ReadyPlanet.com
dot
dot dot
bulletBUDDHISM TO THE NEW WORLD ERA
bullet1 Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Finland-ฟินแลนด์
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.Check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletคำบูชาพระรัตนตรัย ทำวัตรแปล เช้า-เย็น
bulletChart Showing the Process
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พ.ศ.2540 - 2566
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 1
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี 2
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี บุคคลที่ 1 - 188 ปัจจุบัน
bulletหนังสือพิมพ์ดี
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 1
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 2
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 3
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 4
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 5
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 6
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 7
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 8
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 9
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 10
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 11
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 12
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 13
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 14
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 15
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 16
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 17
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 18
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 19
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 20
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 21
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 22
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 23
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 24
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 25
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 26
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 27
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 28
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 29
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 30
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 31
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 32
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 33
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 34
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 35
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 36
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 37
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 38
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 39
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 40
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 41
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 42
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 43
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 44
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 45
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 47
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 48
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 49
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 50
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 51
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 52
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 53
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 54
bulletหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 55
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที่ 56
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 57
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 58
bulletหนังสือพิมพ์ดีเล่มที 59
bulletTo The World
bulletENGLISH
bulletUSA
bulletChina
bulletIndia
bullet Mynmar
bullet Cambodia
bullet Loas
bulletSri Lanka
bulletMalaysia
bulletKorea
bulletA Sharp Turn of Believes : Iresearch Iwrite Iread
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 1
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 2
