รายงานข้อมูลการศึกษา 15 หัวข้อ
เรื่องการโฆษณาชวนเชื่อในยุครัฐบาลทักษิณ
รายงานข้อมูลการศึกษาเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อในยุครัฐบาลทักษิณ
5. อย่าให้เป็นเหมือนอิรัควันนี้
รายงานบทที่ 5 รายงานการชุมนุม ต่อต้านรัฐบาล[5] บทวิเคราะห์พิเศษ (5)รายการชุมนุม กู้ชาติ 11 ก.พ. 49 ปิดบัญชีทักษิณณ ลานพระบรมรูปทรงม้า, ASTV 1 และ 3 วันที่ 11 ก.พ. 2549 เวลา 1200 - 2400 น
มาถึงวันนี้ ถนนทุกสายมุ่งสู่สนามหลวง นั้น น่าจะไม่เป็นความจริง ขบวนการทั้งสองด้าน ต่างเข้มขึ้น มีถนน 2 สาย 2 ทาง ที่นำไปสู่เป้าหมายที่แตกต่างกันเสียแล้ว
เฉพาะการออกข่าวของสื่อ ทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ก็ดูน่าตื่นเต้นขึ้นทั้งสองด้าน
คือด้านผู้ก่อการชุมนุมและด้านรัฐบาล
และที่น่าสังเกตก็คือ มีการนำกลยุทธข่าวลือมาใช้ อยู่ทุกขณะ ทำให้เกิดความสับสนไปหมด
และการโฆษณาชวนเชื่อทุกรูปแบบมีความเข้มข้นขึ้น
และโดยการโฆษณาของทั้งสองฝ่าย แสดงถึงทิฏฐิอันเหนียวแน่นของแต่ละฝ่าย อย่างยิ่ง
โดยเฉพาะฝ่ายประชาชนที่ต่อสู้ต่อต้านรัฐบาลที่ประกาศจะไม่เลิกการชุมนุมแม้จะเปิดประชุมสองสภา ตามข้อเสนอของฝ่ายรัฐบาล จะต่อสู้ต่อไปและจะนำปัญหาปฏิรูปการเมืองมาพิจารณาในเครือข่ายขบวนการต่อต้านต่อไป
จึงน่าเกรงเหมือนกันว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อ และอาจจะก่อเกิดความอลเวง ไร้ระเบียบได้
สิ่งที่คนทั้งหลายเป็นห่วงก็คือประเทศชาติของพวกเราทั้งหลายจะเป็นอย่างไร
ขณะนี้ประเทศชาติไทยเรามีปัญหาอะไร
ก็น่าจะกำลังเดินไปในทิศทางที่ดีอยู่แล้ว ในทางเศรษฐกิจก็มีตัววัดทางเศรษฐกิจที่เป็นวิทยาศาสตร์ ที่น่าเชื่อถือได้ว่า เศรษฐกิจดีขึ้น น่าเสียดายที่ฝ่ายจัดตั้งกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ไม่เคยเข้าใจผลกระทบใดใดทางเศรษฐกิจของชาติเลย ไม่เข้าใจสถานการณ์การแข่งขันเชิงเศรษฐกิจข้ามชาติ ที่รัฐบาลหนึ่งรัฐบาลใดก็ตามต้องระวังทุกขณะ เพราะหากพลาดลงหรือตามไม่ทันการณ์ในขณะใดขณะหนึ่งแล้วอาจจะยังผลให้เกิดความล่มจมทางเศรษฐกิจของชาติได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อการเคลื่อนไหวมาถึงขณะนี้แล้ว เราก็ย่อมมีแต่สิ่งเดียวคือ การให้อภัยซึ่งกันและกัน ขอให้ทุกฝ่ายมีความหวังร่วมกันว่า ขบวนการจะไม่รุนแรงแต่จะเป็นไปอย่างสงบ แสดงเหตุผลรุนแรงทางวาจา แต่ไม่เหลิง ลืมตัว หลงอัตตา หลงทิฏฐิมานะ
อย่าให้เป็นเหมือนอิรัควันนี้
และที่สำคัญก็คือ ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามวิถีทางประชาธิปไตยที่ทั้งสองฝ่ายต้องการพอ ๆ กัน
การต่อสู้ ที่เคารพกติการหรือวิถีทางที่เป็นแบบแผนวัฒนธรรมของระบอบประชาธิปไตย จะเป็นข้อบ่งชี้ ถึงความจริงใจของทั้งสองฝ่าย และการที่จะชนะใจประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
