หลังจากพรรคประชาธิปัตย์เดินเกมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะได้รับเสียงโหวตให้เป็นนายกฯคนใหม่ บรรดาข้าราชการ นักการทูตและนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ ต่างติดต่อเข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายในการทำงาน ในขณะที่มีข่าวว่าม็อบเสื้อแดงจะมาชุมนุมปิดล้อมสภาฯ เพื่อขัดขวางไม่ให้มีการประชุมโหวตตั้งนายกฯคนใหม่ 

ถนนทุกสายมุ่งไปสู่ประชาธิปัตย์ 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือเรื่องกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียนซัมมิท) ที่ทางกระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมจะเสนอให้รัฐบาลใหม่ใช้ จ.เชียงใหม่เป็นสถานที่การประชุมในเดือนมีนาคม 2552 เนื่องจากได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้านแล้ว จากนั้นนายเกียวจิ โคมาชิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาเที่ยงวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ได้เดินทางเข้าหารือกับผู้บริหารภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้บริหารธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เพื่อขอคำปรึกษาในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลงในขณะนี้ 

“อภิสิทธิ์” เลื่อนประชุมอาเซียน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จากการหารือพบว่าผู้นำและทูตหลายประเทศเป็นห่วงเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และหลังจากที่กฎบัตรอาเซียนมีผลบังคับใช้ และจะมีการประชุมกันวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ที่ประเทศอินโดนิเซีย ซึ่งตรงกับวันประชุมสภาวิสามัญในการเลือกนายกฯ ไม่ว่าพรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล อยากให้ไทยได้มีการเร่งรัดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศให้กลับคืนมา ด้วยการเลื่อนการประชุมอาเซียนฯขึ้นมาให้เร็วขึ้น จากเดิมเดือน มี.ค. มาเป็นเดือน ก.พ. 2552 และหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล จะมีการทำเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก โดยเร่งให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียน และเร่งเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เพื่อให้สภาฯเห็นชอบเร็วที่สุด ตามมาตรา 190 เป็นเป้าหมายที่อยากให้พรรคการเมืองทุกพรรคเร่งดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศ

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต้องเดินหน้า 

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ยังเดินหน้าตั้งรัฐบาลเพื่อชาติว่า จากการหารือร่วมกับพรรคการเมืองอื่นที่ผ่านมา ยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง และจากการพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังยืนยันตัวเลขว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อถามว่าเสียวหรือไม่ว่าอาจจะไม่ได้เป็นรัฐบาลในวันโหวตเลือกนายกฯ เพราะขณะนี้ได้มีการดูดกลับจากพรรคเพื่อไทย นายอภิสิทธิ์หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทางการเมืองเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป เชื่อว่าแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นทางออกสำหรับประเทศ แต่จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ ก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป ต่อข้อถามถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยนำหลักฐานซีดีการร่วมมือกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งๆที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ตอบว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ในวันที่ ไปพบกับนายเนวิน ก็เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง เพราะทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ได้ แต่การถูกตัดสิทธิ์ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้เท่านั้น 

“สุเทพ-เสนาะ” เดินคนละทาง 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์ไปหานายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ซึ่งนายเสนาะได้ปฏิเสธชัดเจนที่จะร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ และขอทำการเมืองในแนวทางของท่าน คิดว่านายเสนาะไม่น่าจะโกรธเคือง น่าจะเข้าใจกันดี เพราะมีความคิดเห็นไม่ตรงกันเท่านั้นเอง ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนในการสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ลูกพรรคแถลงยืนยันแล้ว คิดว่าถ้าพรรคแถลงแบบนั้นก็ต้องชัดเจน เชื่อว่าเขาไปไหนมาไหนก็ไปกันทั้งพรรค ผู้สื่อข่าวถาม ว่ามองแนวทางรัฐบาลเพื่อชาติของนายเสนาะอย่างไร นายสุเทพตอบว่า ถ้าไม่มีคนไปร่วมจะเป็นรัฐบาลเพื่อชาติได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้ เมื่อถามว่าขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จแล้วใช่หรือไม่ เพียงแต่รอผลโหวตเท่านั้น นายสุเทพตอบว่า อย่าเพิ่งพูดอย่างนั้น ขอให้ว่ากันไปตามขั้นตอน ขอให้อดใจเหลือเวลาอีก 2 วัน วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. ก็จะมีการประชุมแล้ว  

