เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว. มหาดไทย พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนสำนักจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เข้าร่วมประชุม 

ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกฯได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษเศรษฐกิจเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2551-2554 ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 58,039 ล้านบาท ทั้งนี้ จะมีการเสนอผลการประชุมต่อ ครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้แผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2551-2554 ให้ส่วนราชการที่มีแผนงาน โครงการอยู่ในแผนดังกล่าวบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการ และทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2552-2554 ให้จังหวัดบรรจุไว้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาจังหวัดแต่ละจังหวัด และให้สำนักงบประมาณใช้แผนพัฒนาในเขตพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2552-2554 เป็นแนวทางประกอบการพิจารณาเป็นพิเศษในการจัดทำร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2552-2554

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.หาแนวทางจัดตั้งศูนย์ประสานงานจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหน่วยงานระดับศูนย์ หรือสำนักในทุกกระทรวงและกรมหลักที่มีบทบาทสำคัญ เพื่อเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการศึกษา วิเคราะห์และเสนอแนะนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อกระทรวง กรม รวมทั้งการประสานนโยบายและการปฏิบัติกับ ศอ.บต. คณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ  (กพต.) และหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” นโยบายรัฐบาลและนโยบายเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายทหารรายงานสถานการณ์ต่อที่ประชุมอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.วิเชียรโชติตอบว่า แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้ช่วย ผบ.ตร.รายงานว่าเหตุการณ์ลดลงมาก ขณะที่โครงการอุตสาหกรรมทหารที่นายกฯไปขอความร่วมมือจากภาคเอกชนมาช่วยลงทุนนั้น ก็ก้าวหน้าไปมากพอสมควร เมื่อถามว่า ได้ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าแม้เหตุการณ์ จะเกิดไม่บ่อยครั้งแต่ความรุนแรงมากขึ้น พล.ต.ท.วิเชียรโชติตอบว่า ไม่ได้ตั้งข้อสังเกต ขณะนี้แม่ทัพภาค 4 ก็ชี้แจงแล้วว่าวิธีการดำเนินการต่างๆเข้ามาสู่ระบบแล้ว คิดว่าคงจะสงบในไม่ช้า

ต่อข้อถามว่า มีการพูดถึงเรื่องการส่งผู้ร้ายกลับมาหรือไม่ พล.ต.ท.วิเชียรโชติตอบว่า ไม่มีการพูดถึง เมื่อถามว่า มีการพูดถึงการยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่ พล.ต.ท.วิเชียรโชติตอบว่ายัง แต่นายกฯตั้งใจจะเลิก หากเหตุการณ์ดีขึ้นก็จะเลิก เรื่องนี้เป็นนโยบายของนายกฯมานานแล้วว่าไม่อยากประกาศ ยกเว้นจำเป็นจริงๆ ดังนั้นถ้าเหตุการณ์สงบในระดับที่น่าพอใจก็ต้องยกเลิก

ส่วนสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ยังมีเกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 21.00 น. เศษ วันที่ 12 พ.ค.ขณะนายมูฮัมหมัดนาเซร์ อาลี อายุ 31 ปี อส.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส อยู่ บ้านเลขที่ 245 หมู่ 5 บ้านไอสะเตียร์ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง ขี่รถ จยย.พานายวิษณุ ชูแดง อายุ 29 ปี อส.ทพ. ชุดพัฒนาสันติ ซ้อนท้ายไปทำธุระที่บ้าน เสร็จแล้วจะขี่รถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ปรากฏว่ามีกลุ่มคนร้ายมาดักซุ่ม ในสวนลองกองหน้าบ้านใช้ปืนเอ็ม 16 ปืนอาก้า และปืนลูกซอง ยิงถล่มนายมูฮัมหมัดนาเซร์และนายวิษณุล้มกลิ้งแล้วออกมาจ่อยิงซ้ำร่างพรุนตายอย่างเหี้ยมโหดทั้ง 2 ศพ นอกจากนี้กระสุนปืนของคนร้ายังพลาดไปถูกนายยูโซ๊ะ อาลี อายุ 67 ปี บิดาของนายมูฮัมหมัดนาเซร์บาดเจ็บไปอีก 1 คน หลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงเอาปืนอาก้าของนายวิษณุและปืนพก 9 มม.ของนายมูฮัดหมัดนาเซร์หลบหนีไป

ต่อมาเวลา 04.00 น. วันที่ 13 พ.ค. พ.ต.อ.จักรพร แท่นทอง ผกก.สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส นำกำลังสนธิกับทหารและฝ่ายปกครองจำนวน 200 นาย เข้าตรวจค้นเป้าหมายที่บ้านโคกไทร หมู่ 4 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จับกุมนายอาแว มูซอ อายุ 25 ปี กับนายมะนาเซ มูซอ อายุ 24 ปี น้องชายอยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 4 ต.โฆษิต และนายแซมิง บือซา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200/2 หมู่ 2 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่มาอยู่ในบ้านนายอาแว นายลอยี มูซอ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/1 หมู่ 4 ต.โฆษิต และนายกอฮา มูซอ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/2 หมู่ 4 ต.โฆษิต โดยจับกุมตามหมาย พรก.คุมตัวไปสอบสวนที่สภ.ตากใบ ก่อนส่งตัวไปยังศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ต่อไป

ด้านนายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยครูในช่วงเปิดเทอมว่า โรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษา จ.นราธิวาส ทั้ง 3 เขต จำนวน 359 โรง จะต้องเปิดการเรียนการสอน ส่วนเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้กับครู ได้เข้าร่วมประชุมกับกองทัพภาค 4 ส่วนหน้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและตัวแทนครูในพื้นที่ เพื่อกำหนดมาตรการ รปภ.ครู ให้ชัดเจน สามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การกำหนดการรับและส่งครูระหว่างเดินทางไปโรงเรียน จะมีกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองเดินทางร่วมกับคณะครูทุกครั้งทั้งไปและกลับ และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตามเส้นทางบริเวณแยกต่างๆ จุดล่อแหลม และเส้นทางที่มีป่ารกทึบ กำหนดเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยอันตราย โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ศรีสาคร และ อ.รือเสาะ ที่เคยมีครูถูกยิงเสียชีวิต ก็จะเพิ่มความเข้มงวด โดยจะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำ ชรบ. รับผิดชอบเข้าเวรยามเฝ้าโรงเรียน มีตำรวจและทหารไม่ น้อยกว่า 2 นายเข้าร่วมดูแลป้องกันไม่ให้ครูถูกทำร้ายอีก

ด้านนายประสิทธิ์ หนูกุ้ง ผอ.สพท.นราธิวาส เขต 1 กล่าวว่า มาตรการ รปภ.ครูที่ทางเจ้าหน้าที่กำหนดมาตรการปฏิบัติ ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามตกลงกันไว้อย่างเข้มงวด เชื่อว่าหากจะให้มาตรการใช้ได้ผลขอให้ครูทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด อย่าแตกแถวอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดช่องโหว่ ให้คนร้ายลงมือก่อเหตุทำร้ายครูได้