วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11055
เปิดใจ"จอร์จ เยียว"รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ "เราไม่เคยทำร้ายประเทศไทย"
หมายเหตุ - นายจอร์จ เยียว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ที่กระทรวงต่างประเทศของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทย ในโอกาสไทยและสิงคโปร์ได้เริ่มสานต่อโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานข้าราชการพลเรือนไทย-สิงคโปร์ หรือ CSEP อีกครั้งหนึ่ง หลังจากถูกระงับไปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากฝ่ายไทยไม่พอใจต่อการที่สิงคโปร์วิพากษ์วิจารณ์การรัฐประหาร รวมทั้งกรณีที่ฝ่ายสิงคโปร์ได้พบเป็นการส่วนตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังการรัฐประหาร
นงนุช สิงหเดชะมองความสัมพันธ์ระหว่างไทยสิงคโปร์อย่างไร หลังจากการรัฐประหาร ฝ่ายสิงคโปร์ยังเห็นว่า ความสัมพันธ์กับไทยยังคงสั่นคลอนอยู่หรือไม่?-ผมพูดได้ว่าความสัมพันธ์ไทยและสิงคโปร์ขณะนี้ดีมากและเป็นไปในทางบวก เพราะขณะนี้สองประเทศได้รื้อฟื้นโครงการ CSEP อีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าปีที่แล้วมีความยุ่งยากอยู่บ้าง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่โครงการ CSEP (ซึ่งเริ่มเมื่อปี 2540) ถูกระงับไป และทำให้ความสัมพันธ์สองประเทศสะดุดลงชั่วขณะ หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มาพบปะกับและรับประทานอาหารค่ำเป็นการส่วนตัวกับนายเอส จายากุมาร์ (อดีตรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์) เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว แต่บังเอิญข่าวรั่วไปถึงฝ่ายไทย
อย่างไรก็ตาม การสะดุดของความสัมพันธ์ก็เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นผมก็ได้พบปะพูดคุยกับนายนิตย์ พิบูลสงคราม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย (สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์) บ่อยครั้ง นอกจากนี้ การเสด็จฯเยือนสิงคโปร์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ก็เป็นการเยือนที่ประสบความสำเร็จมาก พระองค์ทรงเป็นที่ประทับใจของทุกคนที่นี่ นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ก็ได้เยือนสิงคโปร์เพื่อหารือทวิภาคี ซึ่งเป็นไปด้วยดี
มองสถานการณ์ทางการเมืองไทยขณะนี้อย่างไร?-ยังมีความไม่ลงตัวอย่างมาก แต่ผมเชื่อว่าจะมีคนสายกลางในกลุ่มผู้นำที่จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแนวทางและหนทางที่จะดีที่สุดต่อประเทศไทย และทำให้สถาบันของชาติเข้มแข็ง
คิดว่าสถานการณ์การเมืองของไทยขณะนี้จะมีผลกระทบต่อสิงคโปร์หรือไม่?-ในแง่พัฒนาการทางการเมือง คิดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อสิงคโปร์ในเชิงของทวิภาคี ที่จริงแล้วสิงคโปร์มีสัมพันธ์เก่าแก่ยาวนานและหยั่งลึกกับประเทศไทยในหลายด้าน
คนไทยจำนวนไม่น้อยคิดว่าคุณทักษิณยังคงควบคุมประเทศไทยอยู่ กลุ่มผู้ประท้วง (พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย) ที่ขับไล่รัฐบาลอยู่ขณะนี้ จะตะโกนบ่อยครั้งว่า รัฐบาลออกไป ออกไป ไปอยู่สิงคโปร์?-(ทำหน้าประหลาดใจ) จริงเหรอ การที่เทมาเส็กเข้าไปซื้อหุ้นของชินคอร์ปนั้น เป็นการทำธุรกรรมทางพาณิชย์ตามปกติ เราไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเข้าไปแทรกแซงยุ่งเกี่ยวการเมืองในประเทศของไทย หลายปีที่ผ่านมา สิงคโปร์มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทุกรัฐบาลของไทยและทุกพรรคการเมืองรวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ แม้แต่ในช่วงเกิดวิกฤตในอดีตเช่นกรณีเวียดนาม ทั้งไทยและสิงคโปร์ก็ทำงานเคียงข้างกันตลอด ไม่เพียงแต่ในความร่วมมือทวิภาคีแต่ในยูเอ็นด้วย ในช่วงนั้น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ก็เป็นเพื่อนใกล้ชิดกับสิงคโปร์ ความสัมพันธ์ของสิงคโปร์กับฝ่ายไทยนั้นกว้างขวางมาก คุณชวน หลีกภัย (ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์) คุณบรรหาร ศิลปอาชา (หัวหน้าพรรคชาติไทย) เราก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด
คนไทยจำนวนไม่น้อยยังคงระแวงสิงคโปร์ เพราะเชื่อว่าคุณทักษิณยังมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสิงคโปร์แบบลับๆ-(คิดนานมากก่อนตอบ) เรารู้จักคุณทักษิณมาหลายปี ทั้งในช่วงที่เขาทำธุรกิจส่วนตัวจนกระทั่งมาเป็นนายกรัฐมนตรี และมิตรภาพนั้นก็ยังคงอยู่มาจนถึงบัดนี้ ที่จริงแล้วอดีตคนสำคัญของไทยหลายคนก็มาพำนักอยู่ในสิงคโปร์ในช่วงที่เกิดวิกฤตทางการเมือง เช่น พล.อ.ถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ พล.ต.มนูญ รูปขจร ที่เกี่ยวข้องกับการพยายามทำรัฐประหารในอดีต แต่เราไม่เคยทำร้ายประเทศไทย เราไม่ต้องการจะทำร้ายประเทศไทย แต่เราไม่สามารถพูดว่าเรารู้จักคุณมาหลายปี แต่พอพรุ่งนี้เราก็แกล้งไม่รู้จักคุณอย่างกะทันหัน ถ้าเป็นเช่นนั้นเราเป็นเพื่อนชนิดไหนกันล่ะ
เรื่องธุรกรรมทางธุรกิจก็เป็นเรื่องธุรกรรมทางธุรกิจ แต่มิตรภาพก็คือมิตรภาพ จะต้องแยกเรื่องนี้ออกจากกัน เราไม่ได้ต้องการจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองของไทย
ความมั่นคงทางการเมืองในภูมิภาคนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสิงคโปร์ แต่ต่อไปคงเป็นการยากที่คุณจะคาดหวังความมั่นคงทางการเมืองในภูมิภาคนี้มากไปกว่านี้ ดูอย่างมาเลเซีย รัฐบาลปัจจุบันก็เสียที่นั่งจำนวนมากในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด คุณจะทำอย่างไรถ้าการเมืองของทั้งไทยและมาเลเซียอยู่ในความไม่มั่นคง?-ความไม่มั่นคงทางการเมือง ล้วนแต่ไม่เป็นผลดีต่อทุกประเทศในอาเซียน เพราะจะทำให้สถานะโดยรวมของอาเซียนอยู่ในสถานะที่ยุ่งยากเมื่อต้องไปเจรจาเรื่องใดเรื่องหนึ่งกับชาติอื่น กระทบต่อความรับรู้ของประชาคมระหว่างประเทศ และยังกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน
หน้า 18