ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bullet1 Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Finland-ฟินแลนด์
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.Check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


เฝ้าดู : การพ้นจากตำแหน่งนรม.สมชาย วงษ์สวัสดิ์เป็นวิถีประชาธิปไตย การยุบพรรคการเมือง3พรรคก็เป็นวิถีประชาธิปไตย

 

1.   การพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมชาย วงษ์สวัสดิ์ เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย
      การยุบพรรคการเมือง 3 พรรค ก็เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย

 

เพราะเป็นไปตามกติกาที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550  ซึ่งประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และสถาบันในระบอบประชาธิปไตย  ย่อมยอมรับ ตราบที่มีกติกานี้ใช้อยู่  แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ  คนบางกลุ่มไม่คิดว่า นี่เป็นวิถีทางประชาธิปไตยซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา     คิดว่าเป็นเพราะแรงบีบบังคับของพวกเขา  จึงเป็นผลให้มีการยุบพรรคการเมืองขึ้น   และคนกลุ่มนั้นได้พากันประกาศชัยชนะอย่างเอิกเกริกอึงอลด้วยความเข้าใจผิด  เพราะแท้ที่จริงประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่มีฝ่ายใดแพ้ ฝ่ายใดชนะ   นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง   ในประเด็นที่ว่าประชาชนเรายังไม่เข้าใจประชาธิปไตยดีพอ  แล้วตำหนิว่าระบอบประชาธิปไตยใช้ไม่ได้ จะต้องสร้างการเมืองใหม่ขึ้นมา  

 

ในเวลาต่อไปนี้ ก็เป็นเวลาที่จะได้มีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่  สิ่งที่จะต้องถามหาก็คือ  การจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น ได้มีการกำหนดกติกาไว้ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 อย่างไร  ถ้ามีคนไม่เข้าใจว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างไรมีอยู่ในสังคมเป็นอันมาก  และทั้งเข้าใจผิดเป็นอย่างอื่นแล้ว  ก็อาจเป็นเหตุให้เกิดความยุ่งยากขึ้นได้  เพราะคนที่ไม่เข้าใจเหล่านั้น กลับจะไปส่งเสริมวิถีทางที่ผิด ๆ ที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางของประชาธิปไตย ก็จะเป็นเหตุให้สับสนขึ้นในสังคมไทยไม่รู้จบ

 

จึงเป็นสิ่งที่ไทยทั้งหมดจะต้องมาร่วมกันพิจารณา ยกพื้นฐานความเข้าใจประชาธิปไตยของประชาชนโดยรวมให้สูงขึ้น

 

แม้กระทั่งบรรดาชนผู้มีการศึกษาดี  หรือแม้นักการเมืองเอง  ก็ควรที่จะมาทบทวนว่า  ประชาธิปไตยที่ถูก ที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร    ในเร็ว ๆ นี้ เราก็ได้เห็นตัวอย่าง อย่างดี บริบูรณ์จากวิถีทางประชาธิปไตยในอเมริกา  คือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา  เมื่อ 5 พ.ย.2551 ได้เห็นการต่อสู้ทางการเมืองในพรรคเดียวกัน (ดูนางฮิลลารี คลินตัน  ต่อสู้กับนาย บารัค โอบามา)  และการต่อสู้ต่างพรรค(ดูนายจอห์น แมคเคน ต่อสู้กับนายบารัค โอบามา) ว่าเป็นแบบอย่างอย่างไรบ้าง  ประชาชนในประเทศนั้น พวกเขามีจิตใจสูงขนาดไหน  และยอมรับในกติกาการต่อสู้ทางการเมืองขนาดใด  (รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย อย่างไร)

 

คนไทยเข้าใจเพียงใด  เมื่อ นายบารัค โอบามา ได้กล่าวปราศรัยในสวนสาธารณะของนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์  เมื่อ 5 พ.ย. 2551 ว่า  จะใช้วิธีของประชาธิปไตยและความมีเสรีเป็นเครื่องมือของชัยชนะ

 