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 3
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 4
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 5
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 6
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 7
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 8
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 9
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 10
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 11
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 12
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 13
bulletศึกษาโลกลี้ลับภาค 14
bulletMystery Report 15
bulletMystery Report 16
bulletMystery Report 17
bulletMystery Report 18
bulletMystery Report 19
bulletMystery Report 20
bulletMystery Report 21
bulletMystery Report 22
bulletMystery Report 23
bulletMystery Report 24
bulletMystery World Report 25
bulletศึกษาโลกลี้ลับ 26
bulletเฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้ว วิเคราะห์ทุกปัญหาในโลกมนุษย์ด้วยสติปัญญาและเหตุผลวิทยาศาสตร์จากนสพ.ดี
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2536
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2537
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2538
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2539
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2540
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2541
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2542
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2543-2545
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2545-2549
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2549-2550
bulletเฝ้าดูฯ พ.ศ.2550-ส.ค.2551
bulletเฝ้าดูฯ ส.ค.-ก.ย.2551
bulletเฝ้าดูฯ ก.ย.2551- ธ.ค. 2551
bulletเฝ้าดูฯสำนวนพัชรา กอปรทศธรรม
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 16-27
bulletสำนวนพัชราตอนที่ 29
bulletบทความใหม่ เม.ย.-พ.ค.2552
bulletพุทธธรรมเพื่อทางดับทุกข์
bulletทฤษฎีการดับทุกข์ทางจิต วิปัสสนากรรมฐานโดยการทำงาน(สำนวนปรับปรุงใหม่)
bulletประวัติพัชรา กอปรทศธรรม
bulletประวัติการต่อสู้เพื่อการดับทุกข์ ของพัชรา กอปรทศธรรม
bulletอัลบั้มรูป history
bulletนิทานธรรมะประยุกต์ มานุสสาสุระสงคราม 4 ภาค และอื่น ๆ
bulletอัลบั้มรูป ภาพในอดีตและชีวประวัติศาสตร์ที่สวยงาม
bulletจากเวบบอร์ด พูดกันไม่รู้เรื่อง ประชาธิปไตยล้าหลัง
bulletศาสนาสากล การวิเคราะห์ความหมาย
bulletปลอบใจ
dot
รวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์ แนวปฏิรูปคณะสงฆ์อยู่ในบทวิเคราะห์นี้แล้ว
dot
bulletรวมบทวิเคราะห์กม.คณะสงฆ์
dot
สากลจักรวาล สากลศาสนา แนวคิดศาสนาสำหรับคนยุคใหม่ ผู้ก้าวผิดทางไปสู่สิ่งไร้สาระโดยไม่รู้ตัว
dot
bulletสากล...ศาสนา 1
bulletสากล...ศาสนา 2
bulletสากล...ศาสนา 3
bulletสากล...ศาสนา 4
bulletสากล...ศาสนา 5
bulletสากล...ศาสนา 6
bulletสากล...ศาสนา 7
bulletสากล...ศาสนา 9
bulletสากล...ศาสนา 8
bulletสากล...ศาสนา 10
bulletสากล...ศาสนา 11
bulletสากล...ศาสนา 12
bulletสากล...ศาสนา 13
bulletสากล...ศาสนา 14
bulletสากล...ศาสนา 16
dot
ส่วนข้อมูลสำคัญเพื่อการวิจัยการเมืองไทยยุค คมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
dot
bulletข้อมูลสำคัญยุคคมช.-รัฐบาลอภิสิทธิ์
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่1/26ส.ค.2551
bulletรายงานสดม็อบสนธิ-จำลอง-ปชป.เป่านกหวีดวันที่2/27ส.ค.2551
bulletใบปลิว อีเมล์ ในหลวงทรงร้องไห้
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 1
bulletในหลวงเพิ่งทราบข่าวฆ่าประชาชน10เมย.53ทรงร้องไห้
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
bulletบันทึกลับเสื้อแดงผู้รอดชีวิตจากทำเนียบรัฐบาล
dot
รวมข่าวม็อบการเมืองสนธิ-จำลอง-ปชป.มิ.ย.51-เม.ย.52 นสพ.
dot
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 2
bulletข่าวการเมืองแฟ้ม 3
bulletรวมข่าวม็อบ30มิ.ย.51-23มี.ค.52
bulletเลือดศรีสะเกษบันทึกเรื่องราวรอบด้านเกี่ยวกับเขาพระวิหาร
bulletรายงานการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทยที่ล้มล้างรัฐบาลทักษิณ
bulletหนังสือพิมพ์ดี ของฟรีให้เปล่ามา20ปีแล้วทั้งเอกสารและอินเทอเนท
bulletหนังสือพิมพ์ดี ( อินเทอเนต ) เล่ม 1 - 44 - ล่าสุด
bulletหน้าที่เก็บไว้
bulletมูลนิธิพระเทพวรมุนี(เสน ปญฺญาวชิโร)
bulletวัดมหาพุทธาราม ศรีสะเกษ บันทึกเหตุการณ์
bulletสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษแห่งที่ 1
bulletเกี่ยวกับเวบไซต์ของเรา เราทำเพื่อปัญญาชนโดยแท้
bulletรวมกระทู้เด็ดจากกระดานถามตอบ
bulletคาถาอาคมไสยศาสตร์
bulletกวีนิพนธ์ใหม่
bulletศูนย์ปฏิญญาณละเลิกอบายมุข บัญชีที่ 1- 4


