ธรรม ธรรมชาติ
๑. ทำไมท่านจึงบอกเขาว่า ให้ไปมีความหวังเอาในสวรรค์ชั้นฟ้า ในโลกหน้า ภายหลังตายไปแล้ว ในเมื่อชั่วกัปชั่วกัลป์ที่ผ่านมา หรือชั่วร้อย-พันล้านปีของวิวัฒนาการของมนุษย์ ไม่มีใครได้เห็นสวรรค์เลย เรารู้เรื่องเหล่านี้จากนิทานหรือเรื่องเล่าจากจินตนาการทั้งสิ้น
๒. คนที่ตายไป ก็ไม่เคยกลับมาบอกเราว่าเขาไปอยู่ที่ไหน เขาได้ไปสู่สวรรค์หรือไม่ คนที่เราคิดว่าเขาได้ไปสวรรค์แล้ว ก็ไม่เคยปรากฏว่าเขาได้กลับมาบอกเราเลย คนในแผ่นดินไทยตายไปแล้วกี่ร้อย-พันล้านคนเล่า แต่มีสักคนหรือ ที่เขากลับมาบอกเรา มาออกรายการโทรทัศน์ให้ประชาชนเห็น?
๓. แต่เราก็ชอบบอกคนเป็นส่วนมากว่าให้ทำความดีเพื่อที่จะได้ไปสวรรค์ เพื่อที่ได้ไปโลกหน้าอยู่สุขสบายในโลกหน้า ชีวิตข้างหน้า ซึ่งไปเน้นกันเกินไปอย่างไม่ระวัง
๔. ทำไมเราจึงไม่บอกสอนคนส่วนมากให้รู้ความจริงที่พิศูจน์ได้ ด้วยตัวเขาเอง ว่าไม่ต้องโลกหน้า แต่โลกนี้ ไม่ต้องแผ่นดินสวรรค์หรอก แต่เป็นแผ่นดินนี้ ที่นี่ และ เดี๋ยวนี้
๕. ไม่ใช่ชีวิตหลังความตายของเรา แต่เป็นที่นี่และเดี๋ยวนี้ เวทีนี้ ชีวิตนี้ ที่เราเป็นอยู่ปัจจุบันนี้ ที่เราเผชิญทั้งทุกข์และสุขอยู่ขณะนี้ เพราะนี่คือชีวิตที่เรามองเห็นเหตุผลด้วยตาของเราเองทุกอย่าง ด้วยการพิศูจน์ของเราเองได้ทุกอย่าง
๖. เราพิศูจน์ได้ว่า การที่เรามีข้าวกินพอ ก็เพราะเราได้ปักดำ ทำนา ที่พอ เราได้เก็บได้เกี่ยว และเราค้าขาย ได้ต้นทุนกลับมา พร้อมทั้งกำไร จากประเทศนั้นประเทศนี้
๗. ในปีที่เราปักดำได้ ไม่พอ เราก็พิศูจน์ได้ว่า เพราะมีเหตุมาอย่างไรบ้าง การค้าขายของเราที่ได้ผลกำไรน้อยนั้นเป็นเพราะอะไรเราก็พิศูจน์ได้ และเรารู้วิธีที่จะแก้ไข และทำการเกษตรนาข้าวของเราให้ได้ผลการเก็บเกี่ยวมากขึ้น เรารู้เหตุผลที่จะทำการค้าขาย ให้ได้กำไรมากขึ้น ด้วยตัวเราเอง ตาเรามองเห็น
๘. ทำไม่ลูก ๆ จึงไม่บำรุงบิดามารดา ผู้แก่ชราเสียอย่างดี ตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่ท่านยังไม่ตายไป ทำไมไม่อุทิศตนอย่างมากเพื่อบำรุงท่านในเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ มีใครสอนท่านหรือว่า เมื่อท่านตายไปแล้วจึงค่อยให้ทำบุญกับนักบวชให้มาก ๆ ท่านก็จะได้บุญนั้นอย่างมากมาย ?
๙. ทำไมไม่อุทิศ ทรัพย์สินอันมากมาย หรือหากไม่มีทรัพย์สิน ก็อุทิศความกตัญญูทั้งสิ้นแด่ท่าน บำรุงท่านบิดามารดาเมื่อท่านมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่เวลาก่อนตายของท่าน ท่านรอเวลาหลังการตายของบิดามารดาเพื่ออะไรที่โง่เขลา เพราะเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ เราบำรุงท่าน เราก็เห็นท่านมีความสุข สบาย เห็นท่านน้ำตาไหล และเราก็มีความสุขใจกับความสุขสบายของบิดามารดา เราสามารถเห็นผลบุญของเราเองชัดเจนเมื่อเราทำคุณความดีต่อบิดามารดาของเราเมื่อท่านมีชีวิตอยู่ ด้วยตาของเราเอง ชัดเจน ไม่พร่ามัว
๑๐. ถ้าท่านคิดว่าคอยตอบแทนบิดามารดา ภายหลังการตายของท่าน นั่นเป็นความบกพร่องทางความคิด สติปัญญา และทั้งจริยธรรมอันสูงสุด และนั่นเป็นคำสอนของผู้ที่เห็นแก่ตัว และท่านเองก็จะไม่สามารถพิศูจน์ได้ เพราะท่านจะมองผลไม่เห็นประจักษ์ชัดเจนด้วยตาของตนเองเลย
๑๑. แม้ตัวท่านเอง คิดหวังความสำเร็จเอาในชาติหน้า โลกหน้า นั่นก็เป็นความบกพร่อง เพราะแท้จริง ท่านพึงทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ปรากฏในโลกนี้ ชาตินี้ ท่านต้องต่อสู้ในโลกนี้ ชาตินี้ ที่นี่และเดี๋ยวนี้ ก่อนการตาย ไม่ใช่หวังจากหลังความตายที่เลื่อนลอย งานหนักและงานสำคัญในชีวิตของท่านก็คือท่านต้องแก้ไขเส้นทางชีวิตให้ตรงและถูกต้อง ท่านจึงต้องต่อสู้ และดูผลของมัน พิศูจน์ผลของมันด้วยตาของตนเอง เมื่อท่านปรับเส้นทางให้ตรง เดินตรง ไปสู่เป้าหมายของความสุขจริงแท้ ท่านก็จักได้ผลอันนั้น ได้อย่างเห็นด้วยตาตนเอง นี่แหละเป้นสิ่งที่ชัดเจนและพิศูจน์ได้ด้วยตนเอง ว่าความสุขที่เหนือกว่าสวรรค์ มิได้อยู่ที่สวรรค์ แต่อยู่ที่นี่ อยู่บนดิน ในธรณีนี้ อยู่ที่ชีวิตปัจจุบัน ก่อนการตายของเราเอง โดยแท้จริง
- อรบุศป์ ละอองธรรม
๑๖ พ.ย. ๒๕๕๑