ดวงชะตาผู้นำชาติและดวงเมือง 23 ธ.ค.2550 :ดวงชาตาสมัคร สุนทรเวชและอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อมคำเฉลย
ดวงชะตาผู้นำชาติและดวงเมืองยุคการเลือกตั้งทั่วไป23ธ.ค.2550
โดยชลัมพุช โหรชนบท
เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาวิจัยโหราศาสตร์ไทย
สารบาญ
1. ดวงที่ 1 ดวงชาตาประเทศไทย (แสดงระบบดาวในจักรราศี)
2. ดวงที่ 2 ดวงชาตา สมัคร สุนทรเวช
3. ดวงที่ 3 ดวงชาตา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
4. ดวงที่ 4 ดวงวันเลือกตั้ง วันอาทิตย์(๑) ที่23 ธันวาคม 2550
5. ข้อพิจารณเกี่ยวกับระบบดาว ประเด็นสำคัญในระบบดาวจรของสมัคร สุนทรเวช
6. ข้อพิจารณาเกี่ยวกับระบบดาว ประเด็นสำคัญในระบบดาวจรของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
7. ลักษณะดาวเดิม
8. ความสัมพันธ์กับดวงชะตาประเทศไทย
9. ประเด็นการพยากรณ์ (คำพยากรณ์ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี)
10. ภาคผนวก คำเฉลย ชลัมพุช โหรชนบทพยากรณ์ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
11. อนาคตของนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นอย่างไร?
ดวงที่ 1
ดวงชาตาประเทศไทย
ล๑
๙๓ ๔๖๘
ð *
๒ 0/10 *
* ๕๘ * ดาวอาทิตย์ ๑ เป็นตนุเศษ
* * *
ดวงที่ 1 ดวงกรุงเทพมหานครหรือดวงประเทศไทย
ล.12/114 ร.3385
วันอาทิตย์(๑) ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น.
จาก อุดม ป.วิทยา ดูดวงเมืองและดวงพระยาใน5กรุง,2532 หน้า 239
คำนวณตนุเศษโดย ชลัมพุช โหรชนบท
ดวงที่ 2
สมัคร สุนทรเวช
เกิดวัน๕ที่ 13 มิถุนายน 2478 เวลา 21.30-22.00 น.
ตามหนังสือ ดวงใครจะเป็นนายกคนต่อไป ของ ชิเชโร 2527 หน้า76
ตำแหน่งดาวเป็นดังนี้
ราศีเมษ มีดาว มฤตยู(๐)
ราศีพฤษภ มีดาวอาทิตย์(๑)
ราศีมิถุน มีดาว พุธ(๔)
ราศีกรกฎ มีดาวศุกร(๖)
ราศีกันย์มี ดาวอังคาร(๓)
ราศีตุลย์ มีดาวพฤหัส(๕) กับ จันทร์(๒)
ราศีธนู มีดาวเกต(๙)
ราศีมกร มีดาวราหู(๘) และ ลักคณาสถิตราศีมกรนี้(ตามข้อมูลและการ คำนวณของชิเชโร)
ราศีกุมภ์ มีดาวเสาร์(๗)
ลงแผนผังระบบดาวได้ ดังนี้
๑ ๐ *
๔ ๗
๖ 28/35 ๘ลั
๙ * ทองเจือ ๑ = 28.52
๓ ๒๕
ดวงที่ 2
สมัคร สุนทรเวช
วันเกิด วันพฤหัสบดี(๕)
13 มิถุนายน 2478 เวลา 21.30-22.00 น.