8. สงครามจิตวิทยา-Psychological warfare

รายงานข้อมูลการศึกษา 15 หัวข้อ

 

เรื่องการโฆษณาชวนเชื่อในยุครัฐบาลทักษิณ

รายงานข้อมูลการศึกษาเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อในยุครัฐบาลทักษิณ

 

 8.  สงครามจิตวิทยา-Psychological warfare

รายงานบทที่ 8 รายงานการชุมนุม ต่อต้านรัฐบาล[8],  การชุมนุม ต่อต้านรัฐบาล   (8),  ทวงคืนประเทศไทย,   26  ก.พ.  49 ณ  สนามหลวง,  ASTV 1 และ 3 วันอาทิตย์   ที่ 26 ก.พ. 2549 เวลา 18.00 น.ถึงเช้าตรู่วันที่ 27 ก.พ. 2549  จึงสลายตัว โดยนัดชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 5 ก.พ. 2549

 

 

Research on propaganda aspect 2

การศึกษาวิจัยบางแง่มุมของการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศไทย

เมื่อเราได้โอกาสอันดีมาก ในการที่จะศึกษาบางแง่มุมของการโฆษณาชวนเชื่อ โดยได้กลุ่มตัวอย่างในสนามหลวงคือกลุ่มม็อบผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล เมื่อ 26-27 ก.พ. 2549   เป็นตัวอย่างการศึกษา รวมทั้งทางโทรทัศน์เคเบิล 2 ช่อง คือ ASTV 1 และ 3  ภายใต้หัวข้องานวิจัยว่า  Research on propaganda aspect  โดยให้นิยามศัพท์ตรงตามหลักวิชาทุกประการ นับตั้งแต่คำว่า  สงครามเย็น(Cold war)  สงครามจิตวิทยา(Psychological warfare)  ว่าเป็นสงครามนอกแบบ ที่ต่อสู้เอาชนะข้าศึกด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ(Propaganda)  ที่นำเอาเครื่องมือหลัก ๆ คือการปลุกระดมมวลชน(Mass agitation), การล้างสมอง(Brain washing) และการปล่อยข่าวลือ(Rumour) มาใช้อย่างครบเครื่อง

ซึ่งโดยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ สิ่งที่เห็นได้อย่างเห็นชัดก็คือการปล่อยข่าวลือต่าง ๆ  มีออกมาไม่เว้นแต่ละวันแต่ละชั่วโมง  ที่ล้วนแต่เป็นการให้ร้ายหรือโน้มเอียงไปตามสถานการณ์ที่ฝ่ายปลุกระดมต้องการทั้งสิ้น  เช่นข่าวลือเรื่องการเคลื่อนกำลังพลของหน่วยรบพิเศษ  ข่าวลือทหารเตรียมการปฏิวัติ  ข่าวลือนายกรัฐมนตรีเตรียมอพยพ  และล่าสุดข่าวลือผบ.เหล่าทัพขอให้ทักษิณลาออก   ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย  แต่ส่อให้เห็นว่าฝ่ายที่สร้างข่าวลือเป็นฝ่ายใด  และแสดงถึงเจตนา ว่ามีการปล่อยข่าวเหล่านี้อย่างมีเจตนาก่อกวนประเทศชาติ สร้างความเสื่อมเสียแด่รัฐบาล สร้างความ สับสนแด่ประชาชน สร้างสงครามประสาทขึ้น  ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาลและกองทัพก็รู้ทันคอยแก้กันตลอดเวลา 

และนี่เป็นหลักฐานว่า มีการดำเนินการทางการปลุกระดมมวลชน เป็นกลยุทธของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลอย่างชัดเจนเช่นนั้น 

หรือแม้กระทั่งเทกนิกการแอบอิงสถาบันและบุคคลสำคัญ  ซึ่งตัวแทนฝ่ายม็อบก็พยามยามเข้าแอบอิง โดยอ้างว่าบุคคลสำคัญเหล่านั้นเข้าข้างตน อยู่ตลอดไป  โดยคะเนว่าบุคคลส่วนใหญ่จะไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงที่แน่ชัดว่า บุคคลสำคัญนั้นพูดอย่างไรแน่ และพูดในเชิงเห็นคล้อยตามกลุ่มผู้ประท้วงจริงหรือไม่  ดังเช่นมีกรณีหนึ่งที่น่าสนใจมาก ก็คือมีการแอบไปให้ข้อมูลที่ผิด ๆแด่พระสงฆ์มหาเถระผู้ทรงคุณธรรมชั้นสูงของภาคอีสานรูปหนึ่ง จนท่านเข้าใจผิดและกล่าววาทะออกมา แล้วแอบอ้างวาทะของท่านมาโฆษณาสร้างภาพให้แก่ตน โดยไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดถึงที่ไปที่มา หรือต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง ก็ก่อให้เกิดความสับสนขึ้นในส่วนของศาสนจักร ซึ่งได้ส่อถึงเจตนาร้ายยุยงให้หมู่สงฆ์แตกกัน อันเป็นอนันตริยกรรมแสนหนัก แล้วยังไปยุยงสงฆ์อีกสำนักหนึ่งให้มาร่วมชุมนุมจนได้   เมื่อเร็ว ๆ นี้  ก็อ้างอดีตประธานวุฒิสภา ท่านมีชัย ฤชุพันธ์ (รายการกรองสถานการณ์ 1 มี.ค. 49)ว่า  เห็นคล้อยกับการใช้มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญเป็นต้น(เคเบิลช่องหนึ่ง 2 มี.ค. 49) ซึ่งแท้จริงท่านพูดอย่างเป็นกลางมากและมีเหตุผลมาก  และไม่ได้พูดอย่างนั้น   คล้าย ๆ กับที่ฝ่ายค้านทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอสนับสนุนเสียงของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เพียงพอไปเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่านายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ว่าจะให้  ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง  อ้างไม่ตรงตามเงื่อนไขที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้ ในรายการถึงลูกถึงคนช่อง 9)