เราจะใช้ประชาธิปไตยสร้างชาติเราได้อย่างไร ถ้าเรายังไม่เข้าใจความสำคัญของระบอบประชาธิปไตยเลย และอย่างน้อยก็ควรจะมีจิตใจสูงใกล้เคียงชนอเมริกันทั้งหลายบ้าง

 

 

  • บานไม่รู้โรย
    3 ธ.ค.2551

 

 

 

 

 

 

2.    ประชาธิปไตยเป็นระบอบของความเป็นธรรม

 

ท่านลองคิดดู ประสบการณ์ที่สอนเรา ดังปรากฏว่ามีคนกลุ่มหนึ่ง ที่อ้างตัวเป็นประชาธิปไตย  เพราะอ้างว่าเป็น  “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”   แต่กลับก่อเหตุร้ายแรงขึ้นต่อประเทศชาติด้วยความเข้าใจผิดในหลักการว่าด้วยความเป็นธรรมของประชาธิปไตย นั่นคือเข้าใจว่าเมื่อมีประชาธิปไตยคนก็มีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้  จึงได้อ้างสิทธิไปก่อเหตุการณ์อันร้ายแรงขึ้นดังต่อไปนี้  


1.    พาพวกปิดกั้นถนนหนทาง  แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จไปประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ ก็ต้องเสด็จเลี่ยงไปทั้ง 6 วันแห่งพระราชพิธีสำคัญนั้น

2.     ยกพวกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล ไล่คณะรัฐมนตรีออกไปจากทำเนียบและยึดทำเนียบไว้เป็นเวลากว่า 5 เดือน
3.     ยกพวกไปปิดล้อมรัฐสภา
2 ครั้ง ครั้งสุดท้ายทำให้คณะรัฐมนตรี และสมาชิกรัฐสภาออกไม่ได้ ต้องปีนบันไดฉุกเฉินออกทางหลังรัฐสภา

4.     ยกพวกปิดล้อมและยึดสถานีโทรทัศน์ NBT  ไล่เจ้าหน้าที่ออกไปเพื่อทำการใช้งานเอง

5.     ยกพวกเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง อันเป็นสนามบินนานาชาติ  อันเป้ฯเหตุให้คนต่างชาติหลายหมื่นคนเดือดร้อน และประเทศไทยเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

6.     กล่าวหาคนอื่น ด้วยวาจาหยาบคาย ใช้แต่คำดุด่า บริภาษคนทั้งหลายอย่างเต็มที่

 

คนเหล่านี้ไม่เข้าใจว่าระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่คำนึงถึงความเป็นธรรมในสังคม และมองคนในระบอบล้วนมีคุณค่า และทุกคนมีความสำคัญ  ทุกคนมีค่าเท่าเทียมกัน  ในเรื่องสิทธิ ทุกคนในระบอบประชาธิปไตยต่างก็มีสิทธิเท่าเทียมกัน  และเมื่อคำนึงความเป็นธรรมแล้วคนในระบอบประชาธิปไตยจึงต้องรู้จักการเอาใจเขาไปใส่ใจเรา มีความเห็นอกเห็นใจกันอย่างลึกซึ้ง รู้ในทุกข์และสุขของตนเองพอ ๆ กับของคนอื่น ๆ  สิทธินั้นเปรียบเสมือนทรัพย์  หากบุคคลละเมิดสิทธิคนอื่นก็เสมือนละเมิดทรัพย์สินของคนอื่นนั่นเอง   ระบอบประชาธิปไตยจึงกำหนดว่า หากคนหนึ่งคนใดไปละเมิดสิทธิของคนอื่นเข้า ย่อมเป็นการไม่ชอบธรรม เพราะการทำเช่นนั้นก็เสมือนการลักขโมยข้าวของของคนอื่น   ย่อมเป็นการผิดศีลธรรมตามหลักการศาสนาด้วย    แต่ กรณีการกระทำทั้ง 6 ประการดังกล่าว เช่นการบุกเข้ายึดครองสนามบินสุวรรณภูมิ ย่อมเห็นได้โดยชัดเจนว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมหรือไม่  เป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่นอย่างไรบ้าง  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปิดเส้นทางพระราชดำเนิน  หมายถึงการละเมิดสิทธิของพระมหากษัตริย์ก็เสมือนละเมิดทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์

