู้ถึงพร้อมบริบูรณ์แล้วด้วยความรู้) เป็นพระสายปฏิบัติวัดป่า แม้โดยฐานะพระสงฆ์สาวกคือพระธรรมดา ๆ รูปหนึ่งก็ย่อมจะสังวร ไม่กระทำกายกรรมวจีกรรมทุจริตเช่นนั้น   ในเมื่อพระทุกรูปสวดมนต์เตือนสติตนเองอยู่ทุกเช้าทุกเย็น ที่เรียกว่า ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น    และขึ้นใจในพระโอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นคำสอนข้อสำคัญที่องค์บรมศาสดาทรงสอนเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาเอาไว้   และพระสงฆ์ทั้งปวงย่อมสดับฟังและน้อมนำไปปฏิบัติด้วยดีดังมีข้อความทั้งหมดดังนี้   

      โอวาทปาติโมกขคาถา
สัพพะปาปัสสะ  อะกะระณัง                   การไม่ทำบาปทั้งปวง
กุสะลัสสูปะสัมปะทา                            การทำกุศลให้ถึงพร้อม
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง                        การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ(ขาวทั้งหมด)
เอตัง  พุทธานะสาสะนัง                        ธรรม ๓ อย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ขันตี  ปะระมัง  ตะโป  ตีติกขา                ขันติ คือ ความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง
นิพพานัง  ปะระมัง  วะทันติ  พุทธา       ผู้รู้ทั้งหลาย  กล่าวพระนิพพานว่าเป็นธรรมอันยิ่ง
นะ  หิ  ปัพพะชิโต  ปะรูปะฆาตี            ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่  ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย
สะมะโณ  โหติ  ปะรัง  วิเหฐะยันโต       ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย
อะนูปะวาโท  อะนูปะฆาโต                  การไม่พูดร้าย  การไม่ทำร้าย
ปาติโมกเข  จะ  สังวะโร                     การสำรวมในปาติโมกข์
มัตตัญญุตา  จะ  ภัตตัสมิง                    ความเป็นผู้รู้ประมาณในการบริโภค
ปันตัญจะ  สะยะนาสะนัง                       การนอน  การนั่ง  ในที่สงัด
อะธิจิตเต  จะ  อาโยโค                        ความหมั่นประกอบในการทำจิตให้ยิ่ง
เอตัง  พุทธานะสาสะนัง                        ธรรม ๖ อย่างนี้  เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
 
ซึ่งในที่นี้ เราต้องการหมายเหตุเป็นพิเศษ 2 วรรค ก็คือ
นะ  หิ  ปัพพะชิโต  ปะรูปะฆาตี            ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่  ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย
สะมะโณ  โหติ  ปะรัง  วิเหฐะยันโต       ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย
 
ผู้ที่สละเรือนมาปฏิญญาณตนเป็นอนาคาริยวิสัยแล้ว คือหมู่สงฆ์ทั้งปวงย่อมสดับรับฟังและน้อมนำไปปฏิบัติด้วยความเคารพ และระวังอย่างยิ่งว่า   นะ  หิ  ปัพพะชิโต  ปะรูปะฆาตี  ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่  ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย   สะมะโณ  โหติ  ปะรัง  วิเหฐะยันโต  ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย   อะนูปะวาโท  อะนูปะฆาโต     การไม่พูดร้าย  การไม่ทำร้าย
 
