8. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 27
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชนะการลงคะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 15 ธ.ค.2551 ด้วยคะแนนเสียง 235 ต่อ 198 มีผู้งดออกเสียง 3 คน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พรรคเพื่อไทยแม้จะแพ้ในการลงคะแนนเสียงครั้งนี้ แต่ก็สมควรแก่เหตุผล และที่สำคัญก็คือ การได้ตำแหน่งครั้งนี้ เราถือว่าเป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย แม้ว่าจะขาดความสง่างามทางฝ่ายชนะ ที่ใช้วิธีการต่อสู้ที่ไม่ชอบธรรมมาตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนประสบความสำเร็จ และด้วยเหตุที่มีความไม่สง่างามนักนี้ น่าเป็นวิบากกรรมของรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่จะต้องชดใช้และฝ่าฟันต่อไปในหนทางฝ่ายบริหารอย่างยากลำบาก
ปัญหาที่คนในแผ่นดินต่างมีความคลางแคลงเป็นวิจิกิจฉาไม่รู้จบ และยังมองหาทางออกไม่ได้โดยง่ายก็คือปัญหาความเป็นธรรมในแผ่นดิน ซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์น่าจะรู้ตัวดีว่ามีคนหลายกลุ่มหลายฝ่าย ยังคงจับตามองดูอยู่ต่อไปว่า โดยนโยบายอย่างไรของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่จะให้เกิดความเป็นธรรมในแผ่นดินขึ้นมา
จริงอยู่ ในการแถลงของนายกรัฐมนตรีคนใหม่เองภายหลังพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ที่ว่า จะเริ่มปัญหาเร่งด่วนคือ จะยุติการเมืองที่ล้มเหลว แน่นอน การเมืองไทยล้มเหลวมาและเป็นปัญหาใหญ่สมควรที่จะยุติให้ได้ แต่อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไร
นี่คือประเด็นนโยบายที่คนทั้งแผ่นดินอยากทราบว่าท่านจะทำอย่างไร ปัญหาเศรษฐกิจ เราก็อยากทราบว่า แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทุกปัญหานั้น เป็นอย่างไรบ้าง
วาทะที่คมคายที่ว่า อภิสิทธิ เวชชาชีวะ พร้อมที่จะรับฟังและร่วมมือกับทุก ๆ คนทุก ๆ ฝ่าย ท่านจะเป็นใครก็ตามหากไม่คิดร้ายต่อบ้านเมือง ท่านพร้อมจะรับฟังและร่วมมือ
ก็เป็นเพียงคำพูดที่เลื่อนลอย ยังไม่เห็นรูปธรรมป็นการกระทำอย่างไร อนึ่ง วาทะว่า ในเรื่องการยึดปิดสนามบิน will never happen again ทำไม? เพราะเป็นความผิด ทางกฎหมาย จริยธรรมของระบอบประชาธิปไตย และอื่น ๆ และคนจำนวนมากมายมหาศาลก็อยากทราบว่าจะดำเนินการอย่างไรกับหมู่คนอันธพาลที่ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองคราวนั้น เรามีความคิดเห็นโดยสุจริตว่า ในยุคสมัยนี้ ประชาชนอยากเห็นคนเก่ง และต้องการคนเก่ง จึงขอสนับสนุนว่า โปรดอย่าลังเลใจ ให้เร่งรีบดำเนินการให้เป็นรูปธรรมออกมาโดยเร็ว ถ้าเก่งจริง ประชาชนก็ยอมรับเอง และเราหวังว่าสำหรับ ท่านอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 27 จะเป็นเช่นนั้น
- พูเยีย บัวระบัด
18 ธ.ค.2551