 

ฉะนั้น เพื่อความเป็นธรรมเมื่อประชาธิปไตยให้สิทธิแล้ว คนก็ต้องระวังว่าคนอื่นก็มีสิทธิเหมือนกัน ซึ่งบุคคลจะใช้สิทธิของตนให้ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นไม่ได้ ประชาธิปไตยจึงกำหนดว่า สิทธิของเราเท่ากับสิทธิของผู้อื่น  เรามีสิทธิที่จะกระทำอะไรได้เท่าที่ไม่ไปล่วงล้ำหรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นเท่านั้น  หากปล่อยให้มีการละเมิดสิทธิได้อย่างเช่นที่พวกม็อบฯกลุ่มดังกล่าวกระทำไป แผ่นดินก็ไม่เป็นธรรม เพราะสิทธิคือของหวงของคนทั้งหลาย สิทธิคือทรัพย์ของคนทั้งหลาย  เมื่อบุคคลอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องเข้าใจ และมีจิตใจสูงพอที่จะยอมรับทั้งสิทธิของเราเองและสิทธิของผู้อื่น  จึงจะเกิดแผ่นดินที่เป็นธรรมขึ้น และระบอบประชาธิปไตยมีคุณค่าก็เพราะเป็นระบอบของความชอบธรรม ที่รักษาบ้านเมืองให้สงบให้ตั้งอยู่ด้วยความเป็นธรรมขึ้นมาได้นั่นเอง 

 

  • บานไม่รู้โรย
    5 ธ.ค.2551

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 3.   ประชาธิปไตยเป็นระบอบของความเป็นธรรม 2
      ว่าด้วยนักการเมือง.



เพราะประชาธิปไตย บนพื้นฐานของพลเมือง ที่มีความมีคุณค่าของคนเท่ากันทุกคน ๆ  มีความเป็นมนุษย์เท่ากันทุกคน  ไม่มีทาสในระบอบนี้  ไม่มีสีผิวในระบอบนี้  ไม่มีศาสนาในระบอบนี้  นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ย่อมมีคุณค่าเท่าที่เขารับผิดชอบในฐานะที่เขาเป็นตัวแทนของประชาชน   นักการเมืองทำหน้าที่เป็นผู้รับรู้ความต้องการของประชาชนแล้วใช้นโยบายที่ตนเสนอประชาชนไปแก้ไขให้ลุล่วงไปให้จนได้  นักการเมืองจะต้องมีอุดมการณ์ คือความซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่ตนแถลงต่อหน้าประชาชน  นักการเมืองจึงต้องมีความรับผิดชอบต่อนโยบาย คือข้อสัญญาที่ให้ไว้แด่ประชาชนว่าตนจะแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างไร   กรณีเช่นนี้ สำหรับประเทศที่มีศาสนา จะบอกไปถึงธรรมชั้นสูงของนักการเมืองตามหลักการของศาสนาในประเทศนั้น   นักการเมืองจึงย่อมมีวาจาสัตย์  มีความละอายในการกระทำสิ่งที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเองและประชาชนอย่างสูง  ต้องมีอุดมการณ์ที่แน่นอน  จึงจะเกิดความเป็นธรรมและความมั่นคงทางการเมืองขึ้นมาได้เพราะได้สร้างความเลื่อมใสแด่ประชาชน   แต่ในประเทศที่ยังไม่มีลักษณะคุณธรรมทางการเมืองที่สูงพอเทียบเท่าอเมริกา อังกฤษ หรือฝรั่งเศส  นักการเมืองจะไม่เข้าใจหลักการประชาธิปไตยดีพอ หรือไม่เข้าใจเลย กล่าวคือไม่เข้าใจว่านักการเมือง จะต้องมีเหตุมีผล  มีคุณธรรม และจะต้องเป็นผู้ปฏิบัติธรรม  มิต่างจากนักบวชเลย เป็นต้นว่า นักการเมืองจะต้องถือความสัตย์ จะต้องรักษาคำพูดหรือความปฏิญญาณที่ให้ไว้แด่ประชาชน และความละอายใจ

 