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รู้หรือเปล่าว่า พระหลวงตามหาบัวนั้น ในทางสมณศักดิ์ ท่านเป็นถึงพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมวิสุทธิมงคล ท่านย่อมต้องสังวรในพระโอวาทปาฏิโมกข์ ดังกล่าว จะไปทำพิธีกรรมสาปแช่ง คว่ำบาตรผู้ใด อันบ่งถึงจิตขาดเมตตา กอปร์ด้วยโมหะ อาฆาตแค้น คิดกำจัด หรือคิดทำให้คนอื่นลำบากอยู่ คนใดใดได้ โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้  ได้อย่างไร? และในทางกฎหมายการทำพิธีคว่ำบาตร เห็นเป็นรูปธรรม สามารถเอามาเป็นหลักฐานทางกฎหมายเอาเรื่องหลวงตามหาบัวได้ อาจจะถอดจากสมณศักดิ์ได้ และทั้งเป็นความผิดฉกรรจ์  อาจถึงขั้น "ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง" ตามกฎมหาเถรสมาคม  ถึงถูกให้สละสมณเพศได้  เช่นนี้นายเจิมศักดิ์ไม่คิดดูว่าท่านหลวงตาท่าน แม้สงฆ์รูปใดรูปหนึ่งท่านจะอาจทำพฤติกรรมอย่างที่นายเจิมศักดิ์เอามาโฆษณาได้อย่างไร?
 
อีกอย่างหนึ่งนายเจิมศักดิ์ ไม่รู้หรือว่าหลวงตามหาบัวท่านเป็นพระป่ามาตลอดชีวิต ท่านได้ธุดงค์ไปทั่วประเทศ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และในทางธรรม ท่านมิใช่พระปุถุชนคนธรรมดา ท่านเป็นถึงพระอริยบุคคลระดับพระโสดาบัน ไม่ใช่รู้กันเฉพาะในวงการพระป่าลูกศิษย์ของท่าน แต่รู้ในวงการศาสนิกชนทั่วไป แม้ท่านเองท่านก็ได้กล่าวว่าท่านได้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลโสดาบันแล้ว(ดูจากประวัติที่ทำแผ่นแจกจ่ายไป)  การที่นายเจิมศักดิ์ เอาเรื่องราวของหลวงตามหาบัว ที่พระธรรมวิสุทธิมงคล มาบิดเบือนว่าท่านได้กล่าวคำให้ร้าย สาปแช่ง  พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ว่าขายชาติ จนต้องคว่ำบาตร หรือสาปแช่งให้ล่มจม บรรลัยไป นั้น ไม่เป็นสิ่งที่จะเป็นไปได้    ฉะนั้น จึงน่าเชื่อว่า นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กำลังคิดวางแผนทำความแตกแยกในสถาบันสงฆ์อยู่   เช่นเดียวกับที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้เริ่มคิดสร้างความปั่นป่วนแตกแยกในประชาชนโดยการดึงเอาเรื่องการทำบุญประเทศในรัฐบาลทักษิณ ที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์มาทำการโฆษณาชวนเชื่อโดยหวังว่าเป็นปฏิบัติการระยะแรกเริ่มก่อน หากสังคมตามไม่ทัน ต่อไปจะได้ใช้ประโยชน์จากเรื่องสถาบันนี้มาเป็นเรื่องที่ให้คุณและโทษแก่คนใดคนหนึ่งได้อย่างร้ายแรงต่อไป นั่นเอง   
 