ขาไม่สั่นมั่นใจตัวเลข 260 เสียง

เมื่อถามว่า รายการความจริงวันนี้ถูกถอด อาจส่งผลต่อการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เบาใจลงได้หรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ไม่ทราบว่ามีการถอดรายการไปแล้ว ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงจะมีการปิดล้อมสภาฯ เพื่อไม่ให้มีการประชุมโหวตนายกฯนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นปัญหาอะไร เราเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะใส่เสื้อสีอะไรต้องมีเหตุผล ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นความเสียหาย เขาก็คงไม่มีเหตุผลที่จะมาชุมนุมต่อต้าน ต่อข้อถามว่า ได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ให้ดูแลความเรียบร้อยในวันประชุมโหวตเลือกนายกฯ อย่างไร นายสุเทพตอบว่า เรายังเป็นฝ่ายค้านอยู่ ยังไม่เป็นรัฐบาลจะไปสั่งใครได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุด มีกระแสข่าวการล็อบบี้ อุ้มตัว ส.ส.จะส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ นายสุเทพตอบว่า คิดว่าไม่มีผล ยังมั่นใจว่าเราสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เรามีเสียงมากพอ ตัวเลขตอนนี้ก็ยังนับได้ อยู่ที่ 260 เสียง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าได้ยินข่าวมาว่า เขาพยายามทำทุกอย่างตั้งแต่ซื้อเสียง จนกระทั่งกันไม่ให้ มาลงคะแนนให้เรา เมื่อถามว่าวันนี้จนถึงวันที่ 15 ธ.ค. เบาใจได้หรือไม่ นายสุเทพตอบว่า เบาใจได้ แต่ก็ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ แต่ไม่หนักใจอะไรแล้ว วันนี้ไม่ขาสั่นแล้ว 

“ทักษิณ” ต่อสายล็อบบี้ “ประชา”

ทางด้านความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่แตกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมีเสียงสนับสนุน 10 กว่าเสียง กับกลุ่มของนายพินิจ จารุสมบัติ แกนนำกลุ่มวังพญานาค ร่วมกับกลุ่มโคราชของ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ มีประมาณ 10 กว่าเสียงเช่นเดียวกัน  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนพฤหัสฯที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายพีระพันธุ์ พาลุสุข นายวิทยา บุรณศิริ ได้เข้าพบ พล.ต.อ.ประชาถึงห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งแกนนำพรรคเพื่อไทยได้ต่อสายไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวอดีตนายกฯ และนายวัฒนา อัศวเหม อดีตประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่หนีคดีอยู่ในประเทศกัมพูชา เพื่อร่วมเจรจากันเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยยกเหตุผลต่างๆมาประกอบ เพื่อให้ ส.ส.ในกลุ่มของ พล.ต.อ.ประชา ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่ พล.ต.อ.ประชาต้องออกมาแสดงจุดยืนต่อสาธารณชนว่า พร้อมรับตำแหน่งนายกฯหากได้รับการเสนอชื่อ หลังการเจรจา พล.ต.อ.ประชาได้ออกจากโรงพยาบาล และหลบไปพักยังสถานที่แห่งหนึ่งโดยไม่มีการเปิดเผย 

พญานาคอ้าง 20 ส.ส.หนุน ปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อแผ่นดินว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันเดียวกันนี้ นายไชยยศ จิรเมธากร รักษาการโฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กลุ่มวังพญานาค พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มบ้านริมน้ำ กลุ่มโคราชและ ส.ส.อดีตพรรคพลังประชาชนจำนวน 10 คน อาทิ นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา นพ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.นครพนม นายสาทิตย์ เทพวงศ์ศิริรัตน์ ส.ส. สุรินทร์ และนายประนอม โพธิ์คำ ส.ส.นครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงจุดยืนทางการเมืองร่วมกัน