สถานการณ์นักการเมืองไทยเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ได้มีลักษณะที่ไม่สอดคล้องต่อคุณสมบัตินักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ได้เป็นมานานแล้วโดยไม่มีการทำความเข้าใจคุณธรรมของนักการเมืองเช่นนี้   พวกเขาไร้คุณธรรม  จึงเป็นเหตุให้วงการเมืองไทยตกต่ำ  ไม่มีความน่าเชื่อถือ  พวกเขาทำลายตนเองลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงวันนี้ ก็ยังไม่ได้คำนึงคุณธรรมว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นของระบอบประชาธิปไตย ความเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณค่าอย่างไร  มีความสนใจแต่เพียงว่าพวกเขาจะได้ประโยชน์อย่างไร  คำพูดของนักการเมืองจึงมีอยู่เพียงประโยคเดียวคือ  ทิศทางลม   และเขาก็สอนทายาทของเขาไปเช่นนั้น  คือ  ทิศทางลม  ซึ่งแท้ที่จริงเป็นทฤษฎีของคนกลับกลอก ไม่มีค่าคุณสมบัติพอจะเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ได้

 

การพัฒนาการทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยจึงต้องเป็นเรื่องคุณธรรม จงดูคุณธรรมคือความมีจิตใจสูงของคนอเมริกัน คนอังกฤษเป็นตัวอย่างเถิด  นักการเมืองต้องสำนึกว่าคุณธรรมเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับระบอบประชาธิปไตย ประชาธิปไตยจะขาดคุณธรรมไม่ได้  และผลของคุณธรรม คือความมีจิตใจที่สูง เลิศประเสริฐ ที่นักการเมืองจะต้องประพฤติปฏิบัติให้ได้  นี่เป็นหลักการแห่งความเป็นธรรม  ที่ทำให้สังคมประชาธิปไตย มีความก้าวหน้า และได้พบความสงบสุขกันทุกฝ่าย ไม่ว่านักการเมืองเองและประชาชน       

 

  • บานไม่รู้โรย
    7 ธ.ค.2551
     

 

 

 

 



 4. สนับสนุนรัฐบาลแห่งชาติ

เรียน บก.นสพ.ดี(อินเทอเนท)

อยากขอร้องทุก ๆ ฝ่าย ทั้งฝ่ายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  และฝ่ายรัฐบาลเก่า   รวมทั้งทหาร ตำรวจ หัวหน้าพรรคการเมือง  อยากจะขอร้องให้พิจารณา เมื่อเดิมรัฐบาลเก่าว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ ก็แก้ไม่ได้เพราะมีฝ่ายเสื้อเหลืองออกมาเดินขบวนตั้งป้อมคัดค้าน  เมื่อนายอภิสิทธิ จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับนายเนวิน ชิดชอบ  ก็จะมีเสื้อแดง ออกมาตั้งป้อมคัดค้านอีก     อยากเรียนว่า เอานายกแห่งชาติ รวมทุกพรรค ทุกฝ่าย ทั้งทหารตำรวจก็มารวมกันเป็นรัฐบาลเดียวกันจะไม่ดีกว่าหรือ  ทุกวันนี้ประเทศเดือดร้อนมาก  ประชาชนลำบากไปอย่างสุด ๆ  ในสายตาต่างประเทศ เขามองเราตกต่ำไม่น่าเชื่อถือ  ไม่อยากให้ห่วงแต่เก้าอี่  อย่าอยากนั่งเลย  เก้าอี้ตัวนี้ใครนั่งก็ร้อน อยู่ได้ไม่นานหรอก มั่นใจได้เลย   อยากขอร้องให้รีบช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง  บ้านเมืองและประชาชนกำลังแย่มาก ๆ  เราควรเรียกเศรษฐกิจกลับมาโดยเร็ว  ให้ต่างประเทศเชื่อว่าเราทำได้   การที่เราทะเลาะเบาะแว้ง แย่งเก้าอี้กัน  แล้วเป็นเหตุให้ปั่นป่วนไปทั่วประเทศ  ไม่สงสารพ่อหลวงบ้างหรือ  ท่านไม่สบาย  เราจะให้พ่อเราถือไม้เรียวเฆี่ยนสั่งสอนเราไปตลอดปีตลอดชาติเหรอ  แม้ขณะนี้ท่านก็ไม่มีแรงแขนจะถือไม้เรียวอีกแล้ว  และเราก็ตัวโต ๆ กันแล้ว ล้วนเรียนจบ ดร. การศึกษาสูง ๆ ก็ยังต้องให้พ่อเฆี่ยนตีสั่งสอนอยู๋อีก   ตีคนโต ๆ ไม่ใช่ตีเด็ก ๆ   จะไม่คิดดูหรือ  ในเมื่อท่านจบ ดร.มาก็คงคิดได้ดีกว่าเด็ก ๆ ป.3 ป.4   จึงขอร้องมายังคุณอภิสิทธิ์  และทุก ๆ คน ให้มาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันจะดีกว่า  เสียเวลาเพราะอย่างไร ๆ ถ้านายอภิสิทธิเป้นนายกรัฐมนตรี ก็คงไปไม่รอดถึง 2 เดือนแน่ จะเสียเวลาเปล่า ๆ สงสารเศรษฐกิจประเทศไทยจะทรุดลงไปกว่าเก่า และประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำจะลำบากไปอีก  ถ้าตั้งรัฐบาลแห่งชาติแล้ว ก็จะได้มีคนเก่ง ๆ หลาย ๆ คนมาร่วมกันทำงาน เพราะเก่งคนเดียวไปไม่รอด     ในเมื่อพวกเสื้อเหลืองออกมา  ท่านก็กลัวเขาจะแก้รัฐธรรมนูญ  ถ้าคุณอภิสิทธิ์ กับคุณเนวิน จะแก้รัฐธรรมนูญ อะไรจะเกิดขึ้น