ซึ่งนี่คือแง่มุมหนึ่งของการโฆษณาชวนเชื่อโดยแท้จริง ตรงตามที่ชาวบ้าน ๆ พูดกันว่า  เล่นกันสกปรกจริง ๆ นั่นเอง

สิ่งที่ควรสังเกตอย่างยิ่งก็คือ การปลุกระดมมวลชน  จะมีลักษณะต้องตรงตามนิยามที่ว่า

การปลุกระดมมวลชน (Mass agitation) หมายถึง  การปลุกเร้าให้กลุ่มชน หรือ  Audience เกิดอารมณ์และความรู้สึกร่วมกันขึ้นมา   เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งกลุ่มทั้งหมู่ทั้งมวล  โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง  จริงบ้าง  ไม่จริงบ้าง  ผสมผสานไปให้เกิดอารมณ์ร่วมกันของหมู่ของกลุ่ม  หมายถึงการเน้นทางอารมณ์ความรู้สึกล้วน ๆ โดยไม่มีข้อเท็จจริงเลย  หรืออย่างน้อยก็ไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดว่า สิ่งที่เอามาพูดกันนั้น มีข้อเท็จจริงอยู่มากน้อยเพียงใดและอารมณ์ร่วมที่ต้องการก็คือ  ความเกลียดชังผู้ปกครองประเทศ  รัฐบาล หรือหัวหน้ารัฐบาลอย่างรุนแรง

กรณีวันนี้ก็คือ ให้เกลียดชังนายกรัฐมนตรีเฉพาะคนที่ชื่อทักษิณ ชินวัตรอย่างรุนแรง

ดังปรากฏอย่างชัดเจนว่าขณะนี้ ม็อบปลุกระดมเน้นไปที่ตัวบุคคลอย่างขนาดหนัก และปลุกระดมให้เกลียดชัง สร้างภาพขนาดเลวร้ายที่สุด คือเป็นโจรมหาโจร  โดยอ้างเอากรณีขายหุ้นเป็นประเด็นหลักในการโจมตี  ซึ่งไม่เป็นธรรม  เพราะกรณีนี้ได้ผ่านการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ และ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาแล้วทั้ง2สถาบันว่า  ไม่ได้เป็นเช่นนั้น   ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นเลยแม้แต่น้อย  แต่นายกรัฐมนตรีบริสุทธิ์ทุกประการ    แม้ว่าโดยกฎหมายและจริยธรรมของการธุรกิจการค้า