ดวงนี้คำนวณโดย ชิเชโร ใน “ดวงใครจะเป็นนายกคนต่อไป”พ.ศ. 2527 หน้า76
ดวงที่ 3
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
วันเกิด วันจันทร์(๒) ที่ 3 สิงหาคม 2507
ณ เมืองนิวคาสเซิล อังกฤษ ไม่ทราบเวลาเกิด
ตำแหน่งดาวเป็นดั่งนี้
ราศีเมษ มีดาวเกต(๙)
ราศีพฤษภ มีดาวจันทร์(๒) และดาวพฤหัสบดี(๕)
ราศีมิถุน มีดาวอังคาร(๓) ดาวศุกร(๖) และราหู(๘)
ราศีกรกฎ มีดาวอาทิตย์(๑)
ราศีสิงห์ มีดาวมฤตยู(๐) และดาวพุธ(๔)
ราศีกันย์ ที่สถิตลักคณา โดยนักพยากรณ์ทั่วไปเชื่อว่าอยู่ราศีนี้
ราศีธนู มีดาวเกต(๙)
ราศีกุมภ์ มีดาวเสาร์(๗)
ลงแผนผังระบบดาวได้ดังนี้
๒๕ ๙ *
_ ๘๖๓ ๗
๑ 17/42 *
๔๐ ๙
ลั * *
ดวงที่ 3
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
วันเกิด วันจันทร์(๒) 3 สิงหาคม 2507 ณ เมืองนิวคาสเซิล อังกฤษ ไม่ทราบเวลาเกิด
แต่เป็นที่ทราบในหมู่นักพยากรณ์ว่า ลักคณาอยู่ราศีกันย์
ดวงที่ 4
ดวงวันเลือกตั้ง วันอาทิตย์(๑) ที่23 ธันวาคม 2550
ตำแหน่งดาวเป็นดังนี้
ราศีมิถุน มีดาวจันทร์(๒) และดาวอังคาร(๓)
ราศีสิงห์ มีดาวเสาร์(๗)
ราศีธนู มีดาวอาทิตย์(๑),ดาวพุธ(๔),ดาวพฤหัสบดี(๕) และดาวเกต(๙) รวม 4 ดวง
ราศีกุมภ์ มีดาวมฤตยู(๐) และราหู(๘)
ลงแผนผังระบบดาวได้ดังนี้
* * *
๒๓ ๐๘
* 7/9 *
๗ ๑๔๕๙
* ๖ *
ดวงที่ 4
ดวงวันเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 23 ธันวาคม 2550
5. ข้อพิจารณเกี่ยวกับระบบดาว
1. ประเด็นสำคัญในระบบดาวจรของสมัคร สุนทรเวช
1.1 ดาวเสาร์(๗) จรเป็นกาลกิณีจร ในภพมรณะราศีสิงห์ เรือนธาตุ เล็งเสาร์(๗)เกษตรเดิมกาลกิณีเดิม ในราศีกุมภ์ ภพกดุมภะ, ราหู(๘)จรเป็นเกษตรทับเสาร์(๗)กาลกิณีเดิม, เล็งเสาร(๗)กาลกิณีจร
1.2 ดาวอาทิตย์(๑) มรณะ+ปุตตะเดิม ศรีเดิมเป็นศรีจรในเรือนธาตุ เดินร่วมดาวพุธ(๔) อริเกษตรมนตรีเดิมเป็นมนตรีจร, ดาวพฤหัสบดี(๕) กัมมะ+บริวารเดิม เป็นบริวารจรเป็นเกษตร, และเกตุ(๙) ในราศีธนู ภพวินาสน์ เล็งดาวพุธ(๔)เกษตรอริเดิม และดาวจันทร์(๒)จรในราศีมิถุน
1.3 ดาวศุกร(๖) เดชเดิมเป็นเกษตรเดชจรในราศีตุล จนถึง 26 ธ.ค.2550 แล้วจรเข้าพิจิกเป็น 11 ประแก่ลักคณาในมกร
1.4 ดาวอาทิตย์(๑) จร เดินเข้าราศีมกรในวันที่ 15 ม.ค.2551 อยู่ในมกรระหว่าง 15 ม.ค.- ก.พ. 2551 ราหู(๘)จรเข้ามกรใน 17 เม.ย.2551
6. ประเด็นสำคัญในระบบดาวจรของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
2.1 ณ วันเลือกตั้ง ดาว 4 ดวงจรในราศีธนู มีดาวพุธ(๔)ตนุลั เดช+วินาสน์เดิมจรเป็นศรีจร, ดาวอาทิตย์(๑)กาลกิณีเดิม+ลาภเป็นบริวารจร,ดาวพฤหัสบดี(๕)พันธุ+ปัตนิ ศุภะ+มูละเดิมเป็นเกษตรอุตสาหะจร, และ เกต(๙)มรณะเดิม