 

  • จาก สาวน้อยชนบท 
    10 ธ.ค.2551
     

 

 

 

 

 

 

 


 5.   ประเทศไทยน่าสงสารและไร้เกียรติลงไปในสายตาต่างประเทศหากแต่คนในประเทศไทยไม่รู้สึก
      จะไปรู้สึกเอาเมื่อถูกนานาชาติรังแกเอารัดเอาเปรียบ เขามองว่าชาติที่ขี้ขลาดงมงาย และไร้                     สติปัญญา


ภาพที่เห็นมานานจนถึงทุกวันนี้ บ่งบอกถึงความด้อยพัฒนาการในระบอบประชาธิปไตย อย่างค่อนข้างสิ้นเชิง  หมายความว่าสังคมไทยทั้งหมดยังเป็นสังคมที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ในระบอบประชาธิปไตย เลย   ไม่เข้าใจหลักการของประชาธิปไตยที่แท้จริง   นั่นหมายถึงไม่เข้าใจวิถีทาง ที่พัฒนาไปของระบอบประชาธิปไตยอย่างไร อะไรเป็นประเด็นหลักของการพัฒนาของระบอบนี้   ในประเทศของเราที่เริ่มขึ้นด้วยความอ่อนแอ   และความเขลา   แม้ว่าในระยะหลัง ๆ นี้ ได้มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และระดับปริญญา ถึงปริญญาเอกมากจนดูเกลื่อนกล่นไปในสังคมไทยแล้ว  แต่มหาวิทยาลัยและระดับการศึกษาชั้นสูงกลับไม่ได้มีบทบาทที่ถูกต้อง ในการที่จะพัฒนาวิถีทางประชาธิปไตยของประเทศให้ก้าวหน้าไปอย่างไรเลย    ประชาธิปไตยไทยมีแต่การสั่งสมแนวคิดที่ผิด ๆ และหลงทางประชาธิปไตยมาโดยตลอด  และครั้นเกิดปัญหาทางการเมืองขึ้นในระยะนี้ ก็เป็นการเกิดขึ้นด้วยความเข้าใจผิด หรือหลงทางประชาธิปไตย  ทำไทยกลายเป็นประเทศที่ชุลมุน สับสน ไม่รู้ทางเหมือนเดินไปในสายประชาธิปไตยมืดเลยทีเดียว  นั่นก็คือ  ไม่ได้มีการคิดนำวิธีการประชาธิปไตย และความมีเสรี(อย่างที่นายบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกากล่าวต่อประชาชนอเมริกา) มาใช้เป็นเครื่องมือของชัยชนะของประเทศแล้ว  แต่หลงทางประชาธิปไตยไปอย่างสุด ๆ  