ในวันนี้ วันที่ 31 ก.ค.2552 ; ASTV ทีวีเพื่อการรับใช้งานการโฆษณาชวนเชื่อของสนธิ ลิ้มทองกุล ได้พบ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในรายการ รู้ทันทักษิณ หรือ รู้ทันประเทศไทย นายเจิมศักดิ์ ได้ตั้งประเด็นที่สามารถทำร้ายคนอื่นทางจิตใจได้มากและมีเจตนาทำร้ายจิตใจคนอื่นอย่างแท้จริง  โดยตั้งประเด็นว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร มีบุคลิกภาพเป็นวิกลจริตหรือไม่ ถ้าเช่นนั้นจะเป็นคนอันตรายเพียงไหน ต่อประเทศไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสถาบันอันสูงสุด?    พูดไปพูดมาก็ให้ง่ายเข้าว่า ทักษิณเป็นคนบ้าหรือเปล่า แล้ว คนที่รับรองก็คือ นายประสงค์ สุ่นศิริ กับ วสิษฐ์ เดชกุญชร ทั้งสองคนนี้เป็นคนแก่ (จะเข้าโลงอยู่แล้ว) อายุปูนคุณปู่คุณตา เข้าไปแล้ว(วสิษฐ์ เดชกุญชรว่าตนจะ 80 ในพ.ย.52นี้) ได้วิเคราะห์กันอย่างอคติโดยสิ้นเชิง   โดยไร้จิตใจของความเป็นผู้ใหญ่ เพราะเดิมมาในสังคมไทย การไประบุกล่าวหาคนดี ๆ ว่าเป็นบ้านี้ ย่อมเป็นอันตราย อาจจะทำให้คนดี ๆ ที่ถูกกล่าวหาหรือพูดเน้นย้ำบ่อย ๆ ว่าเป็นบ้านั้น เป็นบ้าไปจริง ๆ ก็ได้ คนชนบทบ้านนอกเขารู้ดี โดยเฉพาะในวงการสงฆ์ มีตัวอย่างมามาก จึงไม่ให้ด่ากันเช่นนี้ (อย่าไปด่าเขาว่าเป็นบ้า เราเองแหละจะบ้า สอนกันมาอย่างนี้) ซึ่งคตินี้ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ประสงค์ สุ่นศิริ และ วสิษฐ์ เดชกุญชร ปูนนี้แล้วก็คงจะเข้าใจดี แต่ไม่ถือจริยามารยาทอันดีของสังคมไทย เช่นนี้ บ่งถึงความมุ่งหมายอย่างมีเจตนาที่จะทำร้ายทางจิตใจคนอื่นจริง ๆ  ซึ่งไม่เป็นธรรมและเลวทรามอย่างยิ่ง และทั้งยังบอกไปถึงความมีโมหะ อวิชชาครอบงำทำให้ไร้สติปัญญาแม้จะคิดไตร่ตรองดูในประเด็นความเป็นธรรม หรือความถูกต้อง ครรลองที่สร้างสรรค์แก่ชีวิตหนึ่งที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์  นั่นคือ การมองเขามองเรา ไม่ลองมองกลับไปดูตนเองบ้าง    หากว่าเขาคนนั้น คือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนบ้า เขาก็ยังได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชนไทย ให้เป็นผู้แทนของประชาชนและให้เป็นนายกรัฐมนตรีผู้โด่งดังของประเทศนี้ และซึ่งได้สร้างคุณความดีไว้แด่ประเทศชาติ ประชาชนไทย ขนาดนี้(ขนาดที่มีคนทั้งประเทศลุกขึ้นมาแดงทั้งแผ่นดินให้การรับรองคุณภาพของเขา และเพื่อนำเขากลับมาทำงานสร้างสรรค์ประโยชน์คุณงามความดีแด่บ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้งหนึ่ง)   แล้วคนดี ๆ(ไม่บ้าหรือวิกลจริตคราวปู่อย่างประสงค์ สุ่นศิริ วสิษฐ์ เดชกุญชร หรือรุ่นเด็กอ่อนปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมขึ้นมา อย่างนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง) ได้สร้างคุณงามความดีไว้อย่างไรบ้าง ประสงค์ สุ่นศิริ วสิษฐ์ เดชกุญชร ปูนนี้แล้วได้สร้างอะไรให้ปรากฏแด่ประชาชนในระบอบประชาธิปไตยไว้แม้เล็กน้อยบ้างหรือ? แม้คำถามว่ารู้จักประชาธิปไตยของคนยุคใหม่แล้วหรือยัง? ก็ยังไกล กว่าจะเรียนรู้ พบคำตอบ!!! ไม่เช่นนั้นคงไม่เป็นตัวการทำลายระบอบประชาธิปไตยของประชาชนเมื่อ 19 ก.ย.2549 ร่วมกับสนธิบังทหารเลวคนนั้น     นายเจิมศักดิ์เอง แม้จะทำมาหากินยังเอาตัวเองไม่รอด ต้องมาอาศัยกินน้ำใต้ศอกสนธิ ลิ้มทองกุล เช่นนี้ แล้ว การเป็นคนดีของตนมีประโยชน์สู้คนบ้าได้อย่างไร นี่เป็นประเด็นที่คนชั้นดร.อย่างนายเจิมศักดิ์ไม่ยอมมองดู จึงได้สร้างเรื่องราวที่น่ารังเกียจมาก ทั้งสองเรื่องราวที่ได้วิเคราะห์มาในวันนี้ก็เพื่อความเป็นธรรม  เราจึงอยากให้นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้มีความสังวร ในการพูดถึงสถาบันสงฆ์ และสำนึกในความเป็นธรรมในสังคม โดยมีวิจารณญาณสุขุมลุ่มลึก คำนึงข้อเท็จจริงโดยรอบคอบกว่านี้ หรือแม้หากว่ามีอะไรอยู่บ้างที่เป็นข้อที่ผิดพลาดประการใด หากเราเป็นคนดี ไม่บ้าวิกลจริตแล้ว มีความปรารถนาดีต่อสถาบันในองค์รวมแล้ว ก็ควรจะอดออมระงับใจอย่าพึงนำมากล่าวจะเป็นผลดีกว่า และอย่าลืมว่า มีสัจธรรม ทำบุญได้บุญ ทำบาปได้บาป เราก่อกรรมอันใดไว้ ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น ผลกรรมยังไม่มีสิ้นสุดแม้ละไปจากโลกนี้ไปสู่โลกไหน ๆ  ดัง วลีพระว่า  ปุญญานิ ปะระโลกัสมิง ปติฏฐา โหนติ ปานินันติ บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในปรภพ จึงหวังว่านายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง จะได้สังวรต่อไป.
 