และเราขอเตือนรัฐบาล ในฐานะผู้มีความสำนึกรับผิดชอบต่อชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ผู้หนึ่ง ให้ตระหนักในภาระหน้าที่ของรัฐบาล เตือนตนเองว่ารัฐบาลมีหน้าที่อะไร แล้วปฏิบัติหน้าที่นั้นอย่างเต็มที่
ขอย้ำว่ารัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และให้เกิดความสามัคคีของคนในชาติ หน้าที่ของรัฐบาลคือ ทำให้ประเทศชาติมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มิใช่ก่อเกิดความแตกแยก
และมีหน้าที่ค่อย ๆ ลดทอนสิ่งที่ร้ายแรงให้ลดความร้ายแรง สิ่งที่สับสนอลเวง ให้ค่อยไปสู่ความสงบ
ทำความแตกสามัคคี ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ไปสู่ความสมานฉันท์ โดยมาตรการและเครื่องมือของรัฐทุกประการ ที่รัฐบาลมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะนำออกมาใช้อย่างเต็มที่
และเพื่อความสำเร็จตามเป้าหมายนั้น ต้องตั้งอยู่บนความอดทนอย่างยิ่ง
ควรตั้งอยู่บนอนุสสติ คือธรรมานุสสติ ถึงหลักธรรมว่าด้วยความอดทน ตามหลักอีกข้อหนึ่งใน โอวาทปาฏิโมกข์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ประเสริฐล้ำเลิศด้วยปัญญาบริสุทธิ์ ที่ว่า ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา ขันติคือความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง คือมุ่งปฏิบัติขันติธรรมอย่างยิ่งยวดจนเป็นตปะ แล้วอาจขจัดกิเลสเกลี้ยงจนบรรลุธรรมขั้นสูงได้
เพราะความอดทนจะป้องกันความโกรธ ระงับอารมณ์มิให้ลุแก่โทสะ อันเป็นทางแห่งบาปกรรมร้ายแรงที่ปิดกั้นมรรคผลนิพพานเสีย
ในกรณีนี้ก็คือ อดทนต่อวจีเข้ม ๆ ที่หลั่งออกมาจากคนกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล ที่เขาแสดงความเห็นออกมา ตามความรู้สึกและประสบการณ์อันโหดร้ายที่พวกเขาได้รับ หรือแม้กระทั่ง อดทนต่อการยั่วยุด้วยถ้อยคำที่หลั่งออกมาจากอารมณ์เคียดแค้น ไร้เหตุผล แต่เราต้องต่อสู้ความเท็จด้วยความจริง
ขณะเดียวกัน ย่อมมั่นใจและมั่นคงในการต่อสู้โดยชอบธรรม ตามกฎกติกาที่ชอบธรรมตามหลักการของประชาธิปไตย และโดยธรรมะ
ถ้าเราตั้งอยู่บนหลักการปกครองตามหลักการของพระพุทธศาสนา เหตุการณ์ก็จะจบลงด้วยดี นั่นคือ หลักการปกครองของผู้เป็นใหญ่ คือพรหมวิหารธรรม คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา
ประกอบด้วยกุศลธรรมพร้อม 3 ประการ คือ อามิสทาน อภัยทาน และธรรมทาน และความสุจริตพร้อมในไตรทวาร คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม
ซึ่งเป็นหลักการปกครองของพระมหาราชา ขององค์พระมหากษัตริย์ หรือจักรพรรดิ์ใดและประมุขบรรพบุรุษไทยโดยตลอดมา
และโดยหลักธรรมเหล่านี้ ได้พาประเทศไทยให้รอดมา และจะพาประเทศไทยให้รอดต่อไป สร้างความสมานฉันท์ สร้างสามัคคีธรรม ซึ่งได้ส่งผลให้ไทยดำรงความเป็นเอกราชอย่างสง่างามตลอดมาและจะตลอดไปในสังคมโลก.
ธรรมาชีพ ธรรมาชน, ป.ธ.ร.
http://www.newworldbelieve.com/
24 ก.พ. 2549