 

เริ่มแต่ภาพที่เห็นคนกลุ่มหนึ่งเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล  เข้ายึดรัฐสภา  เข้ายึดสถานีโทรทัศน์ เข้ายึดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ  และบังอาจแม้กระทั่งปิดกั้นเส้นทางพระราชดำเนินขององค์พระมหากษัตริย์ องค์ปัจจุบัน ซึ่งทรงเป็นมหาราชของชาติเป็นที่รักของประชาชนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเป็นพฤติกรรมโจรแท้ ๆ  แต่เมื่อเขาอ้างว่าเขาเป็น  “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”  ซึ่งเป็นการแอบอ้างหรือเอาประชาธิปไตยบังหน้าทำการก่อการร้ายดังกล่าว  แต่ไม่ปรากฏว่ามีคนไทย เข้าใจว่านั่นมิใช่วิถีทางประชาธิปไตยเลย   เป็นแต่เพียงการแอบอ้าง เอาสถาบันบังหน้าทำการก่อการร้าย  นั่นคือการหลอกลวงประชาชนโดยซึ่งหน้า     โดยเฉพาะนักวิชาการในมหาวิทยาลัย และสื่อมวลชนไทย ก็เรียกชื่อโจรกลุ่มนี้ว่าเป้นกลุ่มประชาธิปไตย มาอยู่จนถึงทุกวันนี้   แสดงว่าคนไทยไม่เข้าใจหลักการของประชาธิปไตยเลยแม้แต่น้อย  กระทั่งแยกไม่ออกว่าอะไรใช่ อะไรไม่ใช่ประชาธิปไตย     ผลเสียหายก็คือทำให้ประชาชนสับสนในหลักการของประชาธิปไตย  และฉุดสถาบันประชาธิปไตยไทยให้ตกต่ำ  เสื่อมเสีย และมัวหมอง

 

นักวิชาการในมหาวิทยาลัย ผู้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ถึงศาสตราจารย์ ผู้มีหน้าที่สอนเรื่องราวเหล่านี้  กลับไม่กล้ายืนยันความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ว่าโดยประชาธิปไตยนี้ จักทำให้ไทยเราชนะ  และนำหน้าประเทศอื่นที่มิใช่ประชาธิปไตย มีบุคคลเหล่านี้ถึงขนาดหลงผิดไปก็มี   เช่นมีคณะบดี หรือหัวหน้าสถาบันการศึกษาคนหนึ่ง  ที่เคยเข้าร่วมในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่เลื่องชื่อของเยาวชนนิสิตนักศึกษาไทยในกรณี 14 ต.ค. 2516 ในฐานะผู้นำนิสิตนักศึกษาด้วยซ้ำ  ได้ตำแหน่งเป็นถึงศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย ก็กลับไปสนับสนุนให้เลือกคณะรัฐบาลตามแบบเผด็จการ  โดยการชี้นำของทหาร ด้วยซ้ำ   ในวงการความมั่นคงของชาติคือเหล่าทหาร 3 เหล่า  ต่างไม่เข้าใจหน้าที่ของตนตามระบอบประชาธิปไตย  ปฏิบัติไปอย่างไร้ยุทธศาสตร์ของการพัฒนาการของประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง  ประชาธิปไตยไทยวันนี้จึงตกต่ำ แต่คนไทยทั้งหลาย แม้เพียงได้ยินชื่อว่าประชาธิปไตยมีเพียงความเลื่อมใสความเชื่อจากชื่อของประชาธิปไตยเท่านั้น   ก็ยังคงยืนยันกันเป็นส่วนใหญ่อยู่ว่าประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตย ซึ่งแสดงถึงความหวังว่าไทยมีโอกาสที่จะก้าวหน้าไปได้ด้วยพลังของประชาชนส่วนใหญ่  