2.2 ดาวศุกร์(๖)กดุมภะ+ศุภะ มนตรี + กัมมะ เดิม จรเป็นเกษตรกาลกิณี ในราศีตุล กระแสถึงดาวอังคาร(๓)เดิม+ดาวศุกร(๖)เดิม+ราหู(๘)เดิม และดาวอังคาร(๓)จร กับดาวจันทร์(๒)จร ในราศีมิถุนภพกัมมะ
2.3 ดาวพุธ(๔)จรเข้ามกร อยู่ในมกรถึงวันที่ 7 มี.ค.2551 ดาวศุกร(๖)จรเข้ามกรวันที่ 14 ก.พ.2551 และอยู่ในมกรถึงวันที่ 10 มี.ค.2551
2.4 ดาวอังคาร(๓)พันธุ+มรณะ อายุเดิมเป็น10 จรเป็นเดชจร ทับดาวอังคาร(๓)เดิม ทับดาวศุกร์(๖)เดิม ทับราหู(๘)เดิม ในภพที่10กัมมะ แล้วเวลา 18.02 น.ดาวจันทร์(๒)จรเข้าภพที่10
7.. ลักษณะดาวเดิม
3.1 ท่านสมัครมีดาวจันทร์(๒)+ดาวพฤหัสบดี(๕) สถิตราศีตุลเป็นภพที่ 10 เป็นดาวใหญ่คู่ธาตุ และดาวเจ้าเรือนภพที่ 10 คือดาวศุกร(๖) ไปสถิตย์ภพที่7ปัตนิ เป็นราชาโชค ดาวศุกร(๖)เดิมเป็นกัมมะ+ปุตตะเป็นเดช ไปเป็นปัตนิราชาโชค มีดาวคู่ธาตุ1คู่คือดาวอังคาร(๓)+ราหู(๘) คู่ธาตุลม มีดาวคู่ศัตรู 1 คู่คือดาวอังคาร(๓)+ดาวอาทิตย์(๑) ทั้ง 2 คู่นี้ตรึงร่วมธาตุกัน แต่ละดวงห่างกันใน 120 องศา มีดาวสลับเรือน 2 คู่คือดาวเสาร์(๗)-ราหู(๘) และ ดาวจันทร์(๒)-ดาวศุกร(๖) มีดาวราหู(๘)กุมลักคณา ณ ราศีมังกร มีดาวเสาร์(๗)เป็นตนุลักคณ์กาลกิณีนำหน้าลักคณา, ดาวเสาร์(๗)กาลกิณีเดิมเป็นตนุลักคณ์, ดาวอังคาร(๓) เป็นตนุเศษ [คำนวณโดยชลัมพุช โหรชนบท] สถิตราศีกันย์ เป็น9แก่ลักคณ์
3.2 ท่านอภิสิทธิ์มีดาว 3 ดวงคือดาวอังคาร(๓)สหัสชะ+มรณะ อายุเดิม,ดาวศุกร(๖)กดุมภะ+ศุภะ มนตรีเดิม กับ ราหู(๘)อริ อุตสาหะเดิม อยู่เรือนที่ 10, มีดาวอังคาร+ราหู เป็นคู่ธาตุ ดาวอังคาร(๓)+ดาวศุกร(๖) เป็นคู่มิตร ดาวศุกร(๖)+ราหู(๘) เป็นคู่ศัตรู ณ ภพที่ 10, เจ้าเรือนภพที่ 10 คือดาวพุธ(๔) ไปสถิตภพวินาสน์ เป็นเดชมหาจักร และเป็นทั้งตนุลักคณ์ในขณะเดียวกัน, ดาวพุธ(๔)เดชเป็นตนุลักคณ์ สถิตราศีสิงห์มหาจักร และยังมีดาวพุธ(๔)นี้เป็นทั้งตนุเศษอีกด้วย อยู่ในราศีสิงห์ภพที่12เป็นตำแหน่งเบียนลักคณ์[คำนวณตนุเศษโดยชลัมพุช โหรชนบท]
8. ความสัมพันธ์กับดวงชะตาประเทศไทย
4.1 ดวงของสมัคร สุนทรเวช มีลักคณาและตนุลักคณ์เป็น 10 และ 11 แก่ดวงเมืองตามลำดับ และวาระจรขณะนี้ ตนุลักคณ์จรมาร่วมธาตุกับดวงชะตาเมืองในภพที่5ของดวงเมือง
4.2 ดวงชาตาของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีลักคณาเป็น6(อริ)แก่ดวงเมือง ตนุลักคณ์และตนุเศษ เป็น5 ร่วมธาตุกับดวงเมือง วาระจรขณะนี้ตนุลักคณ์และตนุเศษจรมาร่วมธาตุกับดวงเมือง ในภพที่ 9 ของดวงเมือง
9. ประเด็นการพยากรณ์
1. แสดงถึงบุคลิกภาพของเจ้าชะตาทั้ง 2 ดวงนี้แตกต่างกันอย่างมาก เหมือนอยู่คนละฝั่ง คนละข้างกันเลยทีเดียว อุปมาเหมือนฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านนั่นเลยทีเดียว กระนั้นดวงชะตาทั้ง 2 นี้ก็ยังมีการสัมพันธ์ ทั้งลักคณา และ ตนุลักคณ์ ในเชิงสมานฉันท์ และมีปฏิกิริยาตอบโต้กันและกันเชิงสร้างสรรค์อยู่ส่วนหนึ่ง และยังบอกไปถึงสภาวะภายในจิตใจส่วนตัวทั้งคู่ต่างมีความนับถือซึ่งกันและกันอยู่ลึก ๆ เป็นเรื่องภายในจิตใจส่วนหนึ่ง
2. เรามีคำตอบอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่เพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลางของสถาบันโหราศาสตร์ เราจะเก็บข้อเฉลยไว้ก่อน จนกว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุดลงจึงจะเปิดเผยคำเฉลยนั้น จึงแสดงหลักการพยากรณ์เอาไว้เพื่อการอ้างอิงภายหลัง ดังระบบดาวและข้อพิจารณาข้างต้น
ชลัมพุช โหรชนบท
12 ธันวาคม 2550
10. ภาคผนวก (คำเฉลย)
โดยชลัมพุช โหรชนบท
เมื่อ 6 ก.พ.2551
เราได้พยากรณ์ไว้ ในกรณีที่ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ว่า “เรามีคำตอบอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่เพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลางของสถาบันโหราศาสตร์เราจะเก็บข้อเฉลยไว้ก่อน” ความทั้งหมดมีดั่งนี้
“ประเด็นการพยากรณ์
1. แสดงถึงบุคลิกภาพของเจ้าชะตาทั้ง 2 ดวงนี้แตกต่างกันอย่างมาก เหมือนอยู่คนละฝั่ง คนละข้างกันเลยทีเดียว อุปมาเหมือนฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านนั่นเลยทีเดียว กระนั้นดวงชะตาทั้ง 2 นี้ก็ยังมีการสัมพันธ์ ทั้งลักคณา และ ตนุลักคณ์ ในเชิงสมานฉันท์ และมีปฏิกิริยาตอบโต้กันและกันเชิงสร้างสรรค์อยู่ส่วนหนึ่ง และยังบอกไปถึงสภาวะภายในจิตใจส่วนตัวทั้งคู่ต่างมีความนับถือซึ่งกันและกันอยู่ลึก ๆ เป็นเรื่องภายในจิตใจส่วนหนึ่ง
2. เรามีคำตอบอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่เพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลางของสถาบันโหราศาสตร์ เราจะเก็บข้อเฉลยไว้ก่อน จนกว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุดลงจึงจะเปิดเผยคำเฉลยนั้น จึงแสดงหลักการพยากรณ์เอาไว้เพื่อการอ้างอิงภายหลัง ดังระบบดาวและข้อพิจารณาข้างต้น”
บัดนี้การเลือกตั้งก็เสร็จสิ้นลงแล้ว แท้ที่จริง เราแทบไม่ต้องเฉลย ก็คงจะเห็นได้ว่า เราพยากรณ์ว่าอย่างไร เราขอบอกว่าเราพอใจในผลการพยากรณ์เป็นอย่างยิ่ง และดูเหมือนจริง ๆ แล้วการพยากรณ์เรื่องนี้ค่อนข้างจะชี้ชัดได้ง่าย และเราก็บอกไว้แล้วทุกอย่างในวิธีการพยากรณ์ หากมีความรู้ในโหราศาสตร์อยู่บ้างก็คงจะหาคำตอบเอาเองได้ เพราะเหตุผลในวิธีการพยากรณ์ อธิบายได้ดังนี้