นายไชยยศกล่าวว่า จากการที่มีข่าวออกสู่สาธารณะจนก่อให้เกิดความสับสน และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อแผ่นดินนั้น ในนาม 20 ส.ส.ยืนยันที่จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า พล.ต.อ.ประชายอมรับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ นายไชยยศตอบว่า ไม่ทราบ เพราะทราบแต่ เพียงว่าท่านได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งนายกฯไปแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่มีโอกาสได้พูดคุยอีกเลย เนื่องจากท่านเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ขอยืนยันว่าวันนี้มันไกลเกินกว่าจะทำอะไรเป็นอย่างอื่นแล้ว ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเราหักหลังเพื่อน ทั้งนี้พรรคยินดีสนับสนุน พล.ต.อ.ประชาเป็นนายกฯ แต่ยังไม่ใช่ครั้งนี้  

“ประชา” อาจถอนตัวหากถูกเสนอชื่อ 

เมื่อถามว่าหากวันที่ 15 ธ.ค.นี้ มีการเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชาเป็นนายกฯ ส.ส.ของพรรคจะตัดสินใจอย่างไร นายไชยยศตอบว่า ตอบไม่ได้ว่า พล.ต.อ.ประชาจะถอนตัวจากการได้รับเสนอชื่อหรือไม่ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะไม่มีการงดออกเสียงแน่นอน จุดยืนของเราเป็นอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น ก็คือการสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายไชยยศตอบว่า อย่าเพิ่งให้พูดอะไร เพราะตอนนี้ก็โดนกดดันมากพอแล้ว  

นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ กล่าวว่า กลุ่มบ้านริมน้ำพร้อมยึดเสียงส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมที่จะไปในทิศทางเดียวกันกับ 20 ส.ส. ส่วนกรณีที่มีข่าวประชาชนไปล้อมบ้านนายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน เนื่องจากไม่พอใจที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยังไม่ทราบเพราะไม่มีโอกาสคุยกับนายรณฤทธิชัย 

“สมศักดิ์” มั่นใจลูกพรรคอยู่ครบ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แกนนำกลุ่ม ส.ส.อดีตพรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวถึงกรณีข่าวที่มี ส.ส. 3 คนคือ นายอารยะ ชุมดวง ส.ส.สุโขทัย นางกรรณิการ์ เจริญพันธุ์ ส.ส.สุรินทร์ และนายสมนึก เฮงวาณิชย์ ส.ส.บุรีรัมย์ ของพรรค จะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ เพราะมีรายงานข่าวว่าบุคคลทั้งสามยังไม่ตัดสินใจเขียนใบสมัครเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ที่อดีตผู้บริหารพรรคมัชฌิมาฯได้ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับการยุบพรรคว่า ส่วนตัวมั่นใจว่า ส.ส.ทุกคนจะยังคงอยู่ร่วมกัน เพื่อทำพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นต่อไป

นางพรทิวา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคในเวลานี้ เพราะมีการทาบทาม ส.ส.ในกลุ่มจากพรรคการเมืองอื่น แต่เชื่อว่าในที่สุด ส.ส.ทุกคนจะกลับมาทำงานร่วมกัน เพราะอยู่ด้วยกันมานาน และเป็นพรรคเล็กที่มีความอบอุ่น แต่ต้องให้เวลาทุกคนได้ตัดสินใจอีกครั้ง และเชื่อว่าทุกอย่างจะนิ่งก่อนวันที่ 15 ธ.ค. ที่เลือกนายกฯคนใหม่อย่างแน่นอน เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลที่ยังไม่นิ่ง นางพรทิวาตอบว่า เมื่อเดินมาถึงจุดนี้แล้ว คงต้องเป็นไปตามที่ได้เคยประกาศไว้ว่าจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิม 