แต่โดยกลวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ ที่พยายามเน้นอารมณ์(Emotion), ความรู้สึก(Feeling) มากกว่าเหตุผล(Science), ข้อเท็จจริง(Fact)  และสัจธรรม(Truth)  และอาศัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของหมู่ชนที่มีความคิดล้าหลังในเชิงการเศรษฐกิจยุคใหม่(แม้กระทั่งนักวิชาการรัฐศาสตร์-นิติศาสตร์บางคน ยังไม่เข้าใจเรื่องการทำมาหากินเชิงธุรกิจแนวใหม่ ๆ เช่นนี้ในโลกยุคไร้พรมแดน)  จึงนำไปปลุกระดมไส่ไคล้ป้ายสีได้  โดยคนไม่เข้าใจว่าที่เขานำมาพูดนั้นเป็นจริงหรือเป็นเท็จเพียงไร แต่เมื่อถูกปลุกอารมณ์ด้วยกลการล้างสมอง(Brain washing)  ก็พลอยเชื่อตามไปอย่างแน่นแฟ้น  แม้กระทั่งไปอย่างสุด ๆ ที่ว่า นายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร โกงบ้านโกงเมือง มีเหลี่ยมมีคมรอบด้าน อย่างโจรมหาโจร  ผู้ขายชาติมาตลอด  เพื่อเป็นเครื่องมือขับไล่  จนกระทั่งไม่มีทางเลือก มีทางออกทางเดียวคือหนีไปเสียจากประเทศไทย เท่านั้น

ซึ่งไม่มีความเป็นธรรมเสียเลย

เพราะแม้คนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง ที่มีเพียงความสำนึก ก็ย่อมรู้ได้ว่านายกรัฐมนตรีได้ทำประโยชน์มหาศาลแด่ประเทศชาติและประชาชนไทย เพราะท่านมีความเมตตากรุณาและมีความสามารถเฉพาะตนอันสูงเยี่ยม หาใครเท่าเทียมยาก (แม้แต่สนธิ ลิ้มทองกุลยังเคยฟันธงว่าทักษิณเป็นนายกที่ดีที่สุดของไทย.-Manager online) ถ้านายกรัฐมนตรีไปเสียจากการเมือง นักการเมืองฝีมือธรรมดา ๆ ก็สู้กันสบายขึ้นมาก  ก็เท่านั้นเอง  แต่ประเทศไทยยุคนี้  ต้องการยอดฝีมือมากกว่าธรรมดา  ประชาชนเขาต้องการอย่างนั้น

และนี่คือการตกเป็นเครื่องมือของการโฆษณาชวนเชื่อปลุกระดมมวลชนโดยแท้จริง  และผลก็คือ  เกิดการล้างสมองจนสำเร็จถึงขั้นที่มืดบอดในการรับฟัง จนไม่รับรู้ถึงความมีอยู่เป็นอยู่ของสถาบัน  คือขื่อแปของบ้านเมืองโดยสิ้นเชิง

จนเกิดความเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ)ไปว่า กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย  ซึ่งประเทศไทย ประชาชนไทย และคณะผู้บริหารประเทศไทยไม่อาจจะยอมให้เป็นเช่นนั้นได้ อย่างแน่นอน

เมื่อเป็นเช่นนี้ การปลุกระดมมวลชนและข่าวลือ จึงเป็นงานที่ชั่วร้ายจริง ๆ เพราะเป็นการใส่ร้ายป้ายสีผู้ใดผู้หนึ่ง ให้เป็นที่เกลียดชังของคนอื่นหรือของมวลชนอย่างรุนแรงโดยไม่มีมูลความจริงเลยนั่นเอง  และการปล่อยให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อปลุกระดมมวลชนและปล่อยข่าวลือไปทำร้ายผู้อื่นอยู่ฝ่ายเดียวโดยเขาไม่มีโอกาสต่อสู้ตอบโต้เลย นั้น จึงเป็นความไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งและไม่ชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรม

และทั้งไม่ชอบด้วยวิถีทางของระบอบการปกครองประชาธิปไตยเป็นที่สุด

เพราะ เป็นวิธีการที่ขัดต่อความเป็นมนุษย์ผู้มีเสรีภาพทางความคิดคือเสรีภาพของการตัดสินใจของตนเองใน การที่จะปกครองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน 