·         บุญแพง อภิรตี บุญเสฏฐ์   
                  31 ก.ค.2552
 
 
 
 
 

บันทึกเทศกาลเข้าพรรษา พุทธศํกราช 2552 ปีฉลู
วันจันทร์ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู วันที่ 6 กรกฎาคม พุทธศักราช 2552 วันโกน
วันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู วันที่ 7 กรกฎาคม พุทธศักราช 2552 วันพระ วันอาสาฬหบูชา
วันพุธ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู วันที่ 8 กรกฎาคม พุทธศักราช 2552 วันเข้าพรรษา (ปุริมพรรษา)
วันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู วันที่ 4 ตุลาคม 2552 วันมหาปวารณา
วันจันทร์ แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู วันที่ 5 ตุลาคม 2552 วันออกพรรษา
วันศุกร แรม 1 ค่ำ เดือน 9 ปีฉลู วันที่ 7 สิงหาคม พุทธศักราช 2552 วันเข้าพรรษาหลัง (ปัจฉิมพรรษา)
วันอังคาร แรม 1 ค่ำ เดือน 12 ปีฉลู วันที่ 3 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2552 วันออกพรรษาหลัง (ปัจฉิมพรรษา)
 
 

 
 
 
 
 
 
 

เฝ้าดูฯมิ.ย.-ก.ค.2552-ปัจจุบัน
 

 
 

เฝ้าดูฯม.ค.-มิ.ย.2552
 

 
 
 
 

เฝ้าดูฯธ.ค.2551
 

  

 
 
 
 