“สมศักดิ์” เชื่อมีคนหนุนหลังม็อบ

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ม็อบเสื้อแดงเตรียมเคลื่อนไหวต้านพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลว่า วันนี้บ้านเมืองเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว กลไกประชาธิปไตยในรัฐสภาเริ่มคลี่คลายแก้ปัญหาได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายเคารพกติกา และระบอบประชาธิปไตยที่กำลังทำหน้าที่ ไม่ว่าเสื้อเหลือง เสื้อแดง ถ้าออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวแล้วถามว่า ประเทศชาติจะได้อะไร หากก่อปัญหาแล้วใครจะรับผิดชอบ ที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำพอแล้ว อย่าเอาอารมณ์โกรธมาทำร้ายประเทศอีกเลย การเมืองขณะนี้ยังไม่มีบทสรุปว่าใครชนะ ใครแพ้ แต่ต้องรู้จักยึดมั่นในกติกา รู้จักรอโดยตัดอารมณ์ ความรู้สึกออกไป และทำใจให้เป็นสุข เพื่อประเทศชาติจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่เสียที  การมีข่าวว่าในวันโหวตเลือกนายกฯจะมีม็อบเสื้อแดงมาปิดล้อมรัฐสภานั้น ส่วนตัวเชื่อว่าต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่ คงมากันเองไม่ได้ไม่ว่าสีไหน ต้องถามว่าพอใจที่จะทำร้ายประเทศชาติให้เสียหายอีกหรือ ต้องเห็นใจคนไทยที่กำลังจะได้ยิ้มรับปีใหม่ แต่กลับต้องเผชิญปัญหา และรับทุกข์กันอีก ถ้าชนะหรือแพ้ก็ควรให้อยู่ในกติกามากกว่า

“บรรหาร” หวั่นเลือกนายกฯอาจพลิก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคชาติไทยว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า ยังเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และที่สำคัญคือการเมืองยังไม่นิ่งยังมีความล่อแหลมอยู่มาก แต่ละขั้วยังพยายามดูด ส.ส.เข้ามาเป็นคะแนนฝ่ายตัวเองให้ได้มากที่สุด และเชื่อว่ายังจะมีการดูดจนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนการโหวตเลือกนายกฯในสภาฯ เสียงขณะนี้ของทั้งสองข้างยังก้ำกึ่งกันอยู่ หากไม่สามารถดึง ส.ส.เข้ามาเป็นพวกตัวเองให้ได้มากที่สุดแล้ว เสียงในการโหวตเลือกนายกฯอาจมีโอกาสพลิกผันได้ และถ้าชนะกันก็คงชนะไม่ขาด แต่จะชนะแบบปริ่มๆเท่านั้น ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองยังจะคงวุ่นวายอยู่เหมือนเดิม ขณะนี้ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลก็ลำบาก และอยู่ได้ไม่นาน เพราะยังจะมีเสื้อเหลืองเสื้อแดงต่างออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้าน และสุดท้ายอาจบานปลายไปสู่วิกฤติได้อีกครั้ง ถ้าถึงเวลานั้นการเมืองก็จะกลับไปสู่ทางตันอีกเช่นเดิม

“สุวัจน์” เตือนอย่ามีการซื้อตัว ส.ส.

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึงกระแสข่าวการทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อตัว ส.ส. รวมถึงการนำตัว ส.ส.ไปเก็บไว้ว่า เป็นเรื่องความรอบคอบของแต่ละพรรค ที่จะต้องมีการเก็บตัว ส.ส.ให้ดี มิฉะนั้น เสียงของ ส.ส.ภายในพรรคอาจจะมีการรั่วไหล อย่างไรก็ตาม การดึงเสียงหรือการซื้อ ส.ส. เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย ไม่อยากจะเห็นหรือให้มีเกิดขึ้นจริง เพราะจะทำให้เป็นมลทินของรัฐบาล หรือตัวนายกฯที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ต่อข้อถามหากพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล กลุ่มเสื้อแดงจะออกมาประท้วงขับไล่ นายสุวัจน์ตอบว่า เรื่องนี้เป็นการวิเคราะห์และคาดการณ์ คิดว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับพื้นฐานของความชอบธรรม การจะออกมาเรียกร้องต่อต้านสิ่งใด จะต้องมีพื้นฐานหรือมีหลักฐานของความไม่ชอบธรรม ถึงจะออกมาต่อต้าน หากกระทำสิ่งใดบนพื้นฐานที่ถูกต้อง ก็ไม่น่าจะมีการต่อต้าน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ทางพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาจะมีการประชุมแกนนำและกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง ก่อนจะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้