และสิ่งที่น่าสังเกตอีกประการสำคัญ และประเด็นสำคัญก็คือ นักวิชาการก็ดี และนักการศึกษา  ที่มาปรากฏตัวตามคำเชิญของสื่อโทรทัศน์  แม้กระทั่งนักจัดรายการที่มีวิชาชีพการสื่อสารมวลชนอยู่เอง  ก็ล้วนแต่ละเลยการมองในมุมของความไม่เป็นธรรม ด้านการโฆษณาชวนเชื่อไปตาม ๆ กัน  ทำให้เกิดจุดบอดขึ้นในการพิจารณาสถานการณ์อย่างรอบด้าน ที่ให้ความเป็นธรรมแด่สังคมและประเทศชาติโดยสมบูรณ์   จนเพียงพอจะสรุปลงได้ว่า  นักวิชาการ นักการศึกษาและนักจัดรายการเหล่านี้ ยังไม่เคยเอาใจใส่เท่าที่ควรในด้านวิชาการสื่อสารมวลชน ในประเด็นของการก่อการร้ายเชิงการสื่อสารมวลชน  ตามนัยของสงครามนอกแบบ  จนขาดการนำประเด็นที่ไม่ชอบธรรมนี้มามีส่วนของการประเมินน้ำหนักและเหตุผลเพื่อการตัดสินใจอย่างรอบด้านดังกล่าว

เมื่อมีการวิเคราะห์สถานการณ์ของนักวิชาการ นักการศึกษา  จึงมักเป็นเพียงการมองในมุมเดียวมุมหนึ่งเกินไป  คือมักเน้นอยู่ที่เรื่องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งสอดคล้องเหลือเกินกับขบวนการต่อต้านรัฐบาล จนไม่มองเรื่องเศรษฐกิจ ลืมสัจจธรรมไปอย่างสนิทว่า  สิทธิเสรีภาพกินไม่ได้  แต่เศรษฐกิจกินได้   และแม้ในเรื่องเดียวกันก็มองเพียงมุมเดียว  มองเพียงสิทธิ  ไม่มองหน้าที่  และไม่มองความจริงว่า   การใช้สิทธิเสรีภาพของตนเองก็มีข้อจำกัด  โดยที่ต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของคนอื่นด้วย  จึงจะเป็นความชอบธรรมตามหลักการปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยและระบอบประชาธิปไตยที่แท้  ที่เป็นการปกครองตนเองของประชาชน  จึงมองไปที่วุฒิภาวะ  ที่สามารถมองเหตุการณ์ด้วยตนเอง  และสามารถตัดสินใจเองได้  โดยไม่ถูกชี้นำ หรือถูกสนตะพาย และจะต้องไม่มีบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดอาจไปชี้นำหรือสนตะพายมวลชนได้ 

แต่ในระบบการจัดการของกลุ่มฝ่ายต่อต้านไม่เป็นเช่นนี้  แต่มีการตัดสินใจโดยเผด็จการมีการแบ่งชนชั้น  มีชนชั้นผู้ตัดสินใจสูงสุด 5 คนอยู่เบื้องหลังเวที  คอยกำกับแผนงานการปลุกระดมมวลชน ให้เป็นไปตามประสงค์ของผู้นำสูงสุดตามทฤษฎีการโฆษณาชวนเชื่ออย่างเต็มที่   มีชนชั้นปฏิบัติการที่ทำตนเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของการปลุกระดมมวลชนบนเวที   มีกลุ่มบุคคลที่คอยเป็นแนวร่วม ปรากฏตนบนเวทีเพื่อการสร้างภาพ    และมีชนชั้นล่างสุดคือประชาชนซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ จำนวนนับหมื่น ๆ คน  ที่นั่งติดกับพื้นดิน ที่ถูกหลอกล่อเอามาร่วมขบวนการได้  ด้วยกลวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ  ล้างสมองมาตามลำดับ ๆ  แล้วยังคงอยู่ในกระบวนการล้างสมองต่อไป  เพื่อให้แน่นแฟ้น ไม่เปิดโอกาสให้กลับใจใหม่ได้ จนที่สุดก็จะเข้าแบบเดียวกับการล้างสมองเยาวชนผู้ก่อการร้ายในสามจังหวัดภาคใต้ของไทย  หรือแม้กระทั่งได้ขนาดนักระเบิดพลีชีพ  ในอิรัค และปาเลสไตน์ ปัจจุบันนั่นเอง