ชินวัตร หาบุญพาด นายกสมาคมแท๊กซี่แห่งประเทศไทย  พูดเรื่องเหตุการณ์ที่พัทยาของคนเสื้อแดงผู้สุจริตที่รักในประชาธิปไตย โดนคนเสื้อสีน้ำเงิน บัญชาการโดยเนวิน ชิดชอบ ลอบทำร้าย ได้อย่างชัดเจนมาก น่าเชื่อถือ  บทบาทของเขา ทำให้ระลึกถึง คาราวานคนจน ที่ยกขบวนรถอีแต๋นมาจากอีสาน มาช่วย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะที่โดนยำใหญ่จากขบวนการโฆษณาชวนเชื่อ นำโดยจอมบ่างช่างยุ สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อการร้ายสนามบินนานาชาติ จนงุนงงไปหมด ตอนต้นปีสมัยรัฐบาลทักษิณ ปี 2549 นั้น โดยได้มายึดสวนจตุจักรอยู่แรมเดือน   พวกเขาได้ยกขบวนคนจนชนบทบ้านนอกบุกไปถึง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประณามคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ขณะนั้น ที่นินทาลับหลังว่าขบวนคาราวานคนจนรับสินบนเป็นเงินค่าจ้างมาเดินขบวน ทำการสั่งสอนวิชาประชาธิปไตยให้ศาสตราจารย์นางนั้น ที่เป็นถึงคณะบดีคณะรัฐศาสตร์ คาราวานคนจนไปเสียทีพวกม็อบชาวกรุงที่มันใช้ชั้นเชิงเล่ห์กะเท่ห์เสี้ยมเขาได้แหลมคมกว่า ในการโจมตีที่โรงแรมสยามพารากอน  ขณะที่ชินวัตร หาบุญพาด มีขบวนรถแท็กซี่ ที่พร้อมทำงานเพื่อนำทักษิณ  ชินวัตร กลับคืนมาสู่ประเทศไทย ด้วยรักซาบซึ้งในนโยบายของทักษิณ เช่นเดียวกัน  ชินวัตร หาบุญพาด คงจะได้เรียนรู้จากคาราวานคนจนหนนั้นมามากแล้ว   แน่นอนบทบาทใหม่ของชมรมแท็กซี่ ของชินวัตร หาบุญพาดกับพวก   นี่จักอาจเป็นการแก้แค้นแทนคาราวานคนจน หากเป็นไปได้ 
 
แต่นี่เราจะตัดเอาข้อความเกี่ยวกับคาราวานคนจนมาเป้นที่ระลึกบางตอน จาก การศึกษาเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อยุคทักษิณ   ดังต่อไปนี้
 
ข้อสังเกตที่ 2   โปรดมองบทบาทของคนกลุ่มอื่นบ้าง โดยเฉพาะคนที่เลือกตั้ง อนุมัติให้ทักษิณเข้ามาบริหารประเทศซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่   และขณะนี้ลองมองไปที่บทบาทของม็อบอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มาชุมนุมสนับสนุนรัฐบาลทักษิณ ที่สวนจตุจักร อย่างไร
 
เราเห็นว่านักวิชาการคงจะมองระบอบประชาธิปไตยไม่ถูกต้องจากการมองกลุ่มคาราวานคนจนไม่ถูกต้องนี่เอง 
 
และจากกรณีที่มีคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้วิพากษ์กลุ่มคาราวานคนจนอย่างลับหลังและเป็นข่าวออกมาว่า เป็นกลุ่มคนจนที่ไม่มีความรู้ในทางการเมืองอะไร ที่ออกมาชุมนุมเพราะมีการรับอามิสสินจ้างจากผู้ว่าจ้าง ทำให้กลุ่มรักทักษิณ และคาราวานคนจนไม่พอใจ ยกกองคาราวานไปยื่นหนังสือประท้วงที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งนั้น
 
ซึ่งการมองด้วยสายตาเช่นนี้ ไม่น่าจะมีขึ้นในหมู่ชนปัญญาชนในมหาวิทยาลัย เพราะโดยหลักรัฐศาสตร์พวกเขาเป็นกลุ่มผลประโยชน์(interest group)กลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งที่แสดงบทบาทโดยชอบธรรมอย่างถูกต้องตามธรรมชาติและวัฒนธรรมการเมืองในระบยอบประชาธิปไตยโดยแท้จริง   จากเหตุผลหลายประการ ดังนี้ 
 
 
ประการที่ 1   คาราวานคนจน อ้างความชอบธรรมในการชุมนุมว่ามาต่อสู้เพื่อนโยบาย ของรัฐบาลทักษิณที่ให้คุณกระทบโดยตรงแก่พวกเขา ได้แก่ นโยบาย 30 บาททุกโรค,   หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์, ทุนการศึกษาคนจน- ผู้อยากเรียนได้เรียน, เรียนก่อนจ่ายทีหลัง, ทุนแพทย์ 1 อำเภอ, นโยบายบ้านเอื้ออาทร, นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง, สหกรณ์การเกษตร, ระดับราคาที่มีเสถียรภาพ, ราคาข้าว การประกันราคาข้าว เสถียรภาพของราคาข้าว, ราคายางและพืชผลทางเกษตรกรรมที่มีเสถียรภาพ, การไฟฟ้าสาธารณูปโภค, การคมนาคมของท้องถิ่น, ระบบน้ำดื่มน้ำใช้, ระบบน้ำเพื่อการเกษตรกรรม, ขจัดความยากจนทั่วประเทศ, เมกกะโปรเจกต์เพื่อการมีงานทำ, กองทุนหมุนเวียน, แปลงสินทรัพย์เป็นทุน, เบี้ยเลี้ยงชีพสำหรับคนชราภาพ และคนว่างงาน,   SML,   ฯลฯ
 