“ชวรัตน์” พลิ้วหนียุบสภาฯฆ่างูเห่า

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯ กล่าวถึงเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้พิจารณายุบสภาว่า ไม่ทราบเรื่องนั้น มีหน้าที่ดูแลรัฐบาลรักษาการให้ไปตลอดรอดฝั˜ง เรื่อง พ.ร.ฎ.ยุบสภายังไม่ได้มีการหารือกัน เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวระบุว่า มีการให้ท่านเซ็น พ.ร.ฎ.ยุบสภาเอาไว้แล้ว นายชวรัตน์กล่าวว่า คงไม่ เพราะเวลานี้เขาก็ไปได้ดีอยู่แล้ว ในวันที่ 15 ธ.ค. ก็ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อเลือกนายกฯกันแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่านายชวรัตน์มีรายชื่อจะไปเป็นรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วย นายชวรัตน์กล่าวว่า ยังไม่รู้เรื่องเลย มีหน้าที่ประคับประคองรัฐบาลรักษาการ เมื่อถามว่าขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร นายชวรัตน์ตอบว่า ก็ไม่มีอะไร ครม.ที่เหลืออยู่ก็ยังทำงานกันอยู่ เมื่อถามว่าจะตอบชัดเจนได้หรือไม่ว่าจะมีชื่อท่านร่วมเป็นรัฐมนตรีชุดใหม่หรือไม่ นายชวรัตน์ตอบว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ตนมีหน้าที่ทำงานในรัฐบาลรักษาการ เมื่อถามย้ำอีกว่าตกลงจะมีชื่อไปเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายชวรัตน์ตอบเลี่ยงว่า ถึงเวลาค่อยว่ากัน  

“เสนาะ” เผย “สุเทพ” โทร.ล็อบบี้

ที่บ้านเมืองทองธานีเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้โทรศัพท์นัดออกไปพบในสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ไม่ไปเพราะถ้าไปก็คงมีข่าวบอกว่ายอมแล้ว เมื่อไม่ไปพบนายสุเทพก็โทรศัพท์มาอีก และแจ้งให้ทราบว่า ทุกคนอยากให้มาร่วมรัฐบาลแต่ได้ปฏิเสธ นายสุเทพก็ถามย้ำว่า พร้อมจะโหวตให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯหรือไม่ ไม่เข้าใจว่านายสุเทพสติยังดีอยู่หรือไม่ เพราะได้แถลงความชัดเจนไปแล้ว ถ้าโหวตให้นายอภิสิทธิ์ก็ยิ่งกว่าหมา ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ติดต่อกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินหรือไม่ นายเสนาะตอบว่า คุยกันเรียบร้อย พล.ต.อ.ประชายืดอกอย่างลูกผู้ชายว่า จะรับตำแหน่งเพื่อบ้านเมือง ดังนั้น จึงขอให้ดูผลในวันโหวตเลือกนายกฯ 15 ธ.ค.นี้ นอกจากนี้ ได้คุยกับทุกกลุ่มแล้ว รวมถึงนายเนวิน ชิดชอบ ที่ผ่านมาเขาไม่คิดว่าพรรคใหญ่จะมอบหมายให้ทำงานเพื่อประเทศ สาเหตุที่เขาเผ่นไปก็เพราะพรรคเพื่อไทยจะเอา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงมาเป็นนายกฯ แต่ตอนนี้เขาได้คิดแล้ว ส่วน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ก็ได้โทรศัพท์มาขอโทษ และยืนยันว่าจะร่วมทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีใครมาบังคับได้ 