1. สมัคร มีดาวเดิมที่สำคัญคือ ดาวราหู(๘)ที่กุมลักคณ์ ณ ราศีมังกร ขณะนี้จรมาทับเสาร์(๗)เดิมที่ภพหน้าลักคณา มีเสาร์(๗)จรเล็งอยู่จากภพมรณะ นี่ก็บ่งถึงความสำเร็จในวันเลือกตั้งอยู่แล้ว ครั้นวันที่ 17 เม.ย. 2551 ราหู(๘)นี้ก็จรเข้าทับลัคณาในราศีมังกร บ่งบอกไปถึงงานใหญ่ของเจ้าชาตานี้ และจะทำให้เจ้าชาตาเข้มแข็งขึ้น และยากที่จะล้มหรือซวนเซ ตามสูตรเบื้องต้นที่สุดของโหราศาสตร์ที่ว่า “มารเมษแลตุลใน มังกรนี้ดีจริง ๆ”(ราหู๘ถ้าอยู่ในราศีเมษ ตุลและมังกรโดยทับลักคณาแล้ว ต้องได้เป็นใหญ่) นั่นเอง
ดาวสำคัญอีก 2 ดวงคือ พฤหัสบดี(๕) กับจันทร์(๒) คู่ธาตุ ที่นั่งเรือนศุกร(๖)กัมมะ และศุกร์(๖)กัมมะไปเป็นราชาโชคเล็งลักคณ์ นี่เป็นสุดยอดของความสบาย ได้เกียติความสำเร็จมาอย่างสบาย ๆ แล้วยังมีความมั่นคงอย่างยิ่งอีกด้วย เพราะแค่จันทร์(๒) หรือพฤหัสบดี(๕) แต่เพียงดวงเดียวก็สบายมากแล้ว แต่นี้มาพร้อมทั้ง 3 ดวง คือ จันทร์(๒) พฤหัสบดี(๕) และ ศุกร์(๖) เจ้าเรือน และสังเกตได้ว่า ในวันเลือกตั้งศุกร(๖)จรมาเป็นเกษตร์ที่ภพกัมมะ ค่อนข้างชี้ชัดถึงความสำเร็จในตำแหน่งที่สูงส่งคือนายกรัฐมนตรี แต่การจัดการล่าช้าอยู่เพราะกาลกิณีถึง จึงมองไปที่ดาวจรที่สำคัญยิ่งอีกดวงหนึ่งคือดาวอาทิตย์(๑) ฉะนั้นจึงเห็นได้ว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะสำเร็จลงในเวลาที่ดาวอาทิตย์จรดวงนี้ (ในขณะนั้นมีศักดิ์เป็นศรีจรให้คุณสถานเดียว) จรเข้าทับลักคณาเสียก่อน ดังที่เราได้บันทึกดวงอาทิตย์(๑)ไว้เป็นหลักฐานในข้อที่ 1.4 แล้วว่า วันที่ 15 ม.ค.2551 ดาวอาทิตย์จรเข้าทับลักคณาและอยู่ในมกรไปถึงวันที่ 13 ก.พ.2551 ข้อความทั้งหมดมีดังนี้
“1.4 ดาวอาทิตย์(๑) จร เดินเข้าราศีมกรในวันที่ 15 ม.ค.2551 อยู่ในมกรระหว่าง 15 ม.ค.- 13ก.พ. 2551 ราหู(๘)จรเข้ามกรใน 17 เม.ย.2551”
ซึ่งหมายความว่า เป็นระยะที่เจ้าชาตาจะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และในความจริง สมัครได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 29 ม.ค.2551
เราบันทึกราหู(๘)จรเข้ามกรในวันที่ 17 เม.ย.2551 ไว้ต่อจากดาวอาทิตย์(๑) ก็เพราะเห็นได้ว่าถึงเวลานั้น เจ้าชาตานี้จะกล้าหาญและเข้มแข็งขึ้น มีอำนาจขึ้นกว่าเดิม จากการสนับสนุนของมิตรสหายหรือขบวนการแนวร่วม ตลอดเวลา 1ปีครึ่งต่อจากวันที่ 17 เม.ย.2551 นี้ไป อันเป็นสถานการณ์ต่อเนื่องที่เป็นเครื่องชีว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอนแล้วตั้งแต่เสร็จการเลือกตั้งแล้ว นั่นเอง
2. ครั้นดูจากดวงชาตาอภิสิทธิ เวชชาชีวะแล้ว ก็เห็นได้ว่าดวงชาตาอภิสิทธิ์ ขณะนั้น เป็นชาตาของผู้ที่จะต้องเป็นรอง หรือ ผู้แพ้ เมื่อเปรียบเทียบกับชาตาสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น เนื่องเพราะทั้งดาวจรขณะนั้นและพื้นฐานเดิมเปรียบเทียบกันแล้ว ยากเหลือเกินที่อภิสิทธิ์จะมีชัยเหนือสมัคร ประการแรกก็เสียเปรียบสมัครในตำแหน่งของลักคณา