ซึ่งจะเห็นโดยปราศจากข้อสงสัยว่า ในยุคทักษิโนมิกส์ รัฐบาลทักษิณได้คิดนโยบายการบริหารขึ้นมาอย่างมากมายเป็นประวัติการณ์ ที่ไม่เคยมีมาก่อน (ในขณะที่ฝ่ายค้านยุคนี้ไม่เคยเสนอนโยบายอะไรเลยแม้แต่ข้อเดียว) ซึ่งนโยบายเหล่านี้ ได้กระทบให้คุณประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชนบทอย่างแรงจนรู้สึกเองเป็นธรรมชาติ เมื่อพวกเขาเห็นว่า มีคนที่ไม่เข้าใจคนจน ไม่เข้าใจในเรื่องนโยบาย จะไล่รัฐบาลหรือคนทำนโยบายเหล่านี้ไปเสีย ซึ่งจะเป็นผลให้พวกเขาเดือดร้อน เพราะไม่มีพรรคการเมืองใดเสนอนโยบายเช่นนี้อีก   พวกเขาจึงออกมาให้กำลังใจแก่รัฐบาล และทั้งแสดงพลังมวลชนกลุ่มผลประโยชน์เพื่อต่อต้านผู้จะทำลายนโยบายเหล่านี้    เพื่อให้คงนโยบายเหล่านี้ไว้ต่อไป
 
ซึ่งสำหรับผู้ใดก็ตามที่รักประชาธิปไตยแล้ว น่าจะพิจารณากันว่า นี่เป็นการต่อสู้โดยความชอบธรรมอย่างสมบูรณ์ตามกฎกติกาของระบอบประชาธิปไตยสากล
 
ประการที่ 2    การเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตย หมายถึงการเรียนรู้หลักการของความเป็นมนุษย์ เราจึงให้สิทธิในการออกเสียงเท่ากัน คงไม่มีนักวิชาการคนใดเรียกร้องว่าตนจะต้องมีเสียงมากกว่าคนอื่น เพราะเหตุที่ตนเป็นนักวิชาการมีความรู้มากกว่า ฉะนั้นจึงไม่น่าจะมองว่า ต้องเรียนรู้จากมหาวิทยาลัยมีปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมาอ้างเท่านั้น และไม่เพียงการเรียนรู้จากทฤษฎีของตะวันตกอย่างเดียว แต่ควรเรียนจากหลักการพระพุทธศาสนาด้วย เพื่อที่จะได้เข้าใจความเป็นมนุษย์      หรือหลักปรัชญาว่าด้วย เสรีภาพ ภราดรภาพ และ เสมอภาค อย่างลึกซึ้ง
 
การขัดแย้งของคนสองกลุ่ม ด้วยเหตุผลทั้งสองฝ่ายต่างยกมาอ้าง บัดนี้จึงน่าที่ทุกฝ่ายจะได้หวลไปพิจารณาอย่างจริงจังอีกทีหนึ่งว่า มีเหตุผลตามที่ตนนึกคิด และหวาดระแวงอยู่หรือไม่ มีอะไรเป็นข้อพิศูจน์ โดยเราจะต้องหาวิธีการพิศูจน์ที่สมกับความเป็นมนุษย์ และหากเป็นฝ่ายวิชาการก็ควรจะตระหนักอย่างยิ่งว่า ต้องทำตนเป็นตัวอย่าง ทำการต่อสู้อย่างถูกต้อง ให้สมกับความเป็นนักวิชาการ 
 