พท.ท่องคาถาตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ 

ทางด้านความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยนั้น วันเดียวกันเมื่อเวลา 10.00 น. อาคารชินวัตรไหมไทย ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุมแกนนำและ ส.ส. ของพรรคเพื่อหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้เป็นที่แน่นอนที่ ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน 17 คน ตอบรับสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ส่วน ส.ส.ที่เหลือจะไปพรรคประชาธิปัตย์ คิดว่าถ้า ส.ส.ทั้ง 17 คนมาเพื่อไทยแล้ว จะ ทำให้ที่เหลือรวมทั้ง ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ ยังไงต้องย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยแน่นอน ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกฯนั้น แม้ไม่อยากเป็นนายกฯ แต่ถ้าเพื่อน ส.ส.เสนอชื่อพร้อมโหวตให้ในสภา คงจะไม่รับก็ไม่ได้ ก็ต้องเป็นอยู่ดี ส่วนกรณีรักษาการนายกฯจะยุบสภา หากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น ขณะนี้ไม่มีใครอยากให้ยุบสภา ไม่รู้จะยุบทำไม ทางออกวันนี้ยังไม่มีอะไรที่ดีไปกว่ารัฐบาลเพื่อชาติ ตามข้อเสนอของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ส่วนกรณีที่ที่ประชุมสภาในวันที่ 15 ธ.ค. จะมีการเลือกนายกฯนั้น คาดว่าจะมีชาวบ้านมาฟังการโหวตเลือกนายกฯเป็นจำนวนมาก 

กมธ.ทหารตีปาก ผบ.เหล่าทัพ

ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร แถลงว่า กรณีที่ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผอ.ทอ. ที่ระบุว่าให้พรรคการเมืองเล็กสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งรัฐบาลนั้น ตามระเบียบข้อบังคับกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2499 ระบุชัดเจนว่า ทหารต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวเพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมือง เช่น ไม่วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลให้ปรากฏต่อประชาชน แต่ขณะนี้กลับมีผู้นำเหล่าทัพออกมาระบุว่า พรรคการเมืองควรเปลี่ยนขั้วสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ แสดงให้เห็นว่าทหารไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่พึงกระทำ ดังนั้นจะทำหนังสือไปถึง พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บังคับบัญชาของผู้นำเหล่าทัพที่ออกมาวางตัวไม่เป็นกลาง และยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อีกทั้งขอฝากไปถึง ผบ.เหล่าทัพว่า ไม่ควรชี้นำให้เลือกข้างทางการเมือง ที่สำคัญกองทัพเคยระบุว่า ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ดังนั้น อยากให้รักษาสัจวาจา เพราะไม่อยากให้เหล่าทัพเป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย 

มั่นใจคะแนนเสียงชนะไม่ขาด

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมประเมินกันว่าการโหวตเลือกนายกฯเสียงจะคู่คี่ ชนะกันเสียงไม่ขาด แต่เป็นห่วงว่าส.ส.ที่มาร่วมสนับสนุนพรรคเพื่อไทยจะถูกฝ่ายตรงข้ามสกัดไม่ให้เข้าร่วมประชุม เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความชำนาญทำให้เกิดตำนานงูเห่า จนพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลชวน 2 ได้มาแล้ว เพื่อความไม่ประมาท จึงตั้งวิปประสานงานในพรรค โดยจังหวัดใหญ่มีตัวแทน ส.ส.เป็นวิป 2 คน และจังหวัดเล็กมีตัวแทน ส.ส.เป็นวิป 1 คน เพื่อประสานงานกับ ส.ส.ในจังหวัด และประสานกับนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ให้ ส.ส.อย่าลืมเตือนกันในที่ประชุมสภาก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระให้ ส.ส.สัดส่วนที่เพิ่งได้เลื่อนลำดับขึ้นมา ได้ปฏิญาณตนก่อนถึงจะเป็น ส.ส.สมบูรณ์และปฏิบัติหน้าที่ได้ กลัวว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ที่แก่แล้วจะลืม

โวยทหารสกัดความจริงวันนี้สัญจร

เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายวีระ มุสิกพงศ์ ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ แถลงถึงความพร้อมการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ที่สนามศุภชลาศัย ในวันที่ 13 ธ.ค.ว่า รายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 3 มีความพร้อมแล้ว ใช้ชื่อรายการว่า “ความจริงวันนี้ ความจริงประเทศไทย” จะนำความจริงหลายอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมาเล่าสู่กันฟัง มั่นใจว่าจะมีคนมาร่วมงานมากเป็นพิเศษ ทราบว่าขณะนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ได้ส่งทหารไปตามชุมชนชานเมือง เพื่อสกัดไม่ให้คนมาร่วมชุมนุม โดยไม่ทราบเหตุผล ทั้งที่ การจัดรายการดังกล่าวไม่มีอันตรายต่อประเทศ แต่การสกัดไม่ให้คนมาชุมนุมจะกลายเป็นการประชาสัมพันธ์ เรียกประชาชนให้มากันจำนวนมากในวันที่ 13 ธ.ค.นี้  