 

ภาพที่เห็นจากการพิพากษายุบพรรคการเมือง 3 พรรค บ่งไปถึง ความกะปริดกะปรอยของภูมิปัญญาที่นำมาใช้ในการวินิจฉัยปัญหา  กล่าวคือ  เรื่องพรรคการเมืองของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยไม่ควรที่จะถูกตัดสินโดยภูมิปัญญาสาขากฎหมายเพียงสาขาเดียว  เพราะพรรคการเมืองมีความใหญ่เกินกว่าจะมองเพียงด้านเดียว อุปมาเหมือนตาบอดคลำช้าง  มองไม่เห็นช้างทั้งตัว จะตัดสินได้อย่างไรว่าช้างมีรูปร่างอย่างไร   มีพฤติกรรมมาอย่างไรบ้าง ถูกและผิดของช้างมีอะไรบ้าง


ฉะนั้น จะต้องมีการปรับปรุงประชาธิปไตยไทยกันอย่างขนานใหญ่ โดยเริ่มกันแต่บทต้น ๆ ทางวิชาการประชาธิปไตยกันเลยทีเดียว

และเราเห็นว่า ควรมาเริ่มที่นักการเมืองกันเลย   เราได้เห็นภาพถ่ายของนักการเมืองระดับผู้นำ คนหนึ่ง ในช่วงปี 2549 มานี้ เห็นเขาเปลี่ยนพรรคอยู่ตลอดเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่  คือออกจากพรรคนี้ ไปอยู่พรรคนั้น  แล้วออกจากพรรคนั้นไปอยู่พรรคนู้น  และแม้ขณะนี้เขาก็ละจากขั้วหนึ่งไปยืนถ่ายรูปร่วมอยู่กับอีกขั้วหนึ่ง   และยังมีนักการเมืองอีกคนหนึ่ง ถึงขนาดกล่าวว่า แม้จะทรยศต่อเพื่อน ต่อพรรค และต่อนาย ก็ต้องทำ  เพื่อย้ายตนไปเข้ากับฝ่ายที่เคยเป็นฝ่ายตรงข้ามก็ยอมเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลใหม่     นี่เป็นภาพที่เห็นล่าสุดในระยะปัจจุบัน  ซึ่งคนไทยก็ไม่เห็นว่า  พฤติกรรมอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรเป็นสมบัติของนักการเมืองเลย  คนในระบอบประชาธิปไตยจะต้องประณามเขาอย่างรุนแรง  และไล่เขาออกจากความเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยไปเสียทันที   แต่การที่คนเช่นนี้ ยังคงอยู่ในวงการเมืองไทยได้นั้นก็แสดงให้เห็นว่าวงการนักการเมืองไทยไม่มีการพัฒนาการทางความคิดประชาธิปไตยที่ก้าวหน้าเลย  โดยเหตุผลก็คือ คนในสังคมไทยวันนี้ ไม่มีความเข้าใจประชาธิปไตยและวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยเลย    นั่นเอง  

 

และนี่  เป็นบทต้นที่สุดและมีความสำคัญที่สุด  ก็คือเราจะต้องเรียนรู้ศึกษาให้เข้าใจว่า   พรรคการเมืองและนักการเมืองนั้น เป็นสถาบัน  พรรคการเมืองต้องมีความเป็นสถาบัน  และนักการเมืองก็ต้องมีความเป็น หรือพยายามสร้างตนให้เป็นสถาบัน เช่นเดียวกัน  จึงจะไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ทรงคุณค่าประโยชน์แก่ปวงชนได้   ถ้าเราไม่เข้าใจความสำคัญของสถาบันนี้แล้ว  พรรคการเมือง และนักการเมือง จะมีการพัฒนาการไปในทางที่เป็นประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ได้อย่างไร    

 

และต้นบทที่สุดก็คือ คนไทยเราเข้าใจคำว่า สถาบัน ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร? 