และนี่เองคือเจตนาอันร้ายแรงที่ซ่อนแฝงอยู่อย่างลึกเร้น และค่อยเผยโฉมหน้าออกมาตามลำดับ ๆ

ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อได้ผ่านกระบวนการที่เป็นขั้นเป็นตอนมาเป็นลำดับ  บัดนี้ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ  เมื่อมีการล้างสมองกลุ่มชนได้แล้วจำนวนหนึ่ง พอเป็นแกนหลักของการชุมนุมจำนวนหนึ่งแล้ว  ก็มาถึงขั้นที่อาจทำการได้อย่างยืดเยื้อ  จากการพูดปลุถกระดมคราวละชั่วโมง  มาเป็นหลายชั่วโมง 

จาก 1 วัน  มาเป็น 2 วัน  และพยายามจะให้เป็นขั้นการชุมนุมยืดเยื้ออย่างถาวร ไม่รู้จบ  จนถึงขั้นแสดงจุดยืนได้อย่างทะนง หลง เหลิง ลืมตนว่า  ไม่ชนะไม่เลิก   อันเป็นแนวต้านที่สำคัญของพวกเขา    ซึ่งพวกเขาจะต้องฝ่าแนวต้านนี้ไปให้ได้  นั่นคือ  ไปสู่การชุมนุมที่ยืดเยื้อไม่รู้จบให้ได้

ซึ่งนั่นหมายความว่า  พวกเขามีโอกาสใช้เทกนิกอันสำคัญที่สุดอันเป็นเทกนิกสากล  นั่นคือ  การโฆษณาซ้ำ  ย้ำหัวตะปูบ่อย ๆ ถี่ ๆ ในเรื่องที่เป็นประเด็น  ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า  วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า  ที่ตอกย้ำเข้าไปไม่รู้หยุดหย่อน

นั่นคือปลุกระดมตอกย้ำอุดมการณ์ร้ายเข้าไปสู่สมอง ความคิดอ่านของมวลชนผู้ตกเป็นเหยื่อตลอดวันตลอดคืน จนไม่มีความเป็นตัวของตัวเหลืออยู่เลย 

โดยได้พยายามย้ำเรื่องที่ง่าย ๆ ไปก่อน  นั่นคือ ..........ขายชาติ,  ...........มหาโจร, ...........,ออกไป  ...........,ออกไป ........,ออกไป ..........,หน้าเหลี่ยม    โดยไม่พูดมากถึงเรื่องเหตุและผลอีกต่อไป   กล่าวคือ  อุปมาเหมือนการฉีดยาเปลี่ยนสมอง กลับความคิดได้แล้ว  ก็สามารถจะจูงจมูกไปทางไหนก็ได้ทันที

และพวกก่อการก็จะพยายามเพิ่มบุคคลชนิดที่จูงจมูกได้นี้  ให้เพิ่มมากขึ้น ๆ โดยกระบวนการล้างสมอง (Brain washing)  ก็จะเพิ่มความสามารถในการต่อรองยิ่งขึ้น  ดังจะเห็นข้อเรียกร้องต่อรองของกลุ่มม็อบเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ  จนถึงขั้นไม่ยอมให้มีการต่อรองต่อไปอีก  นายกรัฐมนตรีจะต้องออกไปจากวงการเมืองโดยสิ้นเชิง  หรือมิฉะนั้น เหตุการณ์ก็จะลำดับไปจนถึงการก่อความรุนแรงประการต่าง ๆ ได้

อย่างไรก็ตาม  เมื่อรัฐบาลแก้เกมส์ ด้วยการยุบสภา โดยพระปรมาภิไธยองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามที่ กกต.กำหนดวันที่ 2 เม.ย. 2549  อันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมทางการเมืองตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง

จึงเป็นโอกาสดีที่ฝ่ายรัฐบาลจะได้พูดแถลงความจริง   เพราะความจริงย่อมสลายความเท็จ

และการหาเสียงเลือกตั้งที่ติดต่อไปเป็นระยะยาวนาน จะเป็นประโยชน์ในการลบล้างการโฆษณาชวนเชื่อของขบวนการม็อบฝ่ายต่อต้านรัฐบาล  เพื่อเน้นย้ำเข้าไปในความชอบธรรมจากการถูกกล่าวหาอยู่ข้างเดียวมาโดยตลอด  ให้เกิดความกระจ่างและมั่นใจของประชาชนส่วนใหญ่ที่สนับสนุนรัฐบาล จนสามารถซักฟอกตนเองได้อย่างขาวสะอาด บริสุทธิ์และยุติธรรมจริง ๆ

เราหวังแต่ว่าพรรคประชาธิปัตย์  และฝ่ายค้าน ซึ่งบัดนี้ได้ยืนยันอย่างแน่นอน ด้วยการไม่ส่งผู้สมัครของพรรคลงแข่งขันเลือกตั้งตามกติกาของรัฐธรรมนูญ  จักดำรงศักดิ์ศรีของสถาบัน  มีความเป็นตัวของตัวเอง  มีการต่อสู้ตามอุดมการณ์ของตนเอง  ไม่เอนเอียงไปใช้กลยุทธนอกแบบคือการโฆษณาชวนเชื่อและปลุกระดมมวลชน  ไม่เอนเอียงเข้าข้างม็อบฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซึ่งใช้วิธีการที่ไม่เป็นธรรมด้วยเหตุผล ดังกล่าวมา

เพราะวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ-ปลุกระดมมวลชน เป็นวิธีการของบุคคล-กลุ่มบุคคลผู้ขาดความรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมือง  ผู้มีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่และไม่หวังดีต่อประเทศชาติ

การเรียนรู้เท่าทันการโฆษณาชวนเชื่อ ปลุกระดมมวลชน  เป็นการสร้างความเป็นธรรมแด่ประเทศไทยขณะนี้อีกวิธีหนึ่ง   โดยแท้จริง .

 

บานไม่รู้โรย 
http://www.newworldbelieve.com/
3               มี.ค.  2549

 

 

มีต่อ คลิก 

 

 

 

 

 

 

 

 




รายงานการศึกษา การโฆษณาชวนเชื่อล้มล้างรัฐบาลทักษิณ 15 หัวข้อการศึกษา

1. ไม่เหมือนสถานการณ์ 14 ต.ค.16
2. ไม่มีโอกาสต่อรอง-ไม่ชนะไม่เลิก
3.ข่าวลือยุคอุตสาหกรรมข่าวมาพร้อมอันตราย
4. หลอกเด็กเยาวชนมาร่วมงานสกปรก
5. อย่าให้เป็นเหมือนอิรัควันนี้
6. เคลื่อนจากลานพระบรมรูปสู่สนามหลวง
7. ปลุกระดมเอาประเทศไทยของเราคืนมา
9. ปลุกระดมให้ต่อสู้อย่างยาวนานถึงชาติหน้า
10. สถานการณ์ของชนชั้นนักวิชาการ
11. มองแง่การศาสนา
12. จากสนามหลวงสู่ทำเนียบรัฐบาลนายกฯหนี
13. สยามพารากอน
14. วิเคราะห์จำแนกประเภทกลุ่มม็อบ
15. การเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เรามีผู้รู้ ผู้ตรัสรู้ ผู้วินิจฉัยสรรพธรรมสรรพวิชชา สรรพศาสน์ และสรรพศาสตร์ พอชี้ทางสู่โลกใหม่ ให้ความสุข ความสบายใจความมีชีวิตที่หลุดพ้นไปสู่โลกใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์นี้ ได้กลายเป็นโลกท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร ไม่กลับออกไปอีกก็ได้ เพียงแต่ท่านเข้าใจว่านี่เป็นแดนต้นเรื่องเป็นด่านข้ามจากแดนโลกเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกประมาณ 7.6 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน7.6พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น. -----*****-----