ยันม็อบเสื้อแดงไม่ไปล้อมสภาฯ 

นายวีระกล่าวว่า การโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 15 ธ.ค. ที่รัฐสภา กลุ่มเสื้อแดงจะไม่เคลื่อนไหวไปปิดล้อมสภาเด็ดขาด คนเสื้อแดงไม่ทำผิดกฎหมาย ถ้าจะมีไปกันประปรายถือเป็นเรื่องส่วนตัว แต่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่นัดหมายไปปิดสภาฯแน่ เพราะไม่มีเหตุและความจำเป็นที่จะไป 

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน สมาชิกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯฝากมาบอกว่า จะไม่มีการปิดสนามบิน จ.อุดรธานี เพราะจะไม่ทำพฤติการณ์เหมือนกลุ่มพันธมิตรฯ จุดยืนของคนเสื้อแดงคือยืนข้างประชาธิปไตย ถ้าเป็นจุดยืนของคนทรยศไปสมคบทหาร ทิ้งอุดมการณ์ของตัวเอง ใส่เสื้อแดงไปก็ไม่มีความหมาย  

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยืนยันคนเสื้อแดงจะไม่บุกยึดทำเนียบรัฐบาล สภาผู้แทนราษฎรและสนามบินแน่นอน เพราะกลัวกลุ่มพันธมิตรฯฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์  

แฉมีแผนบล็อก “ทักษิณ” โฟนอิน

นายจตุพรกล่าวว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ธ.ค. ทราบว่ามีความพยายามบล็อกสัญญาณโทรศัพท์ ไม่ให้โฟนอินได้ แต่ทางรายการเตรียมแผนป้องกันไว้แล้ว การโฟนอินสดครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณแจ้งมาว่า จะเป็นการพูดที่ดีที่สุดในชีวิต ถ้ามีการบล็อกสัญญาณก็มีแผนรองรับไว้แล้ว ทั้งนี้ จะนำเอกสารการหนีทหารของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาแฉด้วย เพื่อให้รู้ว่านายอภิสิทธิ์ใช้เอกสารเท็จ เป็นความผิดทางอาญา ไม่สามารถเป็นนายกฯได้  

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินจะมีความเข้มข้นมากกว่าที่หลายฝ่ายกังวล แต่เป็นความเข้มข้นเชิงข้อเท็จจริง ไม่เกิดความเสียหายต่อประเทศ  

“ผมมีพี่ชายที่เคารพรักมากอยู่คนหนึ่ง เป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญอยู่ในเอ็นบีที เข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของเอ็นบีทีช่วงนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับบารมีของพี่ชายคนนี้ตามสมควร อยากบอกว่า ยังนับถือพี่เหมือนเดิม เหมือนที่เคยโทรศัพท์คุยกันเมื่อ 4-5 วันก่อนหน้านี้ และไม่รู้สึกน้อยใจที่พี่ไม่เคยกอดผมเหมือนกับกอดน้องชายคนใหม่ในสถานที่แห่งหนึ่ง” นายณัฐวุฒิกล่าว 

จวกเพื่อนเนวินเป็นพวกแดงทรยศ 

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยืนยันว่าการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ จะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมเต็มสนาม เป็นสถิติใหม่ของสนามศุภชลาศัย ส่วนที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ไม่อยากให้ พ.ต.ท. ทักษิณโฟนอินเข้ามาในรายการนั้น เป็นเพียงความเห็นของนายเสนาะ แต่การโฟนอินเป็นเรื่องที่กำหนดและนัดหมายไว้นานแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มเพื่อนเนวินระบุไม่กลัวคนเสื้อแดงกดดัน ให้ย้ายกลับพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นคนจัดตั้งกลุ่มเสื้อแดง นายณัฐวุฒิตอบว่า กลุ่มเสื้อแดงไม่มีใครจัดตั้งหรือทำคลอดมา แต่เกิดขึ้นเพื่อรวมตัวกันต่อต้านเผด็จการ ไม่มีใครมีสิทธิกล่าวอ้างว่า เป็นผู้จัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดง 