 

คำว่าสถาบัน  ( institution )  นิยามเบื้องต้นให้ความหมายในทางนามธรรม มิใช่รูปธรรม  กล่าวคือ institution ไม่ได้หมายถึงวัตถุ คืออาคารสูง ใหญ่โต  มีชื่อว่า  สถาบัน นั้นนี้  แต่หากเป็นการจัดระเบียบ  จัดวินัย จัดข้อบังคับ (รวมเรียกว่า Discipline)  ในองค์การนั้น ๆ  ในบุคคลนั้น ๆ    เมื่อมองจากหลักธรรมในพระพุทธศาสนาแล้ว จะเห็นความสำคัญของคำว่า  institution  นี้   ในฐานะ พระธรรมวินัย  หรือ  Discipline สำหรับหมู่สงฆ์  นับแต่หมู่สงฆ์ธรรมดาไปถึง พระอริยบุคคล   ความสำคัญของพระธรรมวินัยสำหรับหมู่สงฆ์มีเพียงไหน  ความสำคัญของ ความเป็นสถาบัน ก็มีสำหรับนักการเมืองเพียงนั้น  พอ ๆ กัน   ในทางสงฆ์ มีอาบัตินับแต่อาบัติขนาดหนักคือ ปาราชิก (ต้องพ้นจากความเป็นสงฆ์) ไปจนถึง ลหุกาบัติ  ฉันใด  นักการเมืองก็ต้องมีบทลงโทษ ขนาดหนัก-เบา เหมือนหมู่สงฆ์ เช่นนั้น  

 

และสถาบันนี้ ก็เหมือน พระธรรมวินัย ที่มีไว้เพื่อปฏิบัติสืบเนื่องไปตราบกาลนาน จนกว่าจะบรรลุมรรคผล   พรรคการเมือง และนักการเมือง ก็เช่นเดียวกัน  ที่จะต้องมีธรรมวินัย  ต้องสร้างตนให้มีความเป็นสถาบัน  มี Discipline คือกฎระเบียบอันสูงสุดที่คุมความประพฤติตนเองที่นำไปสู่ความมั่นคงและความเลื่อมใสขององค์การหรือสถาบัน  และต้องมีสัจจะในการถือปฏิบัติไปอย่างไม่ละเลิกเสียจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของทางการเมือง หรือความเป็นสถาบันได้ตั้งมั่นขึ้นแล้ว  แล้วพรรคการเมือง และนักการเมืองก็จะเป้นเครื่องมือที่ดีของประชาชน ของประเทศในระบอบประชาธิปไตย อย่างแน่นอน

 

นี่เป็นข้อเสนอทางพัฒนาความเป็นสถาบันในพรรคการเมือง และนักการเมืองไทยในระดับต้น ๆ ที่ต้องเริ่มกันเลยเดี๋ยวนี้

 

  • บานไม่รู้โรย
    10 ธ.ค.2551
     

 




หนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 42

หน้าปก : หนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 42 ปีที่ 13
พุทธทำนายเดือน4ปีกุน
สดุดีมหาราชา 5 ธันวามหาราช
บทบก.: การเมืองอเมริกา การเมืองไทย บุคคลแห่งปี2551ของหนังสือพิมพ์ดี
เฝ้าดู : ประชาธิปไตยเป็นระบอบของความเป็นธรรม
เฝ้าดู : ประชาธิปไตยเป็นระบอบของความเป็นธรรม 2 ว่าด้วยนักการเมือง
เฝ้าดู : สนับสนุนรัฐบาลแห่งชาติ (ความคิดเห็นจากประชาชน)
เฝ้าดู : ประเทศไทยน่าสงสารและไร้เกียรติ์ในสายตาต่างประเทศแต่คนในประเทศไม่รู้สึก
เฝ้าดู : หลักการตัดสินใจในระบอบประชาธิปไตยไทยวันนี้
เฝ้าดู : ถึงพลเสื้อแดง
เฝ้าดู : อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 27
เฝ้าดู : ประเทศไทยมีอะไรเกิดขึ้นในวันที่ 31 มกราคม 2552
เฝ้าดู : โรฮิงญาสะท้อนระบอบเผด็จการทหารพม่าและสะท้อนถึงรัฐบาลไทยในปัจจุบัน
สถิติเวบไซต์ของเรา น่าสนใจ Mystery World Report 1-19



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----