ขณะนี้เราได้พิศูจน์แล้วหรือยังว่า ข้อกล่าวหาของเราเรื่องทักษิโนมิกส์ มีความเลวทรามต่ำช้าเช่นนั้นจริง ๆ โดยทดสอบว่า เราได้เคยเข้าใจคนจน หรือประชาชนระดับรากหญ้าที่แท้จริง ว่าพวกเขาได้ประโยชน์จากนโยบายทักษิโนมิกส์ ต่อสู้เพื่อนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขา และจรรโลงระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงอย่างไร?   หรือไม่?
 
ถ้ารัฐบาลไทยรักไทยนี้ออกไป รัฐบาลอื่นโดยพรรคการเมืองอื่นเข้ามา รัฐบาลนั้นโดยพรรคการเมืองนั้น จักมีนโยบายใดที่ชดเชย ที่ให้ประโยชน์แด่คนระดับรากหญ้าเหล่านี้?
 
จะสามารถสร้างนโยบายให้หลายหลากอย่างยุคทักษิโนมิกส์ได้หรือไม่?
 
 
 
บานไม่รู้โรย                                                        
www.newworldbelieve.com
3 เม.ย. 2549”

รำลึกโดย บานไม่รู้โรย
www.newworldbelieve.net
9 ส.ค.2552
 
 
 
 
 




หน้าที่เก็บไว้

.com 28 เม.ย. 2559
.net 28 เม.ย.2559
ยุบสภา อภิสิทธิให้เลือกตั้ง 14 พ.ย.2553
ต่อเนื่อง 22 เม.ย. 53
22 เม.ย. 2553 ระเบิดเสื้อหลากสีตาย 3 เจ็บ 75
20 เม.ย. 2553 พยากรณ์ประเทศไทย
นายสุเทพประกาศโจรยึดประเทศไทย เมื่อ 13เม.ย.2553
หน้านที่ 10-12 เม.ย.2553
วันทีวีแดงจอดำ 8 เม.ย.2553
แดงบุกทวงกกต.ยุบปชป.20เม.ย.2553
การเจรจาอภิสิทธิ์ - แกนนำเสื้อแดง 28 มี.ค. 2553
20 มี.ค. 2553 A Noble March ทั่วกรุงเทพ 100 กม.
15 มี.ค. 2553 ฟังคำตอบยุบสภาหรือไม่ ราบ 11 รอ.
ดี 10 มี.ค.2553 ก่อนแดงบุกกทม.
25 ก.พ.2553 ก่อนตัดสินยึด 76,000 ล้านบาทของทักษิณ
แดงขอนแก่น 2.5 แสนคน ถึง บุกกลาโหม
5 ธันวามหาราช 2552
เขมรบุกเขาพระวิหารสร้างถนน2เส้น
อำนาจกับกองทัพ 1-2
หน้าเกิดสุริยคราส-วันเกิดทักษิณ
บีบีซีนิวส์ ลงข่าวทักษิณ ชินวัตร
11. เสื้อแดงชุมนุมวันเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษเขต 1
10. เพื่อไทยชนะขาดภูมิใจไทย ที่สกลนคร เมื่อ 21 มิ.ย.2552
9. พระราชทานพระมหาคัมภีรอัลกุรอาน
8. ประชุมพระสังฆาธิการ 2552
7. การเมือง เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ 28 มิ.ย.52
6. การปฏิบัติธรรมในวันธรรมสวนะ วัดมหาพุทธาราม
5 การปฏิบัติธรรมในวันธรรมสวนะ
4 เจ้าคณะจังหวัดรูปใหม่ และผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ ศรีสะเกษ พบในงานศพ
3 วันวิสาขโลก ถึง วันอัฏฐมีบูชา 8 - 16 พ.ค.2552
2 ทำบุญตักบาตรเช้าวันวิสาขโลก ณ วัดมหาพุทธาราม
1 ข่าวสำคัญวันวิสาขโลก ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๒



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----