นายจตุพรกล่าวว่า ไม่มีใครเป็นผู้ก่อตั้งคนเสื้อแดงนั้น แต่ถ้าวันหนึ่งมีคนใส่เสื้อแดงแล้วเป็นแดงทรยศ แต่มาบอกว่า เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มเสื้อแดง ถ้าจะใช้เสื้อแดง ก็เป็นได้แต่แดงทรยศเท่านั้น 

ดักคอ “สุรพงษ์” ขนม็อบเสื้อแดง 

นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการรับมือม็อบเสื้อแดง ที่ขู่จะมาชุมนุมหน้าสภาฯ ในวันที่ 15 ธ.ค.ที่จะมีการโหวตเลือกนายกฯ ว่า สภาฯไม่ได้ทำผิดอะไร เราเข้ามาก็เข้าได้ ถ้าเข้าไม่ได้ก็เลื่อนประชุมไป เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องมาสอดส่องดูแลอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องถามนายสุรพงษ์ เพราะเสื้อแดงของ จ.เชียงใหม่ หากลงมา มีความเด็ดขาดกว่าที่อื่น แต่คิดว่าเสื้อแดงมีคุณธรรม จะไม่ทำอะไรเลอะเทอะ ถ้าใครได้รับเสียงข้างมาก ตั้งแต่ 220 เสียงขึ้นไป ก็จะได้เป็นนายกฯ แต่เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้คงอยู่ได้ไม่นาน เพราะวุ่นกันแบบนี้จะอยู่ได้อย่างไร แต่อย่างน้อยน่าจะเกิน 3 เดือน เพราะแค่ตั้ง ครม.แถลงนโยบายรัฐบาลก็กินเวลาเป็นเดือน ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงมั่นใจว่ารัฐบาลชุดใหม่จะอยู่ได้อย่างน้อย 3 เดือน นายชัยตอบว่า มีหลายปัจจัย ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง น้ำท่วม คนที่เป็นนายกฯ ต้องมีความอดทน อดกลั้น ไม่ทะเลาะกับ ส.ส. ประชาชนก็จะเห็นใจและจะอยู่ได้นาน เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะลาออกจากตำแหน่งประธานสภา เพื่อไปรับตำแหน่ง รมว.คมนาคม นายชัยกล่าวปฏิเสธว่า ไม่เคยพูดว่าจะลาออก พรรคของนายสุรพงษ์จะให้เป็นนายกฯ ยังไม่อยากเป็นเลย แล้วจะไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีทำไม  

ผบ.ตร.เกาะโฟนอินของ “ทักษิณ”

เย็นวันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม ก.ตร. ถึงการชุมนุมของกลุ่มนปช.ที่สนามศุภชลาสัย ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ว่า ตำรวจมีมาตรการดูแลอยู่แล้ว ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องเรียกกำลังทหารมาช่วย เมื่อถามว่าเหตุการณ์จะบานปลายหรือไม่ หลังการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายชวรัตน์ตอบว่า ไม่ทราบจริงๆ 

พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้เตรียมมาตรการตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.เป็นต้นไป คือจะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยที่สนามศุภชลาศัย และวันที่ 15 ธ.ค. ที่รัฐสภา กำลังประสาน บช.น.ให้ออกแผนและเตรียมกำลังให้พร้อมที่จะดูแลความสงบเรียบร้อย ตอนนี้ยังไม่มีข่าวเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรที่น่าหนักใจ  เพราะทุกอย่างดูสงบเรียบร้อยดี คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สั่งการเป็นพิเศษ ต้องดูแลรักษาความปลอดภัยตรงสนามศุภชลาศัยเท่านั้น และต้องติดตามคำพูดจากการโฟนอิน ตรงนี้ตอบยากและคาดเดายาก แต่คิดว่าต้องเกาะติดสถานการณ์ไป และดูว่าหลังการโฟนอินแล้วจะมีทิศทางอย่างไร แต่ได้สั่งให้สันติบาลติดตามการข่าวเป็นระยะๆ