ที่สถิตเป็นอริแก่ดวงประเทศไทย และทั้งเป็นคนเกิดวันจันทร์ ที่มีดาวอาทิตย์(๑)สถิตเป็น11แก่ลักคณาอีกด้วยแล้ว ซึ่งหมายถึงการถูกกำหนดให้เป็นผู้แพ้ในการแข่งขันชิงชัยการได้ยศตำแหน่งอันสูงสุดของประเทศไทย ประการที่ 2 วันเลือกตั้งนั้นภพที่ 10 ถูกระรานเสียหายจากจันทร์(๒)จร อังคาร(๓)จร และศุกร(๖)จร ในขณะที่ ชาตาสมัครถูกกำหนดมาให้เป็นผู้มีหน้าที่โดยตรงในการบริหารประเทศ เนื่องเพราะลักคณาและตนุลัคณ์ เป็น10และ11 แก่ดวงเมืองตามลำดับแล้วยังไม่พอ ได้เปรียบอภิสิทธิ์ไปกว่านั้นเพราะภพที่ 10 มีดาวจันทร์(๒) พฤหัสบดี(๕) และดาวศุกร์(๖)เดิม และดาวศุกร(๖)จรที่จรมาสถิตภพที่ 10 เรือนตนเองในวันเลือกตั้งนั้น เป็นศุกร(๖)จรสู่เรือนตนเอง ที่มีพลัง และบริสุทธิ์มาก เพราะเป็นเกษตรในเรือนตนเอง
จึงกล่าวได้เลยว่า “เรามีคำตอบอยู่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว” ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่สงวนคำพยากรณ์ไว้ เพื่อความเป็นธรรมและความเป็นกลางแห่งสถาบันโหราศาสตร์ คงลงเอาไว้เป็นพยาน หลักฐานแต่วิธีการพยากรณ์ ที่ยืนยันคำพยากรณ์ของเราว่า ผู้ชนะคือ สมัคร สุนทรเวช เราพยากรณ์แม่นยำไว้ดั่งนี้
11. อนาคตของนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นอย่างไร?
อย่างไรก็ตามในเรื่องดวงชาตาในอนาคตของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือสมัคร สุนทรเวชนี้ เนื่องจาก ดาวเสาร์(๗)กาลกิณีจรที่สถิตภพมรณะที่เล็งตรงสู่เสาร์(๗)เดิมกาลกิณีเดิม ก็จะทำให้เจ้าชาตาจำต้องประสบความยุ่งยากในการตัดสินใจบนความเสี่ยงต่อความผิดพลาดหลายประการ โดยเฉพาะด้านการเงินและการคลังหรือผลประโยชน์ของประเทศ จนกว่าจะพ้นวันที่ 13 มิถุนายน 2551 ไปแล้ว สถานการณ์ความเสี่ยงนี้จึงจะดีขึ้น ในระหว่างนี้เจ้าชาตาจะเผชิญปัญหาการตัดสินด้านการดำเนินนโยบายเสี่ยง ๆ ต่อความผิดพลาดอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งอาจนำประเทศชาติไปสู่ความยุ่งยากขนาดใหญ่ทางปัญหาการเงินการคลังได้ และยังบอกถึงสุขภาพ บอกถึงแนวโน้มสูงที่จะทำให้ตัวเองเกิดความท้อแท้สิ้นหวัง จนปัญญา และสภาพจิตใจที่สลดหดหู่ ระทมทรมานและมีการเจ็บป่วยทั้งทางกายและจิตใจขึ้นมาได้ ในระหว่างนี้ จนกว่าจะพ้นวันที่ 13 มิ.ย.2551 ดังกล่าว สถานการณ์ความเสี่ยงและสุขภาพจะดีขึ้น พ้นจากการตัดสินใจบนความผิดพลาดไปได้
รัฐบาลสมัคร น่าจะมีความเข้มแข็งพอที่จะบริหารประเทศตลอดไปถึง 1 ปี 6 เดือน เป็นอย่างน้อย(ระหว่าง 17 เม.ย. 2551 ถึง 4 พ.ย.2552) และหลังจากนั้นน่ากลัวว่าจะเผชิญกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์รอบด้าน
ชลัมพุช โหรชนบท
ผู้ให้การพยากรณ์ไว้เมื่อ 6 ก.พ.2551